สวัสดีท่านสมาชิกทุกท่าน ผมมีประสบการณ์ การขอยกเลิกกรมธรรม์ MRTA ที่ได้ทำไว้กับธนาคารแห่งหนึ่ง โดยไม่ได้สมัครใจและไม่รู้ล่วงหน้าก่อน
ผมกับภรรยาเปิดร้านขายเสื้อผ้าอยู่ตลาดประตูน้ำ เป็นประเภท ทำเองขายเองครับโดยภรรยาผมจะรับผิดชอบการขายหน้าร้าน ส่วนผมจะดูแลเบื้อง
หลัง สั่งผ้า จ้างตัด จ้างเย็บ ประมาณนี้ เรื่องบัญชีการเงินก็ใหัภรรยาจัดการไปเลยคนเดียว โดยพื้นเพเป็นคนต่างจังหวัดที่เปลี่ยนอาชีพจากงานประจำ
มาทำอาชีพอิสระ ธุระกิจก็เป็นไปด้วยดีครับ เรื่องการเงิน เดินบัญชีก็ทำกับธนาคารเขียว สาขาใกล้ๆร้านนั่นแหละครับ
เมื่อประมาณ สามเดือนที่แล้วได้เจอบ้านมือสองประกาศขาย แถว ถ.สุขาภิบาล5 เขตสายไหม พูดคุยกับเจ้าของบ้านตกลงราคา วางมัดจำเรียบร้อย
และได้ดำเนินการยื่นกู้ช่วงประมาณต้นเดือนสิงหาที่ผ่านมา โดยมอบหมายให้ภรรยาจัดการผู้เดียว เพราะเขาเป็นคนเดินบัญชีคนเดียว ซึ่งก็ผ่านไปด้วยดีไม่มีปัญหาอะไร ผมก็ได้แต่ถามเรื่อยๆ และก็เน้นกับภรรยาว่า ไม่ทำประกันนะให้แจ้งธนาคารด้วย เธอก็บอก แจ้งแล้วบอกแล้ว ผมก็เลยไม่ได้สนใจอะไรต่อไป
จนมาถึงปลายเดือน สิงหาคม วันที่ 26 ก็ได้นัดเซ็นสัญญากัน ซึ่งวันนี้ผมก็ได้ไปเซ็นยินยอมด้วย ก็ได้เห็นมีประกันบางอย่างอยู่ด้วย ได้ถามทางภรรยา เธอบอกว่าเป็นประกันที่น้องเซลล์ขอมาก็เลยทำให้ เป็นประกันออมทรัพย์จ่ายปีละ 1.5 แสนบาท ผมก็ได้แต่นึกในใจ "เอาจนได้" แต่ก็ไม่ว่าอะไร
ถือว่าเธอตัดสินใจไปแล้ว สัญญามีทั้งหมด 3ชุดครับ แต่ละชุดก็มีหลายหน้ามาก ตอนนั้นก็เซ็นอย่างเดียวละครับ เซ็นทุกหน้าแถมบางหน้าก็มี2ที่อีก
แถมตอนที่เซ็นพนักงานก็จะพูดแต่ว่า "เซ็นเยอะนะครับ" "มีหลายหน้านะครับ"ตลอด เหมือนเร่งกลายๆ เซ็นเสร็จก็เย็นพอดี(สำหรับคนตื่นตี3 เปิดร้านตี4กว่า)ได้สัญญามาหนึ่งฉบับ ก็นัดกันโอนวันที่29สิงหาคมซึ่งเป็นวันจันทร์ ส่วนวันเซ็นสัญญาเป็นวันศุกร์
ลืมบอกไปงานนี้กู้ 3ล้าน นะครับประมาณเกือบ60เปอร์เซ็นต์ของราคาซื้อขาย
เช้าวันจันทร์ก็นั่งแท็กซี่ไปที่ดินบางเขนกัน ระหว่างอยู่ในรถภรรยาบอกว่า "มันมีประกันพ่วงมาด้วยนะ" ผมก็พยักหน้ารับรู้(ก็บอกแล้วนี่ว่าช่วยน้องเซลล์ทำประกันทำออมทรัพย์)เธอบอก"ไม่ใช่ ลองดูสัญญาใหม่สิ" ผมเลยเอาสัญญามาอ่านดู คุณพระคุณเจ้า
กู้ 3ล้าน ประกันคุ้มครองสินเชื่อ 442,470.00บาท ถ้ารวมกับประกันออมทรัพย์ 150,000 บาท ก็ขาด 6แสนอยู่ไม่กี่พันบาท
ตอนนั้นก็คิดๆๆๆ ในเวลาเดียวกันเจ้าของบ้านก็โทร มาตามบอกว่าเขารอนานแล้ว ไม่รู้จะทำอย่างไรก็เลย เสิร์ซหาในเน็ต ก็เจอว่ามีท่านสมาชิก
