คนไทยยังมีน้ำใจให้กันเสมอ

ผมเขียนกระทู้เพื่อเป็นการแชร์เรื่องราวดี ๆ ในสังคมไทยในช่วงเวลาเศร้าโศกอาลัยเช่นนี้ และอยากขอบคุณพี่ผู้ชายสองคนที่โดยสาร BTS ไปลงสถานีสยามเมื่อช่วงเกือบบ่ายโมงวันนี้ (19 ต.ค.) รวมถึงผู้โดยสารทุกคนที่ช่วยอำนวยความสะดวกครับ (ขออภัยหากแท็กผิดห้องนะครับ)

เหตุการณ์มีอยู่ว่าขณะผมกำลังยืนตรงมุมตู้ BTS เที่ยวนั้น จู่ ๆ ก็รู้สึกอึดอัด หน้ามืดจนมองอะไรแทบไม่เห็น แถมมีเหงื่อไหลเต็มหน้าเต็มตัว ตอนนั้นรู้เลยว่ากำลังจะเป็นลม (ครั้งแรกในชีวิต!) ทั้งที่เวลานั้นคนบนตู้ก็ไม่ได้แน่นมากขนาดปลากระป๋อง แต่ผมเองก็พยายามฝืนไม่ให้ล้มไปกองกับพื้น ดมยาดมแล้วก็ยังไม่ดีขึ้น และแล้วภาพก็ตัดไป...

จากนั้น (ไม่แน่ใจว่าตัวเองอยู่ในสภาพนั้นนานแค่ไหน) ก็รู้สึกตัวและเห็นภาพลาง ๆ ของพี่ผู้ชายสองคนตรงหน้า ทั้งคู่ช่วยจับแขนพยุงผมไว้ ได้ยินคนหนึ่งถามว่า "จะเป็นลมเหรอครับ ลงสถานหนีหน้าไหม" พอได้สติผมก็ตอบว่าลงสถานีสยาม แล้วพี่เขาก็บอกว่า "อีกสองสามสถานีก็ถึงแล้ว ทนหน่อยนะ"

สักพักพี่สองคนก็ช่วยกันพาผมไปขอที่นั่งคนในขบวนบอกว่าผมจะเป็นลม และพี่ผู้หญิงเจ้าของที่นั่งก็ลุกให้โดยดี พอได้นั่งปุ๊บ พี่เขาก็บอกให้ผมพยายามเงยหน้าไว้ ผมก็ทำตามเพราะไม่เคยเป็นลมมาก่อน พร้อมกับสูดยาดมไปตลอดทางจนกระทั่งภาพรอบ ๆ ที่เคยมัวเมื่อหลายนาทีก่อนเริ่มชัดขึ้น แต่ก็ยังรู้สึกหายใจไม่ทั่วท้องอยู่บ้าง

พอถึงสถานีสยามพี่สองคนเดิมก็ช่วยกันหิ้วปีกผมออกจากขบวน (ตอนนั้นอาการดีขึ้นนิดหนึ่งแล้ว แต่น่าจะยังเดินเองไม่ค่อยไหว) พี่เขาบอกผมว่าจะพาไปหารปภ.ประจำสถานีให้พาไปพักที่ห้องพยาบาล ก่อนพยุงผมลงบันไดเลื่อนโดยพี่คนหนึ่งบอกคนแถวนั้นว่า "ช่วยหลีกทางคนป่วยหน่อยครับ" และทุกคนที่ได้ยินก็เปิดทางให้หมดเลย (รู้สึกเหมือนเป็นรถพยาบาล) จนสุดท้ายก็ไปเจอพี่รปภ. และผมก็ได้ยกมือไหว้ขอบคุณพี่ทั้งสองคนก่อนแยกย้าย (ตอนนั้นถ้าไม่มึน ๆ อยู่คงถามชื่อพี่เขาไปแล้ว)

จากนั้นพี่รปภ.ก็ว.เรียกให้คนเอารถเข็นมาให้ก่อนพาผมไปนอนพักที่ห้องพยาบาล และมีแม่บ้านสองคนผลัดกันมาเฝ้าและหาน้ำให้ดื่ม พองีบได้สัก 15 นาทีจนรู้สึกดีขึ้นพอสมควร ผมก็เลยออกจากห้องไป แต่เสียดายตอนตื่นมาไม่เจอแม่บ้านเลยไม่ได้ขอบคุณ

ผมอยากถือโอกาสนี้ขอบคุณพี่ ๆ น้อง ๆ คนไทยทุกคน (โดยเฉพาะพี่ผู้ชายสองคน) ผ่านกระทู้นี้ (หวังว่าพี่ ๆ คงได้อ่าน) ที่ช่วยเหลือและเอื้อเฟื้อผมในวันนี้นะครับ อย่างน้อยก็ทำให้ผมได้รู้ว่าในวันที่เราลำบากท่ามกลางผู้คนมากมายที่ไม่รู้จักกันเลย สังคมเราก็ยังมีน้ำใจไมตรีต่อกันครับ

ปล. หลังจากนี้ผมคงต้องดูแลตัวเองให้มากกว่านี้แล้ว ไม่รู้เป็นอาการแบบนี้เกี่ยวกับ Office syndrome หรือความดันหรือเปล่า เพราะยังไม่เคยเป็นมาก่อน ร้องไห้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่