อยากละบายความรู้สึกชีวิตลูกที่เหมือนถูกกดดัน

ปัจจุบันเราอายุ 21ปี เป็นลูกคนกลาง พ่อเสียตั้งแต่เกิดได้ 7 เดือน มีพี่สาว 1 คน ห่างกัน 10 ปี และมีน้องชาย 1 คน ลูกคนละพ่อ ห่างกัน 5 ปี ฐานะทางบ้านก็ไม่ค่อยสู้ดี ครอบครัวเราญาติพี่น้อง ลุง ป้า น้า ไม่ค่อยรักกัน ลูกๆหลานๆทุกคนจะถูกเลี้ยงดูปลูกฝัง ให้แข่งขันกันเอง ใครได้ดีกว่าก็เทิศทูลคนนั้น ซึ่งครอบครัวของเรามีฐานะจนที่สุดในเครือญาติ เลยโดนดูถูกมาตลอด พี่สาวเราจึงเลือกที่จะมีครอบครัวกับคนที่ฐานะดีกว่า และแม่ก็ภูมิใจที่พี่สาวเรากินดีอยู่ดีมีฐานะมากขึ้น แต่ก็ไม่เคยมาช่วยเหลือทางบ้านเลย แม่ก็คอยซัพพอร์ทพี่สาวนะ อยากเปิดทำกิจการก็ช่วยเรื่องเงินทุน ทั้งที่เงินนั้นมาจากการเอารถมอไซค์เราไปจำนำ เรายอมรับนะว่าตัวเองก็ไม่ใช่ลูกที่ดีเท่าไหร่ ช่วงวัยรุ่นก็มีเกเรบ้าง กว่าจะเรียนจบ ปวช.ได้ ก็อายุ19แล้ว ซึ่งก็ได้เงินจากการกู้ กยศ. ในระหว่างเรียนเราก็ทำงานพาสไทม์มาตลอด ขายของออนไลน์บ้าง เรามีแฟนนะคบกันตอนเข้า ปวช.นี้แหละ แต่เราทั้งคู่ก็ตั้งใจเรียน ไม่เคยเกเร เกรดเฉลี่ยไม่เคยตก จนเรียนจบ เรากับแฟนได้งานที่เดียวกัน แฟนเรามีฐานะปานกลาง ไม่ค่อยมีเงินทองมากมายเท่าไหร่ และมีโรคประจำตัว ซึ่งรักษามาตั้งแต่เด็ก ปัจจุบันโรคนั้นก็อยู่ในเกณฑ์ปกติหรือเรียกได้ว่าเกือบหายสนิทแล้ว ไม่ได้กินยาต้องรักษาอะไร แค่มีตรวจประจำปี อยู่ในความดูแลของหมอเป็นระยะ แต่ก็ไม่รู้ทำไมเราถึงรักเขา แม่เราเคยอยากให้เราเลิกกับแฟนนะ เพราะว่ากลัวเราจะต้องไปดูแลเขายามเจ็บป่วย หรือเป็นหม้ายก่อนวัยอันควร แม่เราไม่ค่อยมั่นใจในตัวแฟนเราซักเท่าไหร่ เพราะคิดว่าทางฝั่งแฟนเราไม่ค่อยมีฐานะกลัวจะดูแลเราไม่ได้ และแม่ก็คาดหวังมาตลอดว่า ถ้าเราทำงานแล้ว จะต้องซื้อบ้านให้ท่านอยู่ให้ได้ก่อนอายุ25 เราเองก็พยายามนะ ช่วงทำงานก็ตั้งใจทำมากๆ ทั้งยังขายของในออนในออนไลน์เพิ่ม เพราะอยากซื้อบ้านให้แม่อยู่ซักหลังให้ได้ แต่ช่วงหลังมานี้เราตกงาน เพราะมีปัญหาเรื่องระบบในองค์กรไม่ดีเรามุ่งทำงานไม่ได้มีเวลาไปตีสนิทหัวหน้า เลยถูกว่าหรือไม่เห็นผลงานที่เราทำ แม่เราเลยพยายามหางานให้ ซึ่งเราก็เข้าใจแม่นะว่ากลัวเราอด แต่งานที่ได้มามันไม่ใช่สิ่งที่เราถนัดหรือชอบเลยซักอย่าง เราลองทำลองพยายามอดทน แต่เมื่อทำแล้วมันอึดอัดใจ มันไม่มีความสุข ก็เลยอยู่ได้ไม่นาน เราก็โดนแม่ด่านะ ว่าเราเป็นพวกจับจด ทำอะไรไม่จริงจังซักอย่าง