หลบความวุ่นวายไปพระตะบอง 3 วัน 2คืน

เกริ่นนำ
ตามแผนเดิมของผมวันที่ 22-24 ต.ค. ผมกะจะนอนอยู่บ้านพักผ่อนจากการทำงาน
แต่อยู่ๆ เมื่อคืนวันศุกร์ที่ 21 ต.ค. หลังจากได้ยินว่าคนที่ทำงานเค้าต่างก็มีแผนจะไปเที่ยวกันทั้งนั้น จิตวิญญาณการท่องเที่ยวของผมจึงถูกปลุกขึ้นอย่างกะทันหัน
ปัญหาคือจะไปไหนดี  พรุ่งนี้แล้ว ตั๋วเดินทางอะไรก็จองไม่ทัน ที่พักก็ไม่ได้จอง ใจก็อยากออกทริปไปต่างประเทศ
คำตอบก็คือ หาประเทศที่ง่ายๆ ไม่ต้องจองอะไรเลยไง นั่นก็คือกัมพูชาเพื่อนบ้านของเรานี่เอง และเมืองเป้าหมายของผมก็คือพระตะบอง ก่อนกลับเลยรีบแวะไปแลกเงิน USD ที่ร้านแลกเงินใกล้ที่ทำงานก่อน 4000 บาท แลกได้ 113 USD น่าจะพอเหมาะกับทริป 3 วัน 2 คืน
จากที่เคยคิดไว้ ที่ท่องเที่ยวพระตะบองในแผนของผมจะมีประมาณนี้  เช้ามืดวันที่ 22 ต.ค. ก็ออกเดินทางกันเลย


วันที่ 1
เดินทางไปยังไง
ผมเลือกวิธีไปโดย รถตู้สอยดาว ต้นทางที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ วิ่งตรงไปตลาดโรงเกลือ ค่ารถ 230 บาท ตอนแรกว่าจะไปรอบแรกสุดคือ ตี 4 แต่ดันตื่นสายเลยมาทันเอารอบตี 5.20 แทน รถตู้มีจอดแวะพักกลางทางบ้างใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชม. ถึงโรงเกลือเอา 9 โมงเกือบครึ่ง ผ่าน ต.ม. ทั้ง 2 ฝั่งได้ก็ประมาณ 10 โมง ขั้นตอนต่อไปก็คือนั่งรถบัสฟรีจากหน้าด่านไปยังขนส่งปอยเปต และหารถจากขนส่งต่อไปพระตะบอง ราคารถบัสไปพระตะบองอยู่ที่ 10 USD ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงนิดๆ ก็ถึงพระตะบอง ผมไปขึ้นตอน 11 โมง ถึงประมาณบ่ายโมง
ข้อควรระวังคนที่หน้าด่านจะโน้มน้าวให้คุณไปกับพวกเขารวมถึงการโกหกต่างๆ นานา ที่ผมเจอคือเค้าจะโกหกว่ารถบัสที่จอดรออยู่จะไม่ได้ไปขนส่ง วิ่งตรงไปเมืองอื่นอย่างเดียว และรับเฉพาะที่มาเป็นกลุ่มมาคนเดียวไม่รับ แล้วก็โกหกอีกว่ารถที่ไปขนส่งจอดห่างไปอีก 1 กิโล ให้พวกเค้าไปส่งที่ขนส่งให้ดีกว่า
กรณีแบบนี้ให้เชื่อมั่นในตนเองขึ้นรถบัสไปเลย เพราะถ้าคุณหลงเชื่อ เค้าจะพาคุณไปที่อื่นแล้วหลอกว่ารถบัสหมดแล้วบีบให้คุณเหมา Taxi ไปแทน ในราคากดขี่ และถ้าโชคร้ายเมื่อถึงที่หมายเค้าจะส่งไปคุณไปหาพรรคพวกเค้าหลอกขายทัวร์ราคาแพงอีกรอบ

ที่พัก
ผมลงรถที่เมืองพระตะบอง เส้นถนน National Highway5 แล้วเดินลงมาทางใต้ที่ถนน 108 ไปไม่ไกลก็เจอโรงแรม First Hotel ที่พักนี้มีให้บริการคนขับรถตุ๊กตุ๊ก และตั๋วไปเมืองอื่นๆ รวมถึงรถกลับชายแดนไทยด้วย  ผมเช่าห้องพัดลม Double room 2 คืน ราคา 12 USD (ไม่มีอาหารเช้านะครับ)


