ปกติผมจะใช้รถตู้ ต.118 จตุจักร-มธ ไปกลับจากบ้านไปมหาวิทยาลัย คือผมเรียนที่ม.กรุงเทพนะครับ เรื่องมีอยู่ว่าเดือนที่แล้วผมขึ้นรถตู้จากหน้าม.กรุงเทพ วันนั้นเป็นวันอังคารผมจำได้ดีเลยในรถผมนั่งอยู่หลังสุด คือถ้าใครได้นั่งหลังสุดก็จะรู้ดีเลยว่าที่นั่งมันอะจะสูงที่สุดในรถและสายตายผมก็ไปเห็นผู้ชายคนหนึ่ง ผมเห็นแค่ด้านหลังเขานะครับ ผมรู้สึกว่าโดนมต์สะกดยังไงไม่รู้อ่ะ เหมือนคนนี้มีพลังดึงดูดให้ผมต้องสนใจเค้า ตอนที่นั่งในรถมองก็ได้แต่แอบมอง ยิ้มอยู่ในใจทั้งๆที่ผมยังไม่ได้เห็นหน้าเขาเลยผมก็รู้สึกถึงความประทับใจนั้น พอถึงจตุกรผมก็ต้องต่อ MRT เพื่อกลับบ้าน ตอนนั้นผมโครตดีใจเลยที่เขาก็ต้องต่อMRT เหมือนกันเขาเดินนำหน้าผมไปเขาเดินเร็วมาก จนผมต้องเร่งฝีก้าวตามเขาให้ทัน ผมจำใบหน้านั้นได้ตอนที่เขาหันมามองตอนที่ลงบันใดเลือนเข้าสถานี เขามองผมเหมือนเขารู้ว่าผมกำลังตามเขาไปตอนนั้นใจผมเต้นแรงมากจนมันจะหลุดออกมา บุคลิคเขาไม่เหมือนใคร ที่ม.กรุงเทพใครๆก็จะใส่เสื้อเชิ้ตขาวพับแขนกันแต่เขาปล่อยให้มันยาวปกติ เขาจะไม่พกกระเป๋ามีเพียงหนังสือสองสามเล่มในมือเขา มันทำให้เขาดูแตกต่าง ด้วยความที่เขาเดินเร็วมากจนทำให้ผมต้องวิ่ง ตอนนั้นอ้าวเข้าไปสถานีไปแล้ว ผมยังไม่มีตั๋วเข้าไปเลยผมต้องรีบเข้าไปซื้อแล้วรีบวิ่งตามไปดีนะที่รถไฟยังไม่มา เขายืนอยู่ที่ประตูแรกผมก็ไปยืนข้างๆเขา มือก็เล่นแต่โทรศัพท์เพราะมัวแต่เขิน เข้าไปในขบวนรถเรายืนอยู่ชิดกันมาก เขาอยู่อยู่ข้างหน้าผม แต่เขาหันหลังนะครับ ผมทำตัวไม่ถูกเลย ได้แต่แอบมองเขาในกระจกของรถไฟฟ้าที่มันมั่วๆมากมองแทบจะไม่เห็นเขินมากในใจอยากจะทักเขามากเลย แต่ผมได้แต่กลัว บ้านผมกับสถานีจตุจักรห่างกันแค่สถานีเดียวแต่ผมกลับไม่ลงที่สถานีนั้นในใจกะว่าจะตามเขาไปจนถึงสถานีที่เขาลงและเดินตามออกไปชวนเขาคุย แต่พอไปถึงสถานีสุทธิสาร เป็นสถานีที่เขาลง ผมกลับไม่ตามเขาไป ผมปล่อยเขาไป เพราะผมคิดว่าในสายตาเขาผมกลัวเขาจะคิดว่าผมเป็นโรคจิตและดูง่ายไป ผมมีเวลาคิดตอนนั้นไม่ถึง 5 วินาทีก่อนที่ประตูรถจะปิด แต่ผมก็ปล่อยให้ประตูมันปิด ผมเศร้ามากพูดกับตัวเองว่าหากเราคู่กันสักวันเราต้องเจอกันอีก มีเปอร์เซ็นน้อยมากที่เราจะเจอกันในโลกกว้างใหญ่ใบนี้ แต่มันเล็กลงมาอีกนิดที่เราเรียนที่มหาวิทยาลัยเดียวกัน
จนเวลาผ่านไปเป็นอาทิตย์ ในวันอังคารผมจำได้ดีว่ามันเป็นวันอังคารอีกแล้ว ผมตื่นขึ้นมาในรถตู้ในขณะที่ผมกำลังกลับบ้าน ผมได้เจอเขาอีกครั้ง ดวงตาผมเปิ่งโตมากใจเต้นแรกอีกครั้งที่ได้เจอเขา คราวนี้ที่สถานีรถไฟใต้ดินผมไม่มีตั๋วเช่นเดิม เพราะผมขี้เกียจจะเติมเงินในบัตรผมก็ต้องวิ่งตามเขาไปให้ทัน เรายืนอยู่ประตูแรกเหมือนเดิมชิดกันมากขึ้น ผมก็ยังไม่กล้าที่จะทักเขา แม้แต่มองหน้าเขาผมยังเขิน คราวนี้ผมเลือกที่จะลงสถานีพหลโยธิน