ขอแชร์หน่อยนะคะเกี่ยวกับครอบครัวเรานี่แหละ ใครมีความเห็นว่ายังไงก็เล่ามาเลยค่ะ

อันที่จริงก็ทำใจยากอยู่นะว่าจะพูดรึเปล่าแต่ตัดสินใจแล้วค่ะ
เรื่องเกิดขึ้นตั้งนานแล้วแต่ก็เกิดทุกวันตั้งแต่เราอายุ7ขวบ จนตอนนี้ 13 แล้วค่ะอดทนนานมาก
เข้าเรื่องดีกว่าค่ะ เราเป็นลูกคนโตชื่อว่าปลา(ชื่อสมมุตินะคะ) จากจำนวนพี่น้องทั้งหมดสองคน คนละแม่แต่พ่อเดียวกันด้วยแหละ เราอาศัยอยู่ที่จังหวัดหนึ่งในภาคอีสาน เรื่องมันมีอยู่ว่าตอนเราอายุ 7 ขวบพ่อกับแม่เราทะเลาะกันเรื่องอะไรไม่รู้ หืมมก็ตอนนั้นเรายังเด็กนี่นาเราก็เลยไม่สนใจ ต่อๆหลังจากที่ทะเลาะกันจนหย่ากัน เราก็อยู่กับพ่อค่ะ ส่วนแม่เราปัจจุบันน่าจะอยู่ที่ระยองนะ พ่อเราหลังจากหย่ากับแม่ก็เงียบๆไม่ค่อยไปไหนเลยทำแต่งานแบบชีวิตไม่สดใสเลยจนมีวันหนึ่งมีคนย้ายเข้ามาทำงานใหม่ก็สวยนะ แต่เราไม่ชอบเราไม่เข้าใกล้ด้วยแบบเรามีลางว่าจะมาแย่งพ่อเรายังไงไม่รู้เราเลยอคติตลอดเลยหลังจากเขาย้ายเข้ามาประมาณ 5 เดือน มันเกิดเรื่องแบบนี้
พ่อ: ปลาหนูจะมีแม่ใหม่แล้วนะ
เรา: คะ???? (มองหน้าพ่อแบบต้องการคำตอบสุด)
พ่อ: คนนั้นนั่นแหละที่หนูบอกว่าสวย
เรา: แต่พ่อ....
พ่อ: พ่อขอนะลูก เค้าจะเป็นแม่ที่ดี เผื่อวันนึงพ่อไม่อยู่แล้วจะทำยังไงปู่ย่าตายาย เค้าจะอยู่รอรึเปล่า พ่อไม่ไว้ใจใครให้ดูแลหนู พ่อขอเป็นคนเลือกเองได้มั้ย
เรา: งั้นก็ได้ค่ะ แต่พ่อต้องรักหนูเหมือนเดิมนะ
พ่อ: ค่ะพ่อรักหนูแน่นอน
*คิดถึงตอนนี้แล้วเศร้านะเราไม่ค่อยได้อยู่กับพ่อเท่าไหร่เดี๋ยวนี้พอๆเลิกดราม่า

