ขอเป็นทั้งกระทู้คำถามและกระทู้เตือนภัยไปพร้อมๆกันเลยนะคะ
คร่าวๆคือ เราได้ไปดูที่ NPA ของธนาคารกรุงไทย โครงการกฤษดานคร 27 ในเดือนมิถุนายนและถูกใจที่แปลงนึงในราคา 2,610,000 บาท
โดยเราได้ไปดูที่กับเจ้าหน้าที่สำนักงานเขตนครปฐม โดยเราแจ้งพี่เค้าไปตั้งแต่แรกว่าเงินสดของเราไม่พอ เค้าก็เลยบอกว่าจะให้เจ้าหน้าที่สินเชื่อติดต่อกลับมาในวันทำการ
ก่อนที่เจ้าหน้าที่สินเชื่อจะโทรกลับมา เราได้เช็คข้อมูลคร่าวๆจากใน pantip นี่แหละค่ะ จนเราเข้าใจแต่แรกแล้วว่า ที่ดินเปล่าธนาคารมักจะปล่อยกู้แค่ 50%และอัตราดอกเบี้ยค่อนข้างสูง เราจึงได้เช็คสวัสดิการบริษัทและรวบรวมเงินสดจนพบว่าเรามีเงินพอถึงยอด 50%
ในที่สุดเจ้าหน้าที่สินเชื่อก็ติดต่อกลับมา(สำนักงานเขตนครปฐม) โดยแจ้งว่า ถ้าทำการยื่นกู้โดยการทำประกันชีวิตด้วย เราจะได้รับอัตราดอกเบี้ย 0% ในปีแรกเพราะที่ผืนนี้กำลังทำ promotion อยู่แต่ว่าคงกู้ได้แค่ 50% พอได้ยินอย่างงั้นเราก็เลยตัดสินใจซื้อทันที (ดอกถูกต้องรีบคว้าอิๆ) จึงโทรกลับไปแจ้งกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายขายสินทรัพย์ (สำนักงานเขตนครปฐม) ซึ่งได้ส่งเรื่องต่อไปยังสาขาบิ๊กซีนครปฐมเนื่องจากพิจารณาแล้วว่าสะดวกกับลูกค้ามากกว่า และเราได้นัดวันจ่ายเงินจองกับทางสาขาบิ๊กซีนครปฐม โดยเจ้าหน้าที่สินเชื่อสำนักงานเขตนครปฐมแจ้งว่าอัตราดอกเบี้ยที่แน่นอนจะแจ้งให้ทราบโดยสาขาบิ๊กซีนครปฐมค่ะ
※promotion น่าจะคล้ายกับข่าวนี้ค่ะ
http://www.ryt9.com/s/prg/2ต486139
Timeline ก็ตามด้านล่างเลยค่ะ
18/06/2559
1) เจ้าหน้าที่จากสาขาบิ๊กซีนครปฐม แจ้งว่าถ้าเราทำประกัน จะกู้ได้ในอัตราดอกเบี้ยนี้

2) ตกลงวางเงินประกันการซื้อทรัพย์สินพร้อมขาย 50,000 บาท (จริงๆเงินประกันการซื้อทรัพย์คือ 10% แต่ให้วางงวดแรกไว้ก่อนจำนวนเท่านี้ ส่วนที่เหลือต้องจ่ายภายใน 10 วันค่ะ)
โดยเราได้ตกลงยื่นกู้วันนั้นเลย แต่ว่ามีเอกสารในส่วนของคู่สมรสไม่ครบถ้วนอยู่ เราก็เลยรับปากกับเจ้าหน้าที่ธนาคารว่าเราจะส่งไปให้ในวันที่ 20/06
และเนื่องจากเราจำได้ว่า เราต้องวางเงินประกันทั้งหมดภายใน 10 วันเราจึงไปหาเจ้าหน้าที่ที่ธนาคารสาขาในวันที่26/06 แต่เผอิญว่าเค้าออกไปทานข้าวข้างนอก จึงได้แต่ติดต่อกันทางโทรศัพท์ โดยเค้าแจ้งว่าภายใน 10 วันนี่คือหลังจากการอนุมัติขายที่ ซึ่งทางธนาคารยังไม่ได้อนุมัติ เพราะฉะนั้นยังไม่ต้องรีบจ่ายค่ะ
(สังเกตได้ว่าทางธนาคารไม่ได้แจ้งว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงดอกเบี้ย)
27/06/2559
เจ้าหน้าที่ของธนาคารกรุงไทยสาขาบิ๊กซีนครปฐมได้โทรมาแจ้งให้ทำการโอนเงินประกันซื้อทรัพย์สินเพิ่มเติมด่วน ภายในวันที่ 28/06/2559 ดังข้อความจากมือถือด้านล่าง

