สวัสดีค่ะ เราจะไม่ขอเกริ่นอะไรมาก ขอเข้าเรืองเลยก็แล้วกันนะคะ
เรามีหลานอยู่คนนึง เป็นผู้ชาย อายุสิบ-สิบเอ็ดขวบ เราช่วยพ่อแม่เขาเลี้ยงมาตั้งแต่ตัวยังสูงไม่ถึงเอวเรา ถามว่าผูกพันมั้ย ก็ไม่เท่าไหร่เพราะเราโดนพ่อแม่ใช้ให้ไปเลี้ยงแทนมากกว่า พักนี้เรารู้สึกว่าหลานเรามีนิสัยแปลกไป เริ่มพูดคำหยาบ แสดงท่าทางก้าวร้าว ทำนิสัยกวนตี-ใส่เรา ย้ำว่าเป็นแค่กับเรา ชอบเถียงและขึ้นเสียง ทั้งกับเราและคนอื่นๆ ไม่เว้นแม้กระทั่งพ่อแม่ของน้องเอง (ซึ่งบ่อยครั้งก็จะได้ไม้แขวนเสื้อหรือก้านมะยมกลับมา) หลานชอบใส่หูฟัง เปิดอะไรฟังดังๆตลอดเวลา ซึ่งไม่รู้ว่าดูอะไร เราว่ามันไม่ดีต่อตัวเขา ได้ยินมาว่าการเปิดเพลงดังๆจะทำร้ายระบบทางการฟัง
เราพยายามหาสาเหตุที่น้องพูดคำหยาบทั้งไทยและอังกฤษ จนมารู้เมื่อพ่อแม่น้องซื้อทีวีที่สามารถเชื่อมอินเตอร์เน็ตได้มาตั้งไว้ในห้องนอน น้องมักจะดูคลิปที่หลายๆคนเรียกว่า 'แคสเกม' น้องเขาฟังและจำมาใช้แทบจะทั้งหมด
*ขอดักก่อน เดี๋ยวจะมีใครว่าเรา เราไม่ได้จะอคติกับนักแคสเกมทุกท่าน กรุณาตั้งสติและอ่านกระทู้ให้จบก่อนที่จะคอมเม้นต์ด่าเรา *
เราและพ่อแม่น้องคงผิดเองที่ไม่สามารถแก้ปัญหานี้ได้เอง ไม่สามารถสั่งสอนบุตรหลานในการดูแลให้เข้าใจได้ว่าอะไรควรไม่ควร ทั้งๆที่เป็นคนดูแลเลี้ยงดูเขามาตั้งแต่เกิด เราทั้งบอกทั้งว่า ตีปาก ชี้แจง แต่ดูเหมือนเขาจะสนุกเวลาด่าเราจนเราโมโหมากกว่า จุดประสงค์ของเราไม่ใช่การห้ามเขาพูดคำหยาบ แต่เราอยากให้เขาเข้าใจว่าควรพูดกับใคร ตอนไหน และพูดทำไม (แม้เราจะคิดลึกๆว่าไม่ว่าจะอายุเท่าไหร่ก็ไม่อยากให้พูดคำหยาบก็เถอะ)
ขอยกตัวอย่างเหตุการณ์ที่ทำให้เราต้องการที่จะสอนน้องเรื่องนี้หน่อยนะคะ
พ่อแม่น้องให้เงินเรามาสองพัน ให้เราพาน้องมาเที่ยวห้างในวันเกิดของน้อง แต่กำชับเราว่าถ้าน้องจะซื้อของเล่นให้เราดูความสมเหตุสมผล เพราะน้องเขามีของเล่นใส่กล่องรวมกันไว้เต็มบ้านแล้ว แถมยังมีนิสัยทิ้งๆขว้างๆของ ไม่รู้จักคุณค่าด้วย
หลานอยากกินอะไรเราก็พาไปกิน จนเมื่อเขาเอ่ยปากว่าอยากได้ของเล่นเนี่ยแหละ เราเลยเริ่มเตรียมตัวแล้วว่าเราต้องรับมือยังไง
เราปล่อยให้หลานเดินดูของเล่นตามอัธยาศัย ในที่สุดเขาก็เจอของเล่นที่ถูกใจเลยถือของเล่นกล่องใหญ่มาหาเรา (หลานชอบหุ่นยนต์ค่ะ ต่อตัวต่อมาตั้งแต่เด็กจนสิบเอ็ดขวบ)
