หากสหรัฐฯ ภายใต้โมเดลภาษี “ทรัมป์” ใช้แนวทางเดียวกับที่เจรจากับเวียดนาม
โดยสินค้าจากเวียดนามไปสหรัฐฯ เจอภาษีนำเข้า 20% และ 40% หากเป็นสินค้าขนส่งผ่านประเทศที่สาม.
หากใช้โมเดลนี้กับไทย การส่งออกไปสหรัฐฯ อาจลดลงมากกว่า 2 หมื่นล้านดอลลาร์ จากปัจจุบัน 6.3 หมื่นล้านดอลลาร์ ,ไทยอาจต้องเผชิญภาษีนำเข้าสูงกว่าเวียดนาม เพราะมีความใกล้ชิดทางเศรษฐกิจ-การเมืองน้อยกว่า.
กลุ่มสินค้าที่มีเสี่ยงสูง ทุเรียน ข้าว อาหารทะเล มะพร้าว แก้วมังกร ฯลฯ , เครื่องใช้ไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ สมาร์ทโฟน.
ผลกระทบทางการค้า-เศรษฐกิจ เกินดุลการค้าของไทยอาจลดลงจาก 4.5 หมื่นล้านดอลลาร์ เหลือ 2.5 หมื่นล้านดอลลาร์ , การส่งออกทั้งปี 2568 ยังอาจเติบโต 6-7% เพราะช่วงครึ่งปีแรกโตเกิน 14%.
ข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย ลดต้นทุนการผลิต เช่น ค่าวัตถุดิบนำเข้า ค่าแรง และดอกเบี้ย , เร่งตั้งศูนย์กระจายสินค้าในสหรัฐฯ คล้ายแนวทางเวียดนาม.
จับตาคู่แข่งอาเซียนอื่น ๆ โดยเฉพาะอินโดนีเซีย และ มาเลเซีย ที่มีความแข็งแรงทางด้าน เกษตร-อุตสาหกรรม อยู่แล้ว
สหรัฐฯ ภายใต้โมเดลภาษี “ทรัมป์” ไทย อาจเจอภาษี 20 ถืง 40 % เหมือน เวียดนาม