ทริปนี้พี่ชายจองแพคเกจไว้ 5 คนที่รีสอร์ทนี้ เพราะจะพาแม่และหลานไปเที่ยววันหยุด ที่พักนี้พี่ชายเคยไปาแล้วบอกว่าเงียบสงบดีก้อเลยตัดสินใจไปกันวันหยุดเสาอาทิดนี้เลย
กาญจนบุรีไปได้ 2 เส้นทาง ทางแรกคือเส้นประจำของผมคือออกบางใหญ่ วิ่งเส้นบางเลนไปเรื่อยๆจนถึงเส้นกำแพงแสน แล้วเลี้ยวเข้าแยกท่าเรือ ตรงเข้าเมือง กับอีกเส้นนึงคือออกเส้นบรมราชนนี วิ่งจนสุดแล้วออกขวาไปเส้นนครปฐม ตรงไปเรื่อยๆจนถึงแยกไปเส้นกาญเริ่มตั้งแต่ถนนแสงชูโต ตรงยาวเข้าเมือง ซึ่งทริปนี้พี่ชายเลือกเส้นที่สอง
ช่วงบ่ายแวะถ่ายรูปเล่นที่ถ้ำกระแซกับทางรถไฟสายมรณะก่อน
หลังจากตากแดดถ่ายรูปกันจนพอก้อขับรถต่อไปที่รีสอร์ท เนื่องจากผมเพิ่งเคยมาที่นี่ครั้งแรก ขอรบกวนอ้างอิงข้อมูลของที่พักจากเว๊บไซต์นะครับ
http://www.riverkwaijungleview.com/?lang=en
ริเวอร์แคว จังเกิ้ล วิว ห่างจากกรุงเทพประมาณ 230 กิโล โดยเราสามารถขับรถจากตัวเมืองกาญที่แยกแก่งเสี้ยนมาประมาณ 83 กิโล ( เส้นทางเดียวกับทางไปทองผาภูมิหรือสังขละบุรี ) อาจจะต้องพึ่งแผนที่หรือ GPS หน่อยนะครับ เพราะต้องสังเกตุป้ายทางเข้าดีๆ อันนี้แผนที่จากเว๊บไซต์ของที่พักครับ
จากปากทางเข้าขับเข้าไปอีกประมาณ 13 กิโล ก้อจะถึงที่พักครับ รีสอร์ทนี้จะมีสองเฟส คือ 1 กับ 2 เราจะพักกันที่เฟส 2 ครับ
** จากที่สอบถามพนักงาน เฟสแรกจะมีประมาณ 80+ ห้อง ส่วนเฟส 2 มีประมาณ 40+ ห้องครับ ตอนไปโซนของผมมีแต่คนไทย ส่วนเฟสแรกมีต่างชาติด้วยนะครับ
ที่จอดรถมีพอประมาณ แต่เราต้องเดินลงไปที่แพเองนะครับ
แผนกต้อนรับจะเป็นพื้นที่เปิดโล่ง เป็นพื้นที่ของห้องอาหาร ซึ่งเราจะทานอาหารเช้าและเย็น ( รวมอยู่ในแพคเกจค่าห้องเรียบร้อย ) บรรยากาศรอบๆที่พักครับ
หลังจากเช็คอินแล้วได้กุญแจก้อเดินไปห้องพักกันครับ เราได้ห้อง 21/1 และ 21/2 ครับ อันนี้ทางเดินไปห้อง
เปิดประตูเข้าไปจะเจอเตียงคู่ติดกัน
ในห้องจะมีแค่แอร์อย่างเดียว ( แอร์เย็นมากกกกก ) นะครับ จะไม่มีทีวีและตู้เย็น คือแบบโฮมสเตย์เน้นความสงบมาก ยังดีที่อินเตอร์เนทพอได้มั่งไม่ได้มั่ง
ห้องน้ำมีเครื่องทำน้ำร้อน สบู่แชมพู และสายชำระด้วย
วิวจากระเบียงห้องที่เปิดออกไป คือธรรมชาติมาก ริมน้ำ อากาศดี เหมาะแก่การพักผ่อนสุดๆ