พันทิปท่านหนึ่งเคยส่งคืนกรมธรรม์ได้ แถมมีตัวอย่างจดหมายให้ดูด้วย ก็เลยคิดว่า "โอนก็โอนวะเดี๋ยวค่อยแก้ไขเอา" เรื่องการโอนก็ไม่มีปัญหาอะไร ผ่านไปด้วยดี กลับมาถึงบ้านพนักงานธนาคารก็โทรมาถามไถ่ความเรียบร้อย ทางเราก็บอกเรื่องประกันที่มันเเกินมา เพราะเรายังเข้าใจว่าเกิดจากความผิดพลาดอะไรซักอย่าง เขาก็ตอบแต่เพียงว่า ครับๆเดี๋ยวดูให้ ไม่มีการตกใจอะไรเลย ทางเราก็เริ่มสงสัยว่า หรือว่าเขารู้อยู่แล้ว
ในวันต่อมาภรรยาก็โทรตามเรื่องต่อ ก็ไม่ได้คำตอบอะไรชัดเจน คำตอบก็ประมาณว่า เดี๋ยวถามคนนั้นให้ คนนี้ให้ ไม่รู้เหมือนกัน ตามเรื่องอยู่ประมาณ 3วันก็มีผู้จัดการถือใบมูลค่าเวณคืนกรมธรรม์มาให้ และทางเขาก็บอกว่ายกเลิกไม่ได้ เวณคืนได้อย่างเดียว ซึ่งถ้าเวณคืนตอนนี้ เงินก็จะหายไปประมาณ 1แสน9พันบาท ในตอนนี้ ทั้งเซลล์ พนักงานธนาคาร ผู้จัดการ ห่างเหินเหมือนเป็นคนไม่รู้จักกันแล้วครับ ทั้งที่ก่อนหน้านีสัปดาห์เดียว สนิทสนม
กับเรามาก ก็เลยสรุปกันว่า เกิดจากทางพนักงานธนาคารเองนี่แหละไม่ใช่ความเข้าใจผิด หรือผิดพลาดอะไรหรอก ก็ไม่รู้เหมือนกันว่า ค่าคอมมิชชั่นมันมากขนาดไหนถึงทำให้คนเราจ้องจะฉกฉวยผลประโยชน์จากคนอื่นโดยไม่ละอายใจได้ขนาดนี้ และคิดว่าคงพึ่งพาทางธนาคารไม่ได้อีกแล้ว หาหนทางอื่น
ดีกว่า โดยคิดว่าสิทธิ์ยกเลิกภายใน15วันน่าจะยังใช้ได้เพราะเพิ่งจะผ่านมาไม่กี่วันเอง
วันต่อมาก็โทรเข้าคอลเซนเตอร์ของบริษัทประกันภัยว่าขอยกเลิกกรมธรรม์ตามสิทธิ์15วัน ได้คำตอบคือ MRTA ยกเลิกไม่ได้ เซนแล้วเซนเลย
ถ้าจะได้ก็คือเวณคืนอย่างเดียว ถึงตอนนี้อยู่ยากแล้วครับในใจยังคิดว่าคอลเซนเตอร์น่าจะหลอกเราหรือเปล่า หาข้อมูลก็ไม่แน่ชัดว่าอะไรได้ อะไรไม่ได้
วันรุ่งขึ้นก็เลยเข้าสำนักงาน คปภ.เลยครับเพื่อหาความกระจ่างและได้คำตอบจากเจ้าหน้าที่คือ
"ประกันคุ้มครองสินเชื่อMRTAไม่มีสิทธิ์คืนกรมธรรม์ภายใน15วัน"
ทางผมก็เลยถามถึงกรณีมีท่านสมาชิกพันทิปท่านหนึ่งเคยขอคืนได้และมีตัวอย่างจดหมายด้วย เจ้าหน้าที่บอกว่าตามกฏแล้วไม่ได้ เขามีอะไร
มากกว่านั้นหรือเปล่าก็ไม่รู้ และได้รับคำแนะนำ ทางที่ดีตอนนี้ไปขอคืนตัวประกันออมทรัพย์ 1แสน5หมื่นบาทก่อน จะได้บรรเทาความเดือดร้อนได้ ส่วน
ตัวMRTA ให้เล่มกรมธรรม์ส่งถึงมือก่อนแล้วค่อยหาทางเอาตอนนี้ข้อมูลยังน้อยอยู่ ก็ขอบคุณเจ้าหน้าที่ออกมาจาก คปภ.ก็เลยเข้าไปสำนักงานใหญ่
บริษัทประกันภัยซึ่งอยู่ถนนเส้นเดียวกัน(รัชดา) ก็ไปติดต่อเจ้าหน้าที่เพื่อขอยกเลิกประกันออมทรัพย์ ก็มีการขอเลขบัญชีเพื่อโอนเงินกลับเรียบร้อย กำลัง
