จากโพลนี้...มาลารินยิ่งมั่นใจว่าประชาชนของเรา..มีความคิดวิเคราะห์การเมืองได้ถูกต้องมากขึ้นทุกทีค่ะ รับรู้การกระทำที่ถูดผิด แยกแยะได้ ไม่หลงไปกับคำตำหนิติเตียนของผู้ฉวยโอกาสทั้งหลาย
อ่านโพลนี้ ทำให้คิดถึง...
สำนวนไทยที่ว่า....ระฆังดียิ่งดียิ่งดัง....
ดูผลสำรวจค่ะ....
โพลไม่สนหลานนายกฯ
ดร.นพดล กรรณิกา ประธานชมรมขับเคลื่อนวิชาการเพื่อวิจัยความสุขชุมชน สำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) เปิดผลสำรวจเรื่อง เสียงของ คนคอการเมืองต่อข่าวทุจริตจำนำข้าว เปรียบเทียบข่าวคนใกล้ชิดนายกรัฐมนตรี กรณีศึกษาประชาชนทุกสาขาอาชีพจากทั่วประเทศจำนวน 1,342 คน ระหว่างวันที่ 25-29 กันยายน ที่ผ่านมา พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 64.8 ติดตามข่าวสารการเมืองเป็นประจำทุกวันหรือเกือบทุกวัน ร้อยละ 29.4 ระบุอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง และร้อยละ 5.8 ระบุบางสัปดาห์ไม่ได้ติดตาม และไม่ได้ติดตามเลย
และเมื่อถามถึงความสนใจต่อข่าว นักการเมือง พัวพันคดีทุจริตจำนำข้าว พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 73.6 สนใจ เพราะเป็นเรื่องสำคัญต่อผลประโยชน์ของเกษตรกร เป็นปัญหาสำคัญของประเทศและประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศ เป็นปัญหาของผลประโยชน์ชาติ ต้องการให้จัดการขั้นเด็ดขาด ขจัดปัญหาทุจริตคอร์รัปชันให้ถึงต้นตอให้หมดสิ้นไปจากสังคมไทย ต้องการให้เห็นเป็นเยี่ยงอย่างแก่นักการเมืองรุ่นใหม่ สร้างมาตรฐานการเมืองที่สูงขึ้นให้กับการเมืองการปกครองของไทย ต้องการเห็นคนผิดได้รับการลงโทษ ในขณะที่ร้อยละ 26.4 ไม่สนใจ เพราะ เป็นเรื่องปกติธรรมดาในการเมือง ปัญหาทุจริตคอร์รัปชันเกิดขึ้นทั่วไป เป็นการแทรกแซงกระบวนการตรวจสอบ และเป็นเรื่องการเมือง เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม เมื่อถามถึงความสนใจต่อข่าว คนใกล้ชิดนายกรัฐมนตรีเปิดบริษัทในค่ายทหาร พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 62.9 ไม่สนใจ เพราะไม่เกี่ยวกับปัญหาของประเทศชาติ เป็นเรื่องส่วนตัว ไม่ใช่ปัญหาส่วนรวม เป็นความไม่เหมาะสมเฉพาะตัวบุคคล และเป็นเกมการเมืองทำลายความน่าเชื่อถือของนายกรัฐมนตรี เป็นต้น ในขณะที่ร้อยละ 37.1 สนใจ เพราะ เป็นบุคคลใกล้ชิดนายกรัฐมนตรี สื่อให้ความสนใจ เป็นสัญญาณเตือนคนใกล้ชิดนายกรัฐมนตรี คนอื่นๆ
ที่น่าสนใจคือ เมื่อสอบถามถึงข่าวคดีโกงจำนำข้าว กระทบต่อความน่าเชื่อถือศรัทธาของประชาชนต่อพรรคการเมืองที่เกี่ยวข้องหรือไม่ ผลสำรวจพบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 79.4 ระบุกระทบ ในขณะที่ร้อยละ 20.6 ระบุไม่กระทบ และเมื่อสอบถามถึงกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่ปกป้องคนใกล้ชิดและเปิดโอกาสให้มีการตรวจสอบอย่างตรงไปตรงมา พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 82.4 เห็นด้วย ในขณะที่ร้อยละ 17.6 ไม่เห็นด้วย และเมื่อสอบถามว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยังเหมาะสมในการเป็นนายกรัฐมนตรีต่อไปหรือไม่ ผลสำรวจพบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 80.6 ระบุยังเหมาะสมอยู่ ในขณะที่ร้อยละ 9.2 ไม่เหมาะสม และร้อยละ 10.2 ไม่มีความเห็น
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://www.thaipost.net/?q=%E0%B8%AD%E0%B8%B6%E0%B9%89%E0%B8%87%E0%B9%82%E0%B8%9E%E0%B8%A5%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%B4%E0%B8%99%E2%80%98%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A2%E0%B8%B8%E0%B8%97%E0%B8%98%E0%B9%8C%E2%80%99
((มาลาริน))ความศรัทธายังเปี่ยมล้นในใจประชาชน..ลุงตู่ยังเหมาะสมตำแหน่งนายกฯค่ะ ศรัทธานี้หนักแน่นดังภูผาต้านแรงพายุโหมใส่
อ่านโพลนี้ ทำให้คิดถึง...
