ผมควรจะทำอย่างไรต่อไป ...

จากการที่เป็นคนชอบช่วยเหลือ และคอยช่วยแก้ไขปัญหาให้
เผลอไปตกปากรับคำให้กับน้องคนหนึ่งที่คุ้นเคยกันดี เพื่อจัดซื้อ จัดหา อุปกรณ์ เครื่องใช้ และวัตถุดิบเครื่องปรุง ออกแบบงานต่าง ๆ สำหรับดำเนินธุรกิจร้านอาหารไทยในต่างแดน เนื่องเพราะเห็นว่าช่วยเหลือกันไม่เสียหาย เรื่องจัดซื้อจัดหาผมเป็นคนจัดการ งานออกแบบทุกอย่างให้แฟนทำ(เพราะเคยช่วยน้องคนนี้ทำงานออกแบบไปแล้วครั้งหนึ่งแต่ยังไม่ได้เงิน) จัดการก็มีการนัดเจอกันเพื่อสรุปและประจวบเหมาะที่น้องคนนั้นและสามีมาเมืองไทย นัดหมายก่อนหน้าการเดินทางเกือบหนึ่งเดือนนั้นคือ
"รายการสินค้าที่ต้องการให้พร้อมนะ จะได้เริ่มหาของ"
หลังจากเจอกัน คุยกันเรื่องส่งของว่าเดี๋ยวเพื่อนสามีเป็น Shipper ช่วยจัดการของให้สบายมาก นั่น นี่ คุยกันไป แต่ก็ไม่มีรายการสินค้ามาให้ อ้างว่ายุ่ง วุ่นวาย ไม่มีเวลา ... โอเค รอไปสิ วันเวลาผ่านไปสองสัปดาห์ก็ทะยอยมาเรื่อย ๆ แชทมา โทรมา สั่งนั่น นี่เพิ่ม ผมก็วางแผนหาของสิ ไม่ได้สั่งซื้อไว้ก่อน เพราะเราไม่ทราบราคาตลาด ต้องสืบก่อนว่าราคาไหนเป็นยังไง เจ้าไหนถูกกว่ากันเพื่อช่วยน้อง save cost ซึ่งในระหว่างนั้นไม่หยุดการสั่งของเพิ่ม มาเรื่อย ๆ จนรายการมีมากกว่าร้อยรายการ ซึ่งผมก็สรุปรายการพร้อมทั้งราคาใส่ excel ส่งไปให้ดู เพื่อง่ายในการดูและสามารถวิเคราะห์ได้ในอนาคต จึงตัดสินใจเริ่มจะสั่งสินค้า เลยร้องขอไปว่า "เริ่มสั่งของแล้วนะคงต้องใช้เงินแล้ว" ซึ่งกว่าจะโอนมาให้รอบแรก ประมาณ 20% ของมูลค่าทั้งหมด
ผมก็เริ่มวางแผนสั่งตามงบที่มี ... ได้ของมากองที่บ้านชั้นหนึ่ง ก็เริ่มวางแผนแพ๊ค ของมีกลิ่นใส่ถุงสูญญากาศ บรรจุหีบห่อใหม่เพื่อสินค้าจะได้มีคุณภาพ สั่งซื้อกล่องแพ๊ค ถุงแพ๊ค กันกระแทก ทุกอย่างด้วยเงินตัวเอง และสินค้าบางอย่างก็ advance เงินออกไป โดยไม่ได้ร้องขอใด ๆ เพราะเห็นว่าไว้ใจกัน ซึ่งในขณะนั้นรายการสินค้าก็เพิ่มมาอีก (มีการ revised ไฟล์ excel ถึง 4 ครั้ง)

พอเริ่มเยอะขึ้นก็ทวงถามเงินส่วนต่อไปว่าต้องใช้แล้วนะ และกว่าจะโอนมาก็เกือบสัปดาห์ (ทั้งที่โอนผ่าน ibanking ธนาคารในประเทศนี่แหระ) โอนมาอีก 25% ซึ่งก็ไม่พอชดเชยเงินที่เราออกไป แต่ก็ยังดีมีเงินมาหมุนให้ เริ่มหาของโดยการขับรถจากแพร่ไปเชียงใหม่ ไปกรุงเทพฯ เพราะหากมีก็ขนใส่รถตัวเองมาเลย ได้ของมาก็กองที่บ้าน อะเตรียมแพ๊ค ต่อไป ของก็กองเต็มบ้านตอนนั้นก็ 30 ลังได้ละ เงินเราก็ร่อยหรอลง จะซื้อของต่อไปก็ไม่มีพอ ไหนจะรายจ่ายเรา เวลาทำมาหากินเราก็ไม่มี เพราะเราทุ่มเทให้งานนี้หมด  ซึ่งในระหว่างนั้น น้องคนนี้ก็สั่งงานออกแบบทุกอย่าง โลโก้ เมนู นามบัตร โบว์ชัวร์ สติ๊กเกอร์ website มาอีกเพราะบอกว่าทำเลยสามีจะจ่ายให้  ก็มอบหมายให้แฟนทำ ตลอดเวลาที่ทำก็ปรับ เปลี่ยน โน่น นั่น นี่ หลายรอบ