ดูถูกงานขายของออนไลน์เราว่ามันไม่มีอนาคต เราเสียใจมากๆนะ ทั้งทีแม่หวังกับเรา แต่แม่ก็ดูถูกเราในเวลาเดียวกัน แม่เป็นคนไม่สุงสิงกับใคร ชอบเก็บตัวอยู่บ้านกับทำงานอย่างเดียว จนครั้งนี้ที่เราเสียใจมาก เพราะช่วงตกงานแฟนเราก็มาบวช แต่เขากลับไปบวชที่บ้านยายเขาซึ่งอยู่ต่างจังหวัด ทุกคนยุ่งกับการจัดเตรียมงาน แต่ในเวลาเดียวกัน แม่เราก็เร่งให้เราหางานทำให้ได้ ถึงกับบอกว่าถ้าได้งานแล้วตรงกับวันบวชแฟนก็ไม่ต้องไป เขาบวชโดยไม่มีเราเขาก็บวชได้ ประเด็นนี้เราเข้าใจ แต่ทางครอบครัวแฟนเขาก็อยากให้เรา ให้แม่เราไปร่วมงานด้วย เราโชคดีนะที่ครอบครัวแฟนเอ็นดูเราเห็นเราเป็นลูกเป็นหลานคนนึงในครอบครัว จนวันที่แฟนเราไปอยู่วัดที่บ้านยายเพื่อเตรียมตัวอุปสมบท เราก็มัวแต่หางาน ขายของ ส่งของให้ลูกค้า จนแม่เราโทรมาต่อว่าเราว่าแฟนเราไม่เห็นหัวท่าน คิดจะไปบวชแต่ไม่มาขอขมาเลย เห็นท่านเป็นหัวหลักหัวตอ ถึงกับไม่นับแฟนเราเป็นลูกอีกด้วย เราก็อึ่งเพราะไม่เคยจัดงานบวชเลยไม่รู้ว่าต้องทำกับญาติผู้ใหญ่คนไหนบ้าง เราบอกแฟนเรื่องนี้ แฟนบอกว่ามันมีพิธีซึ่งเขาจะต้องขอขมาทั้งแม่เขาและแม่เราเหมือนกัน แต่เขาไปจัดที่บ้านยายไง และแม่แฟนก็อาสามารับแม่เรานะ แต่แม่เราปฏิเสธ ให้เหตุผลว่าไม่อยากลางานกลัวเงินไม่พอใช้จ่ายในบ้าน ซึ่งเราก็ไม่ได้ขอเงินแม่ใช่นะ เรามีรายได้จากการขายของออนไลน์นี้แหละไว้ใช่กินใช่อยู่ เราน้ำตาร่วงทุกครั้งที่แม่ต่อว่าเรา จนเราคิดอยากตายเหมือนกันนะ เผื่อแม่เราจะสบายใจขึ้นถ้าไม่มีเราแล้ว ความรู้สึกเราเป็นลูกที่แย่มากๆ ซึ่งมันอาจจะใช่ เพราะอย่างหนึ่งที่เรารู้มาคือ แม่เราไม่ได้ตั้งใจจะมาเราหรอก แม่คุมกำเนิดหลังจากมีพี่สาวนาน 9 ปี พอหมอบอกว่าแม่เราไม่สามารถมีลูกได้แล้วเพราะมดลูกแห้งเป็นผลจากการชีดยาคุมกำเนิด แต่หลังจากนั้นปีเดียวแม่ก็มีเรา และพ่อก็เสีย เหตุที่แม่มีน้องชายอีกคนเพราะแม่แต่งงานใหม่ ปัจจุบันพ่อของน้องชายก็เสียแล้วเช่นกัน สิ่งเดียวที่แม่หวังจากเรามากที่สุดก็คือซื้อบ้านให้ท่าน เพื่อเป็นหน้าเป็นตาให้กับครอบครัว ไม่ให้เครือญาติคนอื่นๆว่าได้ ว่าแม่เราเลี้ยงลูกไม่เคยได้ดีซักคน เราพยายามนะ ภายใน2ปีหลังเรียนจบนี้ เราต้องหางานที่มั่นคงได้เพื่อซื้อบ้านให้แม่

ขอบคุณที่เข้ามาอ่านอะไรไร้สาระ
มันอัดอั้นมาก กลัวโดนตราหน้าว่าเป็นลูกอกตัญญู
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่