คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 25
หากพูดถึงนักฟุตบอลเยาวขนที่สังกัดตามสโมสรใหญ่ๆ หรือโรงเรียนดังๆ มีชื่อเสียงแถวหน้าแล้ว
มีกี่คนที่ผ่านการคัดเลือกเข้าสู่อคาเดมี่ชั้นนำเหล่านั้นแบบครั้งเดียวติด ผ่านสะดวกโดยไม่มีอุปสรรคใดใดกั้นขวาง
ไม่มีการคัดซ้ำ ตั้งเป้าหมายอย่างไรคัดติดได้ดังใจหวัง ตลอดจนผ่านการคัดเลือกเข้าสู่ทีมชาติในรุ่นต่างๆ
ได้เช่นเดียวกัน โดยไม่มีการใช้เส้นสายความสัมพันธ์ หรือทุ่มเทจ่ายเงินทองเพื่อเข้าสู่ทำเนียบเกียรติยศแต่อย่างใด
แน่นอนว่าเป็นสิ่งที่ยากยิ่งแทบจะไม่มีนักเตะเยาวชนคนไหนทำได้ อาจมีสะดุด หลุดจากจากสโมสรนี้ หลุดจากโรงเรียนนั้นบ้าง
มาได้สโมสรนี้ อยู่ที่นี่คัดทีมชาติยู12 ติด แต่มาหลุดยู13 ได้ติดทีมชาติยู14 รายการนี้
แต่มาหลุดอีกรายการในรุ่นเดียวกัน
ในระดับนักฟุตบอลเยาวชนหัวกะทิมักจะประสบเส้นทางแบบนี้คล้ายๆ กัน
แต่...มีนักฟุตบอลเยาวชนในรุ่น 2547 อายุไม่เกิน 14 ปีอยู่ 3 คน ที่สามารถทำได้ โดยผ่านการคัดเลือกเป็นช้างเผือกของโรงเรียนอัสสัมชัญธนบุรี
ในโครงการช้างซ็อคเกอร์สคูล 2014 ชนิดที่ผ่านแบบไม่มีคู่แข่ง ไม่ต้องลุ้นมากมาย อยู่ในโผตั้งแต่วันแรกจนถึงวันสุดท้าย
ได้เป็นกำลังหลักพาทีมเจ้าสัวน้อยคว้าแชมป์ทุกรายการที่ส่งแข่งในรุ่น 2547 ตลอด 3-4 ปีที่ผ่านมา
และในนามทีมชาติ เวทีเกียรติยศที่นักฟุตบอลทุกคนใฝ่ฝันปรารถนาจะได้ขึ้นไปยืนในตำแหน่งสูงสุด
นักฟุตบอลร่างเล็กทั้ง 3 นี้ก็ไม่ทำให้ผปค.และญาติพี่น้องตลอดจนกองเชียร์ต้องผิดหวังเมื่อสามารถแสดงศักยภาพของตัวเองออกมาจนเข้าตาโค้ชทีมชาติในทุกรุ่นอายุที่ทำการเปิดคัด
เริ่มจาก เยาวชนทีมชาติรุ่นอายุ 11 ปี รายการโตโยต้าอินเตอร์เนชั่นแนล จูเนียร์คัพ 2015 แข่งขันที่ประเทศญี่ปุ่น
เยาวชนทีมชาติรุ่นอายุ 12 ปี รายการโตโยต้า อินเตอร์เนชั่นแนล จูเนียร์คัพ 2016 แข่งขันที่ประเทศญี่ปุ่น ได้แชมป์
เยาวชนทีมชาติรุ่นอายุ 13 ปี รายการ แอสไพร์ ไทน์ ซีรีส์ 2017 แข่งขันที่ประเทศกาตาร์ ได้แชมป์
เยาวชนทีมชาติรุ่นอายุ 14 ปี รายการ U14 ACADEMY FOOTBALL FESTIVAL 2018 แข่งขันที่ประเทศเมียนมาร์ ได้แชมป์
เยาวชนทีมชาติรุ่นอายุ 14 ปี รายการ อู่ฮั่นคัพ 2018 แข่งขันที่ประเทศจีน (กำลังทำการแข่งขัน)
