เมื่อช่างภาพอย่างเราสวมวิญญาณเป็นนักสัมภาษณ์เหล่า “นักวิ่ง” ในงาน Thai Health Day Run 2016

สวัสดีครับ เพื่อนๆ ก่อนอื่นต้องขอเกริ่นก่อนว่าส่วนตัวผมเป็นช่างภาพมือสมัครเล่น ส่วนใหญ่จะรับงานถ่ายทั่วไปจากคนสนิท ไม่ว่าถ่ายปริญญาไปจนถึงงานบวช เล็กๆ น้อยๆ และเป็นการหัดตั้งกระทู้แบบจริงจังมีสาระครั้งแรก เขียนอะไรติดขัดหรือไม่เข้าใจตรงไหนชี้แจงได้นะครับ

        ล่าสุดเพิ่งได้ไปถ่ายรูปที่งานวิ่งที่สนามกีฬาข้างมาบุญครองมาเมื่อวันก่อน ทีแรกเพื่อนผมตั้งใจชวนไปวิ่งด้วยกันแต่ด้วยความพร้อมของร่างกายแทบไม่มี ไม่ได้ฝึกหรือซ้อมวิ่งมาก่อนเลยทำได้แค่วิ่งเก็บภาพได้บางช่วง ทีเหลือส่วนใหญ่เป็นเก็บบรรยากาศและสีสันในงานซะมากกว่า ครั้งแรกที่ตื่นเช้าเพื่อไปถ่ายรูป ครั้งแรกที่ได้ไปงานวิ่งแบบนี้ ทำให้รู้ว่าคนเหล่านี้เค้าตั้งใจมากันจริงๆ ระหว่างที่เก็บภาพก็มีชวนคุยคนที่มาวิ่งด้วย คำพูดของหลายคน…ทำให้ผมต้องมาย้อนคิดว่า เราได้ปรับหรือเปลี่ยนแปลงอะไรเพื่อตัวเองแล้วรึยัง


        หลังจากที่วิ่งกันเสร็จเรียบร้อยแล้วก็ตามเก็บรูปคนในงานไปทั่ว แต่ที่ประทับใจคือ ภายในงานมีจิตอาสามาช่วยกันเก็บขยะ นี่คือภาพที่รู้สึกว่าเป็นทีมเดียวกัน เป็นหนึ่งเดียวกัน ถึงแม้ภายในงานจะมีพิธีกรประกาศช่วงต่อไปจะเป็นช่วง “จิตอาสาพลังแผ่นดิน” เชิญชวนให้ผู้คนในงานช่วยกันทำจิตอาสาเก็บขยะบริเวณสนามหรือบริเวณด้านนอก แต่ก็มีคนหลายกลุ่มที่เริ่มเดินเก็บขยะกันตั้งแต่เพิ่งวิ่งเสร็จพิธีกรยังไม่ประกาศด้วยซ้ำ (เยี่ยมไปเลย)


        ด้วยความสงสัยเลยเข้าไปถามกลุ่มหนึ่ง ซึ่งเค้าได้บอกกับผมว่า “ปีนี้เป็นปีแรกที่มาวิ่งงานนี้ มีเพื่อนชวนให้มาทำกิจกรรมจิตอาสา แล้วก็ให้มาวิ่งได้เราก็ตั้งใจมา วิ่ง 10 กิโลฯ แล้วก็เตรียมถุงดำกันมาเองในนามกลุ่มของเมจิ มาวิ่งก่อน เสร็จแล้วก็มาช่วยเก็บขยะภายในสนาม ถือเป็นการมาวิ่งและได้มาทำจิตอาสาเต็มตัวเป็นครั้งแรกเหมือนกัน” ผมว่าดีนะ ที่มีการรวมกลุ่มกันทำอะไรแบบนี้ดูเป็นการทำด้วยใจจริงๆ ไม่ได้สร้างภาพ

        “ที่มาวิ่งเพราะน้องในกลุ่มชวน พอมีงานวิ่งก็มาวิ่งกันเรื่อยๆ ตอนแรกเตะบอลแล้วเกิดการบาดเจ็บ เลยเลิกเตะบอลแล้วหันมาวิ่งเพื่อลดการบาดเจ็บ ซึ่งปกติเป็นคนชอบออกกำลังกายอยู่แล้ว และที่มาวันนี้ก็มาวิ่งและเก็บขยะเพราะมีพี่ที่ทำจิตอาสาชวนมาแล้วเป็นงานเดียวกันพอดี เลยถือโอกาสทำทั้ง2อย่าง”

