ประธานเทคนิคอย่าง โค้ชเฮง ก็ต้องเอาข้อผิดพลาดวันนี้ไป บังคับ ย้ำ!!!!!!!!!! ผมต้องใช้ว่า บังคับ ละ ต้องยอมเสียเสียงเวลาเลือกตั้ง โดยการบีบให้สโมสรในไทยลีกก่อนให้มีครูสอนเด็กในอคาเดมี่เป็นชาวต่างชาติจาก อคาเดมี่ดังๆ ที่ตัวสโมสรเองเป็นพันธมิตรอยู่ สโมสรต้องร้องขอต่อ พันธมิตร ขอโค้ชในสโมสรพันธมิตรมาสอนเด็กในอคาเดมี่ พร้อมทีมงานที่จำเป็น อาจมีการแทรกทีมงานคนไทย เพื่อการคุมเยาวชนไทยในอคาเดมี่ดีขึ้น เพราะ ทราบนิสัยนักบอลไทยดีกว่าคนต่างชาติ หลังจากนั้นก็บอกความต้องการแก่โค้ชต่างชาติในสโมสรทุกสโมสรในไทยลีกว่า ทีมชาติขาดอะไร ต้องการอะไร และแนวทางการเล่นแบบไหน เอาบทสรุปการเล่น รอบคัดเลือก ครั้งสุดท้าย ครั้งนี้มาวิเคราะห์ เพื่อพัฒนาคุณภาพนักฟุตบอลไทยให้ใกล้เคียงกับนักเตะชั้นนำทวีปมากขึ้น และโดนฝึกมาในแนวทางเดียวกับทีมชาติเล่นตั้งแต่เด็กๆเลย ที่ผมคิดว่า โค้ชต่างชาติคุมเด็กในสโมสรได้ เพราะ มันมีเจ้าของสโมสรเป็นแบ็กไว้ขู่นักเตะที่ชอบออกนอกกรอบ ผ่านทางเงินเบี้ยเลี้ยงซ้อม (ถ้ามี) และ การเลือกนักเตะเข้าชุดใหญ่สโมสรที่จะมีรายได้มหาศาลตามมา นิสัยคนไทยยังแคร์เงินในกระเป๋ามากกว่าสปริตความเป็นอาชีพอยู่ ก็ต้องใช้สิ่งเขาแคร์มาบีบไม่ให้ผู้ปกครองเด็กมาวุ่นวายในการฝึก และ การคัดเลือกนักเตะขึ้นไปแต่ละรุ่น จนกว่านักเตะรุ่นนี้เติบโตได้ความเป็นมืออาชีพเต็มร้อย
โดยมีบทลงโทษสำหรับสโมสรฟุตบอลไทยที่ไม่ยอมทำตาม ผมคิดบทลงโทษไว้ว่า ภายในปีการแข่งขันหน้า สโมสรในไทยลีกยังหาโค้ชต่างชาติฝึกในอคาเดมี่สโมสรไม่ได้ หรือเอามาแต่มีประวัติการฝึกไม่เป็นไปตามแบบเดียวกับทีมชาติ ตัด 10 แต้มไปเลยในการแข่งขันชุดใหญ่ในชุดใหญ่ของสโมสร ถ้าปีถัดไปยังไม่ตั้งอีก ตัดเพิ่มเป็น 20 แต้ม, 30 แต้ม, 40 แต้มไปเรื่อยๆ เพื่อตัดสโมสรฟุตบอลไทยพวกเป็นของเล่นไว้ให้หาเสียงของนักการเมืองทิ้งไปซะ ส่วนของยามาฮ่า ดิวิชั่น 1 ก็ให้เวลาเตรียมตัว 2 ปี, ไทยแชมเปี้ยนชิพ ให้เวลาเตรียมตัว 3 ปี เพื่อหาสโมสรพันธมิตร และนำโค้ชต่างชาติมาฝึกในสโมสร ภายในวงเงินที่น้อยกว่าทีมในไทยลีกจึงให้เวลาเยอะกว่า
