[CR] ลองมาล้านแปดวิธี จนบรรลุมรรคผล!! ใครหลับยาก นอนไม่หลับ หลับไม่สนิท เรียนเชิญกระทู้นี้คะ

อันดับแรกต้องขอออกตัวเลยว่า เรื่องที่จะแชร์วันนี้ ทุกอย่างเป็นเรื่องที่เจ้าของกระทู้เรียนรู้ด้วยตัวเอง ศึกษาทางอินเตอร์เนตบ้าง สอบถามหมอบ้าง หนูทดลองคืออิชั้นเอง ถ้าใครอ่านแล้วมีเรื่องแนะนำเพิ่มเติมแวะบอกกันได้โลดค่ะ บอกบุญกัน ช่วยกันแชร์วนๆไป  อุอิๆ (ข้อมูลที่จะแชร์วันนี้อาจจะยาวหน่อยนะค่ะ เพราะจะมีการบอกเล่าประวัติและอาการของจขกท.พอกรุบๆ )

#งานแนะนำตัว
         จขกท. เป็นมนุษย์เงินเดือน  วันๆหนีไม่พ้นเรื่องเครียดจากที่ทำงาน หัวหน้าบ่น งานเยอะ เงินน้อย (กรีดร้อง ToT).. ยิ่งวันที่มีงานเร่งๆ ต้องนั่งเคลียร์ดึกๆ ดื่นๆ นี่นะ อะห่อววว!!! ชัตดาวน์ไปตอนตี 4 แล้วพอ 6 โมงเช้าต้องตื่นไปทำงาน กล่าวสรุปสั้นๆว่า “วงจรชีวิตพัง! เละ! เทะ!” ทำให้เราเป็นนอนหลับยากมากในวันที่มันไม่มีงานเร่ง ทั้งๆที่ชั้นควรจะนอนนนนน!!  หลังๆ เริ่มไม่ไหว ตาลึกตาลอย ไม่ค่อยมีสติ ปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไปร่างจะพังเอา เลยต้องหาวิธีแบบโคตะระจริงจัง ใครว่าอะไรดี ให้จัดมา ชั้นจัดหมด!! ทั้งยา อาหารเสริม เทคโนโลยี จัดมากันให้ครบทุกแขนงกันไปเลย ลองมันให้หมด!!

#งานแชร์สิคะ รออะไร?
         ส่วนตัวลองมาเยอะมากนะ แต่ขอคัดเฉพาะที่คิดว่าโอเค เริ่ดๆมาให้อ่านกัน ซึ่งเรื่องที่จะโฟกัสคือเรื่อง “การกิน” เป็นตัวช่วยนะคะ เพราะถ้าเป็นการออกกำลังกายก่อนนอนอันนี้ขอพักก่อน เพราะเหนื่อยมากจริงๆ แงงง ToT จะมาเล่าเกี่ยวกับการกินอะไรบ้างดูตามนี้เลยค่ะ
    1. ยานอนหลับ
    2. ยาแก้แพ้
    3. อาหารเสริมที่ช่วยให้หลับ
4. เครื่องดื่มกรุบกริบ

งานนี้ไม่ได้มาเล่าเล่นๆนะจ๊ะ มีความจริงจังขนาดโหลดแอพ มาช่วยกันเลยทีเดียว ชื่อว่า  “Sleep Time Smart Alarm Clock” เจ้าแอพตัวนี้มันจะช่วยวัดคุณภาพการนอนของเราได้ ซึ่งวิธีการใช้นั้นก็ง่ายมาก โหลดแอพมาปุ๊ป พอเปิดใช้งานมันจะขึ้นหน้านี้



เป็นรูปนาฬิกาที่แสดงเวลาปัจจุบันค่ะ วิธีการใช้คือ เราวางแผนไว้ว่าจะตื่นตอนกี่โมง เราก็เลื่อนปุ่ม SET  ไปไว้ยังเวลาจุดหมายได้เลยค่ะ เช่น อย่างในรูป ตอนนี้เวลาประมาณ 22.40 น. เรากำลังจะเริ่มนอนละ และพรุ่งนี้อยากตื่นซัก 8 โมงเช้า เราก็เลื่อน SET ไปไว้ที่ 8 โมงเช้า แล้วกดปุ่ม ขวาล่างที่เหมือนปุ่ม Play แล้วเริ่มนอนได้เลยค่ะ
พอตื่นขึ้นมาตอนเช้า เราก็กด Stop เพียงเท่านี้แอพก็จะประมวลผลการนอนของเราออกมา แล้วก็จะแสดงผลว่าตอนกลางคืนเรานอนเป็นอย่างไรบ้าง