นักฟุตบอลเยาวชนทั้ง 3 ที่ว่านี้คือ
1.น้องซีโฟร์ คคนะ คำยก กองกลางเพลย์เมกเกอร์เบอร์ 1 ของเจ้าสัวน้อย รุ่น 2547
ด้วยทักษะที่ยอดเยี่ยม พรสวรรค์และความสามารถเฉพาะตัวที่เป็นเลิศถึงแม้จะมีรูปร่างที่เล็ก แต่ไม่ใช่ปัญหาของซีโฟร์
การครอบครองบอลที่เหนียวแน่นจ่ายบอลให้เพื่อนในตำแหน่งที่ได้เปรียบบวกกับมันสมองที่ชาญฉลาด ช่วยให้ทีมอัสสัมชัญธนบุรีกวาดมาแล้วทุกแชมป์
ส่งผลให้เจ้าตัวติดทีมชาติทุกชุด ตั้งแต่ 10 ปี 11 ปี 12ปี 13ปี และปัจจุบันเยาวชนทีมชาติยู 14ปี โดยไม่มีหลุดหรือตกสำรวจเลยแม้แต่ครั้งเดียว
2. น้องเก้า อรรถพล แสงทอง แบ็คขวาจอมบุก รุ่น 2547 อัสสัมชัญธนบุรี
นอกจากความแข็งแกร่งดุดัน กัดไม่ปล่อยในเกมรับแล้ว น้องเก้ายังมีจุดเด่นที่การขึ้นเติมเกมรุกได้อย่างต่อเนื่อง และหลายๆครั้งยังยิงประตูสร้างเครดิตให้กับตัวเอง
จนโค้ชทีมชาติทุกรุ่นที่ผ่านมาไม่อาจปฏิเสธความยอดเยี่ยมของแบ็คจอมบุกรายนี้ได้ ความผิดหวังในการแข่งคัดตัวเพื่อแย่งตำแหน่งแบ็คขวาเบอร์ 1 ของรุ่น 2547
จึงไม่เกิดขึ้นกับนักเตะร่างเล็กรายนี้..เลี้ยวซ้ายผ่านตลอด
3. น้องแน็ค ภาคภูมิ ขุนคงมี แบ็คซ้ายเท้าหนัก รุ่น 2547 อัสสัมชัญธนบุรี
รูปร่างเล็ก แต่บึกบึนแข็งแกร่งเท้าซ้ายหนักหน่วงทรงพลัง ทั้งยังแม่นยำในการเปิดบอลเข้าพื้นที่อันตราย ซึงเป็นคุณสมบัติของผู้เล่นในตำแหน่งแบ็ค
น้องแน็ค มีครบทั้งสกิลทักษะพื้นฐานสำคัญรวมถึงความเข้าใจในระบบการเล่น ไม่ว่าโค้ชคนไหนก็ไม่อาจปฏิเสธแบ็คซ้ายจากเมืองเหนือคนนี้ได้
สนามคัดตัวไม่ว่าจะเป็นสถาบันหรือทีมชาติ ทุกๆครั้งไม่มีคำว่าสะดุดสำหรับขุนแข้งจากเชียงใหม่ ภาคภูมิ ขุนคงมี
เส้นทางที่ราบเรียบไร้อุปสรรคแบบนี้ดูเหมือนง่ายสำหรับนักเตะทั้ง 3 ราย แต่ในบริบทของความสำเร็จย่อมประกอบด้วยความมุมานะ ตั้งใจ มุ่งมั่น จิตใจที่แกร่งกล้า ไม่ย่อท้อต่อการฝึกซ้อม
ความเคร่งครัดในระเบียบวินัย ความใส่ใจของผปค.ย่อมมีส่วนสำคัญส่งผลให้ 3 แข้งอัสสัมชัญธนบุรีก้าวสู่เป้าหมายที่ต้องการได้
ถึงแม้ในอนาคตข้างหน้าไม่มีใครตอบได้ว่าสุดท้ายแล้วจะไปได้ไกลขนาดไหน แต่ในปัจจุบันและอดีตที่ผ่านมาย่อมเป็นที่ประจักษ์แล้วว่า นี่คือของจริง
