เมื่อเช็คระยะ 12000 ก็สมควรแก่เวลาที่จะมารีวิวแล้วกับน้องเล็กของบ้าน
"น้องแก้ม" หรือ ยามาฮ่า แกรนด์ฟีลาโน่
ที่มาที่ไปก่อนจะถอยแกรนด์ฟีลาโน่มา ผมมีตัวเลือกอีกสามตัว คือ
1.คาริโน่ ของสตาเลี่ยน
2.เวสป้า ตัว 125/150 ซีซี
3.สกู๊ปปี้ ไอ

มี 4 ตัวเลือกแบบนี้จึงต้องใช้เหตุผลในการช่วยเลือก กับม้าตัวใหม่ที่เน้นขี่ไปทำงานและจ่ายตลาดเป็นหลัก อาจมีออกทริปบ้าง
เหตุผลของผมในการเลือกคือ ขนของได้เยอะ เครื่องยนต์ไม่มีปัญหา มีของแต่งพอสมควร ค่าอะไหล่กับเซอวิสไม่แพง
และเมื่อเอาเหตุผลมาช่วยผมจึงตัดตัวเลือกต่างๆออกไป
1.คาริโน่ ผมไปเห็นที่งานในไบเทค ตอนนั้นเปิดราคาที่ สามหมื่นปลายๆ
สอบถามพนักงานแต่ดูเหมือนพนักงานจะไปให้ความสำคัญกับตัว ct400 ซะมากกว่า
เลยกลับมาหาข้อมูลเองที่บ้าน โดยเข้าไปที่เวบของสตาเลี่ยน
ซึ่งในเวบไม่มีข้อมูลให้ผม เลยคิดว่าขนาดเวบของตัวเองยังไม่มี แล้วอนาคตซื้อมามันจะเป็นยังไง เลยตัดตัวเลือกนี้ออก
2.เวสป้า ตัวนี้ตัดออกเนื่องจากปัญหาเบาดับ ไปไล่อ่านบางคนก็ยังแก้ไม่หาย และค่าอะไหล่ ค่าเซอวิสยังแพง
แถมศูนย์ที่ใกล้สุดอยู่ห่างออกไปเกือบๆ 20 กม.
3.สกู๊ปปี้ ไอ ตัวนี้สูสีกะแกรนด์เลย แต่ข้อด้อยอยู่ที่ใต้เบาะเล็กกว่าเลยตัดสินใจไม่เอา
หลังจากตัดสินใจจะถอยแกรนด์ ผมก็ไปตระเวณหาตามร้านแถวๆบ้าน ทั้งที่เป็นของยามาฮ่า สแควร์ และร้านตัวแทนต่างๆ
ตอนแรกไม่คิดว่ายามาฮ่าจะมีการปั่นราคาเหมือนฮอนด้า บางร้านปั่นไปสูงถึง 56000 บาท
พอจะซื้อแบบผ่อน ขนาดว่าเลือกดาวน์เยอะที่สุด และผ่อนงวดให้น้อยที่สุด ดอกเบี้ยยังมีเฉียดๆสามหมื่น
สุดท้ายผมเลยตัดสินใจถอยเงินสด จัดสีแดงมาเลย

ซึ่งศูนย์นี้เซลล์อยู่ในกลุ่มเฟซ เห็นผมสอบถามเรื่องแกรนด์เลยทักมา
เซลล์แนะนำดีครับ เกี่ยวกับตัวรถ ของแถมที่ได้ก็มี หมวกเต็มใบเปิดคาง 1 ใบ
กรอบป้ายทะเบียน แคปซูล พรบ. เสื้อเเจ็คเก็ตฟรีจดทะเบียน+พรบ.
เช็คระยะพันโลฟรี และผมซื้อประกันเพิ่มอีก 2 ปี และมัดจำของแต่งศูนย์ไปอีก 1000 นึง
รวมจ่ายออกจากร้าน 53000 บาท
ออกจากศูนย์ขี่ไปได้สักพัก เอะใจว่าทำไมรถยนต์บีบแตรใส่ตอนเลี้ยว เลยลงมาดูปรากฎว่าไฟเลี้ยวเสีย เลยต้องกลับไปที่ศูนย์อีกรอบ
เลยได้กระติกน้ำขนาดเล็กแถมเพิ่มมาให้อีกอัน
แอบสงสัยว่าอายุงานไฟเลี้ยวน้อยจัง ตอนทดสอบให้ดูไฟยังติดอยู่เลย

