สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 14
ลองคิดดูว่ามีอาชีพอะไรที่สบายกว่านี้อีกมั้ย
เริ่มต้นโทรเรียกรถไถมา ถ้าเป็นเจ้าประจำแทบจะไม่ต้องลงไปดูที่นาตอนรถมาไถด้วยซ้ำไป บางทีรถไถเองกลับเป็นโทรบอกด้วยซ้ำว่าที่ข้างเคียงเขาจะไถเ้มื่อนั่นเมื่อนี่แล้วนะ จะไถไปพร้อมกะเขาเลยไหม?
พันธ์ุข้าวก็รู้อยู่ว่าจะเอาจากไหน หรือเก็บเองไว้ตั้งแต่คราวที่แล้ว คนหว่านโทรปุ๊บเดี๋ยวก็มาเองของไปหว่าน อาจจะไปดูหน่อย หากกลัวว่าจะโดนอมพันธ์ข้าวไปหว่านหรือขายคนอื่น
ใส่ปุ๊ย ฉีดยา กำจัดหญ้า ปู หอย จ้างทั้งนั้น จากนั้นก็รอ ไปอีกหน่อย แค่คอยตะแคงหูฟังว่า น้ำจะท่วมไหม (เตรียมขอความช่วยเหลือ) หรือถ้าเป็นนาปรังก็อาจจะคอยไปรับน้ำเข้านาตามจังหวะชลประทานเขาปล่อยน้ำ บางเจ้ากระทั่งสูบน้ำเข้านายังจ้างเขาดูแลเล้ย (เฝ้าเครื่องด้วย กลัวหาย)
พอมใกล้ครบสี่เดือน ก็เตรียมนัดรถเกี่ยว (นวดในตัว มันถึงได้มีข้าวความชื้นสูงไง) เสร็จใส่กระสอบหรือพ่นใส่รถกระบะ สิบล้อเลย สิ่งส่งโรงสีเลย ไม่มีการตากข้าวในลาน ไม่ค่อยมียุ้ง (โดยเฉพาะชาวนาภาคกลาง) แล้วก็รอเวลาเผาตอซังเพื่อเริ่มวงจรทำนาทางโทรศัพท์ กึ่ง ๆ ใช้โรบอทแล้ว
อาชีพอะไรสบายกว่านี้ ทำสวนยางก็ต้องส่งน้ำยางทุกวัน ทำไร่ผัก หรือสวนอะไรก็แล้วแต่ เจ้าของต้องยุ่งบ้าง ลงมือบ้าง จ้างเขาบ้าง ทั้งปี ส่วนชาวนาไทย (สมัยใหม่) นอนเล่นเกมส์ที่บ้านได้ทั้งวัน (ที่จริงถ้าจะมาเฝ้าหน้าจอเทรดหุ้นน่าจะรวยหรือเจ๊งเร็วกว่านี้ เพราะเฝ้าจอได้ตลอดเจ็ดวัน) อาหารการกิน มีรถกะบะขายทั้งอาหารสำเร็จรูปหรือผักหญ้ามาถึงหน้าบ้านทุกวัน (รถกะบะขายกับข้าวนี่แหละคือตัวการทำลายวิถีชีวิตชาวนาตัวจริง ไม่ต้องตื่นเช้าหุงหาอีกแล้ว ไม่ต้องออกไปหาผักปลาใด ๆ มีเสนอมาถึงหัวกระไดบ้าน "ทุกวัน เช้า-กลางวัน-เย็น)
ใครจะมาเถียงหรือแสดงความคิดเห็นต่าง ก็เชิญ เรามีตัวอย่างจริง ๆ ให้ดูเป็นตำบล ๆ เลย อยากลองไปอยู่แบบลองสเตย์ยังได้เลย
เริ่มต้นโทรเรียกรถไถมา ถ้าเป็นเจ้าประจำแทบจะไม่ต้องลงไปดูที่นาตอนรถมาไถด้วยซ้ำไป บางทีรถไถเองกลับเป็นโทรบอกด้วยซ้ำว่าที่ข้างเคียงเขาจะไถเ้มื่อนั่นเมื่อนี่แล้วนะ จะไถไปพร้อมกะเขาเลยไหม?