ขอให้น้องๆทั้ง 3 คนรักษาฟอร์มการเล่นและมาตรฐานของตัวเองพร้อมทั้งพัฒนาขึ้นทุกๆวันเพื่ออนาคตอันสดใสที่รออยู่
เชื่อมั่นว่าทั้ง 3 คนนี้เรื่องความประพฤติ การออกนอกลู่นอกทางคงไม่มีแน่ ที่น่าเป็นห่วงคือการบาดเจ็บที่ไม่สามารถคาดเดาได้ว่าจะเกิดหรือไม่เกิด
ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่สำหรับนักฟุตบอลทุกคน มันเดินเคียงข้างไปด้วยกันอยู่ทุกชั่วขณะ หวังว่าด้วยความชาญฉลาดและการรู้จักเอาตัวรอดไม่เล่นสุ่มเสี่ยงกับสถานการณ์ในเกมที่อาจเกิดการบาดเจ็บหนักได้
จะช่วยให้น้องทั้ง 3 รอดพ้น เป็นกำลังสำคัญของทีมชาติชุดใหญ่ในอนาคต สู่เป้าหมายฟุตบอลโลก 2026-2030 ต่อไป
ขอให้น้องซีโฟร์ น้องเก้า น้องแน็คโชคดีและประสบความสำเร็จ.. พระคุ้มครองทุกๆคนครับ
เครดิต ศรชัย ศรีนภา
หากพูดถึงนักฟุตบอลเยาวขนที่สังกัดตามสโมสรใหญ่ๆ หรือโรงเรียนดังๆ มีชื่อเสียงแถวหน้าแล้ว
มีกี่คนที่ผ่านการคัดเลือกเข้าสู่อคาเดมี่ชั้นนำเหล่านั้นแบบครั้งเดียวติด ผ่านสะดวกโดยไม่มีอุปสรรคใดใดกั้นขวาง
ไม่มีการคัดซ้ำ ตั้งเป้าหมายอย่างไรคัดติดได้ดังใจหวัง ตลอดจนผ่านการคัดเลือกเข้าสู่ทีมชาติในรุ่นต่างๆ
ได้เช่นเดียวกัน โดยไม่มีการใช้เส้นสายความสัมพันธ์ หรือทุ่มเทจ่ายเงินทองเพื่อเข้าสู่ทำเนียบเกียรติยศแต่อย่างใด
แน่นอนว่าเป็นสิ่งที่ยากยิ่งแทบจะไม่มีนักเตะเยาวชนคนไหนทำได้ อาจมีสะดุด หลุดจากจากสโมสรนี้ หลุดจากโรงเรียนนั้นบ้าง
มาได้สโมสรนี้ อยู่ที่นี่คัดทีมชาติยู12 ติด แต่มาหลุดยู13 ได้ติดทีมชาติยู14 รายการนี้
แต่มาหลุดอีกรายการในรุ่นเดียวกัน
ในระดับนักฟุตบอลเยาวชนหัวกะทิมักจะประสบเส้นทางแบบนี้คล้ายๆ กัน
แต่...มีนักฟุตบอลเยาวชนในรุ่น 2547 อายุไม่เกิน 14 ปีอยู่ 3 คน ที่สามารถทำได้ โดยผ่านการคัดเลือกเป็นช้างเผือกของโรงเรียนอัสสัมชัญธนบุรี
ในโครงการช้างซ็อคเกอร์สคูล 2014 ชนิดที่ผ่านแบบไม่มีคู่แข่ง ไม่ต้องลุ้นมากมาย อยู่ในโผตั้งแต่วันแรกจนถึงวันสุดท้าย
ได้เป็นกำลังหลักพาทีมเจ้าสัวน้อยคว้าแชมป์ทุกรายการที่ส่งแข่งในรุ่น 2547 ตลอด 3-4 ปีที่ผ่านมา
และในนามทีมชาติ เวทีเกียรติยศที่นักฟุตบอลทุกคนใฝ่ฝันปรารถนาจะได้ขึ้นไปยืนในตำแหน่งสูงสุด
นักฟุตบอลร่างเล็กทั้ง 3 นี้ก็ไม่ทำให้ผปค.และญาติพี่น้องตลอดจนกองเชียร์ต้องผิดหวังเมื่อสามารถแสดงศักยภาพของตัวเองออกมาจนเข้าตาโค้ชทีมชาติในทุกรุ่นอายุที่ทำการเปิดคัด