เที่ยววันแรก
หลังจากเก็บของที่ห้อง ผมก็ลงมาคุยกับพนักงานโรงแรมเรี่องแผนเที่ยว พนักงานแนะนำทัวร์ที่จะออกตอนบ่าย 2
โปรแกรมคือ ไปรถไฟไม้ไผ่กับถ้ำค้างคาว ในราคา 10 USD โดยลูกทัวร์มีผมกับนักท่องเที่ยวชาวเบลเยียม 1 คน  และจะมีฝรั่งเศสอีก 1 คนมาสมทบกลางทาง
รถวิ่งลงใต้เส้นทางยาวประมาณ 6 กิโลก็มาถึงสถานีรถไฟไม้ไผ่  (ถ้าคุณมาเองค่ารถไปกลับจากตัวเมืองเมืองควรเป็น 5 USD)
รถไฟไม้ไผ่ เป็นวิธีเดินทางของชาวบ้านที่นี่หลังจากรถไฟถูกปิดการใช้งานไป ต่อมาชาวบ้านจึงสร้างรถไฟที่มีแค่ล้อเหล็กกับแคร่ไม้ไผ่มาใช้เดินทางแทนกันเอง  แล้วมันดันฮิตสำหรับนักท่องเที่ยวที่นี่ มันจึงเป็นแหล่งท่องเที่ยวไป เส้นทางวิ่ง 7 กม. (ไปกลับ 14 กิโล) ปลายทางเป็นร้านแบบชาวบ้านๆ ขายของที่ระลึก (ส่วนใหญ่เป็นเสื้อผ้า) ใช้เวลาประมาณไม่ถึงชั่วโมงก็จบแล้ว ราคาค่ารถไฟไม้ไผ่ 5 USD
โดยส่วนตัวถือว่าสนุกดีนะครับ วิ่งค่อนข้างซิ่งโดยไม่ต้องมีการป้องกันนั่งให้ลมตีหน้า มีต้นไม้ มีวัวอยู่ข้างทาง  แต่ฝนดันตก ได้น้ำฝนตีหน้าแทนเศร้ากันไป



จากนั้นก็ไปที่บึงอะไรสักอย่าง เพื่อให้เล่นน้ำ โดยนักท่องเที่ยวฝรั่งเศสมาดักรอสมทบที่นี่  แต่กลุ่มนี้ไม่มีใครอยากเล่นน้ำ เลยนั่งเม้ามอยกันแทน ฟังออกบ้างไม่ออกบ้าง ยิ่งช่วงที่เค้าคุยภาษาฝรั่งเศสกันนี้คือไม่รู้เรื่องเลย

จากนั้นต่อไปที่เขาพนมสำเภาซึ่งห่างไปอีกประมาณ 10 กว่ากิโล ที่นี่มีวัดบนยอดเขาเคยได้ยินว่าเป็นจุดชมวิวที่ดีของเมืองนี่ และมีถ้ำสังหารที่ที่เขมรแดงเอาคนเอาศพมาโดยทิ้งจากปากถ้ำแต่ด้วยสภาพอากาศที่ฝนตกอีกแล้ว จึงไม่ได้ขึ้นไป แล้วนั่งข้างล่างรอดูฝูงค้าวคาวจำนวนมากๆ บินออกจากถ้ำแทน
สัก 6 โมงค้างคาวก็เริ่มออกหากินแลัว (ไม่ค่อยมีรูปใกล้เพราะเปลี่ยนไปถ่ายวีดีโอแทน)


จากนั้นก็กลับโรงแรมกว่าถึงก็ประมาณ 1 ทุ่มนิดๆ ร้านอาหารกลางคืนที่นี่มีไม่เยอะนัก อาจต้องเดินไกลหน่อย จะมีเยอะก็บริเวณตลาดที่มีให้เลือกเยอะหน่อย อาหารที่นี่ถ้าแบบชาวบ้านๆ จะประมาณ 3500 - 5000 เรียล ถ้าแบบขายนักท่องเที่ยวประมาณ 3-5 USD

วันที่ 2
วันนี้ก็เริ่มเที่ยวแต่เช้าโดยการเช่าตุ๊กตุ๊กพร้อมคนขับของโรงแรม แต่คราวนี้จัดโปรแกรมเองพร้อมเหมารถไปคนเดียว
แผนคือ วัดเอกพนม-วัด samrong knong-แวะถ่ายรูปพญาตะบองขยุง-วัดบานอน เรียกได้ว่าวิ่งจากเหนือลงใต้เลยทีเดียว รวมระยะทางประมาณ 60 กิโล ได้ราคาค่ารถที่ 25 USD
ออกจากโรงแรม 8 โมง ไปถึงที่วัดเอกพนม ประมาณ 8 ครึ่ง  ราคาค่าเข้า 1 USD
วัดเอกพนมมีอาคาร 2 หลัง คือวัดใหม่กับวัดเก่า โดยวัดเก่าตั้งซ่อนอยู่หลังวัดใหม่ เค้าว่าเก่ากว่านครวัดอีก