วัดผลจากการใช้แอพ “Sleep Time Smart Alarm Clock”

สีส้ม    คือ  Awake หรือ ยังตื่นอยู่ค่ะ
สีเขียว    คือ  Light Sleep หรือ กำลังเคลิ้มๆ ค่ะ
สีฟ้า    คือ  Deep Sleep หรือ ลับลึกสุดใจไปเลยค่ะ

ในค่ำคืนปกติที่ไม่ได้กินยา


จะเห็นได้ว่า ใช้เวลานอนไปนับตั้งแต่เริ่มแอพคือ 6.48 ชั่วโมง เริ่มนอนตอนตี 2.45 ตื่นตอน 9.30
แต่ได้นอนจริงๆ คือ 6.โมงเช้า เริ่มง่วงตอน 6.30 และหลับไปตอน 6.50 เป็นยังไงค่ะ พินาศมากก!!!
เสียเวลากลิ้งไปกลิ้งมาอยู่บนเตียงกว่า 4 ชั่วโมง!!



เมื่อพบปัญหา เราเลยต้องหาทางออก เริ่มกันด้วย วิธีแรก

1. ยานอนหลับ
    เรื่องนี้ต้องถึงหูคุณหมอคะ!!! เดินเข้าไปปรึกษาหมอที่โรงพยาบาล แล้วเล่าอาการให้ฟังเลยค่ะ ว่าเราทรมานมากมายค่ะหมอ แล้วเดี๋ยวคุณหมอเข้าจะวินิจฉัย บอกวิธี แล้วจัดยาให้เรา ทางการแพทย์ ”ยานอนหลับ” เป็นกลุ่มที่ต้องระมัดระวังในการใช้เป็นพิเศษ >>> เพราะจะต้องสั่งจ่ายโดยแพทย์เท่านั้น!! ไม่สามารถหาซื้อได้ด้วยตนเองจากร้านขายยาทั่วไป บอกเลยว่าเภสัชร้านไหนจัดยากลุ่มนี้ให้โดยไม่มีใบสั่งแพทย์ ผิดกฎหมายค่ะ!! (กว่าจะได้มาเลือดตาแทบกระเด็น T T)

*****กาดอกจัน 6 ล้านดอก*********
ยานอนหลับไม่ได้รักษาอาการนอนไม่หลับ! ไม่ได้ช่วยแก้ไขอะไร เพียงแค่ทำให้เราหลับเท่านั้น!!


หน้าตาน้องยานอนหลับ


วัดผลจากแอพ - ในค่ำคืนที่กินยานอนหลับ



เห็นความแตกต่างจากภาพแรกไหมคะ กราฟสวยยิ่งกว่าดอกไม้ในยามเช้า ใช้เวลานอนทั้งหมด 7.20 ชั่วโมง เริ่มนอน 01.00 ตื่น 08.20 นับจากตอนกดเริ่มแอพจนถึงตอนเซทตัว เริ่มง่วงตอน 1.40 และหลับยาวววว ไปจนถึง 8.20 เป็นการนอนหลับที่ได้ประสิทธิภาพมากๆ


ข้อดี - หลับได้เร็วตามสั่ง ตรงนี้เลิฟมากกกกกก!!! ไม่ต้องพยายามอะไรเลย อารมณ์เหมือนถอดปลั๊กไฟแล้วหลับไปเลยค่ะ

ข้อเสีย – พอตื่นมามีความมึนหัวเบาๆ เบลอๆ ไม่อยากลุก สมองไม่ค่อยแล่น ร่างกายไม่พร้อมทำอะไรเหมือนต้องนอนให้ครบตามฤทธิ์ยา เท่าที่หมอบอกอาจเป็นเพราะว่ายังมีตัวยาสะสมอยู่ในร่างกายเลยมีอาการง่วงซึมหลังตื่นนอน ถึงตรงนี้เราก็หยุดเลย พอแล้ว กลัวค่ะ!