จากนั้น 1730 ผมก้อไปล่องแพกัน ที่นี่จะมีเวลาล่องแพ 2-3 เวลาแล้วแต่จำนวนคน ซึ่งจะมีเรือมารับแล้วไปรวมกับคนที่พักอยู่เฟส1 ซึ่งเรือบรรทุกคนได้ 30-40 คน เรือจะพาล่องไปเรื่อยๆจากนั้นจะปล่อยให้ทุกคนลงน้ำ ( บนเรือมีเสื้อชูชีพให้ทุกคน ) จากนั้นทุกคนก้อจะลอยคอไหลเรื่อยๆมาตามน้ำ สนุกดีครับ เวลาล่องก้อจะมีพนักงานเป็นการ์ดอยู่ทั้งหัวขบวน กลางและท้ายขบวน คอยดูแลแขกทุกท่านแล้วคอยอธิบายว่าตรงไหนน้ำไม่ลึกอาจจะเจอเนินหิน หรือควรว่ายไปตรงไหนที่กระแสน้ำพัดเร็ว บางช่วงจะแอบมีคลื่นด้วย สนุกมากมาย หลานผมอายุ 7 ขวบลงเล่นด้วยพนักงานก้อจะดูอยู่ค่อนข้างใกล้ชิดมาก ใช้เวลาประมาณ 20 นาทีก้อจะลอยกลับมาถึงที่พักเฟส 1 จากนั้นก้อจะมีเรือหางยาวขับไปส่งที่ๆพักเลย
จากนั้นอาบน้ำเตรียมตัวออกมากินข้าวครับ อาหารเย็นที่นี่จะเป็นแบบบุฟเฟ่ต์ อาหารมีประมาณ 7-8 อย่าง รสชาดอร่อยดีครับ มีมาเติมเรื่อยๆ พนักงานดูแลดี...อ้อ ระหว่างทางเดินมีป้ายแจ้งเวลาอาหารเช้าและเย็นติดไว้ด้วยครับ แถมมีห้องคาราโอเกะด้วย
มาดูไลน์อาหารกันครับ ( ถ่ายจากมือถือแสงน้อยมาก อาจจะไม่ค่อยชัดนะครับ )
ผลไม้มีแตงโมกับสับปะรด
ผัดซีอิ๊วใส่ไข่
อันนี้เหมือนแกงป่าใส่ไก่ อร่อยดีครับ
ปลาทอดผัดพริกเผา
ไก่ทอด
ในหม้อเป็นมัสมั่นไก่ใส่มันเทศครับ ส่วนถาดไกลๆคือน้ำพริกกะปิพร้อมผักต่าง
จะมีน้ำเปล่า ชา กาแฟฟรีนะครับทั้งวัน ส่วนใครอยากจะกินน้ำอัดลม เบียร์ หรือน้ำแข็งก้อมีเคาท์เตอร์บริการขายนะครับ มีกระติกใหญ่ขายน้ำแข็ง กระติกละ 50 บาทเผื่อใครอยากกินน้ำเย็นหรือกินเบียร์
กินกันจนจุกครับ สองจานใหญ่ๆเลย 55 จากนั่นก้อกลับห้องเล่นมือถือ สามสี่ทุ่มก้อหลับครับ ที่นอนๆสบายมากๆ ตื่นเช้ามาหกโมง มากินอาหารเช้า มาดูว่ามีอะไรกันมั่ง
ขนมปังปิ้ง เนย แยม พร้อมครับ
ชา กาแฟ โอวัลติน ชงได้เองเต็มที่
ข้าวผัดไข่
ไข่ดาว
ไส้กรอกไก่ เนื้อเด้งมาก ไม่ใช่ไส้กรอกแป้งถูกๆเลย
ข้าวต้มไก่ก้อมีครับ
น้ำเขียวเฮลบลูบอยกับน้ำส้ม
จานนี้ของผมจัดเบราๆ เพราะยังจุกจากเมื่อคืนอยู่เลย
กินเสร็จก้องีบต่อแป๊บนึงจนประมาณ 10 โมง ก้อเช็คเอ้าท์ออก เพื่อขับไปกินมื้อเที่ยง + เย็นที่นครปฐม ระหว่างทางก้อจะมีขายพวกเมล่อน กล้วยต่างๆ เห็ดโคน เห็ดเผาะ หน่อไม้ มีโอกาสแวะชิมเมล่อนปั่นด้วยนะครับ อร่อยดี แต่ลืมถ่ายรูป อิอิ จากนั้นแวะซื้อของฝากนิดหน่อยแล้วยิงยาวไปนครปฐมเลย
มื้อสุดท้ายปิดทริปนี้ คือ กุ้งอบภูเขาไฟ ร้านจะอยู่ตรงข้ามโรงพยาบาลกรุงเทพเลย
หน้าร้านจะมีเมนูแนะนำ
เมนูของทางร้านนะครับ
น้ำจิ้มพร้อม แซ่บมั่กๆ
จานแรก หอยแครงเผาแบบไม่สุกมาก
ยำสามทัพ จะมีหอยนางรมทรงเครื่อง ปลาหมึกและกุ้ง อร่อยดี
ไข่เจียวกุ้งสับ
ทอดมันปลากราย
ผัดยอดมะระหวาน
สุดท้าย พระเอกของเราวันนี้ กุ้งอบภูเขาไฟไซส์กลาง 1 กิโล มีประมาณ 10-13 ตัว จะมาในถาด มีอะไรมาครอบไม่รู้ จุดไฟพอตื่นตาตื่นใจนิดหน่อย
กุ้งเนื้อแน่นๆกรุบกรอบ ดูกันหลายๆมุม
ปิดท้ายกับรูปนี้ละกันครับ 1 2 3 ...อ่ะ อ้ำ.....