30 สิงหาคม หาของได้สักครึ่งหนึ่งก็ทวงถามเรื่อง Shipper ว่าทำไมไม่มีใครติดต่อมา จะได้ดำเนินการต่าง ๆ เตรียมไว้ ชื่อบริษัทอะไร ติดต่อใคร เพระาการส่งของไปประเทศนี้ค่อนข้างยาก เคยส่งของไปให้หลายรายโดยใช้บริการ agency ง่าย ๆ ไม่มีเอกสารอะไร แต่ของต้องพร้อมสำแดง ฉลากต้องภาษาอังกฤษ ต้องมีส่วนผสมที่บอกเป็น % ชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทร ของผู้ผลิต ... แต่ก็ไม่มีการแจ้งกลับ ทวงไปก็บอกเดี๋ยวสามีหนูจัดการเอง  1 กันยายนก็มีการส่ง email เพื่อจะได้ให้ reply หรือ forward รายละเอียดตัวผมไปให้ shipper แต่ก็ไร้วี่แวว

อยู่มาวันหนึ่งน้องคนนี้ก็โทรมาบอกว่า ของทุกอย่างไม่ต้องส่งมาละ เก็บไว้ที่เมืองไทย หนูจะกลับแล้ว หนูเลิกกับสามีแล้ว นั่น นี่ ว่าไป ผมก็คอยผลอบใจให้คำปรึกษาไป จนดีกันก็เริ่มทำงานใหม่ น้องก็สั่งของนั่น นี่ มาลงที่บ้านเพื่อให้ฝากแพ๊คส่งมาทีเดียว (ประมาณ 10 ลัง) และที่บ้านพ่อหนูอีก 10 ลังฝากพี่ไปขนมาส่งทีเดียวด้วยนะ ก็โอเคไม่เป็นไร เดี๋ยวทำให้  
อีกไม่กี่วันต่อมา โทรมาบอกว่าหนูไม่ยุ่งกะร้านอาหารละ สามีหนูไม่ให้หนูทำ พี่ติดต่อกันเองนะ เดี๋ยวสามีจัดการต่อเอง ... งงละสิ เอาไงต่อ
ก็ตั้ง Line กลุ่ม 4 คนคุยงานโดยเฉพาะ ตามงานไปทำไป อีกไม่กี่วัน มาตามราวีสามีใน Line กลุ่มว่าทำไมไม่รับสาย โกรธนะ ... แล้วก็ออกจากลุ่มไป

เราก็ทำงานเราไปหาของ ๆ ๆ แฟนก็ ออกแบบ ๆ ๆ จนต้องสรุปยอดส่งไปรอบสุดท้ายว่าเงินที่ต้องโอนค่าสินค้าทั้งหมด ขาดเท่าไหร่ ขอค่าดำเนินการทุกอย่างจนส่งของลง port ที่ shipper กำหนด(ซึ่งขณะนั้น shipper ก็ไม่ติดต่อมา ทั้งที่ผมก็ท้วงตลอด) 30% ของมูลค่าสินค้า ซึ่งกว่าจะได้เงินมาเกือบสิบวัน ซึ่งก็ไม่ครบ บอกว่าโอนได้สูงสุดวันละ 50,000 ที่เหลือจะโอนไปให้นะ และฝากซื้อของอีก นิดหน่อย (ออกเงินไปก่อนนะ) ... รอไป จนวันนี้ 4 ตุลาคม ยังไม่โอนนะจ๊ะ
จนวันที่ 13 กันยายน มี Sales ของ Shipper ติดต่อมา .. โล่งใจของจะส่งละ เพราะของเกือบ 80 ลังที่บ้านจะทับผมตาย

เรื่องวุ่น ๆ กำลังจะเกิดขึ้นต่อจากนี้
Sales แจ้ง 15 กันยายน ว่าต้องหาผู้ส่งออกที่ ลงทะเบียนผ่านพิธีศุลกากรให้เรียบร้อย ผมก็งงละสิ เอาไงละไหนบอกง่ายไง ส่งไปที่ shipper เขาจัดการให้
ไหนจะต้องหาข้อมูลการลงทะเบียน Sales ก็ดีใจหายให้เพื่อนนางที่ช่ำชองโทรมาให้ความช่วยเหลือด้วยค่าแรง 2,000 บาท เดี๋ยวจัดการให้ แค่เตรียมเอกสารของบริษัทผมต่าง ๆ ตรายางบริษัท บัตรประชาชนตัวจริง ของผม เท่านั้นเดี๋ยวทำให้เอง  เงิน 2,000 ผมไม่ได้เสียดายนะ แต่ ตรายาง และบัตรประชาชนตัวจริง ของผมให้เขาไปผมไม่กล้าเด็ดขาด จึงหาข้อมูลได้ความละ เตรียมไปศุลกากรที่เชียงใหม่ ปัญหาคือผมต้องขึ้นทะเบียน VAT ที่สรรพากรก่อนเพื่อให้ได้ ภพ. 20 .... เดี๋ยวกลับมาต่อครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่