หลังจากจบทัวนาเม้นต์ชุด U-19 ชิงแชมป์เอเซีย ควรเตรียมนักเตะที่จะมาแข่งในชุด U-16 และ ชุด U-19 ปีครั้งถัดไปเลย ให้สมยศสรรหาโค้ชที่เล่นบอลบนพื้น และควบคุมวินัยนักเตะใด้ดี โค้ชไทยที่ผมมองว่าเอานักเตะเยาวชนอยู่ มี น้าฉ่วย, โค้ชจุ่น, โค้ชแดงชุด U-16 ทีมหญิง และ ทีมงานซิโก้ ส่วนต่างชาติมาคุมเยาวชน ผมยังไม่สนับสนุนเป็นหัวหน้า แต่เป็นผู้ช่วยทางเทคนิคได้ เพราะ นักบอลรุ่นนี้ยังไม่ได้ปูเรื่องความเป็นระเบียบวินัยแบบนักบอลอาชีพ ฟังโค้ชทุกคนที่สอนมา ตั้งใจฟัง ตั้งใจฝึก อีโก้ยังเยอะ โดยให้เล่นสไตล์เดียวกับโค้ชชุดใหญ่ แล้วรอจนกว่า นักเตะ ที่ประธานเทคนิคปูทางไว้ให้ขึ้นมา ผมถึงยอมให้ใช้โค้ชชาวต่างชาติเป็นหัวหน้าโค้ชโดยตรง เพราะ นักเตะมีความเป็นมืออาชีพพอที่จะรับการสอนทุกโค้ช
ระหว่างที่เตรียมชุด U-16 ถึง ชุด U-19 หลังจากคัดเลือกนักเตะเสร็จ ระหว่างคัดเลือกอาจมีอุ่นเครื่องกับสโมสรฟุตบอลไทย ไม่เป็นไร กำหนดระยะเวลาการคัดเลือก 1 เดือน จากเรียกมาฝึกซ้อมทุกเดือน นัดกับสโมสรมาซ้อมทีมชาติชุดเยาวชน ซึ่งแต่ละเดือนถ้าตรง ฟีฟ่า เดย์ ก็ใช้ช่วงฟีฟ่า เดย์ ถ้าไม่ตรงนัดกับสโมสรในลีกขอเก็บตัววันนี้ ถึง วันนั้น ว่ากันไป ให้เวลาเตรียมทีมชาติ เตรียมแทคติก 3 เดือน นัดอุ่นสโมสรในไทยเพื่อลองแทคติกได้
หลังจากนั้น ก็นัดทีมชาติในเอเซีย เอาระดับชั้นนำ ย้ำ!!!!!!!!!!!!!!! ตรงนี้สำคัญที่คนในสมาคมผ่านมาละเลยตลอด ไม่เคยมีการอุ่นเครื่องทีมชาติชั้นนำเลยในชุดเยาวชน ในขณะที่ชาวบ้านอุ่นกันโครมๆ เพิ่งจะมีชุด U-21 นี้ละ ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ทั้งในบ้านและนอกบ้าน เพื่อนักเตะไทยตั้งแต่เยาวชนเลยคุ้นชินกับการเล่น ตั้งรับการเข้าทำ ฝ่าเกมส์รับของทีมชาติชั้นนำไปจบประตู โดยไม่มีคะแนนฟีฟ่าให้มาปวดหัวในการทำคะแนนในการจัดโถการเล่นรอบถัดไป ตรงนี้นัดกันมาทุกเดือนเลย ฝึกให้เต็มที่ ก่อนเดือนกันยายนจะเข้าสู่การคัดเลือกชุดเยาวชนในแต่ละชุด หาทีมชั้นนำมาอุ่นอย่างต่ำเดือนละ 2 เกมส์ เก็บตัว 2 สัปดาห์เพื่อติวแทคติกกับเด็ก