จะกลับอยู่แล้ว ผมก็เลยถามเรื่องMRTAอีกรอบคำตอบที่ได้ก็เดิมๆคือไม่ได้ ก็เลยขอร้องหน้าเคาท์เตอร์ว่าไหนๆผมก็มาแล้ว ขอผมเขียนคำร้องขอยกเลิก
ได้ไหม จะได้มีเอกสารถึงบริษัทไว้ก่อน พนักงานก็กดนั่นกดนี่พักหนึ่งก็บอกเดี๋ยวจะมีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องมาคุยด้วย ได้คุยกับเจ้าหน้าที่เขาก็ให้เขียนคำร้อง
ลงทันสำเนาบัตรประชาชนว่าเราเดือดร้อนยังไง พนักงานสินเชื่อเป็นยังไง เราต้องการอะไร จะได้รู้ว่าเข้าเงื่อนไขหรือเปล่า ก็เลยถามว่าเงื่อนไขเช่นอะไรบ้าง เขาบอกว่า จรรยาบรรณ คุณธรรมของพนักงาน อะไรจำพวกนี้ แต่เขาก็บอกว่าไม่แน่ว่าจะได้นะ ก็ขอบคุณกันไปยกใหญ่ถือว่าชี้ทางสว่างมากเลยทีเดียว กับการได้คุยกับเจ้าหน้าที่ท่านนี้
คำว่า จรรยาบรรณ กับ คุณธรรม ของพนักงาน ติดอยู่ในหัวผมแล้วครับตอนนี้ วันต่อมาก็เลยโทรร้องเรียนสำนักงานใหญ่ของธนาคารต่อ ก็เล่าเรื่อง
ให้ฟังตามจริง และก็พูดเรื่อง จรรยาบรรณกับคูณธรรมของพนักงาน ทางนั้นก็ขอชื่อพนักงานก็ให้ไป หลังจากนั้นอีกหลายวันทางสำนักงานใหญ่ก็มีโทรมา
แจ้งความคืบหน้าเรื่องสอบสวนพนักงานให้นะครับอันนี้ชื่นใจมาก
รอเรื่องจากทางบริษัทประกันหลายวันรู้สึกเงียบๆ ก็เลยส่งเรื่องร้องเรียน ธปท.ไปอีกทางหนึ่ง ก็เรื่องจรรยาบรรณกับคุณธรรมของพนักงานนี่แหละ
โดยส่งจดหมายลงทะเบียนไป ก็มีโทรกลับมาสอบถาม และหลังจากนั้นก็มีหนังสือแจ้งว่ากำลังสอบสวนเริ่องนี้อยู่ครับ
ในระหว่างนี้ก็รอการติดต่อกลับมาจากบริษัทประกัน จนกระทั่ง 17กย.ได้รับจดหมาย2ฉบับ ลุ้นระทึกมากครับแกะอ่าน ฉบับแรกเป็นการบอกยกเลิก
กรมธรรม์ ฉบบับที่สอง เป็นเช็คเงินสด จ่ายคืนเต็มจำนวน คือ 442,470.00บาทไม่หักเลยซักบาท และก็สั่งจ่ายในนามผู้กู้ด้วย ไม่ได้สั่งจ่ายธนาคารแต่อย่างได ดีใจมาก สรุปว่าได้เงินคืนก่อนตัวประกันออมทรัพย์ ที่ใช้สิทธิ์ยกเลิกภายใน15วันซะอีก อันนั้นยังไม่เห็นมียอดคืนเข้าบัญชีเลย
ก็หวังว่าประสบการณ์ของผมจะมีประโยชน์แก่บางท่านทีประสบเหตูการณ์เดียวกัน ขอบคุณที่อ่านครับ
แนวทางการยกเลิกกรมธรรม์ ประกันคุ้มครองสินเชื่อ(MRTA)กรณืพนักงานธนาคาร หมกเม็ดแอบแฝงโดยเราไม่สมัครใจ
ผมกับภรรยาเปิดร้านขายเสื้อผ้าอยู่ตลาดประตูน้ำ เป็นประเภท ทำเองขายเองครับโดยภรรยาผมจะรับผิดชอบการขายหน้าร้าน ส่วนผมจะดูแลเบื้อง
หลัง สั่งผ้า จ้างตัด จ้างเย็บ ประมาณนี้ เรื่องบัญชีการเงินก็ใหัภรรยาจัดการไปเลยคนเดียว โดยพื้นเพเป็นคนต่างจังหวัดที่เปลี่ยนอาชีพจากงานประจำ