เอากลับมาถึงบ้าน ก็จับถ่ายกับพี่ๆ 2 คันก่อนหน้าซะหน่อย

อันนี้สภาพเดิมๆ ใต้เบาะยัดหมวกเต็มใบเปิดคางได้

ใต้เบาะมีเครื่องมือติดรถ พร้อมแปะคำแนะนำเรื่องลมยางว่าควรเติมเท่าไหร่

ตรงช่องเสียบกุญแจจะมีปุ่มกดสองปุ่มไว้เปิดใต้เบาะ กับเปิดฝาถังน้ำมัน (ต้องเสียบกุญแจไว้ด้วยนะ)
ตัวกุญแจจะมีปุ่ม กด 1 ครั้งจะเป็นการส่งสัญญาณหารถ กดค้างไว้จะเปิดช่องเสียบกุญแจ

ฝาถังน้ำมันอยู่ทางด้านซ้าย เติมสะดวกมากครับไม่ต้องเปิดใต้เบาะ

ยามค่ำคืน เรือนไมล์ดูสว่าง ชัดเจนดีครับ

หลังจากได้มา ก็เอาไปใช้งานตามปกติ หน้าที่หลักคือซื้อกับข้าว จ่ายตลาดครับ


เปลี่ยนยางครั้งแรกตอนหมื่นโล เนื่องจากยางเดิมรั่วแล้วหาจุดรั่วไม่เจอ เลยถือโอกาสเปลี่ยน
พร้อมใส่จุ๊บลมแบบข้องอมาด้วย จะได้เติมลมสะดวกหน่อย ยางที่เปลี่ยนผมเลือกยี่ห้อ " tim sun"
ไม่มีไรมากเพราะราคาพอเหมาะ รวมเปลี่ยนยางและจุ๊บงอเบ็ดเสร็จ 2000 บาท
แถมเฮียเจ้าของร้านเลี้ยงข้าวอีกจานนึงระหว่างรอเปลี่ยนยาง

มีออกทริปบ้าง
ทริปแรกลองรถ ขี่จากบ้านที่สมุทรปราการ ไป ชลบุรี

ทริปสองเอาขึ้นรถไฟไปขี่เล่นที่หาดใหญ่

ทริปที่สามขี่ไปกินกุ้งเผาอยุธยา แต่อ้อมไปทางเขาใหญ่

ในส่วนของค่าใช้จ่ายในการ maintenance ก็ตามนี้ครับ
ตามรูปจะเป็นใบเสร็จของเช็คระยะ 4000 กับ 12000
ใบเสร็จเช็คระยะ 1000 โลไม่มีเพราะได้ทำฟรีจากโปรโมชั่นทางร้าน
ส่วน 8000 โล ผมทำหายครับ


รายละเอียดการทำต่างๆที่ช่างเช็คระยะทั้งช่างที่ศูนย์โรงงานใหญ่ตรงบางเสาธง
และช่างที่เป็นของดีลเลอร์ข้างนอก ผมผิดหวังครับ เพราะช่างไม่ทำอะไรเลย
นอกจากถ่ายน้ำมันเครื่อง/น้ำมันเฟืองท้าย ทั้งๆที่ในรายการมีเปลี่ยนและทำอย่างอื่นด้วย
อย่างเช่นเปลี่ยนหัวเทียน ทำความสะอาดชุดคลัช

ต่อไปก็เป็นส่วนของรายละเอียดการต่อภาษีและ พรบ. ผมไปทำเองเลยที่ขนส่ง
มีเสียค่าปรับเล็กน้อยครับ เพราะภาษีขาด

