สวัสดีค่ะ
นี่คือครั้งแรกของการรีวิวโรงแรม หลายครั้งไปทริปต่างจังหวัดไม่เคยรีวิวกับเขาสักที ครั้งนี้ขออนุญาตพูดถึงโรงแรมใกล้ๆ หน่อยละกัน
ปกติเรามักไป Hotel Muse กับทีมงานบ้าง รับประทานอาหารบ้าง ครั้งนี้ได้รับโอกาสพิเศษกับ Luxury Staycation สำหรับคนที่ไปรับประทานอาหารทุกห้องอาหารและบาร์ที่นั่นจนถึงสิ้นปี ลองไปดูกันว่า 1 คืน 2 วันเราทำอะไรบ้าง
แค่รถลีมูซีน BMW ซีรี่ส์ 5 มารับเราถึงที่พักก็คุ้มแล้วค่ะ พอถึงโรงแรมพนักงานก็มารับเราไปเช็คอิน เราชอบที่นี่เพราะบรรยากาศและการตกแต่งคลาสสิกมากเราได้พักห้องพักแบบดูเพล็กซ์ ซึ่งในแพ็คเกจคือห้องเพ้นท์เฮ้าส์ซึ่งมักจะเต็ม ใครโชคดีต้องหาวันเวลาที่ลงตัว แต่เราว่างวันที่ห้องใหญ่ไม่ว่าง ซึ่งจริงๆ เราชอบแบบนี้มาก ชั้นล่างเป็นห้องนั่งเล่น มีส่วนครัว ตู้เย็น เครื่องชงกาเฟเนสเปรสโซ่ โต๊ะรับประทานอาหาร ชั้นบนเป็นเตียงขนาดคิงไซส์
หนึ่งทุ่มตรงเราไปรับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารเมดิซี่ คิทเช่น แอนด์ บาร์ ซึ่งเชฟเตรียมเสริฟอาหารค่ำ 7 คอร์สกับไวน์ ขอบอกว่า Scallops ตัวโตแค่จานแรกก็แทบอิ่ม ส่วน Snow fish with cheese fondue ปลาชิ้นใหญ่หนานุ่มละมุนลิ้นมาก แล้วปกติที่นี่ก็จะมีการแสดงโอเปร่าประจำอีกด้วยค่ะ
หลังจากหลับสบายบนเตียงนุ่มๆ เช้าวันต่อมาเรายังได้รับการบริการอาหารเช้าสุดเอ็กคลูซีฟจากเชฟพร้อมทีมงานมาเสิร์ฟให้รับประทานอาหารถึงห้องพัก ไม่ว่าจะเป็นโจ๊กกุ้งและหมูหอมกรุ่น เอ้กเบเนดิก ไส้กรอก แพนเค้กและขนมปังอบร้อนที่อร่อยจนคนกำลังลดแป้งอย่างเรายังอดใจไม่ไหว ตามด้วยผลไม้และเครื่องดื่ม
ตอนเกือบเที่ยงนี้เรายังมีนัดกับเชฟเพื่อเข้าคอร์ส Cooking Class ณ ห้องอาหารบาร์เบ็ต เดอะ สเต็กเฮ้าส์ แบงค็อก สารภาพว่าตื่นเต้นกับการหัดทำอาหารฝรั่งครั้งแรก ซึ่งเชฟให้เริ่มต้นด้วยเมนูของหวานง่ายๆ อย่าง White Chocolate Sphere เมนูนี้ต้องเตรียมทำซอสไวท์ช็อกโกแลตหล่อเป็นลูกบอลล้ำนำไปแช่เย็นเสียก่อน จากนั้นจึงทำมูสเสารส มะม่วงและวางไอศกรีมไว้ในพิมพ์ลูกบอล ก่อนรับประทานก็นำซอสไอศกรีมร้อนๆ ราดบนลูกบอลให้ละลายเพื่อลิ้มรสไอศกรีมเย็นๆ
สำหรับเมนคอร์สได้เชฟใหญ่ 2 ท่านมาสอนเมนูที่ชื่อว่า Salmon filet และ Sher Wagyu tenderloin beef steak เมนูซิกเนเจอร์ของบาร์เบ็ต เดอะ สเต็กเฮ้าส์ ซึ่งเชฟได้สอนทุกขั้นตอนและแนะนำเครื่องปรุงอย่างละเอียด ตั้งแต่หมักปลาซัลมอนและเนื้อเทนเดอร์ลอย เคล็ดลับในการทำและการจัดจาน ถือได้ว่า 2 เมนูหลังไม่ยากอย่างที่คิด แต่ต้องอาศัยความใส่ใจและพิถีพิถันในการดูความร้อนมากสักหน่อย
จากนั้นก็จัดเสิร์ฟอาหารฝีมือของเราทั้งหมดบนโต๊ะมุมที่ดีที่สุดเพื่อรับประทานอาหารกลางวันพร้อมชมทิวทัศน์ของกรุงเทพฯ เป็นมื้อสุดท้ายของที่นั่นในวันนั้น ก่อนกลับจากโรงแรมด้วยรถลีมูซีน BMW ซีรี่ส์ 5
เป็นการีวิวครั้งแรก หากผิดพลาดขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ
