เลิกกันแล้ว แต่ยังรักและยังทำทุกอย่างเหมือนเดิม

ช่วยฟัง จขกท หน่อยนะคะ อาจดูพร่ำเพ้อ แต่มันจริงค่ะ

เราเพิ่งเลิกกับแฟนเมื่อวันเสาร์ เราคบกับเขาได้แค่เดือนเดียว แต่ก่อนหน้านี้เราเคยคุยกันทางเฟซบุ๊กประมาณสองปีก่อน และคุยกันแบบจริงๆจังๆมาหลายเดือนก่อนจะคบ (เขาเป็นรุ่นพี่ที่โรงเรียนเก่า) เอาเป็นว่าเรื่องระยะเวลาไม่สำคัญเนอะ เราขอพูดถึงความรู้สึกเราดีกว่า

ตอนนี้เรารู้สึกว่างเปล่ามาก เหมือนอะไรที่เคยคิดไว้มันพังลงไปหมด สถานที่ที่คิดว่าเราจะไปด้วยกันตอนว่าง ก็คงไม่ได้ไปแล้ว

ลอยกระทงปีนี้ เราตั้งใจจะชวนเขาไปลอยด้วย ปีใหม่จะได้เค้าท์ดาวน์ด้วยกัน วาเลนไทน์ปีหน้าจะเป็นปีแรกที่มีแฟน แต่เหมือนทุกอย่างหยุดชะงักไปหมด เราเป็นคนบอกเลิกเขาเองด้วยสาเหตุที่ว่าเราเจอบางอย่างในเฟซบุ๊กเขา คล้ายๆกับการนอกใจ แต่ก็ไม่เชิง เขากดซ่อนเรื่องราวของเราเอาไว้ ไม่ให้ใครเห็น เหมือนเป็นคนในความลับ เหมือนเขาไม่อยากให้คนอื่นรู้ว่ามีแฟน เขาโกหกเราหลายเรื่องที่เกี่ยวข้องกับแบบนี้ ช่วงแรกเราฝืนที่จะอยู่ตรงนี้ต่อไป แต่มันก็ไม่ได้ เพราะเราคิดว่าเราอยู่ตรงนี้ไม่ไหวหรอก อยู่ไปทำไม อยู่ไปเพื่ออะไร ถอยออกมาจะดีกว่ามั้ง

แล้วทุกอย่างมันก็จบลงวันนั้น...

แต่เรายังคุยกันอยู่ ยังทำทุกอย่างเหมือนเดิม ที่เพิ่มมาคือบางอย่างที่เขาไม่เคยทำให้

เพียงแต่มันสายไป มันผิดเวลา เราเคยเรียกร้อง เราอยากให้เขาเปิดเผย อยากให้เขาลงรูปเราบ้าง เขาไม่เคยทำ

แต่เขามาทำมันวันนี้ วันที่เราเลิกกันไปแล้ว...

ตอนเราบอกเลิกเขา น้ำตาเขาไหล สะอื้นแรงมากและเข้ามากอดเราแน่น เราบอกเขาว่า ไม่เป็นไรนะ ไม่ต้องร้อง ในขณะที่ตัวเราเองก็กำลังสะอื้น เขารับรู้แล้วว่าเรารู้สึกยังไง เขาบอกว่าเขาจะไม่ทำอีก เรายังมีโอกาสให้เขาไหม...

เราให้โอกาส แต่ไม่ใช่ในฐานะแฟน ตอนนี้เราก็ยังคุยกัน เขาชวนเราไปดูหนัง ทั้งที่ไม่เคยชวน เพราะไม่ชอบเสียตังดูหนังในโรง เราเลยต้องไปคนเดียวอยู่ตลอด เขาชวนเราวางแพลนทริปเที่ยว ทั้งที่เขาไม่เคยคิด ชวนเราไปเค้าท์ดาวน์ปีใหม่ ทั้งที่เขาเคยบอกไว้ว่าปีใหม่จะไปกับเพื่อน บอกว่ายังไงก็จะเอาดอกไม้วาเลนไทน์มาให้เรา(วันนั้นคือวันเกิดเราด้วย) ทั้งที่เขาไม่เคยพูดถึงเรื่องนี้ ชวนไปเจอแม่เขา ทวงคำที่เราเคยบอกไว้ว่าจะหัดทำกับข้าวให้เป็นก่อนไปเจอแม่เขา เพราะกลัวแม่เขาจะไม่ชอบ ชวนเราว่าเราไปนู่นนี่นั่นด้วยกันเถอะนะ แต่เขาก็ตอบที่เราถามไม่ได้ว่า "ในฐานะอะไร"