(สังเกตได้ว่าทางธนาคารไม่ได้แจ้งอะไรเกี่ยวกับดอกเบี้ย...อีกแล้ว)...และเราก็รีบโอนให้เค้าไปจ้าาาาาาาาา
จริงๆเราไม่ได้กู้เพื่อซื้ออสังหาริมทรัพย์หนแรก เราก็เลยรู้อยู่แล้วว่า จะต้องมีการแจ้งผลการกู้ กับอัตราดอกเบี้ยที่ได้รับอนุมัติ แต่เนื่องจากทางเจ้าหน้าที่ไม่ได้พูดอะไร เราก็เลยคิด(เอาเอง)ว่าอัตราดอกเบี้ยกับวงเงินที่เสนอเรามา ผ่าน
(อ้างอิง link ของธนาคารกรุงไทยสำหรับเวลาทำการ 7 วันในการอนุมัติเงินกู้:
http://www.ktb.co.th/ktb/th/product-detail-government-officer.aspx?product=qnaG1fYAHrH9m7nQTE2vLw%3D%3D&type=s
(อ้างอิง link ของธนาคารกรุงไทย ว่าจะมีการแจ้งผลอนุมัติสินเชื่อให้แก่ลูกค้า:
http://www.ktb.co.th/ktb/th/product-detail.aspx?product=72%2b7HWUEX1TbW5IO2nxMIw%3d%3d&type=s
สุดท้ายธนาคารเงียบหายไปเกือบ 2 เดือนและโทรกลับมา(15/08) แจ้งว่าสินเชื่ออนุมัติแล้ว ให้รีบโอนที่ดิน (ยังคงไม่มีการแจ้งเรื่องอัตราดอกเบี้ย ไอ้เราก็โง่นึกว่าไม่แจ้งเพราะว่าเป็นไปตามที่ตกลงกันไว้)
ในที่สุดเรานัดโอนที่ในวันที่ 26/08 โดยที่ในวันที่ 22/08 เรายังคงไม่ได้รับข้อมูลเกี่ยวกับเอกสารและเงินที่ต้องเตรียมไปในวันโอน เราจึงตามจิกรัวๆ จนเจ้าหน้าที่เค้าส่งข้อมูลให้...และยังคงไม่แจ้งอัตราดอกเบี้ยจ้า

แต่สุดท้ายน้องเจ้าหน้าที่คนนั้นก็โทรกลับมาหาเราอีกครั้งเพื่อถามว่า อัตราดอกเบี้ยที่อนุมัติกับอัตราดอกเบี้ยที่เสนอเรามาตอนแรกไม่ตรงกันเราทราบรึยัง ซึ่งเราก็ตอบไปว่าไม่ทราบ น้องก็เลยบอกว่าจะให้หัวหน้าโทรแจ้งอีกที
23/08/2559
หัวหน้าของน้องเค้าแจ้งอัตราดอกเบี้ยเรามาตามนี้ค่ะ
ปีที่1: MLR-1%, ปีที่ 2: MLR-0.5%, ปีที่ 3 เป็นต้นไป MLR ซึ่งแตกต่างจากที่ได้รับการเสนอครั้งแรกเมื่อ 2 เดือนก่อนหน้านี้ฟ้ากับเหวนะคะ
คือ...เราตกใจมาก แล้วถามเค้าว่าทำไมเค้าไม่รีบแจ้ง เค้าก็ตอบว่าก็ยังอยู่ในกระบวนการต่อรองกับสาขาใหญ่ ตอนแรกที่อนุมัติมามันสูงกว่านี้อีก บราๆๆๆมากมาย... เราก็เลยถามไปว่าตั้งแต่รู้ว่าอัตราดอกเบี้ยที่เสนอเรามาไม่ได้รับอนุมัติทำไมไม่แจ้งเรา เค้าก็ตอบมาประมาณว่า ก็ยังไงเราก็ต้องกู้เงินก้อนนี้อยู่แล้วนี่เค้าช่วยเราเต็มที่แล้ว เราก็เลยตอบไปว่า ถ้าเรารู้ว่าดอกเบี้ยไม่ได้ตามที่เสนอเรามาตั้งแต่แรกภายในกำหนดที่ธนาคารแจ้งไว้ในเวปไซด์ เราก็คงไม่จ่าย 211,000 แต่แรกแล้ว เค้าก็เงียบๆไปค่ะ
เราก็เลยขอคืนเงิน 211,000 บาท เพราะเราคิดว่าเป็นความผิดธนาคารที่ไม่ได้แจ้งผลการอนุมัติสินเชื่อมาให้ลูกค้าทราบ ซึ่งทางธนาคารแจ้งว่าไม่มีนโยบายคืนเงินค่ะ!!!!!!