เราเลยขอดูราคาของ แต่เราว่ามันแพงไป(เพราะซื้อไปเขาก็เห่อแป๊บเดียวแล้วมันจะไปกองกันในกล่อง) ประกอบกับเงินที่พ่อแม่น้องให้มามันไม่พอจ่าย เราก็ครึ่งๆกลางๆ ตัดสินใจไม่ถูกว่าซื้อหรือไม่ซื้อดี โทรถามเจ้าของเงินเขาเห็นว่าแพงไปก็ถือเป็นอันเสร็จพิธี พ่อแม่น้องกำชับเรานักหนาว่ายังไงก็ห้ามซื้อ ถ้างอแงก็ให้เราเฟสไทม์หรือโทรมาตาม ขอสมมุติว่าหลานชื่อ เอ
เรา:เอ ป๊าม้าบอกว่ามันแพงไป เลือกอันอื่นได้มั้ย
เอ:ก็เอจะเอาอันนี้! วันเกิดเอ ป๊าม้าซื้อให้ไม่ได้เหรอ
เรา:เอ ป๊าม้าแกทำงานตั้งเท่าไหร่ว่าจะได้เงินมาให้แกกินข้าวซื้อของในวันนี้ ไหนจะภาระหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบ เอโตแล้ว อาพูดอะไรเอต้องคิดให้เป็นบ้างนะ
เอ:ก็กรูจะเอาอันนี้ป่ะวะ! พ่อแม่กรูก็ไม่ใช่ เสื-กจังวะ แม่-!!!! //เริ่มขึ้นเสียงและมีคำหยาบคาย
เรา:เอ พูดจาดีๆ พูดไม่เพราะแบบนี้อาไม่อยากคุยด้วย ใครๆเขาจะว่าป๊าม้าของเอเอาว่าสอนลูกยังไงถึงเป็นคนแบบนี้
เอ:แล้ว

เลี้ยงกรูมารึไง!?
เรา:เออ ฉันเลี้ยงแกมาตั้งแต่เด็กๆ ป๊าม้าแกไม่ว่างฉันก็มาดูแลให้ แล้วแบบนี้ฉันไม่ได้เลี้ยงแกมาตรงไหน?
เอ:ไม่อายเขาเหรอวะ เห็นมั้ยว่าคนอื่นเขามอง รีบๆซื้อจะได้รีบๆกลับไง
เรา:ไม่อาย แกสิที่ต้องอายที่มาพูดจาใส่ผู้ใหญ่แบบนี้
เอ:ฟัค!!! //พร้อมชูนิ้วกลางด้วยความรัก
เรา:เอ เอามือลง
เอ:nope!! //แกว่งนิ้วกลางไปมา
เพราะที่ผ่านมาเราห้ามเขาไม่เคยได้ ครั้งนี้คงทำไม่ได้เช่นกัน เราจึงหยิบของเล่นกล่องนั้นมาแล้วหันไปถามพนักงานว่าอันนี้เอาไปเก็บที่ไหน พนักงานเห็นสถานการณ์แบบนั้นเลยอาสาเอาไปเก็บให้ เราขอบคุณเขาก่อนจะเดินออกมาเลย เอเห็นเราเดินออกมา เรียกเท่าไหร่ก็ไม่สนเลยวิ่งตามมา
เราพาเอมาส่งที่บ้านและนั่งรอจนกว่าะอแม่ของเอจะกลับมาบ้าน เอเป็นฝ่ายฟ้องเรื่องราวทั้งหมดให้พ่อแม่ตัวเองฟังก่อน พูดใส่ร้ายให้เราเป็นฝ่ายผิด พ่อแม่ให้เอขึ้นบ้านไปก่อนจะถามเรื่องทั้งหมดตรงๆกับเรา เราเล่าเหตุการณ์ให้ฟังแบบไม่มีการใส่สีเพิ่มเติม ถ้าไม่เชื่อให้ลองไปหาะนะกงานด้วยกันวันพรุ่งนี้ พ่อแม่ของเอหน้าถอดสี ไม่คิดว่าลูกตัวเองจะกล้าทำแบบนี้ในที่สาธารณะ ไม่คิดว่าน้องจะเป็นเด็กเอาแต่ใจและหยาบคายถึงเพียงนี้ จึงเริ่มสอนเขาแต่เหมือนจะไม่เป็นผล
เราจึงอยากมาขอความช่วยเหลือจากผู้ที่มีประสบการณ์ เราควรทำอย่างไรดีคะ เพราะพ่อแม่น้องไม่อยากให้น้องเป็นหนักกว่านี้และเป็นผู้ใหญ่ที่ไม่ดีของสังคมในภายหลัง
ควรสอนยังไงให้หลานเลิกทำตัวก้าวร้าวคะ?
