สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก เสด็จพระราชดำเนินเยือนประเทศไทย วันที่ 15 ตุลาคม 2559 เวลา 19:00 น.

ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า รัฐบาลและคสช. มีคำสั่งให้ทุกฝ่ายประสานภารกิจในโอกาสที่สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก พระมหากษัตริย์แห่งราชอาณาจักรภูฏาน จะเสด็จเดินทางเยือนประเทศไทย ในเวลา 19.00 น. วันที่ 15 ตุลาคมนี้ โดยให้ผู้ที่เกี่ยวข้องประสานการปฏิบัติงานให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ขณะเดียวกันคสช.และกระทรวงมหาดไทยจะติดตามสถานการณ์ในต่างจังหวัดและรายงานกลับมาให้ศูนย์บัญชาการฯรับทราบตามความเหมาะสม และหากประชาชนต้องการรับทราบข้อมูลสามารถสอบถามผ่านศูนย์ดำรงธรรมทั่วประเทศ ที่หมายเลขโทรศัพท์ 1567


โดยก่อนหน้านี้ (12 ตุลาคม) ที่หน้าเฟซบุ๊กของสมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก แห่งภูฏาน (His Majesty King Jigme Khesar Namgyel Wangchuck) ทรงเผยแพร่ข้อความระบุว่า สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก มีพระราชบัญชาให้มีการจัดการสวดมนต์ที่วัดต่างๆ ทั่วประเทศภูฏาน เพื่อถวายพระพรให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงหายจากพระอาการประชวร

ต่อมา (13 ตุลาคม) สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก แห่งภูฏาน ได้โพสต์พระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช พร้อมข้อความผ่านทางเฟซบุ๊ก “His Majesty King Jigme Khesar Namgyel Wangchuck” ความว่า


"หลังได้รับข่าวการเสด็จสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชแห่งประเทศไทย ซึ่งถือเป็นความทุกข์อันยิ่งใหญ่ที่ประชาชนต้องเจอ
โดยก่อนหน้านี้ กษัตริย์ภูฏาน ทรงรับสั่งให้พสกนิกรทั่วราชอาณาจักรภูฏาน รวมทั้งวัดทั่วประเทศ ร่วมสวดมนต์และตั้งจิตอธิษฐานถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เพื่อให้พระองค์ทรงมีพระพลานามัยที่แข็งแรง พร้อมกันนั้นยังทรงแสดงถึงความสัมพันธ์อันดีระหว่างราชวงศ์และประชาชนของทั้ง 2 ประเทศ


พร้อมทั้งแจ้งว่าในวันพรุ่งนี้ 14 ตุลาคม ในประเทศภูฏานจะมีการไว้ทุกข์ พร้อมทั้งลดธงครึ่งเสา เพื่อเป็นเกียรติ และระลึกถึงความทรงจำของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพล พร้อมทั้งสั่งหยุดงานและหยุดโรงเรียน เพื่อให้ประชาชนได้เดินทางไปวัด เพื่ออธิษฐาน โดยที่สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก แห่งภูฏานจะเป็นผู้นำในการสวดมนต์ ณ อนุสรณ์สถานแห่งชาติ Chorten ขณะที่พระบรมราชชนนีจะเป็นผู้นำสวดมนต์ที่ ทาชิโช ซอง พร้อมสั่งจุดเทียนยังสถานที่สำคัญต่าง ๆ ในประเทศเป็นระยะเวลา 7 วันหลังจากนี้


พร้อมทั้งกล่าวถึงความสัมพันธ์ระหว่างภูฏานและไทย ซึ่งเป็นไปอย่างอบอุ่นเรื่อยมา สะท้อนถึงความเป็นพันธมิตรที่แข็งแกร่งของสองประเทศ
อย่างไรก็ตาม ข่าวการเสด็จสวรรคตของประองค์ ทำให้ประชาชนชาวภูฎานโศกเศร้า พร้อมทั้งกล่าวคำแสดงความเสียใจต่อชาวไทย"



Cr : http://www.matichon.co.th/news/321979 , http://news.mthai.com/hot-news/world-news/525171.html และ http://www.posttoday.com/world/news/459947
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่