แชร์ประสบการณ์ชีวิตเด็กต่างจังหวัด
เราเด็กต่างจังหวัดคนนึงที่ฝันอยากมีอนาคตที่ดีอยากเรียนสูงๆ เหมือนเพื่อนๆ ในรุ่นราวคราวเดียวกัน เราเรียนจบมัธยมปลาย อยากเรียนต่อพ่อแม่ไม่มีเงินส่งต่อ เราเลยตัดสินใจมาทำงานหาเงินเรียนต่อเอง เรามาจากบ้านมีเงินติดตัวแค่ 120 บาท เราติดรถมากะญาติ มาพักอาศัยอยู่บ้านกับเขา เขาให้อยู่ฟรีเพราะเรายังไม่มีงานทำ เราค่อนข้างลำบากมาก เขามีแค่ข้าวหุงไว้ให้เรากิน กับข้าวหาเอง เรากินข้าวกับแหนมหมู กับไข่ เกือบทุกวัน กินอยู่อย่างนั้นเกือบ 2 อาทิตย์ เราคิดถึงบ้านมาก อยากกลับก็กลับไม่ได้ กลับไปที่บ้านก็ไม่รู้จะทำอะไรกิน เราท่องไว้ว่าเราจะหาเงินตั้งใจเรียนให้จบเพื่อที่จะมีงานทำที่ดี เรานอนร้องให้ทุกคืน จนเหนื่อยหลับไป
และแล้วเราก็ได้ทำงานเป็นเด็กปั่นซาลาเปา เราดีใจมากที่มีงานทำ เราจะได้เงิน ได้ค่าตอบแทนวันล่ะ 200 ทำงานตั้งแต่ 6 โมงเช้า ถึง 1 ทุ่ม ไม่มีเวลาพัก มีแค่พักกินข้าวกลางวันไม่ถึงครึ่งชั่วโมงด้วยซ้ำไป เหนื่อยมากๆ กลับบ้านมาสลบไปทุกวัน เราทำได้ประมาณ 1 เดือน เก็บเงินไว้พอจ่ายค่าเทอม(กินข้าวที่ร้าน)ไม่ใช้เงินเลยแม้แต่บาทเดียว เพื่อจะได้เงินเรียนต่อ เราจึงไปสมัครเรียน
แล้วเริ่มหางานใหม่ที่ไม่หนักขนาดนี่และได้เงินเยอะกว่านี่ เราได้งานทำใหม่โรงงานเย็บผ้าแถวบ้าน เราดีใจมาก เราเป็นเด็กที่ไม่เคยทำงานหนักเลยตอนยุกับพ่อแม่ เราโดนด่าทุกวันจากพวกรุ่นพี่ๆป้าๆที่ทำงานมาก่อน เราจำคำด่าพวกเขาทุกวัน เราอดทนทำได้ 6 เดือน เราได้ย้ายมาทำฝ่ายออฟฟิต เพราะเขาคนขาด ก็ดีขึ้น แต่พวกออฟฟิตที่เรียนจบปริญญาตรีมาพูดดูถูกเราทุกวัน เราเกลียดมาก เราต้องอดทนอีก กับการแบ่งแยก เราไม่มีเพื่อนในออฟฟิตเลย เราพยายามคิดว่าไม่เป็นไร เรามาทำงานได้ค่าจ้างตอบแทน เรามาเพื่อหาเงินเรียน เราต้องอดทนทุกสถานการณ์ ต้องเรียนให้จบอย่างที่เราตั้งใจไว้ ผ่านไปอีก 1 ปี
พี่สาวเราฝากงานให้เราเลยลาออก ที่ทำงานใหม่ดีกับเรามากๆให้โอกาส เราได้แสดงความสามารถเต็มที่เรามีความสุขมาก ๆ ต้องขอขอบคุณมากๆที่ให้โอกาสเราได้เรียนรู้และเติบโตขึ้น
เราทำงานที่นั้นจนเราเรียนจบเลยตัดสินใจลาออก เพื่อที่จะได้เงินเดือนที่เยอะขึ้น เราได้งานใหม่ที่เงินเดือนเยอะขึ้น เราทำงานในตำแหน่งบัญชี(อาจไม่สูงมากแต่มันก็ดีแค่ไหนแล้วที่เรามาได้ถึงขนาดนี่) สามารถยื่นอยู่ด้วยตัวเองได้ ดูแลครอบครัวได้ ถึงแม้จะไม่สุขสบายมากมาย แต่เราก็ภูมิใจกับสิ่งที่เราทำ เรามองกลับไปดูความหลังที่มาด้วยความภูมิใจ
ขอบคุณความลำบาก ขอบคุณบุคคลที่เคยดูถูก
******ขอบคุณอย่างยิ่งบุคคลที่ให้โอกาสและสนับสนุนเรา
แชร์ประสบการณ์ชีวิตเด็กบ้านนอก ในเมืองกรุง บอกเลย หนทางเดินไม่ได้โรยด้วยดอกกุหลาบจริงๆ