เขาอยากให้เรากลับไป เราเองก็อยากกลับ อยากมากด้วย แต่หลายๆสิ่งที่เราได้เจอมา การเลิกกัน มันเป็นสิ่งที่ "เขาสมควร" จะได้รับ ถ้าเรายังอยู่ตรงนี้ เขาจะรู้สึกเสียเราไปไหม ในเมื่อเรายังไม่ไปไหนเลย อาจเพราะความเคยชินที่เราคุยกันมานาน มันคงทำให้เขาเฉยๆว่าถ้าวันหนึ่งไม่มี แล้วจะเป็นยังไง เราอยากให้เขาได้รู้สึกบ้าง ให้เขาอยู่ด้วยตัวเองให้นานกว่านี้ เพราะนี่เพิ่งผ่านมาแค่สามวัน

ตอนนี้เราก็ทำโปรเจ็ค เรากำลังจะเรียนจบปลายเดือนนี้ กำลังจะทำงาน กำลังจะได้ไปอยู่ กทม (เขาทำงานอยู่ที่นั่น เราเรียนอยู่ชลบุรี เขาอายุมากกว่าเราสองปี แต่เราเป็นคนจังหวัดเดียวกัน คือสมุทรสงคราม บ้านเราใกล้กันจนปั่นจักรยานไปก็ได้) เคยคิดไว้ว่าถ้าไปอยู่ที่ กทม เราจะได้เจอกันบ่อยขึ้น แต่เราก็เลิกกันก่อน จนตอนนี้เราก็ยังนัดกันว่าจะไปกินนู่นนี่นั่นกันเหมือนเดิม

ตอนนี้เรายังจำภาพที่เราเคยมีกันและกันได้ดี วันแรกที่เราได้คุยกันแบบจริงจัง คือเราเดินไปทักเขาตอนสงกรานต์ หลังจากวันนั้นเราก็คุยกันแบบสนิทๆ เรื่อยมา ได้ไปไหนด้วยกัน(แต่ไปกับเพื่อนเราด้วย) เขามาหาเราตอนที่เราอยู่หอช่วงฝึกงาน (ฝึกงาน กทม) ได้อยู่ด้วยกัน เดินไปตลาด ซื้อกับข้าวมากินกัน นั่งดูหนัง เล่นปาหมอน นอนกอดกัน (ไม่เคยมีอะไรกัน) ภาพทุกภาพมันยังชัดอยู่เสมอ

เราเป็นคนขี้น้อยใจ ขี้แง อยู่ด้วยกันร้องไห้แทบทุกวัน เขาก็กอดปลอบเราทุกครั้ง เราเป็นพวกมีปัญหาครอบครัว เราเล่าปมด้อยของเราให้เขาฟังทุกอย่าง เขาก็อยู่ให้กำลังใจเราไม่ไปไหน เขาไม่เคยทำให้เราเสียการเรียน มีแต่บอกว่าให้ตั้งใจเรียน จะได้รีบเอาใบปริญญาไปให้ยายดู เขาเป็นห่วงเราเวลานั่งแท็กซี่จนต้องโทรมาคุยกันตลอด แค่เจ้าของหอเข้ามาดูดส้วมในห้องเราเขาก็ยังต้องโทรมา เพราะเป็นห่วง

เขาเช็ดเลือดให้เราตอนที่เราร้องไห้จนเลือดออกจมูก ช่วยถอดถุงเท้าให้เรา สระผมให้แต่ก็ดันบีบเอาครีมนวดใส่ลงมาแทนยาสระผม เพราะเขาไม่เคยใช้อะไรวุ่นวายหลายขวด หุงข้าวง้อเราตอนที่เล่นเอาหมอนกดหน้าเราจนเรางอน เขาบ่นว่าเรากินชักช้าแต่ก็นั่งฟังเราแพล่มจนกินหมด ช่วยเราล้างจาน ช่วยเรากวาดห้อง คอยดูแลตอนเราร้องไห้ไม่มีเหตุผลและนอนเพ้อแบบไม่รู้ตัว อยู่ข้างๆและคอยกอดแน่นๆเสมอจนเราหายเศร้า