(หลังจากเค้าเช็คข้อมูลแล้ว เค้าพยายามบอกเราว่าเค้ายื่นกู้ให้เราวันที่ 27/08 ค่ะ...ดองอยู่อาทิตย์นึงพอดี เราก็เลยบอกไปว่า คุณจะส่งเอกสารวันไหนมันเรื่องของคุณ แต่ดิฉันส่งเอกสารครบวันที่ 20 เพราะฉะนั้นถ้าคุณส่งเอกสารทันที วันแจ้งผลอนุมัติจะต้องตรงกับวันโอนเงินพอดี ถ้ารู้ว่าดอกฯสูงขนาดนี้ก็ไม่โง่โอนหรอกค่ะ)
เราก็เลยโวยวายว่านี่มันความผิดธนาคาร เราจะฟ้อง สคบ. เราจะฟ้องแบงค์ชาติ...เค้าก็เลยอึ้งๆแล้วบอกว่าให้ลองทำเรื่องขอคืนเงินประกันมาก็แล้วกัน (ส่งเรื่องไปเมื่อวันที่ 23/08)
สรุปคือ เมื่อวันพฤหัส (29/09)
ธนาคารโทรมาบอกว่าไม่คืนเงินค่ะ แต่จะยืดวันโอนให้จนถึงเดือน พ.ย. ให้เราไปหาเงินกู้ที่อื่นเอา และตามเดิม ไม่มีเอกสารอะไรมาให้เราทั้งนั้น
สิ่งที่เราดำเนินการไปแล้วทั้งหมด อยู่ใน comment ด้านล่างนะคะ (แจ้งทั้งศูนย์ร้องเรียนธนาคารกรุงไทย, สคบ. และ แบงค์ชาติแล้ว) ตรงนี้เราจะขอสรุปคำถามเลย
1) ถามตรงๆเรามีโอกาสได้เงินคืนไม๊คะ ????

คือเราเขียนไปในจดหมายร้องเรียนที่ส่งธนาคารกรุงไทยว่า เราจ่ายเงินทั้งสองงวดไปเพราะเราเข้าใจว่าดอกเบี้ยปีแรก 0% ถ้าเรารู้แต่แรกว่าดอกเบี้ยสูงขนาดนี้ เราคงตัดสินใจไม่เอา หรือถึงจ่าย 50,000 แล้วก็คงทิ้งเพื่อไม่ให้เสีย 211,000 อ่ะค่ะ..
แต่ดูเหมือนเค้าไม่แคร์นะ

2) เราไม่รู้ว่า สคบ. กับแบงค์ชาติจะว่าไง แต่เราอยากเตรียมแผนสำรองเอาไว้ เราจะฟ้องยังไงได้ไม๊คะ (ขอแบบค่าใช้จ่ายน้อยสุดนะคะ)
3) เราว่าเราไม่ได้มโนเอาเอง...เราว่าเราไม่ผิดนะ

ช่วยกันแชร์ ช่วยกันโหวตทีเถอะค่ะ อยากได้เงินคืน
เหมือนจะโดนธนาคารกรุงไทยโกงดอกเบี้ย...เราจะทำยังไงได้บ้าง???