มื้อนี้หมดประมาณพันห้าครับ กุ้งอบมีส่วนลด 10% ด้วยครับ จบทริปกันแบบตัวแตกเลย ขอสรุปทรอปคร่าวๆละกันครับ
ที่พัก : ริเวอร์แคว จังเกิ้ล วิว
ที่พักเป็นแพ สะอาด เงียบสงบ พนักงานดูแลดี น่ารักมากๆ เน้นความสงบเป็นส่วนตัว แต่ถ้าใครอยากได้แบบสะดวกสบาย ที่นี่อาจจะไม่เหมาะครับ แต่ถ้ามาพักผ่อน อยากได้ความสงบที่นี่ก้อเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกครับ
ร้านอาหาร : กุ้งอบภูเขาไฟ
อาหารโอเค ราคากลางๆ เมนูหลากหลาย พนักงานดูแลดี
ขอบคุณที่ติดตามครับ มีอะไรแนะนำได้เลย ^_^_
[CR] ทริปครอบครัว @ ริเวอร์แคว จังเกิ้ล วิว กาญจนบุรี ตบท้ายด้วยกุ้งอบภูเขาไฟ
กาญจนบุรีไปได้ 2 เส้นทาง ทางแรกคือเส้นประจำของผมคือออกบางใหญ่ วิ่งเส้นบางเลนไปเรื่อยๆจนถึงเส้นกำแพงแสน แล้วเลี้ยวเข้าแยกท่าเรือ ตรงเข้าเมือง กับอีกเส้นนึงคือออกเส้นบรมราชนนี วิ่งจนสุดแล้วออกขวาไปเส้นนครปฐม ตรงไปเรื่อยๆจนถึงแยกไปเส้นกาญเริ่มตั้งแต่ถนนแสงชูโต ตรงยาวเข้าเมือง ซึ่งทริปนี้พี่ชายเลือกเส้นที่สอง
ช่วงบ่ายแวะถ่ายรูปเล่นที่ถ้ำกระแซกับทางรถไฟสายมรณะก่อน
หลังจากตากแดดถ่ายรูปกันจนพอก้อขับรถต่อไปที่รีสอร์ท เนื่องจากผมเพิ่งเคยมาที่นี่ครั้งแรก ขอรบกวนอ้างอิงข้อมูลของที่พักจากเว๊บไซต์นะครับ
http://www.riverkwaijungleview.com/?lang=en
ริเวอร์แคว จังเกิ้ล วิว ห่างจากกรุงเทพประมาณ 230 กิโล โดยเราสามารถขับรถจากตัวเมืองกาญที่แยกแก่งเสี้ยนมาประมาณ 83 กิโล ( เส้นทางเดียวกับทางไปทองผาภูมิหรือสังขละบุรี ) อาจจะต้องพึ่งแผนที่หรือ GPS หน่อยนะครับ เพราะต้องสังเกตุป้ายทางเข้าดีๆ อันนี้แผนที่จากเว๊บไซต์ของที่พักครับ
จากปากทางเข้าขับเข้าไปอีกประมาณ 13 กิโล ก้อจะถึงที่พักครับ รีสอร์ทนี้จะมีสองเฟส คือ 1 กับ 2 เราจะพักกันที่เฟส 2 ครับ
** จากที่สอบถามพนักงาน เฟสแรกจะมีประมาณ 80+ ห้อง ส่วนเฟส 2 มีประมาณ 40+ ห้องครับ ตอนไปโซนของผมมีแต่คนไทย ส่วนเฟสแรกมีต่างชาติด้วยนะครับ
ที่จอดรถมีพอประมาณ แต่เราต้องเดินลงไปที่แพเองนะครับ