เริ่มจาก เยาวชนทีมชาติรุ่นอายุ 11 ปี รายการโตโยต้าอินเตอร์เนชั่นแนล จูเนียร์คัพ 2015 แข่งขันที่ประเทศญี่ปุ่น
เยาวชนทีมชาติรุ่นอายุ 12 ปี รายการโตโยต้า อินเตอร์เนชั่นแนล จูเนียร์คัพ 2016 แข่งขันที่ประเทศญี่ปุ่น ได้แชมป์
เยาวชนทีมชาติรุ่นอายุ 13 ปี รายการ แอสไพร์ ไทน์ ซีรีส์ 2017 แข่งขันที่ประเทศกาตาร์ ได้แชมป์
เยาวชนทีมชาติรุ่นอายุ 14 ปี รายการ U14 ACADEMY FOOTBALL FESTIVAL 2018 แข่งขันที่ประเทศเมียนมาร์ ได้แชมป์
เยาวชนทีมชาติรุ่นอายุ 14 ปี รายการ อู่ฮั่นคัพ 2018 แข่งขันที่ประเทศจีน (กำลังทำการแข่งขัน)
นักฟุตบอลเยาวชนทั้ง 3 ที่ว่านี้คือ
1.น้องซีโฟร์ คคนะ คำยก กองกลางเพลย์เมกเกอร์เบอร์ 1 ของเจ้าสัวน้อย รุ่น 2547
ด้วยทักษะที่ยอดเยี่ยม พรสวรรค์และความสามารถเฉพาะตัวที่เป็นเลิศถึงแม้จะมีรูปร่างที่เล็ก แต่ไม่ใช่ปัญหาของซีโฟร์
การครอบครองบอลที่เหนียวแน่นจ่ายบอลให้เพื่อนในตำแหน่งที่ได้เปรียบบวกกับมันสมองที่ชาญฉลาด ช่วยให้ทีมอัสสัมชัญธนบุรีกวาดมาแล้วทุกแชมป์
ส่งผลให้เจ้าตัวติดทีมชาติทุกชุด ตั้งแต่ 10 ปี 11 ปี 12ปี 13ปี และปัจจุบันเยาวชนทีมชาติยู 14ปี โดยไม่มีหลุดหรือตกสำรวจเลยแม้แต่ครั้งเดียว
2. น้องเก้า อรรถพล แสงทอง แบ็คขวาจอมบุก รุ่น 2547 อัสสัมชัญธนบุรี
นอกจากความแข็งแกร่งดุดัน กัดไม่ปล่อยในเกมรับแล้ว น้องเก้ายังมีจุดเด่นที่การขึ้นเติมเกมรุกได้อย่างต่อเนื่อง และหลายๆครั้งยังยิงประตูสร้างเครดิตให้กับตัวเอง
จนโค้ชทีมชาติทุกรุ่นที่ผ่านมาไม่อาจปฏิเสธความยอดเยี่ยมของแบ็คจอมบุกรายนี้ได้ ความผิดหวังในการแข่งคัดตัวเพื่อแย่งตำแหน่งแบ็คขวาเบอร์ 1 ของรุ่น 2547
จึงไม่เกิดขึ้นกับนักเตะร่างเล็กรายนี้..เลี้ยวซ้ายผ่านตลอด
3. น้องแน็ค ภาคภูมิ ขุนคงมี แบ็คซ้ายเท้าหนัก รุ่น 2547 อัสสัมชัญธนบุรี
รูปร่างเล็ก แต่บึกบึนแข็งแกร่งเท้าซ้ายหนักหน่วงทรงพลัง ทั้งยังแม่นยำในการเปิดบอลเข้าพื้นที่อันตราย ซึงเป็นคุณสมบัติของผู้เล่นในตำแหน่งแบ็ค
น้องแน็ค มีครบทั้งสกิลทักษะพื้นฐานสำคัญรวมถึงความเข้าใจในระบบการเล่น ไม่ว่าโค้ชคนไหนก็ไม่อาจปฏิเสธแบ็คซ้ายจากเมืองเหนือคนนี้ได้