คร่าวๆคือ เราได้ไปดูที่ NPA ของธนาคารกรุงไทย โครงการกฤษดานคร 27 ในเดือนมิถุนายนและถูกใจที่แปลงนึงในราคา 2,610,000 บาท
โดยเราได้ไปดูที่กับเจ้าหน้าที่สำนักงานเขตนครปฐม โดยเราแจ้งพี่เค้าไปตั้งแต่แรกว่าเงินสดของเราไม่พอ เค้าก็เลยบอกว่าจะให้เจ้าหน้าที่สินเชื่อติดต่อกลับมาในวันทำการ
ก่อนที่เจ้าหน้าที่สินเชื่อจะโทรกลับมา เราได้เช็คข้อมูลคร่าวๆจากใน pantip นี่แหละค่ะ จนเราเข้าใจแต่แรกแล้วว่า ที่ดินเปล่าธนาคารมักจะปล่อยกู้แค่ 50%และอัตราดอกเบี้ยค่อนข้างสูง เราจึงได้เช็คสวัสดิการบริษัทและรวบรวมเงินสดจนพบว่าเรามีเงินพอถึงยอด 50%
ในที่สุดเจ้าหน้าที่สินเชื่อก็ติดต่อกลับมา(สำนักงานเขตนครปฐม) โดยแจ้งว่า ถ้าทำการยื่นกู้โดยการทำประกันชีวิตด้วย เราจะได้รับอัตราดอกเบี้ย 0% ในปีแรกเพราะที่ผืนนี้กำลังทำ promotion อยู่แต่ว่าคงกู้ได้แค่ 50% พอได้ยินอย่างงั้นเราก็เลยตัดสินใจซื้อทันที (ดอกถูกต้องรีบคว้าอิๆ) จึงโทรกลับไปแจ้งกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายขายสินทรัพย์ (สำนักงานเขตนครปฐม) ซึ่งได้ส่งเรื่องต่อไปยังสาขาบิ๊กซีนครปฐมเนื่องจากพิจารณาแล้วว่าสะดวกกับลูกค้ามากกว่า และเราได้นัดวันจ่ายเงินจองกับทางสาขาบิ๊กซีนครปฐม โดยเจ้าหน้าที่สินเชื่อสำนักงานเขตนครปฐมแจ้งว่าอัตราดอกเบี้ยที่แน่นอนจะแจ้งให้ทราบโดยสาขาบิ๊กซีนครปฐมค่ะ
※promotion น่าจะคล้ายกับข่าวนี้ค่ะ http://www.ryt9.com/s/prg/2ต486139
Timeline ก็ตามด้านล่างเลยค่ะ
18/06/2559
1) เจ้าหน้าที่จากสาขาบิ๊กซีนครปฐม แจ้งว่าถ้าเราทำประกัน จะกู้ได้ในอัตราดอกเบี้ยนี้
2) ตกลงวางเงินประกันการซื้อทรัพย์สินพร้อมขาย 50,000 บาท (จริงๆเงินประกันการซื้อทรัพย์คือ 10% แต่ให้วางงวดแรกไว้ก่อนจำนวนเท่านี้ ส่วนที่เหลือต้องจ่ายภายใน 10 วันค่ะ)
โดยเราได้ตกลงยื่นกู้วันนั้นเลย แต่ว่ามีเอกสารในส่วนของคู่สมรสไม่ครบถ้วนอยู่ เราก็เลยรับปากกับเจ้าหน้าที่ธนาคารว่าเราจะส่งไปให้ในวันที่ 20/06
และเนื่องจากเราจำได้ว่า เราต้องวางเงินประกันทั้งหมดภายใน 10 วันเราจึงไปหาเจ้าหน้าที่ที่ธนาคารสาขาในวันที่26/06 แต่เผอิญว่าเค้าออกไปทานข้าวข้างนอก จึงได้แต่ติดต่อกันทางโทรศัพท์ โดยเค้าแจ้งว่าภายใน 10 วันนี่คือหลังจากการอนุมัติขายที่ ซึ่งทางธนาคารยังไม่ได้อนุมัติ เพราะฉะนั้นยังไม่ต้องรีบจ่ายค่ะ
(สังเกตได้ว่าทางธนาคารไม่ได้แจ้งว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงดอกเบี้ย)
27/06/2559
เจ้าหน้าที่ของธนาคารกรุงไทยสาขาบิ๊กซีนครปฐมได้โทรมาแจ้งให้ทำการโอนเงินประกันซื้อทรัพย์สินเพิ่มเติมด่วน ภายในวันที่ 28/06/2559 ดังข้อความจากมือถือด้านล่าง