[SR] รีวิว 1 คืน 2 วันกับแพ็คเกจสุดพิเศษ Luxury Staycation @Hotel Muse Bangkok
นี่คือครั้งแรกของการรีวิวโรงแรม หลายครั้งไปทริปต่างจังหวัดไม่เคยรีวิวกับเขาสักที ครั้งนี้ขออนุญาตพูดถึงโรงแรมใกล้ๆ หน่อยละกัน
ปกติเรามักไป Hotel Muse กับทีมงานบ้าง รับประทานอาหารบ้าง ครั้งนี้ได้รับโอกาสพิเศษกับ Luxury Staycation สำหรับคนที่ไปรับประทานอาหารทุกห้องอาหารและบาร์ที่นั่นจนถึงสิ้นปี ลองไปดูกันว่า 1 คืน 2 วันเราทำอะไรบ้าง
แค่รถลีมูซีน BMW ซีรี่ส์ 5 มารับเราถึงที่พักก็คุ้มแล้วค่ะ พอถึงโรงแรมพนักงานก็มารับเราไปเช็คอิน เราชอบที่นี่เพราะบรรยากาศและการตกแต่งคลาสสิกมากเราได้พักห้องพักแบบดูเพล็กซ์ ซึ่งในแพ็คเกจคือห้องเพ้นท์เฮ้าส์ซึ่งมักจะเต็ม ใครโชคดีต้องหาวันเวลาที่ลงตัว แต่เราว่างวันที่ห้องใหญ่ไม่ว่าง ซึ่งจริงๆ เราชอบแบบนี้มาก ชั้นล่างเป็นห้องนั่งเล่น มีส่วนครัว ตู้เย็น เครื่องชงกาเฟเนสเปรสโซ่ โต๊ะรับประทานอาหาร ชั้นบนเป็นเตียงขนาดคิงไซส์
หนึ่งทุ่มตรงเราไปรับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารเมดิซี่ คิทเช่น แอนด์ บาร์ ซึ่งเชฟเตรียมเสริฟอาหารค่ำ 7 คอร์สกับไวน์ ขอบอกว่า Scallops ตัวโตแค่จานแรกก็แทบอิ่ม ส่วน Snow fish with cheese fondue ปลาชิ้นใหญ่หนานุ่มละมุนลิ้นมาก แล้วปกติที่นี่ก็จะมีการแสดงโอเปร่าประจำอีกด้วยค่ะ
หลังจากหลับสบายบนเตียงนุ่มๆ เช้าวันต่อมาเรายังได้รับการบริการอาหารเช้าสุดเอ็กคลูซีฟจากเชฟพร้อมทีมงานมาเสิร์ฟให้รับประทานอาหารถึงห้องพัก ไม่ว่าจะเป็นโจ๊กกุ้งและหมูหอมกรุ่น เอ้กเบเนดิก ไส้กรอก แพนเค้กและขนมปังอบร้อนที่อร่อยจนคนกำลังลดแป้งอย่างเรายังอดใจไม่ไหว ตามด้วยผลไม้และเครื่องดื่ม
ตอนเกือบเที่ยงนี้เรายังมีนัดกับเชฟเพื่อเข้าคอร์ส Cooking Class ณ ห้องอาหารบาร์เบ็ต เดอะ สเต็กเฮ้าส์ แบงค็อก สารภาพว่าตื่นเต้นกับการหัดทำอาหารฝรั่งครั้งแรก ซึ่งเชฟให้เริ่มต้นด้วยเมนูของหวานง่ายๆ อย่าง White Chocolate Sphere เมนูนี้ต้องเตรียมทำซอสไวท์ช็อกโกแลตหล่อเป็นลูกบอลล้ำนำไปแช่เย็นเสียก่อน จากนั้นจึงทำมูสเสารส มะม่วงและวางไอศกรีมไว้ในพิมพ์ลูกบอล ก่อนรับประทานก็นำซอสไอศกรีมร้อนๆ ราดบนลูกบอลให้ละลายเพื่อลิ้มรสไอศกรีมเย็นๆ
สำหรับเมนคอร์สได้เชฟใหญ่ 2 ท่านมาสอนเมนูที่ชื่อว่า Salmon filet และ Sher Wagyu tenderloin beef steak เมนูซิกเนเจอร์ของบาร์เบ็ต เดอะ สเต็กเฮ้าส์ ซึ่งเชฟได้สอนทุกขั้นตอนและแนะนำเครื่องปรุงอย่างละเอียด ตั้งแต่หมักปลาซัลมอนและเนื้อเทนเดอร์ลอย เคล็ดลับในการทำและการจัดจาน ถือได้ว่า 2 เมนูหลังไม่ยากอย่างที่คิด แต่ต้องอาศัยความใส่ใจและพิถีพิถันในการดูความร้อนมากสักหน่อย
จากนั้นก็จัดเสิร์ฟอาหารฝีมือของเราทั้งหมดบนโต๊ะมุมที่ดีที่สุดเพื่อรับประทานอาหารกลางวันพร้อมชมทิวทัศน์ของกรุงเทพฯ เป็นมื้อสุดท้ายของที่นั่นในวันนั้น ก่อนกลับจากโรงแรมด้วยรถลีมูซีน BMW ซีรี่ส์ 5
เป็นการีวิวครั้งแรก หากผิดพลาดขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น