สิ่งที่ผมได้พบเจอหลังจากใช้งานมาจนแตะที่ระดับ 12000 โล
1.เบาะเดิมสูงมาก สุดท้ายต้องไปปาดออกเล็กน้อย และหุ้มเบาะใหม่ ผมไปทำที่ร้านหน่อย วัดด่าน
2.โช๊คที่บอกว่าเป็นปัญหาประจำรุ่น ผมได้เคลมใหม่ไปสองรอบตอนเลขไมล์ 1600 และ 3600 ตามลำดับ
3.โช๊คหน้าสำหรับผม ถือว่าแข็ง เจอทางขรุขระนี่สะท้านมือเลย
4.ห่วงคล้องสายเบรคใต้กับตัวสายเบรคตรงใต้ท้องรถมันจะถูกัน ทำให้มีเสียงผมแก้โดยเอาจาระบีเหลวพ่นไป เสียงเงียบเลย
5.งานประกอบมีสั่นเล็กน้อยตรงช่วงกระจกมองหลัง เวลาออกตัวจะได้ยินชัด
6.ใต้เบาะถือว่ากว้างมาก แต่ยังใส่หมวกแบบ Full Face ไม่ได้
7.ใต้เบาะร้อน ด้วยว่ามันอยู่ติดกับเครื่องยนต์
8.ยางรั่วต้องเข้าร้านปะยางรถใหญ่ โดนค่าแทงหนอนไป 100 นึง
9.ผมเติมแต่ e20 ทำได้ประหยัดสุดที่ 53 กม./ลิตร น้ำหนักตัวผมก็ 100 นึงพอดี ความเร็วเฉลี่ย 60-80
10.ความเร็วรุ่นนี้ ล็อคไว้ที่ 100 นึงพอดี
11.ค่าเช็คระยะถูก
12.ด้วยขนาดล้อที่เล็ก พยายามหลีกเลี่ยงหลุมไว้ เพราะเวลาตกหลุมแม้จะเพียงนิดเดียวมันออกอาการมากกว่ารถที่ล้อใหญ่กว่า
13.แผ่นยางที่เบิกจากศูนย์จะให้น็อตยึดมาสี่จุด คอยตรวจสอบเพราะของผมหลุดหายไม่มีเบิกใหม่ด้วย
14.กันชนบังโคลนหน้าของศูนย์จะสั่นมากเวลารถวิ่ง เห็นบางคนขี่ๆไปมีหลุดด้วย บางคนบอกว่าเป็นสาเหตุให้บังโคลนแตกด้วยน้ำหนักของตัวกันชน
15.แบตเดิมติดรถผมหมดที่ 12000 โลพอดี
16.ถ่านรีโมทกุญแจรถ ผมหมดก่อนหน้าแบตเล็กน้อย
17.ฟังค์ชั่นกดหารถ สำหรับผมไม่ค่อยมีประโยชน์ เพราะในลานจอดกว่าสัญญาณจะถึงรถ เราก็เห็นรถอยู่ในสายตาแล้ว
[CR] 12000 โลที่ผ่านไป กับน้องเล็กสุดประจำบ้าน " Yamaha Grand Filano"
"น้องแก้ม" หรือ ยามาฮ่า แกรนด์ฟีลาโน่
ที่มาที่ไปก่อนจะถอยแกรนด์ฟีลาโน่มา ผมมีตัวเลือกอีกสามตัว คือ
1.คาริโน่ ของสตาเลี่ยน
2.เวสป้า ตัว 125/150 ซีซี
3.สกู๊ปปี้ ไอ
มี 4 ตัวเลือกแบบนี้จึงต้องใช้เหตุผลในการช่วยเลือก กับม้าตัวใหม่ที่เน้นขี่ไปทำงานและจ่ายตลาดเป็นหลัก อาจมีออกทริปบ้าง
เหตุผลของผมในการเลือกคือ ขนของได้เยอะ เครื่องยนต์ไม่มีปัญหา มีของแต่งพอสมควร ค่าอะไหล่กับเซอวิสไม่แพง
และเมื่อเอาเหตุผลมาช่วยผมจึงตัดตัวเลือกต่างๆออกไป
1.คาริโน่ ผมไปเห็นที่งานในไบเทค ตอนนั้นเปิดราคาที่ สามหมื่นปลายๆ
สอบถามพนักงานแต่ดูเหมือนพนักงานจะไปให้ความสำคัญกับตัว ct400 ซะมากกว่า
เลยกลับมาหาข้อมูลเองที่บ้าน โดยเข้าไปที่เวบของสตาเลี่ยน
