เมื่อก่อนคิดว่าเยอะ
เพราะหลงไปคิดคํานวณเอาแค่ต้นทุน โดยลืมนึกถึงความเสี่ยงเรื่องภัยธรรมชาติ
เมื่อยามฝนฟ้าดี ราคาดี เราก็ไปกล่าวหาว่าเขาโลภ
แต่พอมีภัยธรรมชาติ บางปีก็แทบไม่มีผลผลิตออกมา
ฝนแล้งก็ให้ชาวนาหยุดปลูกข้าว จะได้เก็บนํ้าเอาไว้
เพื่อให้คนกรุงเทพ ได้อุปโภค บริโภค
พอนํ้าเยอะ
ก็เอาที่นาไปเป็นแก้มลิง เพื่อป้องกันนํ้าท่วมกรุงเทพ
พอมีรัฐบาล ที่ออกนโยบายช่วยเหลือขาวนา
เพื่อทําให้เขาพอลืมตาอ้าปากได้
ก็มีคนคอยขัดขวาง ( ซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นคนกรุงเทพนั่นแหละ )
อาชีพชาวนาไทย
จึงไม่ได้รองรับ แต่เฉพาะความทุกข์ของตัวเอง
ยังกลายเป็นที่รองรับปัญหาความทุกข์ ของคนทั้งประเทศ
นี่แหละครับ........ชีวิตชาวนา
..........สําหรับ ใครที่คิดจะแบ่งโซนสินค้าการเกษตร
โดยเฉพาะข้าว เลิกคิดเถอะครับ
สินค้าการเกษตร ไม่ใช่สินค้าอุตสหกรรม
ที่สามารุถ กําหนดอุปสงค์ อุปทาน ให้แน่นอนได้
เพราะมันมีตัวแปรที่สําคัญคือ ภัยธรรมชาติ
ถ้ากําหนดพื้นที่การเกษตร เอาไว้พอดี
ยามเมื่อมีภัยธรรมชาติ
จนผลผลิตเกิดความเสียหาย แล้วจะทํายังไงครับ
-----------------------------------
.......ผมเพิ่งเข้าใจ สําหรับราคาข้าวตันละ 15000 มันน้อยไปสําหรับชาวนา
เพราะหลงไปคิดคํานวณเอาแค่ต้นทุน โดยลืมนึกถึงความเสี่ยงเรื่องภัยธรรมชาติ
เมื่อยามฝนฟ้าดี ราคาดี เราก็ไปกล่าวหาว่าเขาโลภ
แต่พอมีภัยธรรมชาติ บางปีก็แทบไม่มีผลผลิตออกมา
ฝนแล้งก็ให้ชาวนาหยุดปลูกข้าว จะได้เก็บนํ้าเอาไว้
เพื่อให้คนกรุงเทพ ได้อุปโภค บริโภค
พอนํ้าเยอะ
ก็เอาที่นาไปเป็นแก้มลิง เพื่อป้องกันนํ้าท่วมกรุงเทพ
พอมีรัฐบาล ที่ออกนโยบายช่วยเหลือขาวนา
เพื่อทําให้เขาพอลืมตาอ้าปากได้
ก็มีคนคอยขัดขวาง ( ซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นคนกรุงเทพนั่นแหละ )
อาชีพชาวนาไทย
จึงไม่ได้รองรับ แต่เฉพาะความทุกข์ของตัวเอง
ยังกลายเป็นที่รองรับปัญหาความทุกข์ ของคนทั้งประเทศ
นี่แหละครับ........ชีวิตชาวนา
..........สําหรับ ใครที่คิดจะแบ่งโซนสินค้าการเกษตร
โดยเฉพาะข้าว เลิกคิดเถอะครับ
สินค้าการเกษตร ไม่ใช่สินค้าอุตสหกรรม
ที่สามารุถ กําหนดอุปสงค์ อุปทาน ให้แน่นอนได้
เพราะมันมีตัวแปรที่สําคัญคือ ภัยธรรมชาติ
ถ้ากําหนดพื้นที่การเกษตร เอาไว้พอดี
ยามเมื่อมีภัยธรรมชาติ
จนผลผลิตเกิดความเสียหาย แล้วจะทํายังไงครับ
-----------------------------------