(สังเกตได้ว่าทางธนาคารไม่ได้แจ้งอะไรเกี่ยวกับดอกเบี้ย...อีกแล้ว)...และเราก็รีบโอนให้เค้าไปจ้าาาาาาาาา
จริงๆเราไม่ได้กู้เพื่อซื้ออสังหาริมทรัพย์หนแรก เราก็เลยรู้อยู่แล้วว่า จะต้องมีการแจ้งผลการกู้ กับอัตราดอกเบี้ยที่ได้รับอนุมัติ แต่เนื่องจากทางเจ้าหน้าที่ไม่ได้พูดอะไร เราก็เลยคิด(เอาเอง)ว่าอัตราดอกเบี้ยกับวงเงินที่เสนอเรามา ผ่าน
(อ้างอิง link ของธนาคารกรุงไทยสำหรับเวลาทำการ 7 วันในการอนุมัติเงินกู้: http://www.ktb.co.th/ktb/th/product-detail-government-officer.aspx?product=qnaG1fYAHrH9m7nQTE2vLw%3D%3D&type=s
(อ้างอิง link ของธนาคารกรุงไทย ว่าจะมีการแจ้งผลอนุมัติสินเชื่อให้แก่ลูกค้า: http://www.ktb.co.th/ktb/th/product-detail.aspx?product=72%2b7HWUEX1TbW5IO2nxMIw%3d%3d&type=s
สุดท้ายธนาคารเงียบหายไปเกือบ 2 เดือนและโทรกลับมา(15/08) แจ้งว่าสินเชื่ออนุมัติแล้ว ให้รีบโอนที่ดิน (ยังคงไม่มีการแจ้งเรื่องอัตราดอกเบี้ย ไอ้เราก็โง่นึกว่าไม่แจ้งเพราะว่าเป็นไปตามที่ตกลงกันไว้)
ในที่สุดเรานัดโอนที่ในวันที่ 26/08 โดยที่ในวันที่ 22/08 เรายังคงไม่ได้รับข้อมูลเกี่ยวกับเอกสารและเงินที่ต้องเตรียมไปในวันโอน เราจึงตามจิกรัวๆ จนเจ้าหน้าที่เค้าส่งข้อมูลให้...และยังคงไม่แจ้งอัตราดอกเบี้ยจ้า
แต่สุดท้ายน้องเจ้าหน้าที่คนนั้นก็โทรกลับมาหาเราอีกครั้งเพื่อถามว่า อัตราดอกเบี้ยที่อนุมัติกับอัตราดอกเบี้ยที่เสนอเรามาตอนแรกไม่ตรงกันเราทราบรึยัง ซึ่งเราก็ตอบไปว่าไม่ทราบ น้องก็เลยบอกว่าจะให้หัวหน้าโทรแจ้งอีกที
23/08/2559
หัวหน้าของน้องเค้าแจ้งอัตราดอกเบี้ยเรามาตามนี้ค่ะ
ปีที่1: MLR-1%, ปีที่ 2: MLR-0.5%, ปีที่ 3 เป็นต้นไป MLR ซึ่งแตกต่างจากที่ได้รับการเสนอครั้งแรกเมื่อ 2 เดือนก่อนหน้านี้ฟ้ากับเหวนะคะ
คือ...เราตกใจมาก แล้วถามเค้าว่าทำไมเค้าไม่รีบแจ้ง เค้าก็ตอบว่าก็ยังอยู่ในกระบวนการต่อรองกับสาขาใหญ่ ตอนแรกที่อนุมัติมามันสูงกว่านี้อีก บราๆๆๆมากมาย... เราก็เลยถามไปว่าตั้งแต่รู้ว่าอัตราดอกเบี้ยที่เสนอเรามาไม่ได้รับอนุมัติทำไมไม่แจ้งเรา เค้าก็ตอบมาประมาณว่า ก็ยังไงเราก็ต้องกู้เงินก้อนนี้อยู่แล้วนี่เค้าช่วยเราเต็มที่แล้ว เราก็เลยตอบไปว่า ถ้าเรารู้ว่าดอกเบี้ยไม่ได้ตามที่เสนอเรามาตั้งแต่แรกภายในกำหนดที่ธนาคารแจ้งไว้ในเวปไซด์ เราก็คงไม่จ่าย 211,000 แต่แรกแล้ว เค้าก็เงียบๆไปค่ะ
เราก็เลยขอคืนเงิน 211,000 บาท เพราะเราคิดว่าเป็นความผิดธนาคารที่ไม่ได้แจ้งผลการอนุมัติสินเชื่อมาให้ลูกค้าทราบ ซึ่งทางธนาคารแจ้งว่าไม่มีนโยบายคืนเงินค่ะ!!!!!!