ซึ่งในเวบไม่มีข้อมูลให้ผม เลยคิดว่าขนาดเวบของตัวเองยังไม่มี แล้วอนาคตซื้อมามันจะเป็นยังไง เลยตัดตัวเลือกนี้ออก
2.เวสป้า ตัวนี้ตัดออกเนื่องจากปัญหาเบาดับ ไปไล่อ่านบางคนก็ยังแก้ไม่หาย และค่าอะไหล่ ค่าเซอวิสยังแพง
แถมศูนย์ที่ใกล้สุดอยู่ห่างออกไปเกือบๆ 20 กม.
3.สกู๊ปปี้ ไอ ตัวนี้สูสีกะแกรนด์เลย แต่ข้อด้อยอยู่ที่ใต้เบาะเล็กกว่าเลยตัดสินใจไม่เอา
หลังจากตัดสินใจจะถอยแกรนด์ ผมก็ไปตระเวณหาตามร้านแถวๆบ้าน ทั้งที่เป็นของยามาฮ่า สแควร์ และร้านตัวแทนต่างๆ
ตอนแรกไม่คิดว่ายามาฮ่าจะมีการปั่นราคาเหมือนฮอนด้า บางร้านปั่นไปสูงถึง 56000 บาท
พอจะซื้อแบบผ่อน ขนาดว่าเลือกดาวน์เยอะที่สุด และผ่อนงวดให้น้อยที่สุด ดอกเบี้ยยังมีเฉียดๆสามหมื่น
สุดท้ายผมเลยตัดสินใจถอยเงินสด จัดสีแดงมาเลย
ซึ่งศูนย์นี้เซลล์อยู่ในกลุ่มเฟซ เห็นผมสอบถามเรื่องแกรนด์เลยทักมา
เซลล์แนะนำดีครับ เกี่ยวกับตัวรถ ของแถมที่ได้ก็มี หมวกเต็มใบเปิดคาง 1 ใบ
กรอบป้ายทะเบียน แคปซูล พรบ. เสื้อเเจ็คเก็ตฟรีจดทะเบียน+พรบ.
เช็คระยะพันโลฟรี และผมซื้อประกันเพิ่มอีก 2 ปี และมัดจำของแต่งศูนย์ไปอีก 1000 นึง
รวมจ่ายออกจากร้าน 53000 บาท
ออกจากศูนย์ขี่ไปได้สักพัก เอะใจว่าทำไมรถยนต์บีบแตรใส่ตอนเลี้ยว เลยลงมาดูปรากฎว่าไฟเลี้ยวเสีย เลยต้องกลับไปที่ศูนย์อีกรอบ
เลยได้กระติกน้ำขนาดเล็กแถมเพิ่มมาให้อีกอัน
แอบสงสัยว่าอายุงานไฟเลี้ยวน้อยจัง ตอนทดสอบให้ดูไฟยังติดอยู่เลย
เอากลับมาถึงบ้าน ก็จับถ่ายกับพี่ๆ 2 คันก่อนหน้าซะหน่อย
อันนี้สภาพเดิมๆ ใต้เบาะยัดหมวกเต็มใบเปิดคางได้
ใต้เบาะมีเครื่องมือติดรถ พร้อมแปะคำแนะนำเรื่องลมยางว่าควรเติมเท่าไหร่
ตรงช่องเสียบกุญแจจะมีปุ่มกดสองปุ่มไว้เปิดใต้เบาะ กับเปิดฝาถังน้ำมัน (ต้องเสียบกุญแจไว้ด้วยนะ)
ตัวกุญแจจะมีปุ่ม กด 1 ครั้งจะเป็นการส่งสัญญาณหารถ กดค้างไว้จะเปิดช่องเสียบกุญแจ
ฝาถังน้ำมันอยู่ทางด้านซ้าย เติมสะดวกมากครับไม่ต้องเปิดใต้เบาะ
ยามค่ำคืน เรือนไมล์ดูสว่าง ชัดเจนดีครับ
หลังจากได้มา ก็เอาไปใช้งานตามปกติ หน้าที่หลักคือซื้อกับข้าว จ่ายตลาดครับ
เปลี่ยนยางครั้งแรกตอนหมื่นโล เนื่องจากยางเดิมรั่วแล้วหาจุดรั่วไม่เจอ เลยถือโอกาสเปลี่ยน
พร้อมใส่จุ๊บลมแบบข้องอมาด้วย จะได้เติมลมสะดวกหน่อย ยางที่เปลี่ยนผมเลือกยี่ห้อ " tim sun"
ไม่มีไรมากเพราะราคาพอเหมาะ รวมเปลี่ยนยางและจุ๊บงอเบ็ดเสร็จ 2000 บาท
แถมเฮียเจ้าของร้านเลี้ยงข้าวอีกจานนึงระหว่างรอเปลี่ยนยาง