ป้า ที่นี่ผมเจอป้าคนหนึ่งตั้งแต่ตอนเข้าวัดแล้ว เธอพูดไทยหรืออังกฤษไม่ได้ พยายามกวักมือเรียกผม ชี้นู้นชี้นี่ พยายามไม่ให้ผมหลุดไปจากระยะสายตา เธอค่อนข้างสร้างความน่ารำคาญพอสมควร และด้วยความที่เธอไม่ยอมปล่อยผมหลุดไป เธอจึงมาโผล่เกือบทุกรูปที่ผมถ่าย ผมจึงเดินไปหาเธอว่ามีอะไรรึเปล่า เธอก็ยกมือขอความเมตตาแล้วขอผม 1 ดอลล่า ผมก็ยอมให้เธอไปแล้วเธอก็จากไปไม่มาโผล่หน้ากล้องผมอีก


ลำดับต่อไปก็ไปอีกวัด Samrong Knong ด้านหลังวัดมีอนุสรณ์เก็ยกระโหลกระลึกถึงเหตุการณ์เขมรแดง โดยเป็น Killing field อีกจุดของกัมพูชา คนขับรถเล่าว่าเค้าเสียพ่อ แม่ และป้า ไปจากเหตุการณ์นี้ และยังมี Torture house museum ด้วย แต่ตอนผมไปวันปิดอยู่ เลยไม่แน่ใจว่าเปิดวันไหนบ้าง


ปิดโซนด้านเหนือ แล้ววิ่งลงใต้ ผ่านตัวเมืองอีกครั้งแวะเช็คดินที่อนุสรณ์พญาตะบองขยุง สัญลักษณ์ของเมืองนี้เลย คนนิยมมาบูชาที่นี่ด้วย


จากนั้นก็วิ่งลงใต้ไปอีก 20 โลก็ถึงวัดบานอน ค่าเข้า 2 USD  วัดต้องขึ้นบันไดสไตล์ขอมที่แคบและชัน ขึ้นไปสูงพอสมควร ด้านบนมีอาคารวัดโบราณ 5 หลัง มีตรงกลาง และรอบๆ อีก 4 ทิศ  ส่วนด้านล่างจะเป็นบึงที่เป็นแหล่งพักผ่อนของชาวเมืองพระตะบอง
ที่นี่จะมีเด็กมาให้บริการโบกพัดคลายร้อนให้ แต่ก็ปฏิเสธได้ง่าย ไม่ตื้อให้รำคาญใจเลย





เป็นอันจบโปแกรมเที่ยวของวันนี้ ผมให้คนขับรถขับเข้าเมืองไปจอดที่พิพิธภัณฑ์เมืองพระตะบองแล้วชำระเงินและลากันตรงนั้น
แต่เจ้ากรรมพิพิธภัณฑ์ปิดวันนี้อะ T_T เลยเดินไปอีกนิดก็เจอวัดดำเรยซอ วัดของตระกูลอภัยภูเบศร์สมัยที่สยามยังครองเมืองพระตะบอง



จากนั้นก็เดินรับแดดกลับโรงแรมนอนตอน บ่าย 3 หาตั๋วซื้อรถกลับชายแดนจากโรงแรม ได้ตั๋วรอบ 8โมงครึ่ง ที่ราคา 7 USD (ที่มีรถกลับถึงกทม. เลยราคา 15 USD)

วันสุดท้าย
วันนี้ไม่อะไรครับ เดินทางกลับอย่างเดียว ไม่รู้สื่อสารกับแบบไหน พนักงานบอกว่าเป็นรถบัส แต่จริงๆ มันเป็นรถ Taxi (ซึ่งก็ดีนะ) วิ่งตรงถึงชายแดนเลย ได้ขึ้นตอน 9 โมง ถึงด้าน 11 โมงกว่าๆ แวะทานข้าวที่โรงเกลือแล้วก็ขึ้นรถตู้จากโรงเกลือกลับ กทม. เลย ค่ารถตู้ 250 บาท ออกตอน 12:30 ถึง กทม. 17:30 น เป็นอันจบทริป

ค่าใช้จ่ายทั้งหมดประมาณ 3700 บาท

ปล. ไม่เที่ยวแบบไม่ทันตั้งตัวเท่าไหร่ ข้อมูลอาจมีไม่มาก และอาจผิดเพี้ยนไปบ้าง ก็ขออภัยด้วยนะครับ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่