(หลังจากเค้าเช็คข้อมูลแล้ว เค้าพยายามบอกเราว่าเค้ายื่นกู้ให้เราวันที่ 27/08 ค่ะ...ดองอยู่อาทิตย์นึงพอดี เราก็เลยบอกไปว่า คุณจะส่งเอกสารวันไหนมันเรื่องของคุณ แต่ดิฉันส่งเอกสารครบวันที่ 20 เพราะฉะนั้นถ้าคุณส่งเอกสารทันที วันแจ้งผลอนุมัติจะต้องตรงกับวันโอนเงินพอดี ถ้ารู้ว่าดอกฯสูงขนาดนี้ก็ไม่โง่โอนหรอกค่ะ)
เราก็เลยโวยวายว่านี่มันความผิดธนาคาร เราจะฟ้อง สคบ. เราจะฟ้องแบงค์ชาติ...เค้าก็เลยอึ้งๆแล้วบอกว่าให้ลองทำเรื่องขอคืนเงินประกันมาก็แล้วกัน (ส่งเรื่องไปเมื่อวันที่ 23/08)
สรุปคือ เมื่อวันพฤหัส (29/09) ธนาคารโทรมาบอกว่าไม่คืนเงินค่ะ แต่จะยืดวันโอนให้จนถึงเดือน พ.ย. ให้เราไปหาเงินกู้ที่อื่นเอา และตามเดิม ไม่มีเอกสารอะไรมาให้เราทั้งนั้น
สิ่งที่เราดำเนินการไปแล้วทั้งหมด อยู่ใน comment ด้านล่างนะคะ (แจ้งทั้งศูนย์ร้องเรียนธนาคารกรุงไทย, สคบ. และ แบงค์ชาติแล้ว) ตรงนี้เราจะขอสรุปคำถามเลย
1) ถามตรงๆเรามีโอกาสได้เงินคืนไม๊คะ ????
คือเราเขียนไปในจดหมายร้องเรียนที่ส่งธนาคารกรุงไทยว่า เราจ่ายเงินทั้งสองงวดไปเพราะเราเข้าใจว่าดอกเบี้ยปีแรก 0% ถ้าเรารู้แต่แรกว่าดอกเบี้ยสูงขนาดนี้ เราคงตัดสินใจไม่เอา หรือถึงจ่าย 50,000 แล้วก็คงทิ้งเพื่อไม่ให้เสีย 211,000 อ่ะค่ะ..
แต่ดูเหมือนเค้าไม่แคร์นะ
2) เราไม่รู้ว่า สคบ. กับแบงค์ชาติจะว่าไง แต่เราอยากเตรียมแผนสำรองเอาไว้ เราจะฟ้องยังไงได้ไม๊คะ (ขอแบบค่าใช้จ่ายน้อยสุดนะคะ)
3) เราว่าเราไม่ได้มโนเอาเอง...เราว่าเราไม่ผิดนะ
ช่วยกันแชร์ ช่วยกันโหวตทีเถอะค่ะ อยากได้เงินคืน