คือหนึ่งสถานีจากจตุจักร คราวนี้ผมอยากให้เขาเดินออกมาจากรถไฟฟ้าบ้างเผื่อมาทักผม (หลงตัวเอง555) แต่มันก็ไม่ได้เป็นอย่างนั้น ครั้งที่สองผมก็ยังไม่ได้คุยกัน เวลาผ่านไป เหมือนผมจะเจอเขาอีกครั้ง ไม่รู้ผมคิดไปเองหรือเปล่า เหมือนเขาจะรู้ว่าผมแอบตามเขาอยู่ เขาก็ไปเข้าแถวซื้อตั๋วเหมือนกับผม ผมคิดในใจว่า อืมมม เขาก็น่าจะอยากรู้จักนะแบบดึงเวลาไว้เพราะรู้ว่าผมต้องมาซื้อตั๋วก่อน ขณะที่เขาซื้อตั๋วนั้นผมได้แต่มองเขา แต่ได้มองก็ดีใจแล้ว สุดท้ายผมก็ทำเหมือนเดิมคือลงสถานีบ้านผมและปล่อยให้ประตูปิดและเขาจากไป
และทุกๆวันอังคารผมหวังว่าจะได้เจอเขาอีก คือผมไม่ได้เจอเขาบ่อยนะครับ ด้วยความที่รถตู้คนขึ้นลงตลอด จนวันนี้ผมทนความคิดถึงเขาไม่ไหว และแล้วผมก็ไม่ได้เจอเขา ผมเลยมานั่งรอที่ประตูแรกของรถไฟฟ้าที่สถานีจตุจักรเพื่อหวังว่าเขาจะมาขึ้นรถที่นี้ แต่ผมก็ไม่เจอเขา ถ้าหากว่าเขามาอ่านที่นี้โปรดบอกเขาว่าผมแค่อยากทำความรู้จักคุณ รู้ชื่อคุณเท่านั้นหัวใจผมก็เต็มไปด้วยความสุขแล้ว พรุ้งนี้ผมจะไปรอที่รถตู้ ต.118 ตอนเลิกเรียนตอนเย็น หวังว่าจะได้เจอคุณนะ
ผู้ชายเบาะหลังถึงผู้ชายเบาะหน้า ต.118 มกท ช-ช
จนเวลาผ่านไปเป็นอาทิตย์ ในวันอังคารผมจำได้ดีว่ามันเป็นวันอังคารอีกแล้ว ผมตื่นขึ้นมาในรถตู้ในขณะที่ผมกำลังกลับบ้าน ผมได้เจอเขาอีกครั้ง ดวงตาผมเปิ่งโตมากใจเต้นแรกอีกครั้งที่ได้เจอเขา คราวนี้ที่สถานีรถไฟใต้ดินผมไม่มีตั๋วเช่นเดิม เพราะผมขี้เกียจจะเติมเงินในบัตรผมก็ต้องวิ่งตามเขาไปให้ทัน เรายืนอยู่ประตูแรกเหมือนเดิมชิดกันมากขึ้น ผมก็ยังไม่กล้าที่จะทักเขา แม้แต่มองหน้าเขาผมยังเขิน คราวนี้ผมเลือกที่จะลงสถานีพหลโยธิน คือหนึ่งสถานีจากจตุจักร คราวนี้ผมอยากให้เขาเดินออกมาจากรถไฟฟ้าบ้างเผื่อมาทักผม (หลงตัวเอง555) แต่มันก็ไม่ได้เป็นอย่างนั้น ครั้งที่สองผมก็ยังไม่ได้คุยกัน เวลาผ่านไป เหมือนผมจะเจอเขาอีกครั้ง ไม่รู้ผมคิดไปเองหรือเปล่า เหมือนเขาจะรู้ว่าผมแอบตามเขาอยู่ เขาก็ไปเข้าแถวซื้อตั๋วเหมือนกับผม ผมคิดในใจว่า อืมมม เขาก็น่าจะอยากรู้จักนะแบบดึงเวลาไว้เพราะรู้ว่าผมต้องมาซื้อตั๋วก่อน ขณะที่เขาซื้อตั๋วนั้นผมได้แต่มองเขา แต่ได้มองก็ดีใจแล้ว สุดท้ายผมก็ทำเหมือนเดิมคือลงสถานีบ้านผมและปล่อยให้ประตูปิดและเขาจากไป
และทุกๆวันอังคารผมหวังว่าจะได้เจอเขาอีก คือผมไม่ได้เจอเขาบ่อยนะครับ ด้วยความที่รถตู้คนขึ้นลงตลอด จนวันนี้ผมทนความคิดถึงเขาไม่ไหว และแล้วผมก็ไม่ได้เจอเขา ผมเลยมานั่งรอที่ประตูแรกของรถไฟฟ้าที่สถานีจตุจักรเพื่อหวังว่าเขาจะมาขึ้นรถที่นี้ แต่ผมก็ไม่เจอเขา ถ้าหากว่าเขามาอ่านที่นี้โปรดบอกเขาว่าผมแค่อยากทำความรู้จักคุณ รู้ชื่อคุณเท่านั้นหัวใจผมก็เต็มไปด้วยความสุขแล้ว พรุ้งนี้ผมจะไปรอที่รถตู้ ต.118 ตอนเลิกเรียนตอนเย็น หวังว่าจะได้เจอคุณนะ