เราเด็กต่างจังหวัดคนนึงที่ฝันอยากมีอนาคตที่ดีอยากเรียนสูงๆ เหมือนเพื่อนๆ ในรุ่นราวคราวเดียวกัน เราเรียนจบมัธยมปลาย อยากเรียนต่อพ่อแม่ไม่มีเงินส่งต่อ เราเลยตัดสินใจมาทำงานหาเงินเรียนต่อเอง เรามาจากบ้านมีเงินติดตัวแค่ 120 บาท เราติดรถมากะญาติ มาพักอาศัยอยู่บ้านกับเขา เขาให้อยู่ฟรีเพราะเรายังไม่มีงานทำ เราค่อนข้างลำบากมาก เขามีแค่ข้าวหุงไว้ให้เรากิน กับข้าวหาเอง เรากินข้าวกับแหนมหมู กับไข่ เกือบทุกวัน กินอยู่อย่างนั้นเกือบ 2 อาทิตย์ เราคิดถึงบ้านมาก อยากกลับก็กลับไม่ได้ กลับไปที่บ้านก็ไม่รู้จะทำอะไรกิน เราท่องไว้ว่าเราจะหาเงินตั้งใจเรียนให้จบเพื่อที่จะมีงานทำที่ดี เรานอนร้องให้ทุกคืน จนเหนื่อยหลับไป
และแล้วเราก็ได้ทำงานเป็นเด็กปั่นซาลาเปา เราดีใจมากที่มีงานทำ เราจะได้เงิน ได้ค่าตอบแทนวันล่ะ 200 ทำงานตั้งแต่ 6 โมงเช้า ถึง 1 ทุ่ม ไม่มีเวลาพัก มีแค่พักกินข้าวกลางวันไม่ถึงครึ่งชั่วโมงด้วยซ้ำไป เหนื่อยมากๆ กลับบ้านมาสลบไปทุกวัน เราทำได้ประมาณ 1 เดือน เก็บเงินไว้พอจ่ายค่าเทอม(กินข้าวที่ร้าน)ไม่ใช้เงินเลยแม้แต่บาทเดียว เพื่อจะได้เงินเรียนต่อ เราจึงไปสมัครเรียน
แล้วเริ่มหางานใหม่ที่ไม่หนักขนาดนี่และได้เงินเยอะกว่านี่ เราได้งานทำใหม่โรงงานเย็บผ้าแถวบ้าน เราดีใจมาก เราเป็นเด็กที่ไม่เคยทำงานหนักเลยตอนยุกับพ่อแม่ เราโดนด่าทุกวันจากพวกรุ่นพี่ๆป้าๆที่ทำงานมาก่อน เราจำคำด่าพวกเขาทุกวัน เราอดทนทำได้ 6 เดือน เราได้ย้ายมาทำฝ่ายออฟฟิต เพราะเขาคนขาด ก็ดีขึ้น แต่พวกออฟฟิตที่เรียนจบปริญญาตรีมาพูดดูถูกเราทุกวัน เราเกลียดมาก เราต้องอดทนอีก กับการแบ่งแยก เราไม่มีเพื่อนในออฟฟิตเลย เราพยายามคิดว่าไม่เป็นไร เรามาทำงานได้ค่าจ้างตอบแทน เรามาเพื่อหาเงินเรียน เราต้องอดทนทุกสถานการณ์ ต้องเรียนให้จบอย่างที่เราตั้งใจไว้ ผ่านไปอีก 1 ปี
พี่สาวเราฝากงานให้เราเลยลาออก ที่ทำงานใหม่ดีกับเรามากๆให้โอกาส เราได้แสดงความสามารถเต็มที่เรามีความสุขมาก ๆ ต้องขอขอบคุณมากๆที่ให้โอกาสเราได้เรียนรู้และเติบโตขึ้น
เราทำงานที่นั้นจนเราเรียนจบเลยตัดสินใจลาออก เพื่อที่จะได้เงินเดือนที่เยอะขึ้น เราได้งานใหม่ที่เงินเดือนเยอะขึ้น เราทำงานในตำแหน่งบัญชี(อาจไม่สูงมากแต่มันก็ดีแค่ไหนแล้วที่เรามาได้ถึงขนาดนี่) สามารถยื่นอยู่ด้วยตัวเองได้ ดูแลครอบครัวได้ ถึงแม้จะไม่สุขสบายมากมาย แต่เราก็ภูมิใจกับสิ่งที่เราทำ เรามองกลับไปดูความหลังที่มาด้วยความภูมิใจ
ขอบคุณความลำบาก ขอบคุณบุคคลที่เคยดูถูก
******ขอบคุณอย่างยิ่งบุคคลที่ให้โอกาสและสนับสนุนเรา