เรามีหลานอยู่คนนึง เป็นผู้ชาย อายุสิบ-สิบเอ็ดขวบ เราช่วยพ่อแม่เขาเลี้ยงมาตั้งแต่ตัวยังสูงไม่ถึงเอวเรา ถามว่าผูกพันมั้ย ก็ไม่เท่าไหร่เพราะเราโดนพ่อแม่ใช้ให้ไปเลี้ยงแทนมากกว่า พักนี้เรารู้สึกว่าหลานเรามีนิสัยแปลกไป เริ่มพูดคำหยาบ แสดงท่าทางก้าวร้าว ทำนิสัยกวนตี-ใส่เรา ย้ำว่าเป็นแค่กับเรา ชอบเถียงและขึ้นเสียง ทั้งกับเราและคนอื่นๆ ไม่เว้นแม้กระทั่งพ่อแม่ของน้องเอง (ซึ่งบ่อยครั้งก็จะได้ไม้แขวนเสื้อหรือก้านมะยมกลับมา) หลานชอบใส่หูฟัง เปิดอะไรฟังดังๆตลอดเวลา ซึ่งไม่รู้ว่าดูอะไร เราว่ามันไม่ดีต่อตัวเขา ได้ยินมาว่าการเปิดเพลงดังๆจะทำร้ายระบบทางการฟัง
เราพยายามหาสาเหตุที่น้องพูดคำหยาบทั้งไทยและอังกฤษ จนมารู้เมื่อพ่อแม่น้องซื้อทีวีที่สามารถเชื่อมอินเตอร์เน็ตได้มาตั้งไว้ในห้องนอน น้องมักจะดูคลิปที่หลายๆคนเรียกว่า 'แคสเกม' น้องเขาฟังและจำมาใช้แทบจะทั้งหมด
*ขอดักก่อน เดี๋ยวจะมีใครว่าเรา เราไม่ได้จะอคติกับนักแคสเกมทุกท่าน กรุณาตั้งสติและอ่านกระทู้ให้จบก่อนที่จะคอมเม้นต์ด่าเรา *
เราและพ่อแม่น้องคงผิดเองที่ไม่สามารถแก้ปัญหานี้ได้เอง ไม่สามารถสั่งสอนบุตรหลานในการดูแลให้เข้าใจได้ว่าอะไรควรไม่ควร ทั้งๆที่เป็นคนดูแลเลี้ยงดูเขามาตั้งแต่เกิด เราทั้งบอกทั้งว่า ตีปาก ชี้แจง แต่ดูเหมือนเขาจะสนุกเวลาด่าเราจนเราโมโหมากกว่า จุดประสงค์ของเราไม่ใช่การห้ามเขาพูดคำหยาบ แต่เราอยากให้เขาเข้าใจว่าควรพูดกับใคร ตอนไหน และพูดทำไม (แม้เราจะคิดลึกๆว่าไม่ว่าจะอายุเท่าไหร่ก็ไม่อยากให้พูดคำหยาบก็เถอะ)
ขอยกตัวอย่างเหตุการณ์ที่ทำให้เราต้องการที่จะสอนน้องเรื่องนี้หน่อยนะคะ
พ่อแม่น้องให้เงินเรามาสองพัน ให้เราพาน้องมาเที่ยวห้างในวันเกิดของน้อง แต่กำชับเราว่าถ้าน้องจะซื้อของเล่นให้เราดูความสมเหตุสมผล เพราะน้องเขามีของเล่นใส่กล่องรวมกันไว้เต็มบ้านแล้ว แถมยังมีนิสัยทิ้งๆขว้างๆของ ไม่รู้จักคุณค่าด้วย
หลานอยากกินอะไรเราก็พาไปกิน จนเมื่อเขาเอ่ยปากว่าอยากได้ของเล่นเนี่ยแหละ เราเลยเริ่มเตรียมตัวแล้วว่าเราต้องรับมือยังไง
เราปล่อยให้หลานเดินดูของเล่นตามอัธยาศัย ในที่สุดเขาก็เจอของเล่นที่ถูกใจเลยถือของเล่นกล่องใหญ่มาหาเรา (หลานชอบหุ่นยนต์ค่ะ ต่อตัวต่อมาตั้งแต่เด็กจนสิบเอ็ดขวบ)