สนามคัดตัวไม่ว่าจะเป็นสถาบันหรือทีมชาติ ทุกๆครั้งไม่มีคำว่าสะดุดสำหรับขุนแข้งจากเชียงใหม่ ภาคภูมิ ขุนคงมี
เส้นทางที่ราบเรียบไร้อุปสรรคแบบนี้ดูเหมือนง่ายสำหรับนักเตะทั้ง 3 ราย แต่ในบริบทของความสำเร็จย่อมประกอบด้วยความมุมานะ ตั้งใจ มุ่งมั่น จิตใจที่แกร่งกล้า ไม่ย่อท้อต่อการฝึกซ้อม
ความเคร่งครัดในระเบียบวินัย ความใส่ใจของผปค.ย่อมมีส่วนสำคัญส่งผลให้ 3 แข้งอัสสัมชัญธนบุรีก้าวสู่เป้าหมายที่ต้องการได้
ถึงแม้ในอนาคตข้างหน้าไม่มีใครตอบได้ว่าสุดท้ายแล้วจะไปได้ไกลขนาดไหน แต่ในปัจจุบันและอดีตที่ผ่านมาย่อมเป็นที่ประจักษ์แล้วว่า นี่คือของจริง
ขอให้น้องๆทั้ง 3 คนรักษาฟอร์มการเล่นและมาตรฐานของตัวเองพร้อมทั้งพัฒนาขึ้นทุกๆวันเพื่ออนาคตอันสดใสที่รออยู่
เชื่อมั่นว่าทั้ง 3 คนนี้เรื่องความประพฤติ การออกนอกลู่นอกทางคงไม่มีแน่ ที่น่าเป็นห่วงคือการบาดเจ็บที่ไม่สามารถคาดเดาได้ว่าจะเกิดหรือไม่เกิด
ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่สำหรับนักฟุตบอลทุกคน มันเดินเคียงข้างไปด้วยกันอยู่ทุกชั่วขณะ หวังว่าด้วยความชาญฉลาดและการรู้จักเอาตัวรอดไม่เล่นสุ่มเสี่ยงกับสถานการณ์ในเกมที่อาจเกิดการบาดเจ็บหนักได้
จะช่วยให้น้องทั้ง 3 รอดพ้น เป็นกำลังสำคัญของทีมชาติชุดใหญ่ในอนาคต สู่เป้าหมายฟุตบอลโลก 2026-2030 ต่อไป
ขอให้น้องซีโฟร์ น้องเก้า น้องแน็คโชคดีและประสบความสำเร็จ.. พระคุ้มครองทุกๆคนครับ
เครดิต ศรชัย ศรีนภา
แสดงความคิดเห็น
[ เกาะติดแคมป์ 'ช้างศึก U14 ' ] 'ดร.อ๊อด' เร่งส่งช้างศึกแชมป์อู่ฮั่นลัดฟ้าฝึกที่สเปนต่อเนื่อง ตามรอย U16
นายกสมาคมฯ วางแผนส่ง “ช้างศึก U14” เรียนรู้ทักษะฟุตบอลที่สเปน
วันที่ 12 กันยายน 2561 เวลา 11.00 น. ณ ห้องประชุม Come Together ที่ทำการสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ พล.ต.อ.ดร.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมฯ เป็นประธานในการประชุมสรุปและประเมินผลจากการที่สมาคมฯส่งนักฟุตบอลทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 16 ปี เข้าเก็บตัวที่ประเทศสเปน ร่วมกับ ดร. ฮูโก้ บลังโก้ ผู้จัดการโครงการด้านกีฬาลาลีกา,มร.โฆเซ่ มาเรีย โกตอร์ ตัวแทนจากลาลีลา และเจ้าหน้าที่สมาคมฯ