หลังจากนั้นประมาณ 3 เดือนพ่อเราก็แต่งงานกับแม่ใหม่ผ่านไป1 ปีก็มีน้องค่ะ เราจำได้ว่าช่วงนั้นเราแฮปปี้สุดๆตั้งแต่อยู่ป.1 - ป.3 นี่แบบอื้อหือออ เราสนุกมากมีความสุขที่สุดยิ้มทุกวันไม่เคยร้องไห้ไม่เคยเสียใจเรื่องอะไรเลย จนมาป.4 (จะขอเล่าเรื่องบางอย่างที่จะจำไปจนวันตายนะคะ) เนื่องจากเราไม่ชอบกินอาหารเผ็ดๆแต่ก็กินได้บางอย่างนะคะ โดยเฉพาะอ่อมกบเราไม่แตะเลยแม่จะเป็นคนที่แบบทำอาหารเผ็ดมากเราเลยไม่กิน แต่มันมีอยู่วันหนึ่งวันนั้นพ่อไปอบรม3วัน เราก็นั่งกินข้าวตามปกติแล้วแม่มานั่งด้วยแล้วก็พูดอยู่คนเดียวแบบพูดลอยๆ แต่เราได้ยินบอกว่า ตัวโตกว่าหมาแล้วกินเผ็ดยังไม่เป็นอีกทำไมน้องอนุบาลยังกินได้เลย เราได้ยินแต่ก็เงียบไงจะให้เราบอกว่ายังไงล่ะ แม่: คนทั้งบ้านทั้งเมืองเค้ายังกินได้เกิดมาไม่เคยพบไม่เคยเห็นคนไม่กินเผ็ด ตอนนั้นเราเดือดแล้วค่ะแต่เราเก็บอารมณ์ได้ดีเราก็เฉยต่อไป ทีนี้แม่ตบหัวเราเลยค่ะแล้วก็ตักแกงมาให้ตักแบบจะให้เราตายรึยังไงทั้งพริกทั้งกบ ตักมาแบบอื้อหือออแล้วไม่สนใจเลยนะว่าเราจะกินได้มั้ยแล้วขู่เลยนะบอกว่าถ้ากินไม่หมดจะยัดเข้าปากแล้วห้ามฟ้องพ่อด้วย. เราคิดเลยว่าบอกหนูดีๆก็ได้เราก็กินไปเหลือไว้แต่กบเเล้วกำลังจะลุกออกจากโต๊ะ นางเดินมากระชากเราเลยค่ะแล้วจับกบที่เรากินไม่หมดมายัดใส่ปากเราแบบบีบคอเราไว้ด้วยเราแทบอ้วกเลยอ่ะ
หลังจากตอนนั้นเราก็เข้าห้องนอนร้องไห้จนหลับไปเลยตื่นอีกทีก็ตีห้ากว่าๆ เวลาเราอยู่กับแม่โดยที่ไม่มีพ่อไม่มีวันไหนเลยนะที่เราจะไม่ร้องไห้คำพูดแต่ละครั้งของแม่ถ้าไม่มาเป็นเราจะไม่รู้ค่ะ บางทีเราเล่าให้คนอื่นฟังก็บอกว่าเราทำตัวไม่ดีเองเร่นี่เพลียสุดฤทธิ์ ดูสิขนาดจะออกไปเล่นกับเพื่อนก็โดนหาว่าไม่รักครอบครัวโอ๊ยยย ตอนนั้นก็ไม่ได้อะไรมากค่ะเราก็คิดว่าไม่มีอะไรเฉยๆ เค้าก็คงดุด่าตามปกติ ป.5 ป.6 ก็ปกติ แต่พอมาม.1 นี่สิเห้ออ ช่วงกำลังจะสอบเข้าโรงเรียนเราก็บอกพ่อว่าจะเรียนอยู่แถวบ้านนี่แหละ แต่พ่อไม่ยอมพ่อบอกว่าจะให้ไปเรียนโรงเรียนประจำจังหวัดเราก็ เอ้าโอเคการเรียนเราไม่ได้แย่ยังไงก็สอบติด แต่แม่เราไม่โอเคหลังจากที่พ่อออกไปซื้อของกับน้องสักพักนึง เรานั่งเล่นโทรศัพท์อยู่ในห้องนางก็เดินเข้ามาเปิดประตูอย่างแรง (เราขอพูดตามที่แม่พูดเลยนะเราแปลได้นิดหน่อยเพราะแม่เราชอบพูดกับเราเป็นภาษาอีสานแต่เราไม่พูดนะ พูดไม่เป็น)

แม่: อีสันดานควายไหนว่าจะเรียนอยู่ที่นี่ ไปอยู่ที่นั่นก็เอาตัวไม่รอดหรอก
เรา:ตกใจนิดหน่อยแล้วก็มองหน้านิดนึงแต่ไม่กล้าสบตานะเราก็นิ่งๆไปพักนึง
แม่: ค่าเทอมก็ตั้งแพงจะไปหาที่ไหนมาจ่าย ไม่ได้ทำงานเงินหาเองได้รึยัง กูจะไม่ไปรับส่งขึ้นรถนะถ้าพ่อไม่อยู่ก็กลับเอง กูจะคอยดูนะแล้วสมน้ำหน้า ถึงจะมีคนจ้างกี่ล้านบาทก็สอบไม่ติดอยู่ดี
เรา: ตอนนั้นเราน้ำตาคลอแล้วค่ะ คือเข้าใจมั้ยว่ามันเป็นโรงเรียนประจำจังหวัดต้องมีคนแย่งกันเข้าอยู่แล้วยังไม่รวมถึงพวกที่เส้นเข้าอีกนะสูญเสียความมั่นใจไปเลยค่ะตอนนั้น
*เราจะบอกว่าตั้งแต่ม.1 มาเราร้องไห้ทุกวันเลยค่ะ แค่เราจะร้องเฉพาะตอนอยู่ในห้องเรื่องแม่นี่แหละ

