ขออภัยมีเรื่องสงสัยอึกแล้ว การปฏิบัติจนละวางอัตตาได้นี่ เคยนึกว่าเทียบได้กับทางคริสต์ ใครตบแก้มซ้ายยื่นแก้มขวาให้ตบด้วย

กระทู้คำถาม
หรือปล่าวครับ

ส่วนตัวแล้วอัตตาเบาบาง ทุกข์ก็เบาบางด้วย เห็นการทำงานของจิต โดยส่วนตัวแล้วเรียก การที่เคยทุกข์กับสิ่งหนึ่งแล้วไม่ทุกข์กับสิ่งนั้นแล้วเพราะธรรมะว่า ความมหัศจรรย์ของจิต

แต่พอถึงจุดหนึ่ง คือ แบบว่า จะวางไปกว่านั้นมันก็เกินสัญชาติญาณเอาตัวรอดของมนุษย์ไปอ่ะครับ
คือแบบปล่อยวาง จนกินอะไรง่ายแค่ให้สังขารตั้งอยู่ได้ ไม่ขนขวายในรสชาติจนวุ่นวาย ก็เรื่องหนึ่ง
แต่ ปล่อยวางแบบ ให้ใครมาระบายโทสะ โมหะ อัตตา นี่ ขั้นนั้นหรือเปล่าครับ

ล่าสุดเหมือนมีคนมาสั่งนั่นสั่งนี่ ใช้น้ำเสียงภาษาแบบกด เพราะคิดว่าเราง้อ ถ้าไม่ได้ไม่มีสิ่งที่เค้าจะให้แล้วลำบาก คิดว่าเราต้องอยากได้
ทั้งที่พยายามอธิบายแล้วว่าไม่ได้เก๊กว่าสมถะ คือสมถะจากภายในจริงๆ เค้าคิดว่าศาสนาเป็นแค่ปลอบใจตัวเอง เก็บกดความอยากมีอยากได้
ไม่มีการปล่อยวางจริงๆ ธรรมชาติมนุษย์ต้องอยากมีอยากได้
ใจนึงก็คิดว่าปล่อยไป แต่สุดท้ายก็แสดงให้เห็นว่า จะใช้น้ำเสียงแบบนั้นไม่ได้ เพราะไม่ได้ร้องขอแต่แรก

วันนี้นั่งคิดเลยงง ว่า ถึงจุดหนึ่ง ใครจะมากระทบกระแทก กดดัน ก็นิ่งไม่ถือสา ไปทำตามที่เค้าสั่งงี้เหรอครับ แบบ ไปเอานี่มา ไปทำนั่นมา เอ้าทำนี่ เราก็นิ่งๆ เฉยๆแล้วไม่ทำอย่างนี้หรือเปล่าครับ หรือเดินหนี ปล่อยให้ทำไปเลย ก็เหมือนแตกหักไปเลยแบบเงียบ

ขอบคุณครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่