จนเข้า 2 เดือนสุดท้ายก่อนแข้าแข่งรอบคัดเลือกชุดเยาวชน ซึ่งทราบว่า ทีมเยาวชนไทยจะเจอทีมชาติอะไรในรอบคัดเลือก คราวนี้ละถึงภาวะจำลองการแข่งขัน เชิญทีมชาติที่สไตล์การเล่นใกล้เคียงกับ ทีมชาติไทย ต้องเจอในรอบคัดเลือก จำนวน 2 เกมส์ เก็บตัว 2 สัปดาห์เหมือนเดิม ถ้าสมาคมทำได้ตามที่ผมบอก บอลเยาวชนไทยไปบอลโลกไม่ได้สักชุดนี้ ผมยอมให้กระทืบผมได้ เพราะ สมาคมฟุตบอลที่ผ่าน รวมทั้งชุดนี้ที่คุมชุด U-16 และชุด U-19 ยังไม่มีสมาคมไหนเตรียมตัวแบบนี้เลย และมันจะเป็นผลดีในอนาคตที่นักฟุตบอลไทยมีความเป็นมืออาชีพมากขึ้น ไม่ตื่น ไม่กลัว รู้จักวิธีการรับมือทีมชาติชั้นนำทวีป เพราะผ่านการอุ่นเครื่องในตอนเป็นเยาวชนมาอย่างโชกโชน
แผนการพัฒนาทีมชาติที่ผมอยากเห็นทั้งระยะสั้น และ ระยะยาว
โดยมีบทลงโทษสำหรับสโมสรฟุตบอลไทยที่ไม่ยอมทำตาม ผมคิดบทลงโทษไว้ว่า ภายในปีการแข่งขันหน้า สโมสรในไทยลีกยังหาโค้ชต่างชาติฝึกในอคาเดมี่สโมสรไม่ได้ หรือเอามาแต่มีประวัติการฝึกไม่เป็นไปตามแบบเดียวกับทีมชาติ ตัด 10 แต้มไปเลยในการแข่งขันชุดใหญ่ในชุดใหญ่ของสโมสร ถ้าปีถัดไปยังไม่ตั้งอีก ตัดเพิ่มเป็น 20 แต้ม, 30 แต้ม, 40 แต้มไปเรื่อยๆ เพื่อตัดสโมสรฟุตบอลไทยพวกเป็นของเล่นไว้ให้หาเสียงของนักการเมืองทิ้งไปซะ ส่วนของยามาฮ่า ดิวิชั่น 1 ก็ให้เวลาเตรียมตัว 2 ปี, ไทยแชมเปี้ยนชิพ ให้เวลาเตรียมตัว 3 ปี เพื่อหาสโมสรพันธมิตร และนำโค้ชต่างชาติมาฝึกในสโมสร ภายในวงเงินที่น้อยกว่าทีมในไทยลีกจึงให้เวลาเยอะกว่า
หลังจากจบทัวนาเม้นต์ชุด U-19 ชิงแชมป์เอเซีย ควรเตรียมนักเตะที่จะมาแข่งในชุด U-16 และ ชุด U-19 ปีครั้งถัดไปเลย ให้สมยศสรรหาโค้ชที่เล่นบอลบนพื้น และควบคุมวินัยนักเตะใด้ดี โค้ชไทยที่ผมมองว่าเอานักเตะเยาวชนอยู่ มี น้าฉ่วย, โค้ชจุ่น, โค้ชแดงชุด U-16 ทีมหญิง และ ทีมงานซิโก้ ส่วนต่างชาติมาคุมเยาวชน ผมยังไม่สนับสนุนเป็นหัวหน้า แต่เป็นผู้ช่วยทางเทคนิคได้ เพราะ นักบอลรุ่นนี้ยังไม่ได้ปูเรื่องความเป็นระเบียบวินัยแบบนักบอลอาชีพ ฟังโค้ชทุกคนที่สอนมา ตั้งใจฟัง ตั้งใจฝึก อีโก้ยังเยอะ โดยให้เล่นสไตล์เดียวกับโค้ชชุดใหญ่ แล้วรอจนกว่า นักเตะ ที่ประธานเทคนิคปูทางไว้ให้ขึ้นมา ผมถึงยอมให้ใช้โค้ชชาวต่างชาติเป็นหัวหน้าโค้ชโดยตรง เพราะ นักเตะมีความเป็นมืออาชีพพอที่จะรับการสอนทุกโค้ช