2. ยาแก้แพ้
    พอเว้นจากยานอนหลับไปซักพัก ปรากฏชั้นยังแก้ไม่ได้ เลยศึกษาหายาแก้แพ้มาทานเพราะมันกินแล้วทำให้ง่วง

ในค่ำคืนที่กินยาแก้แพ้



อันนี้ก็หลับไวเหมือนกันค่ะ แต่จะสังเกตได้ว่า จะหลับไม่ค่อยสนิท มีการรู้สึกตัวบ้างประปราย เริ่มนอนตอน ตี 1.50 ตื่น 7.29 หลับไว แต่หลับไม่สุด


ข้อดี – หาซื้อง่ายกว่ายานอนหลับ ทำให้ง่วงเร็วเหมือนกัน แต่ออกฤทธิ์น้อยกว่า และต้องใช้เวลา

ข้อเสีย – ส่วนตัวจะบอกว่าไม่แนะนำวิธีกินยาแก้แพ้ค่ะ เพราะต้องเผื่อเวลากินก่อนนอนสัก 2-3 ชั่วโมง รอเวลาให้ยาออกฤทธิ์ถึงจะเริ่มง่วง อีกเรื่องนึงคือตื่นขึ้นมาแล้วมีอาการมึนๆ เบลอๆ ไปอีก ไม่สดชื่น วิธีนี้ส่วนตัวขอเทค่ะ! รอป่วยจริงๆแล้วกินค่ะ เวิร์กสุด

3. อาหารเสริมที่ช่วยให้หลับ
    กินอาหารเสริม สารภาพตรงนี้เลยว่า ไม่รู้มาก่อนว่ามีนวัตกรรมนี้ด้วย คือ งงมาก เคยซื้อครั้งแรกตอนไปนอนต่างจังหวัดเพราะต้องทำงานนอกสถานที่แล้วนอนนอนไม่หลับเพราะนอนต่างที่ แล้วเพื่อนที่นอนด้วยกันก็แนะนำว่าให้ลองกินอาหารเสริมดูดิ เราก็แบบอาหารเสริมที่ทำให้หลับอะนะ? มีด้วยหรอวะ? มันเลยพาไปดูที่ 7/11 ปรากฏว่ามีจริงๆนะคะคุณ มีหลายแบรนด์ หลายราคาด้วยค่า คือเปิดโลกทัศน์เรามากๆ นี่เลยหยิบมาลองอันนึงชื่อ จีไนท์ เหตุผลไม่ต้องถามค่ะ เพราะราคาน่ารัก 55555 ซองละ 20 บาท มี 2 เม็ด คุ้มค่าแก่การทดลองมาก


หน้าตาเป็นแบบนี้ค่ะ


ในค่ำคืนที่ใช้อาหารเสริม G’nite



เริ่มเข้านอนตอน 12.46 ตื่นตอน 10.34 (หลับสบายยาวนานจนตื่นมาต้องกรีดร้องบอกให้โลกรู้) ตัวนี้ใช้เวลาในการนอนนานกว่าเพื่อนนะคะ สังเกตได้ว่า เริ่มนอนตอนเที่ยงคืน 12.46 แต่กว่าจะเริ่มง่วง ก็ตี 1.30 แต่หลังจากนั้นก็หลับยาวววว หลับสบายเลยค่ะ


ข้อดี –  กินแล้วรู้สึกว่านอนหลับสนิทดี ไม่ตื่นกลางดึก แล้วตอนตื่นมาก็ไม่มึน ไม่เบลอ ด้วยนะ มีความสดชื่น เหมือนได้นอนเต็มที่จริงๆ คิดว่าดีกว่ายาแก้แพ้เยอะ

ข้อเสีย – ถ้าใครใจร้อนอยากนอนเร็วไว ตัวนี้ไม่ตอบโจทย์นะคะ เพราะไม่ได้กินปุ๊บหลับปั๊บแบบยานอนหลับ ไม่ได้ง่วงนอนทันที แต่จะค่อยๆ เคลิ้ม ค่อยๆ รู้สึกง่วงทีละนิด แบบกินไปตอนสี่ทุ่ม ก็เริ่มตาหนักประมาณห้าทุ่ม ถ้าเทียบกับตอนกินยาแก้แพ้ ตอนนอนนี่ไม่เท่าไหร่ แต่ตื่นมาคือดีกว่ามากก แบบมากกกก!! อันนี้ยกนิ้วให้ ส่วนตัวอันนี้ตอบโจทย์

