ขอเล่าประสบการณ์นั่งสมาธิเองและเอาชนะความเจ็บปวดได้เป็นครั้งแรก

สวัสดีค่ะ นานแล้วที่ไม่ได้ตั้งกระทู้เลยวันนี้ดิชั้นขอเล่าประสบการณ์การนั่งสมาธิและเอาชนะความเจ็บปวดได้เป็นครั้งแรก เพิ่งผ่านมาเมื่อกี้สดๆร้อนๆเลยค่ะ
ขอเกริ่นก่อนเลยนะคะ ตอนนี้ดิชั้นกำลังตกงานอยู่ค่ะและได้ย้ายมาอยู่กับแม่อย่างเต็มตัวที่จ.ขอนแก่นแล้ว พรุ่งนี้ดิชั้นมีนัดสัมภาษณ์งานในตัวเมืองค่ะ
กับบริษัทอะไรขอไม่บอกนะคะแต่ตำแหน่งที่จะไปสัมภาษณ์นั้นแค่อ่านชื่อก็รู้แล้วว่างานน่าจะโหดพอสมควรและโอกาสที่จะได้งานนี้มันแทบไม่เห็นหนทางเลย ดิชั้นทราบดีว่าแม่ของดิชั้นค่อนข้างกังวลมากถ้าดิชั้นได้งานนี้เพราะถ้าได้งานนี้ดิชั้นอาจจะต้องกลับไปใช้ชีวิตในหอพักหรืออาจจะต้องเช่าบ้าน ถ้าไปกลับคงไม่ไหวแน่นอน คราวนี้แม่ดิชั้นก็คงเหนื่อยแย่เพราะไม่มีคนมานั่งขายของแทนน้องสาวก็ไม่ค่อยตั้งใจขายของเท่าไหร่พอดิชั้นย้ายมาอยู่ด้วยแม่ก็สบายขึ้นมาบ้าง ส่วนตัวดิชั้นถ้าถามว่าอยากได้งานไหม อยากได้ค่ะ แต่มันกลัวความผิดหวังจนทำให้ไม่อยากไปและท่าทางของแม่ก็ไม่อยากให้ไปสัมภาษณ์แต่ก็ยอมให้เราไป
ทีนี้ดิชั้นเข้ามาในห้องตั้งใจว่าคืนนี้จะสวดมนต์และนั่งสมาธิด้วยดิชั้นอยากได้คำตอบว่าควรไปหรือไม่ บนหัวนอนจะมีหนังสือสวดมนต์ของหลวงพ่อจรัญอยู่3เล่ม มีเล่มนึงหน้าปกเขียนว่า "บุญที่สร้างคือแสงสว่างส่องชีวิต เมื่อบุญเรืองฤทธิ์ชีวิตก็รุ่งเรืองดั่งปาฏิหาริย์" เห็นข้อความนี้ดิชั้นเลยได้สติคิดได้ว่าถ้าอยากมีชีวิตที่รุ่งเรืองก็ต้องสร้างบุญเยอะๆสักวันนึงบุญนั้นจะหนุนนำเราให้เจริญรุ่งเรือง
จากนั้นก็เริ่มเลยค่ะสวดมนต์ตามในหนังสือจนจบแล้วก็เริ่มนั่งสมาธิ กำหนดลมหายใจเข้า-ออก โดยการกำหนดว่ายุบหนอ พองหนอตามในหนังสือเขียนไว้ ขอบอกเลยว่าถ้าดิชั้นนั่งสมาธิเองดิชั้นจะนั่งได้แปปเดียวบางทีนั่งยังไม่ถึง5นาทีด้วยซ้ำ บางทีก็ยังไม่ทันปวดเท้าเหน็บชาเลย หรือบางทีรู้สึกปวดเท้าเหน็บชาก็หยุด หรือได้ยินเสียงคนในบ้าน เสียงโทรศัพท์ก็หยุดเอาซะดื้อๆ