มีออกทริปบ้าง
ทริปแรกลองรถ ขี่จากบ้านที่สมุทรปราการ ไป ชลบุรี
ทริปสองเอาขึ้นรถไฟไปขี่เล่นที่หาดใหญ่
ทริปที่สามขี่ไปกินกุ้งเผาอยุธยา แต่อ้อมไปทางเขาใหญ่
ในส่วนของค่าใช้จ่ายในการ maintenance ก็ตามนี้ครับ
ตามรูปจะเป็นใบเสร็จของเช็คระยะ 4000 กับ 12000
ใบเสร็จเช็คระยะ 1000 โลไม่มีเพราะได้ทำฟรีจากโปรโมชั่นทางร้าน
ส่วน 8000 โล ผมทำหายครับ
รายละเอียดการทำต่างๆที่ช่างเช็คระยะทั้งช่างที่ศูนย์โรงงานใหญ่ตรงบางเสาธง
และช่างที่เป็นของดีลเลอร์ข้างนอก ผมผิดหวังครับ เพราะช่างไม่ทำอะไรเลย
นอกจากถ่ายน้ำมันเครื่อง/น้ำมันเฟืองท้าย ทั้งๆที่ในรายการมีเปลี่ยนและทำอย่างอื่นด้วย
อย่างเช่นเปลี่ยนหัวเทียน ทำความสะอาดชุดคลัช
ต่อไปก็เป็นส่วนของรายละเอียดการต่อภาษีและ พรบ. ผมไปทำเองเลยที่ขนส่ง
มีเสียค่าปรับเล็กน้อยครับ เพราะภาษีขาด
สิ่งที่ผมได้พบเจอหลังจากใช้งานมาจนแตะที่ระดับ 12000 โล
1.เบาะเดิมสูงมาก สุดท้ายต้องไปปาดออกเล็กน้อย และหุ้มเบาะใหม่ ผมไปทำที่ร้านหน่อย วัดด่าน
2.โช๊คที่บอกว่าเป็นปัญหาประจำรุ่น ผมได้เคลมใหม่ไปสองรอบตอนเลขไมล์ 1600 และ 3600 ตามลำดับ
3.โช๊คหน้าสำหรับผม ถือว่าแข็ง เจอทางขรุขระนี่สะท้านมือเลย
4.ห่วงคล้องสายเบรคใต้กับตัวสายเบรคตรงใต้ท้องรถมันจะถูกัน ทำให้มีเสียงผมแก้โดยเอาจาระบีเหลวพ่นไป เสียงเงียบเลย
5.งานประกอบมีสั่นเล็กน้อยตรงช่วงกระจกมองหลัง เวลาออกตัวจะได้ยินชัด
6.ใต้เบาะถือว่ากว้างมาก แต่ยังใส่หมวกแบบ Full Face ไม่ได้
7.ใต้เบาะร้อน ด้วยว่ามันอยู่ติดกับเครื่องยนต์
8.ยางรั่วต้องเข้าร้านปะยางรถใหญ่ โดนค่าแทงหนอนไป 100 นึง
9.ผมเติมแต่ e20 ทำได้ประหยัดสุดที่ 53 กม./ลิตร น้ำหนักตัวผมก็ 100 นึงพอดี ความเร็วเฉลี่ย 60-80
10.ความเร็วรุ่นนี้ ล็อคไว้ที่ 100 นึงพอดี
11.ค่าเช็คระยะถูก
12.ด้วยขนาดล้อที่เล็ก พยายามหลีกเลี่ยงหลุมไว้ เพราะเวลาตกหลุมแม้จะเพียงนิดเดียวมันออกอาการมากกว่ารถที่ล้อใหญ่กว่า
13.แผ่นยางที่เบิกจากศูนย์จะให้น็อตยึดมาสี่จุด คอยตรวจสอบเพราะของผมหลุดหายไม่มีเบิกใหม่ด้วย
14.กันชนบังโคลนหน้าของศูนย์จะสั่นมากเวลารถวิ่ง เห็นบางคนขี่ๆไปมีหลุดด้วย บางคนบอกว่าเป็นสาเหตุให้บังโคลนแตกด้วยน้ำหนักของตัวกันชน
15.แบตเดิมติดรถผมหมดที่ 12000 โลพอดี
16.ถ่านรีโมทกุญแจรถ ผมหมดก่อนหน้าแบตเล็กน้อย
17.ฟังค์ชั่นกดหารถ สำหรับผมไม่ค่อยมีประโยชน์ เพราะในลานจอดกว่าสัญญาณจะถึงรถ เราก็เห็นรถอยู่ในสายตาแล้ว