4. ดื่มนมอุ่น / น้ำผึ้งผสมน้ำอุ่น
    อันนี้อ่านเจอมาแล้วลองดื่มดู เห้ยย ดีเกินคาด คือมันไม่ได้ทำให้ง่วงขนาดนั้น แต่รู้สึกโล่งๆ สบายๆ พร้อมนอนได้ อันนี้ขอไม่บอกข้อดีขอเสีย เพราะส่วนตัวรู้สึกว่าเป็นตัวช่วยได้ แต่ไม่ได้ช่วยขนาดนั้น เคยอ่านมาเห็นบอกว่าสมัยก่อนเขาใช้น้ำผึ้งเป็นยาระงับประสาทอ่อนๆ ด้วยค่ะ


#สรุปส่งท้าย งานเปรียบเทียบ : วัดผลทั้ง 3 ตัว จาก 4 ข้อ นะคะ

1. ความเร็วในการง่วงนอน
    - ยานอนหลับ >> กินปุ๊บหลับปั๊ป
    - ยาแก้แพ้ >> ใช้เวลานิดนึงกว่าจะง่วง
    - อาหารเสริม G’nite >> ใช้เวลานิดนึงกว่าจะง่วง

2. ความต่อเนื่องของการนอน
ทั้งสามตัวทำให้นอนหลับได้จริงจัง ยกเว้นยาแก้แพ้ค่ะ อันนั้นหลับไม่สุดอ่ะ

3. ความรู้สึกตอนตื่นนอน
    - ยานอนหลับ >> มึนหัว สมองไม่แล่น เหมือนต้องการนอนต่อ
    - ยาแก้แพ้ >> มึนๆ เบลอๆ ยังคงมีความง่วงต่อเนื่องไปเหมือนยังไม่หมดฤทธิ์ยา ไม่พร้อมทำอะไร
    - อาหารเสริม GNite >> ตัวนี้โอเคสุด ทำให้นอนช้ากว่าเพื่อน แต่ตอนตื่นนอน คือเวิร์กสุดในบรรดาทุกตัว

4. สุขภาพ และความปลอดภัย
    - ยานอนหลับ >> ต้องปรึกษาแพทย์ หากกินไปนานๆ ส่งผลต่อร่างกายแน่นอน
    - ยาแก้แพ้ >> ส่วนตัวไม่แนะนำเลย ยกเว้นป่วยจริงๆ ถึงจะกินแล้วดี
    - อาหารเสริม GNite >> เป็นตัวช่วยที่ดี ไม่รู้สึกถึงผลข้างเคียง แต่ทานเท่าที่จำเป็นจะดีมากกว่า เพราะการนอนหลับได้เองตามธรรมชาติคือดีที่สุด

              สิ่งที่ จขกท. มารีวิววันนี้มาจากประสบการณ์ส่วนตัวล้วนๆนะคะ คนอื่นๆอาจจะมีกรณีหรืออาการอื่นๆที่ต่างออกไปบ้าง ยังไงก็เอาเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่มาแชร์กันแล้วกันค่ะ ร่างกายเรา เราดูแลเนอะ และที่สำคัญที่สุดคือ ไม่มียาตัวไหนหรืออาหารเสริมใด ชนะความเครียดได้ พยายาม ปล่อยวางความเครียด กำจัดสิ่งรบกวนต่างๆก่อนนอน

*************** กาดอกจันอีก 8 ล้านดอก ***************

งดเล่นมือถือก่อนนอน 30 นาที ถึง 1 ชม.
ไม่งั้นฝันไปเลยค่ะว่าเราจะหลับลง ตื่นตลอดคืนแน่นอน  ใครมีวิธีอะไรดีๆอีก ก็อย่าลืมแนะนำกันนะคะ ยิ้ม
ชื่อสินค้า:   ยานอนหลับ
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่