ระหว่างที่เตรียมชุด U-16 ถึง ชุด U-19 หลังจากคัดเลือกนักเตะเสร็จ ระหว่างคัดเลือกอาจมีอุ่นเครื่องกับสโมสรฟุตบอลไทย ไม่เป็นไร กำหนดระยะเวลาการคัดเลือก 1 เดือน จากเรียกมาฝึกซ้อมทุกเดือน นัดกับสโมสรมาซ้อมทีมชาติชุดเยาวชน ซึ่งแต่ละเดือนถ้าตรง ฟีฟ่า เดย์ ก็ใช้ช่วงฟีฟ่า เดย์ ถ้าไม่ตรงนัดกับสโมสรในลีกขอเก็บตัววันนี้ ถึง วันนั้น ว่ากันไป ให้เวลาเตรียมทีมชาติ เตรียมแทคติก 3 เดือน นัดอุ่นสโมสรในไทยเพื่อลองแทคติกได้
หลังจากนั้น ก็นัดทีมชาติในเอเซีย เอาระดับชั้นนำ ย้ำ!!!!!!!!!!!!!!! ตรงนี้สำคัญที่คนในสมาคมผ่านมาละเลยตลอด ไม่เคยมีการอุ่นเครื่องทีมชาติชั้นนำเลยในชุดเยาวชน ในขณะที่ชาวบ้านอุ่นกันโครมๆ เพิ่งจะมีชุด U-21 นี้ละ ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ทั้งในบ้านและนอกบ้าน เพื่อนักเตะไทยตั้งแต่เยาวชนเลยคุ้นชินกับการเล่น ตั้งรับการเข้าทำ ฝ่าเกมส์รับของทีมชาติชั้นนำไปจบประตู โดยไม่มีคะแนนฟีฟ่าให้มาปวดหัวในการทำคะแนนในการจัดโถการเล่นรอบถัดไป ตรงนี้นัดกันมาทุกเดือนเลย ฝึกให้เต็มที่ ก่อนเดือนกันยายนจะเข้าสู่การคัดเลือกชุดเยาวชนในแต่ละชุด หาทีมชั้นนำมาอุ่นอย่างต่ำเดือนละ 2 เกมส์ เก็บตัว 2 สัปดาห์เพื่อติวแทคติกกับเด็ก
จนเข้า 2 เดือนสุดท้ายก่อนแข้าแข่งรอบคัดเลือกชุดเยาวชน ซึ่งทราบว่า ทีมเยาวชนไทยจะเจอทีมชาติอะไรในรอบคัดเลือก คราวนี้ละถึงภาวะจำลองการแข่งขัน เชิญทีมชาติที่สไตล์การเล่นใกล้เคียงกับ ทีมชาติไทย ต้องเจอในรอบคัดเลือก จำนวน 2 เกมส์ เก็บตัว 2 สัปดาห์เหมือนเดิม ถ้าสมาคมทำได้ตามที่ผมบอก บอลเยาวชนไทยไปบอลโลกไม่ได้สักชุดนี้ ผมยอมให้กระทืบผมได้ เพราะ สมาคมฟุตบอลที่ผ่าน รวมทั้งชุดนี้ที่คุมชุด U-16 และชุด U-19 ยังไม่มีสมาคมไหนเตรียมตัวแบบนี้เลย และมันจะเป็นผลดีในอนาคตที่นักฟุตบอลไทยมีความเป็นมืออาชีพมากขึ้น ไม่ตื่น ไม่กลัว รู้จักวิธีการรับมือทีมชาติชั้นนำทวีป เพราะผ่านการอุ่นเครื่องในตอนเป็นเยาวชนมาอย่างโชกโชน