สำนวนไทยที่ว่า....ระฆังดียิ่งดียิ่งดัง....
ดูผลสำรวจค่ะ....
โพลไม่สนหลานนายกฯ
ดร.นพดล กรรณิกา ประธานชมรมขับเคลื่อนวิชาการเพื่อวิจัยความสุขชุมชน สำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) เปิดผลสำรวจเรื่อง เสียงของ คนคอการเมืองต่อข่าวทุจริตจำนำข้าว เปรียบเทียบข่าวคนใกล้ชิดนายกรัฐมนตรี กรณีศึกษาประชาชนทุกสาขาอาชีพจากทั่วประเทศจำนวน 1,342 คน ระหว่างวันที่ 25-29 กันยายน ที่ผ่านมา พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 64.8 ติดตามข่าวสารการเมืองเป็นประจำทุกวันหรือเกือบทุกวัน ร้อยละ 29.4 ระบุอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง และร้อยละ 5.8 ระบุบางสัปดาห์ไม่ได้ติดตาม และไม่ได้ติดตามเลย
และเมื่อถามถึงความสนใจต่อข่าว นักการเมือง พัวพันคดีทุจริตจำนำข้าว พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 73.6 สนใจ เพราะเป็นเรื่องสำคัญต่อผลประโยชน์ของเกษตรกร เป็นปัญหาสำคัญของประเทศและประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศ เป็นปัญหาของผลประโยชน์ชาติ ต้องการให้จัดการขั้นเด็ดขาด ขจัดปัญหาทุจริตคอร์รัปชันให้ถึงต้นตอให้หมดสิ้นไปจากสังคมไทย ต้องการให้เห็นเป็นเยี่ยงอย่างแก่นักการเมืองรุ่นใหม่ สร้างมาตรฐานการเมืองที่สูงขึ้นให้กับการเมืองการปกครองของไทย ต้องการเห็นคนผิดได้รับการลงโทษ ในขณะที่ร้อยละ 26.4 ไม่สนใจ เพราะ เป็นเรื่องปกติธรรมดาในการเมือง ปัญหาทุจริตคอร์รัปชันเกิดขึ้นทั่วไป เป็นการแทรกแซงกระบวนการตรวจสอบ และเป็นเรื่องการเมือง เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม เมื่อถามถึงความสนใจต่อข่าว คนใกล้ชิดนายกรัฐมนตรีเปิดบริษัทในค่ายทหาร พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 62.9 ไม่สนใจ เพราะไม่เกี่ยวกับปัญหาของประเทศชาติ เป็นเรื่องส่วนตัว ไม่ใช่ปัญหาส่วนรวม เป็นความไม่เหมาะสมเฉพาะตัวบุคคล และเป็นเกมการเมืองทำลายความน่าเชื่อถือของนายกรัฐมนตรี เป็นต้น ในขณะที่ร้อยละ 37.1 สนใจ เพราะ เป็นบุคคลใกล้ชิดนายกรัฐมนตรี สื่อให้ความสนใจ เป็นสัญญาณเตือนคนใกล้ชิดนายกรัฐมนตรี คนอื่นๆ
ที่น่าสนใจคือ เมื่อสอบถามถึงข่าวคดีโกงจำนำข้าว กระทบต่อความน่าเชื่อถือศรัทธาของประชาชนต่อพรรคการเมืองที่เกี่ยวข้องหรือไม่ ผลสำรวจพบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 79.4 ระบุกระทบ ในขณะที่ร้อยละ 20.6 ระบุไม่กระทบ และเมื่อสอบถามถึงกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่ปกป้องคนใกล้ชิดและเปิดโอกาสให้มีการตรวจสอบอย่างตรงไปตรงมา พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 82.4 เห็นด้วย ในขณะที่ร้อยละ 17.6 ไม่เห็นด้วย และเมื่อสอบถามว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยังเหมาะสมในการเป็นนายกรัฐมนตรีต่อไปหรือไม่ ผลสำรวจพบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 80.6 ระบุยังเหมาะสมอยู่ ในขณะที่ร้อยละ 9.2 ไม่เหมาะสม และร้อยละ 10.2 ไม่มีความเห็น
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้