        “เคยมางานแบบนี้นานมากแล้ว พอได้มาวันนี้ทำให้เป็นแนวทางให้เราอยากลองหันมาเปลี่ยนแปลงตัวเองดูบ้าง เพราะคนที่มาวิ่งวันนี้ดูแข็งแรงบึกบึน ส่วนตัวเป็นคนผอมซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องดี อยากจะอ้วนมากกว่านี้งานหน้าก็อาจจะมาลองอีก”

        แถมคนรู้จักที่ผมบังเอิญเจอในงาน พี่ แกบอกว่า “ติดใจการวิ่งมาราธอนมากนอกจากได้สุขภาพดีแล้ว มันเหมือนเป็นกำลังใจให้เราได้ซ้อมวิ่งก่อนมาวิ่งจริงๆ เป็นการออกกำลังกายไปในตัว จำได้ว่างานแรกที่วิ่งเหนื่อยมาก ตอนนั้นไม่มีแรงวิ่งเลย  แต่มีคนในสนามแข่งเดียวกันบอก สู้ๆนะครับ แค่ประโยคเดียวมันเหมือนได้แรงใจ ให้เราก้าววิ่งต่อไปเลยอ่า แถมการวิ่งยังได้เพื่อนและสังคมใหม่ๆ อย่างตอนนี้กลุ่มวิ่งในไทยเราค่อนข้างใหญ่ด้วย สังเกตมีงานวิ่งเกือบทุกเดือน ไม่ต้องห่วงว่าจะวิ่งแบบเหงาๆ เลย แค่มีใจออกมาวิ่งก็พอ”

ปิดท้าย…หนึ่งในสีสันของงาน แอดมินเพจ Lowcosplay ครับผม!

        รู้สึกยังไงที่มาวันนี้? “ได้มาออกกำลังกาย ช่วยเก็บขยะเล็กๆน้อยๆ รู้สึกอิ่มเอมใจ รู้สึกดีกว่าไปทำบุญ ถึงเราไม่รู้จักกัน แค่เราถือถุงดำก็ทำให้มีปฏิสัมพันธ์กับคนได้มากขึ้น เป็นไปได้อยากลองไปงานวิ่งงานอื่นอีกเพราะชอบอีเว้น ชอบถ่ายรูป แถมมางานแบบนี้ก็เหมือนได้คาดิโอไปในตัว สนุกดี” มีอีกอย่างที่ผมอยากรู้แต่ไม่กล้าถาม…พี่เค้าคอสเพลย์เป็นตัวอะไรคับ? คาใจผมมากจนถึงตอนนี้ใครทราบฝากบอกที

        ไม่น่าเชื่อว่าการที่ผมได้มาถ่ายภาพและการพูดคุยในวันนี้มันจะเปลี่ยนความคิดผมได้มาก มันเหมือนว่าเราได้พูดคุยกับคนหลากหลายแบบในสนามเดียวกัน ยิ่งบรรยากาศในวันนั้นก็อบอุ่นมาก ถึงแม้บรรยากาศของบ้านเรายังอยู่ในช่วงความเศร้าเข้าครอบคลุมมาพักใหญ่ แต่นักวิ่งหน้าในงานกลับทำให้บรรยากาศอบอุ่นจากน้ำใจจิตอาสา ที่ไม่ได้พาแค่สองขามาวิ่ง แต่ยังพกหัวใจหล่อและสวยมากมากมาจากบ้านกันเพียบ ^_^




        แถมรูปแบทแมนคู่ ตั้งใจจะไปถ่ายใกล้ๆ เห็นมีคนยืนถ่ายกันหลายคนเลยไม่ได้เข้าไป ไม่รู้ว่ามาวิ่งหรือมางานป้ายข้างๆกันแน่ ^^


ปล. งานนี้ได้เจอคุณทีม จิตติวัฒน์ ที่ทำความดีเพื่อในหลวง ถ้ามีโอกาสจะเขียนเน้นเกี่ยวกับจิตอาสามาให้อ่านกันนะครับ ไม่แน่ใจว่าจะมีคนสนใจมั้ย แหะๆ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่