โดย ทัพช้างศึก รุ่นอายุไม่เกิน 16 ปี ภายใต้การนำของ “โค้ชดาท” ธงชัย รุ่งเรืองเลิศ หัวหน้าผู้ฝึกสอน เดินทางไปเก็บตัวที่ประเทศสเปน ระหว่างวันที่ 18 สิงหาคม - 2 กันยายน 2561 ที่ผ่านมา ซึ่งตลอดการเก็บตัวฝึกซ้อมได้รับคำแนะนำแทคติกต่างๆ จาก มร.บอร์ฆา เลมา และ มร.ซาอูล บาสเกซ สองผู้ฝึกสอนจากลาลีกา และมีเกมอุ่นเครื่องทั้งหมด 4 นัด ซึ่งช้างศึก U16 สามารถเอาชนะได้ทั้งหมด 3 นัด และเสมอ 1 นัด ประกอบด้วย
นัดแรก ชนะ เยาวชนสโมสรแอตเลติโก มาดริด 7-0 นัดที่สอง ชนะ เยาวชนสโมสรราโย บาเยกาโน 2-1 นัดที่สาม เสมอ เยาวชนสโมสร เลบานเต้ 0-0 และนัดสุดท้าย ชนะ เยาวชนสโมสร บาเลนเซีย 2-0 ซึ่งถือเป็นการเตรียมความพร้อมของทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 16 ปี ที่จะมีโปรแกรมเข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย ที่ประเทศมาเลเซีย ในวันที่ 20 กันยายนนี้
พล.ต.อ.ดร.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมฯ เปิดเผย ภายหลังการประชุมว่า “ในที่ประชุมได้มีการสรุปและประเมินถึงประโยชน์ที่ได้ของการไปเก็บตัวในครั้งนี้ ก็เป็นการประเมินทั้งข้อดี หรือ จุดที่ต้องปรับปรุง ให้เด็กๆ และโค้ชผู้ฝึกสอนที่เดินทางไปนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์มากที่สุด โดยเฉพาะเรื่องการฝึกซ้อม แทคติกต่างๆ สิ่งสำคัญคือเรื่องระเบียบวินัย การกินอยู่หลับนอน ที่นักกีฬาจะต้องเน้นเป็นพิเศษเกี่ยวกับเรื่องโภชนาการ ขณะเดียวกัน ยังได้มอบนโยบายให้กับเจ้าหน้าที่ของสมาคมฯ ประสานงานเพื่อวางแผนร่วมกับลาลีกา ในการที่จะส่งนักกีฬาฟุตบอลทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 14 ปี เดินทางไปเก็บตัวที่ประเทศสเปน เพื่อเพิ่มประสบการณ์ และเรียนรู้แทคติกใหม่ๆ เช่นเดียวกัน
สำหรับรายชื่อทีมฟุตบอล รุ่นอายุไม่เกิน 16 ปี เก็บตัวฝึกที่ประเทศสเปน มีดังนี้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
#ช้างศึก #บอลไทย #ฟุตบอลไทย #เชียร์ไทยใช้ใจล้วนๆ #ThailandU14 #U14 #U16 #ThailandU16
https://www.youtube.com/watch?v=2Ohtt1JR6ww&feature=youtu.be
[ OPV Fanmade : 'ช้างศึก U14' EP. 1 ] --- ร่วมชื่นชมแชมป์อู่ฮั่น คัพ 2018 ---