แต่ครั้งนี้ขณะที่ดิชั้นนั่งกำหนดลมหายใจ อยู่ๆก็นึกคำท้าออกมาเองว่าถ้าปวดเหน็บชาจะนั่งต่อจนหายปวดถ้าดิชั้นทำได้จะไปสัมภาษณ์งาน นึกบอกหลวงพ่อจรัญเลยนะ บอกหลวงพ่อว่าส่งมาเลยความเจ็บปวด ส่งมาๆๆๆๆ แรกๆก็นั่งได้ยังไม่รู้สึกอะไรแต่พอนั่งไปสักพักคราวนี้เท้าขวาเริ่มชา ไม่รู้สึกอะไรเลยคิดว่ามาล่ะบททดสอบ คราวนี้ลองกระดิกนิ้วดูสิ อ้าววววว กระดิกไม่ได้เจ้าค่ะ นิ้วไม่ขยับ เท้าก็ขยับไม่ได้ ทำไมล่ะ? มันเหมือนมีหินก้อนใหญ่ๆหรืออะไรหนักๆมาทับไว้ ทำไงดี มันเริ่มฟุ้งซ่านค่ะ กำหนดไม่ได้ ปวดหนอๆๆๆๆ ฟุ้งซ่านไปหมด สมาธิหลุด แต่ไม่ยอมลืมตา เอาว่ะ เห็นหลวงพ่อบอกไว้ในหนังสือว่าไม่มีใครตายเพราะกรรมฐานหรอก ยังไงก็ไม่ตาย นั่งไปเรื่อยๆมันก็ไม่หาย เสียงไลน์เด้งก็ไม่สนจะเอาชนะให้ได้ลูกเดียว
ดิชั้นคิดว่าถ้านั่งอยู่แบบนี้ไม่ขยับเลยคงไม่หาย เลยเปลี่ยนเท้ามันซะเลย(ผิดกฏการนั่งสมาธิไหม ไม่แน่ใจขออภัยนะเจ้าคะ มันปวดจริงๆ) จากที่เท้าขวาทับเท้าซ้ายเลยเอามือจับเท้าขวาลงแล้วเอาเท้าซ้ายขึ้นมาทับ คราวนี้ปวดจี้ดเลยแทบจะทนไม่ไหว แต่จะสู้ต่อ
สักพักมันเริ่มเหมือนมีกระแสวิ่งในเท้ามันทรมานค่ะ ถ้านึกไม่ออกให้นึกถึงตอนที่นั่งยองๆหน้าเสาธงนานๆแล้วมันเป็นเหน็บแต่อยู่ๆครูสั่งให้ลุกขึ้นแล้วมันปวดปลาบ ประมาณนั้นเลย
ทนไปสักพักหายค่ะ เลยค่อยๆลืมตาขึ้นมา บอกกับใจตัวเองว่าเราทำได้ เราเอาชนะใจตัวเองได้แล้ว ความรู้สึกมันตื้นตันใจมากค่ะ รู้สึกโล่งสบาย
นี่เป็นครั้งแรกเลยค่ะที่ทำได้โดยไม่หลุดไปซะก่อน
ดิชั้นบอกกับหลวงพ่อจรัญแล้วค่ะว่าจะไปสัมภาษณ์งานพรุ่งนี้ ได้หรือไม่ได้ก็แล้วแต่บุญวาสนาขอให้หลวงพ่อเป็นกำลังใจให้ด้วย

ปล.ดิชั้นเคยไปนั่งกรรมฐานที่วัดอัมพวันมาเมื่อปีที่แล้วค่ะ เป็นการไปครั้งแรก ไปแบบ3วัน รู้สึกว่าดิชั้นทำได้ดีสำหรับคนที่ไม่เคยได้สวดมนต์นั่งสมาธิเป็น
ประจำ
ขอบคุณท่านผู้อ่านทุกท่านนะคะ ถ้ากระทู้นี้ทำให้หลายคนได้ลองปฏิบัติดูบ้างดิชั้นก็ยินดีเป็นอย่างยิ่งและขออนุโมทนาบุญด้วยนะคะ
นานาขอบคุณ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่