แผนกต้อนรับจะเป็นพื้นที่เปิดโล่ง เป็นพื้นที่ของห้องอาหาร ซึ่งเราจะทานอาหารเช้าและเย็น ( รวมอยู่ในแพคเกจค่าห้องเรียบร้อย ) บรรยากาศรอบๆที่พักครับ
หลังจากเช็คอินแล้วได้กุญแจก้อเดินไปห้องพักกันครับ เราได้ห้อง 21/1 และ 21/2 ครับ อันนี้ทางเดินไปห้อง
เปิดประตูเข้าไปจะเจอเตียงคู่ติดกัน
ในห้องจะมีแค่แอร์อย่างเดียว ( แอร์เย็นมากกกกก ) นะครับ จะไม่มีทีวีและตู้เย็น คือแบบโฮมสเตย์เน้นความสงบมาก ยังดีที่อินเตอร์เนทพอได้มั่งไม่ได้มั่ง
ห้องน้ำมีเครื่องทำน้ำร้อน สบู่แชมพู และสายชำระด้วย
วิวจากระเบียงห้องที่เปิดออกไป คือธรรมชาติมาก ริมน้ำ อากาศดี เหมาะแก่การพักผ่อนสุดๆ
จากนั้น 1730 ผมก้อไปล่องแพกัน ที่นี่จะมีเวลาล่องแพ 2-3 เวลาแล้วแต่จำนวนคน ซึ่งจะมีเรือมารับแล้วไปรวมกับคนที่พักอยู่เฟส1 ซึ่งเรือบรรทุกคนได้ 30-40 คน เรือจะพาล่องไปเรื่อยๆจากนั้นจะปล่อยให้ทุกคนลงน้ำ ( บนเรือมีเสื้อชูชีพให้ทุกคน ) จากนั้นทุกคนก้อจะลอยคอไหลเรื่อยๆมาตามน้ำ สนุกดีครับ เวลาล่องก้อจะมีพนักงานเป็นการ์ดอยู่ทั้งหัวขบวน กลางและท้ายขบวน คอยดูแลแขกทุกท่านแล้วคอยอธิบายว่าตรงไหนน้ำไม่ลึกอาจจะเจอเนินหิน หรือควรว่ายไปตรงไหนที่กระแสน้ำพัดเร็ว บางช่วงจะแอบมีคลื่นด้วย สนุกมากมาย หลานผมอายุ 7 ขวบลงเล่นด้วยพนักงานก้อจะดูอยู่ค่อนข้างใกล้ชิดมาก ใช้เวลาประมาณ 20 นาทีก้อจะลอยกลับมาถึงที่พักเฟส 1 จากนั้นก้อจะมีเรือหางยาวขับไปส่งที่ๆพักเลย
จากนั้นอาบน้ำเตรียมตัวออกมากินข้าวครับ อาหารเย็นที่นี่จะเป็นแบบบุฟเฟ่ต์ อาหารมีประมาณ 7-8 อย่าง รสชาดอร่อยดีครับ มีมาเติมเรื่อยๆ พนักงานดูแลดี...อ้อ ระหว่างทางเดินมีป้ายแจ้งเวลาอาหารเช้าและเย็นติดไว้ด้วยครับ แถมมีห้องคาราโอเกะด้วย
มาดูไลน์อาหารกันครับ ( ถ่ายจากมือถือแสงน้อยมาก อาจจะไม่ค่อยชัดนะครับ )
ผลไม้มีแตงโมกับสับปะรด
ผัดซีอิ๊วใส่ไข่
อันนี้เหมือนแกงป่าใส่ไก่ อร่อยดีครับ
ปลาทอดผัดพริกเผา
ไก่ทอด
ในหม้อเป็นมัสมั่นไก่ใส่มันเทศครับ ส่วนถาดไกลๆคือน้ำพริกกะปิพร้อมผักต่าง
