เพราะเป็นเด็ก(ในที่ทำงาน) จึงเจ็บปวดและโดนเอาเปรียบ

เป็นเรื่องราวของที่ทำงานค่ะ อยากรู้ว่าเหตุการณ์ที่ดิฉันเจอมันปกติมั้ยคะ

ที่ทำงานดิฉันที่บูทตามงานแสดงสินค้าและตามห้างสรรพสินค้าค่ะ คิดออกมั้ยคะว่ามันไม่เกิน 20 ตร.ม.หรอกค่ะ
ดิฉันทำงานมา 1 ปี แรกเริ่มเดิมทีมีความสุขค่ะ เด็กใหม่ก็ต้องค่อยๆเรียนรู้ แต่ตัวดิฉันมีข้อดีตรงที่ใฝ่รู้และสามารถหาข้อมูลเพื่อเอามาใช้ในงานที่ทำด้วยค่ะ แรกเริ่มที่ทำงานนั้นเป็นทีมใหญ่ มีหลายทีมอยู่ด้วยกัน ในหนึ่งเดือนจะได้เจอหน้าหลายๆคน เจอกันทีก็มีทั้งคนที่อยากเจอและไม่อยากเจอค่ะ

ทีนี้เกิดการเปลี่ยนแปลงบางอย่างขึ้น เป็นเหตุให้ดิฉันต้องย้ายทีมไปอยู่กับคนที่ดิฉันไม่อยากร่วมบูทด้วยเท่าไหร่ เพราะเค้าไม่มีความรู้อะไรเลย และชอบเล่าเรื่องส่วนตัวของตัวเองให้คนอื่นฟัง เล่าซ้ำๆ ดิฉันฟังทุกวันก็เบื่อค่ะ เกิดการงอแง เพราะไม่ได้วนทีมแล้ว ต้องเจอกันที่บูทเล็กๆทุกวัน ถึงไม่อยากฟังแต่หูก็ยังได้ยินค่ะ

เรื่องราวเกิดตรงนี้ค่ะ ดิฉันอายุ 25 เด็กสุดในทีม คนอื่นเลขสามกันหมด แล้วทุกคนรู้จักกันก่อนมาทำงาน ทำให้สนิทกัน และทุกคนไม่มี knowledge เลยค่ะ แม้แต่หัวหน้าทีม เวลาอยากรู้อะไรก็ตะมาถามดิฉันค่ะ (ตรงนี้ดิฉันไม่ชอบใจย่างแรงเพราะอายุงานดิฉันก็น้อยสุด ทำไมต้องมาถามดิฉัน พวกคุณทำงานกันมาไม่มีความรู้อะไรเลยหรอ)

ที่ไม่ชอบใจ เพราะงานดิฉันอาศัยค่าคอมอย่างเดียวค่ะ ความรู้ที่ดิฉันหามาก็เพื่อเพิ่มยอดขายให้ตัวเอง พอคนอื่นมาถามซึ่งเอาแต่ถาม ไม่ใช่
ลักษณะการแลกเปลี่ยน ดิฉันก็เสียเปรียบอย่างแรง เหมือนเป็นกูเกิ้ลให้ทีม แต่ไม่ได้รับส่วนแบ่งผลประโยชน์ใดๆ ซึ่งตอนที่ยังอยู่รวมเป็นทีมใหญ่นั้นดิฉันก็ได้รับส่วนแบ่งจากความรู้ที่ตัวเองสรรหามาบ้างค่ะ เรียกง่ายๆก็คือได้หารค่าคอมค่ะ แต่พอแยกทีมออกมากลับกลายเป็น ใครอยากรู้อะไรถามดิฉันค่ะ แล้วพอถึงคราวไปที่ไซท์งานจริงก็ไปกับหัวหน้าค่ะ ปิดการขายได้เค้าแบ่งค่าคอมกันสองคนค่ะ ตรงนี้ดิฉันไม่ได้แสดงความไม่พอใจอะไรในช่วงแรกเพราะถือว่าต้องร่วมงานกันในบูทเล็กๆอีกนานค่ะ

เป็นแบบนี้กินเวลาได้ราวสี่ห้าเดือน สุดท้ายดิฉันทนไม่ไหวค่ะ เลือกที่จะไม่คุยกับใครแม้กระทั่งหัวหน้า กลับกลายเป็นดิฉันอิจฉาที่คนอื่นขายได้มาก แต่ตัวดิฉันนั้นยอดขายน้อยนิด สิ่งที่ทำให้ทนไม่ได้แล้วคือมีพี่คนนึงค่ะที่เล่าไปช่วงต้นเรื่อง เค้าคุยกับลูกค้าทางไลน์ ข้อมูลเค้าสำหรับไซท์นั้นคือ 0 แต่ดิฉันเคยปิดการขายลูกค้าไซท์นั้รมาแล้ว เค้าพิมพ์ไปเค้าก็ถามดิฉันไปจนปิดการขายได้ แล้วก็เหมือนเดิมค่ะ ให้หัวหน้าพาไปไซท์ ขายเพิ่มได้อีก สรุปค่าคอมราว 200,000 แต่ดิฉันไม่ได้อะไรเลย (เดือนก่อนหน้านี้หัวหน้าดิฉันทำลูกค้าดิฉันหลุด ชวดค่าคอมไปราวแสนนึงค่ะ แล้วมีคราวที่บังเอิญเจอกันที่ไซท์ หัวหน้าเข้ามายุ่งจนลูกค้าดิฉันหลุดค่ะ ทั้งที่ไม่ได้เรียกขอความช่วยเหลือใดๆ ทำให้ดิฉันไม่อยากร่วมเคสกับหัวหน้าคนนี้ค่ะ และเวลาดิฉันมีคำถามหัวหน้าคนนี้จะตอบแบบปัดๆ แบบให้ดิฉันตอบลูกค้าเลี่ยงๆไปเรื่องอื่น ดิฉันเลยไม่ค่อยชอบแกเรื่องงานเท่าไหร่ค่ะ)

ดิฉันควรเรียกสิ่งนั้นว่าน้ำใจมั้ยคะ เดือนนี้ดิฉันยังไม่มียอดเลยสักบาทค่ะ ดิฉันหดหู่ ให้กำลังใจตัวเองไม่ไหวแล้ว ท่านร่างทรงที่รู้จักกันเค้าบอกให้ดิฉันอดทนค่ะ เค้าบอกปีหน้าจะมีการเปลี่ยนแปลงที่ดีเกิดขึ้น แต่ดิฉันไม่รู้จะอดทนได้นานเท่าไหร่ สิ่งที่ดึงดิฉันไว้คือเงินค่ะ ดิฉันมีภาระราวๆ สองหมื่นห้าต่อเดือน ที่ผ่านมาก็ใช้เงินมือเติบค่ะ เลยไม่มีเก็บเลย ต่อแต่นี้ตั้งใจว่าถ้าดิฉันต้องอดทนดิฉันจะเก็บเงินและลาออกค่ะ

ตอนนี้ดิฉันไม่มีกะจิตกะใจทำงานเลยค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่