หลังจากนั้นมาเราจะอยู่ในห้องตลอดไม่ออกไปไหนเลยยกเว้นถ้าออกไปกลับบ้านมาก็จะเข้ามาในห้องเหมือนเดิมค่ะ ไม่ใช่เรื่องเรียนนะเรื่องนั้นเราทำใจได้แล้ว คืองี้เราเป็นประจำเดือนใช่มั้ยแล้วแม่ก็รู้ทีแรกเราไม่บอกแม่นะแต่พ่อเป็นคนบอก แม่นางก็ประกาศทั่วราชอาณาจักรเลยจ้าว่าเราเป็น ปจด.แล้ว ไม่ใช่แค่นั้นนางบอกว่าเดี๋ยวมันก็ได้ผัวแล้วล่ะ นิสัยอย่างมัน แค่เรื่องนี้แหละมันเป็นเรื่องสนุกสำหรับแม่แต่มันไม่สนุกสำหรับหนูไงแม่ไม่เข้าใจหรอให้หนูลองไปประกาศเรื่องแบบนี้กับคนอื่นๆดูมั้ยแม่ถึงจะเข้าใจความรู้สึก หนูไม่ใช่หุ่นยนต์นะที่จะไม่มีความรู้สึกอะไรเลย หนูด็เป็นคนนะหรือถ้าแม่เห็นเป็นอย่างอื่นก็แล้วแต่ เราคิดแค่นี้แกละแต่เราไม่กล้าพูด เรื่องนี้แหละเราถึงไ่ม่กล้าออกจากบ้านไปไหนมาไหนอีกเลย

ถึงวันสอบหลังจากทำข้อสอบทุกวิชาเสร็จเรามั่นใจ1,000,000% เลยว่าเราไม่ทำข้อสอบผิดเลยสักข้อสักวิชา พอถึงวันประกาศสอบเป็นไปอย่างที่คิดเราสอบได้ที่1 ของทุกระดับชั้นไม่มีข้อผิดเลย พี่ที่อยู่ม.4 ยังแพ้เรา รู้ได้ไงหรอพ่อเราพาไปติดต่อห้องวิชาการขอดูคะแนนทุกวิชา ความรู้สึกตอนนั้นเรานึกถึงคำพุดแม่ทุกอย่างแล้วแบบเยาะเย้ยในใจ แบบสะใจมาก เราดูค่าเทอมแล้ว 2,700 บาทมันเป็นโรงเรียนรัฐบาลไง แต่แถวบ้านเราเป็นโรงเรียนเอกชนค่าเทอมก็5,000 บาท เราก็พึ่งนึกออกนี่แหละนึกออกตอนที่เขียนกระทู้นี่แหละ เราคิดว่านะถ้าเรียนแถวบ้านคงเสียค่าเทอมเยอะกว่าอีก ยัง ยัง! เรื่องยังไม่จบ มันมีพวกแม่ค้าที่คิดอคติกับบ้านเรา(เดี๋ยวมีเรื่องกับแม่ค้าเรื่องอื่นแน่นอนติดไว้ก่อนขอเล่าเป็นลำดับเหตุการณ์) พวกนั้นประกาศทั่วราชอาณาจักรเลยจ้าว่าเราเส้นเข้า แล้วมีคนส่งข้อความเข้ามาถามเยอะมากจนเราแบบโอยยย ทนไม่ไหวแล้วอะ เราเลยโพสต์รูปผลคะแนน บัตรเข้าสอบ ใบสมัคร หลักฐานต่างๆ รวมถึงคะแนนที่เราไปขอดูเลย หละงจากนั้นทุกอย่างกลับมาสงบเหมือนเดิมค่ะ ไม่มีใครถามแล้ว ที่พวกเขากล่าวหาเราแบบนั้นเพราะว่าลูกเค้าด้อยกว่าเราค่ะ ซึ่งเป็นเพื่อนเราด้วย.......

ค้างไว้ก่อนนะคะ ถ้ามีคนอ่านจะมาต่อให้
ปล.1 อย่าว่ากันเลยนะคะเรื่องยังอีกยาว
ปล.2 แสดงความคิดเห็นด้วยนะคะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่