จนอาทิตย์สุดท้ายของการฝึกงาน เขาวาดรูปเราซ่อนไว้ให้ใต้หมอน เราเปิดดูตอนกลางคืนก็ร้องไห้ นอนกอดมันทั้งคืน พอเจอกันอีกครั้งตอนที่เราไปดูหนังกับเพื่อน เขาก็วาดมาให้อีกรูปนึง เป็นรูปห้องนั้น เขาจำรายละเอียดทุกอย่างในห้องนั้นได้ ว่าเราวางอะไรไว้ตรงไหน เขาจำได้ดีกว่าเราซะอีก จนตอนนี้เราสองคนก็ยังนึกถึงความทรงจำดีๆที่อยู่ด้วยกันที่หอนั้น (เขามาหาช่วงวันหยุดงานน่ะค่ะ) แต่มันย้อนกลับไปไม่ได้ ทำได้แค่คิดถึง เพราะเราต่างก็มีชีวิตของตัวเอง เขาทำงาน เราก็เร่งเรียนให้จบ จะได้มีงานทำ ส่งเงินไปให้ยาย ทุกอย่างมันยังดำเนินไปแบบปกติ ใช้ชีวิตปกติ ยังมีเขาให้กำลังใจเราอยู่เหมือนเดิม แค่ลดสถานะลงมา ยังสัญญากันว่าจะมางานรับปริญญาเราเหมือนเดิม แต่มันแค่รู้สึกว่างเปล่า ใจหวิวๆ เหมือนในความเหมือนเดิม มันมีบางอย่างที่ไม่เหมือนเดิม การคุยกันตอนเลิกกัน มันไม่เหมือนตอนคุยก่อนจะคบกัน

มันต่างมาก... ไม่รู้เพราะอะไร

เราไม่ได้เลิกกันไม่ดี ตอนเราบอกเลิก เรายังได้กอดกัน หอมแก้มกัน เหมือนตอนเป็นแฟน และเราไม่ได้เกลียดกันเลยสักนิด ภาพดีๆที่อยู่ในหัวเรา มันทำให้แค่เรื่องนี้ก็มาลบมันไม่ได้ เพียงแต่เรายังไม่พร้อม ไม่พร้อมจะกลับไปตอนนี้

เราเคยถามตัวเองว่า เราคุยกันทำไม คุยกับเขาทำไม ถ้าเลิกแล้วทำไมไม่ตัดขาดกันไปเลย เราตอบตัวเองไม่ได้ เราไม่รู้ว่าคุยเพื่อที่สักวันเราจะค่อยๆลืมกันไปเอง หรือคุยเพื่อที่สักวัน เราจะได้กลับมาคบกันอีก เราก็ไม่รู้ แต่เราเชื่อว่าวันหนึ่งมันจะมีทางออกของมันเอง เพียงแต่ในวันนี้ทางนั้นมันยังไม่ชัด แต่ถ้าวันไหนที่เขามีคนใหม่แล้ว เราก็พร้อมที่จะเดินออกไปเหมือนกัน เพื่อไม่ให้มันมีปัญหา

เราเชื่อว่าสักวัน เราคงหาทางออกสำหรับเรื่องนี้ได้

กระทู้นี้เราแค่อยากหาที่ระบาย เพราะเราไม่อยากโพสต์เฟซบุ๊กให้คนรู้จักมาเห็นว่าเราพร่ำเพ้ออะไร เพราะฉะนั้นเราขอสงวนการเล่าถึงต้นเหตุทั้งหมดในการเลิกกัน เพราะเราอยากให้มันมีแต่เรื่องดีๆ ของเรากับเขา พันทิปเป็นเพื่อนเรามานาน แล้วเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดด้วย ต่อให้วันข้างหน้าเราไม่ได้กลับมาคบกันอีก ก็ขอให้กระทู้นี้เป็นสิ่งที่เตือนความทรงจำว่าอย่างน้อยครั้งหนึ่งเราก็เคยรักคนนี้ คนที่ตอนนี้เราก็ยังมองว่าเขาแสนดีสำหรับเราเสมอ

พี่นพ...

หนูจะรีบทำฝันให้สำเร็จ ให้ครอบครัวได้ภูมิใจ ขอบคุณที่เคยอยู่ข้างกัน ขอบคุณที่เคยมาทำให้มีความสุขมากๆในช่วงเวลานึงของชีวิต ขอบคุณที่ช่วยดึงหนูขึ้นมาจากความท้อทั้งหลายทั้งปวง ขอบคุณที่ช่วยย้ำว่าสิ่งที่หนูควรทำคืออะไร

ขอบคุณที่เคยรักกัน
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่