จะมีน้ำเปล่า ชา กาแฟฟรีนะครับทั้งวัน ส่วนใครอยากจะกินน้ำอัดลม เบียร์ หรือน้ำแข็งก้อมีเคาท์เตอร์บริการขายนะครับ มีกระติกใหญ่ขายน้ำแข็ง กระติกละ 50 บาทเผื่อใครอยากกินน้ำเย็นหรือกินเบียร์
กินกันจนจุกครับ สองจานใหญ่ๆเลย 55 จากนั่นก้อกลับห้องเล่นมือถือ สามสี่ทุ่มก้อหลับครับ ที่นอนๆสบายมากๆ ตื่นเช้ามาหกโมง มากินอาหารเช้า มาดูว่ามีอะไรกันมั่ง
ขนมปังปิ้ง เนย แยม พร้อมครับ
ชา กาแฟ โอวัลติน ชงได้เองเต็มที่
ข้าวผัดไข่
ไข่ดาว
ไส้กรอกไก่ เนื้อเด้งมาก ไม่ใช่ไส้กรอกแป้งถูกๆเลย
ข้าวต้มไก่ก้อมีครับ
น้ำเขียวเฮลบลูบอยกับน้ำส้ม
จานนี้ของผมจัดเบราๆ เพราะยังจุกจากเมื่อคืนอยู่เลย
กินเสร็จก้องีบต่อแป๊บนึงจนประมาณ 10 โมง ก้อเช็คเอ้าท์ออก เพื่อขับไปกินมื้อเที่ยง + เย็นที่นครปฐม ระหว่างทางก้อจะมีขายพวกเมล่อน กล้วยต่างๆ เห็ดโคน เห็ดเผาะ หน่อไม้ มีโอกาสแวะชิมเมล่อนปั่นด้วยนะครับ อร่อยดี แต่ลืมถ่ายรูป อิอิ จากนั้นแวะซื้อของฝากนิดหน่อยแล้วยิงยาวไปนครปฐมเลย
มื้อสุดท้ายปิดทริปนี้ คือ กุ้งอบภูเขาไฟ ร้านจะอยู่ตรงข้ามโรงพยาบาลกรุงเทพเลย
หน้าร้านจะมีเมนูแนะนำ
เมนูของทางร้านนะครับ
น้ำจิ้มพร้อม แซ่บมั่กๆ
จานแรก หอยแครงเผาแบบไม่สุกมาก
ยำสามทัพ จะมีหอยนางรมทรงเครื่อง ปลาหมึกและกุ้ง อร่อยดี
ไข่เจียวกุ้งสับ
ทอดมันปลากราย
ผัดยอดมะระหวาน
สุดท้าย พระเอกของเราวันนี้ กุ้งอบภูเขาไฟไซส์กลาง 1 กิโล มีประมาณ 10-13 ตัว จะมาในถาด มีอะไรมาครอบไม่รู้ จุดไฟพอตื่นตาตื่นใจนิดหน่อย
กุ้งเนื้อแน่นๆกรุบกรอบ ดูกันหลายๆมุม
ปิดท้ายกับรูปนี้ละกันครับ 1 2 3 ...อ่ะ อ้ำ.....
มื้อนี้หมดประมาณพันห้าครับ กุ้งอบมีส่วนลด 10% ด้วยครับ จบทริปกันแบบตัวแตกเลย ขอสรุปทรอปคร่าวๆละกันครับ
ที่พัก : ริเวอร์แคว จังเกิ้ล วิว
ที่พักเป็นแพ สะอาด เงียบสงบ พนักงานดูแลดี น่ารักมากๆ เน้นความสงบเป็นส่วนตัว แต่ถ้าใครอยากได้แบบสะดวกสบาย ที่นี่อาจจะไม่เหมาะครับ แต่ถ้ามาพักผ่อน อยากได้ความสงบที่นี่ก้อเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกครับ
ร้านอาหาร : กุ้งอบภูเขาไฟ
อาหารโอเค ราคากลางๆ เมนูหลากหลาย พนักงานดูแลดี
ขอบคุณที่ติดตามครับ มีอะไรแนะนำได้เลย ^_^_