เราเลยขอดูราคาของ แต่เราว่ามันแพงไป(เพราะซื้อไปเขาก็เห่อแป๊บเดียวแล้วมันจะไปกองกันในกล่อง) ประกอบกับเงินที่พ่อแม่น้องให้มามันไม่พอจ่าย เราก็ครึ่งๆกลางๆ ตัดสินใจไม่ถูกว่าซื้อหรือไม่ซื้อดี โทรถามเจ้าของเงินเขาเห็นว่าแพงไปก็ถือเป็นอันเสร็จพิธี พ่อแม่น้องกำชับเรานักหนาว่ายังไงก็ห้ามซื้อ ถ้างอแงก็ให้เราเฟสไทม์หรือโทรมาตาม ขอสมมุติว่าหลานชื่อ เอ
เรา:เอ ป๊าม้าบอกว่ามันแพงไป เลือกอันอื่นได้มั้ย
เอ:ก็เอจะเอาอันนี้! วันเกิดเอ ป๊าม้าซื้อให้ไม่ได้เหรอ
เรา:เอ ป๊าม้าแกทำงานตั้งเท่าไหร่ว่าจะได้เงินมาให้แกกินข้าวซื้อของในวันนี้ ไหนจะภาระหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบ เอโตแล้ว อาพูดอะไรเอต้องคิดให้เป็นบ้างนะ
เอ:ก็กรูจะเอาอันนี้ป่ะวะ! พ่อแม่กรูก็ไม่ใช่ เสื-กจังวะ แม่-!!!! //เริ่มขึ้นเสียงและมีคำหยาบคาย
เรา:เอ พูดจาดีๆ พูดไม่เพราะแบบนี้อาไม่อยากคุยด้วย ใครๆเขาจะว่าป๊าม้าของเอเอาว่าสอนลูกยังไงถึงเป็นคนแบบนี้
เอ:แล้ว
เรา:เออ ฉันเลี้ยงแกมาตั้งแต่เด็กๆ ป๊าม้าแกไม่ว่างฉันก็มาดูแลให้ แล้วแบบนี้ฉันไม่ได้เลี้ยงแกมาตรงไหน?
เอ:ไม่อายเขาเหรอวะ เห็นมั้ยว่าคนอื่นเขามอง รีบๆซื้อจะได้รีบๆกลับไง
เรา:ไม่อาย แกสิที่ต้องอายที่มาพูดจาใส่ผู้ใหญ่แบบนี้
เอ:ฟัค!!! //พร้อมชูนิ้วกลางด้วยความรัก
เรา:เอ เอามือลง
เอ:nope!! //แกว่งนิ้วกลางไปมา
เพราะที่ผ่านมาเราห้ามเขาไม่เคยได้ ครั้งนี้คงทำไม่ได้เช่นกัน เราจึงหยิบของเล่นกล่องนั้นมาแล้วหันไปถามพนักงานว่าอันนี้เอาไปเก็บที่ไหน พนักงานเห็นสถานการณ์แบบนั้นเลยอาสาเอาไปเก็บให้ เราขอบคุณเขาก่อนจะเดินออกมาเลย เอเห็นเราเดินออกมา เรียกเท่าไหร่ก็ไม่สนเลยวิ่งตามมา
เราพาเอมาส่งที่บ้านและนั่งรอจนกว่าะอแม่ของเอจะกลับมาบ้าน เอเป็นฝ่ายฟ้องเรื่องราวทั้งหมดให้พ่อแม่ตัวเองฟังก่อน พูดใส่ร้ายให้เราเป็นฝ่ายผิด พ่อแม่ให้เอขึ้นบ้านไปก่อนจะถามเรื่องทั้งหมดตรงๆกับเรา เราเล่าเหตุการณ์ให้ฟังแบบไม่มีการใส่สีเพิ่มเติม ถ้าไม่เชื่อให้ลองไปหาะนะกงานด้วยกันวันพรุ่งนี้ พ่อแม่ของเอหน้าถอดสี ไม่คิดว่าลูกตัวเองจะกล้าทำแบบนี้ในที่สาธารณะ ไม่คิดว่าน้องจะเป็นเด็กเอาแต่ใจและหยาบคายถึงเพียงนี้ จึงเริ่มสอนเขาแต่เหมือนจะไม่เป็นผล
เราจึงอยากมาขอความช่วยเหลือจากผู้ที่มีประสบการณ์ เราควรทำอย่างไรดีคะ เพราะพ่อแม่น้องไม่อยากให้น้องเป็นหนักกว่านี้และเป็นผู้ใหญ่ที่ไม่ดีของสังคมในภายหลัง