พันธ์ุข้าวก็รู้อยู่ว่าจะเอาจากไหน หรือเก็บเองไว้ตั้งแต่คราวที่แล้ว คนหว่านโทรปุ๊บเดี๋ยวก็มาเองของไปหว่าน อาจจะไปดูหน่อย หากกลัวว่าจะโดนอมพันธ์ข้าวไปหว่านหรือขายคนอื่น
ใส่ปุ๊ย ฉีดยา กำจัดหญ้า ปู หอย จ้างทั้งนั้น จากนั้นก็รอ ไปอีกหน่อย แค่คอยตะแคงหูฟังว่า น้ำจะท่วมไหม (เตรียมขอความช่วยเหลือ) หรือถ้าเป็นนาปรังก็อาจจะคอยไปรับน้ำเข้านาตามจังหวะชลประทานเขาปล่อยน้ำ บางเจ้ากระทั่งสูบน้ำเข้านายังจ้างเขาดูแลเล้ย (เฝ้าเครื่องด้วย กลัวหาย)
พอมใกล้ครบสี่เดือน ก็เตรียมนัดรถเกี่ยว (นวดในตัว มันถึงได้มีข้าวความชื้นสูงไง) เสร็จใส่กระสอบหรือพ่นใส่รถกระบะ สิบล้อเลย สิ่งส่งโรงสีเลย ไม่มีการตากข้าวในลาน ไม่ค่อยมียุ้ง (โดยเฉพาะชาวนาภาคกลาง) แล้วก็รอเวลาเผาตอซังเพื่อเริ่มวงจรทำนาทางโทรศัพท์ กึ่ง ๆ ใช้โรบอทแล้ว
อาชีพอะไรสบายกว่านี้ ทำสวนยางก็ต้องส่งน้ำยางทุกวัน ทำไร่ผัก หรือสวนอะไรก็แล้วแต่ เจ้าของต้องยุ่งบ้าง ลงมือบ้าง จ้างเขาบ้าง ทั้งปี ส่วนชาวนาไทย (สมัยใหม่) นอนเล่นเกมส์ที่บ้านได้ทั้งวัน (ที่จริงถ้าจะมาเฝ้าหน้าจอเทรดหุ้นน่าจะรวยหรือเจ๊งเร็วกว่านี้ เพราะเฝ้าจอได้ตลอดเจ็ดวัน) อาหารการกิน มีรถกะบะขายทั้งอาหารสำเร็จรูปหรือผักหญ้ามาถึงหน้าบ้านทุกวัน (รถกะบะขายกับข้าวนี่แหละคือตัวการทำลายวิถีชีวิตชาวนาตัวจริง ไม่ต้องตื่นเช้าหุงหาอีกแล้ว ไม่ต้องออกไปหาผักปลาใด ๆ มีเสนอมาถึงหัวกระไดบ้าน "ทุกวัน เช้า-กลางวัน-เย็น)
ใครจะมาเถียงหรือแสดงความคิดเห็นต่าง ก็เชิญ เรามีตัวอย่างจริง ๆ ให้ดูเป็นตำบล ๆ เลย อยากลองไปอยู่แบบลองสเตย์ยังได้เลย
แสดงความคิดเห็น
ประเทศไทยทำไมคนส่วนใหญ่ต้องทำนาด้วยครับ ทั้งๆที่ทำแล้วขาดทุน งง
ต่อไป ข้าวม้นจะล้นโลก
ทำไมเมืองไทยต้องปลูกข้าว เยอะๆด้วย
ทั้งๆที่ข้าว ปลูกไปก็ขาดทุน