มาทำอาชีพอิสระ ธุระกิจก็เป็นไปด้วยดีครับ เรื่องการเงิน เดินบัญชีก็ทำกับธนาคารเขียว สาขาใกล้ๆร้านนั่นแหละครับ
เมื่อประมาณ สามเดือนที่แล้วได้เจอบ้านมือสองประกาศขาย แถว ถ.สุขาภิบาล5 เขตสายไหม พูดคุยกับเจ้าของบ้านตกลงราคา วางมัดจำเรียบร้อย
และได้ดำเนินการยื่นกู้ช่วงประมาณต้นเดือนสิงหาที่ผ่านมา โดยมอบหมายให้ภรรยาจัดการผู้เดียว เพราะเขาเป็นคนเดินบัญชีคนเดียว ซึ่งก็ผ่านไปด้วยดีไม่มีปัญหาอะไร ผมก็ได้แต่ถามเรื่อยๆ และก็เน้นกับภรรยาว่า ไม่ทำประกันนะให้แจ้งธนาคารด้วย เธอก็บอก แจ้งแล้วบอกแล้ว ผมก็เลยไม่ได้สนใจอะไรต่อไป
จนมาถึงปลายเดือน สิงหาคม วันที่ 26 ก็ได้นัดเซ็นสัญญากัน ซึ่งวันนี้ผมก็ได้ไปเซ็นยินยอมด้วย ก็ได้เห็นมีประกันบางอย่างอยู่ด้วย ได้ถามทางภรรยา เธอบอกว่าเป็นประกันที่น้องเซลล์ขอมาก็เลยทำให้ เป็นประกันออมทรัพย์จ่ายปีละ 1.5 แสนบาท ผมก็ได้แต่นึกในใจ "เอาจนได้" แต่ก็ไม่ว่าอะไร
ถือว่าเธอตัดสินใจไปแล้ว สัญญามีทั้งหมด 3ชุดครับ แต่ละชุดก็มีหลายหน้ามาก ตอนนั้นก็เซ็นอย่างเดียวละครับ เซ็นทุกหน้าแถมบางหน้าก็มี2ที่อีก
แถมตอนที่เซ็นพนักงานก็จะพูดแต่ว่า "เซ็นเยอะนะครับ" "มีหลายหน้านะครับ"ตลอด เหมือนเร่งกลายๆ เซ็นเสร็จก็เย็นพอดี(สำหรับคนตื่นตี3 เปิดร้านตี4กว่า)ได้สัญญามาหนึ่งฉบับ ก็นัดกันโอนวันที่29สิงหาคมซึ่งเป็นวันจันทร์ ส่วนวันเซ็นสัญญาเป็นวันศุกร์
ลืมบอกไปงานนี้กู้ 3ล้าน นะครับประมาณเกือบ60เปอร์เซ็นต์ของราคาซื้อขาย
เช้าวันจันทร์ก็นั่งแท็กซี่ไปที่ดินบางเขนกัน ระหว่างอยู่ในรถภรรยาบอกว่า "มันมีประกันพ่วงมาด้วยนะ" ผมก็พยักหน้ารับรู้(ก็บอกแล้วนี่ว่าช่วยน้องเซลล์ทำประกันทำออมทรัพย์)เธอบอก"ไม่ใช่ ลองดูสัญญาใหม่สิ" ผมเลยเอาสัญญามาอ่านดู คุณพระคุณเจ้า
กู้ 3ล้าน ประกันคุ้มครองสินเชื่อ 442,470.00บาท ถ้ารวมกับประกันออมทรัพย์ 150,000 บาท ก็ขาด 6แสนอยู่ไม่กี่พันบาท
ตอนนั้นก็คิดๆๆๆ ในเวลาเดียวกันเจ้าของบ้านก็โทร มาตามบอกว่าเขารอนานแล้ว ไม่รู้จะทำอย่างไรก็เลย เสิร์ซหาในเน็ต ก็เจอว่ามีท่านสมาชิก
พันทิปท่านหนึ่งเคยส่งคืนกรมธรรม์ได้ แถมมีตัวอย่างจดหมายให้ดูด้วย ก็เลยคิดว่า "โอนก็โอนวะเดี๋ยวค่อยแก้ไขเอา" เรื่องการโอนก็ไม่มีปัญหาอะไร ผ่านไปด้วยดี กลับมาถึงบ้านพนักงานธนาคารก็โทรมาถามไถ่ความเรียบร้อย ทางเราก็บอกเรื่องประกันที่มันเเกินมา เพราะเรายังเข้าใจว่าเกิดจากความผิดพลาดอะไรซักอย่าง เขาก็ตอบแต่เพียงว่า ครับๆเดี๋ยวดูให้ ไม่มีการตกใจอะไรเลย ทางเราก็เริ่มสงสัยว่า หรือว่าเขารู้อยู่แล้ว
ในวันต่อมาภรรยาก็โทรตามเรื่องต่อ ก็ไม่ได้คำตอบอะไรชัดเจน คำตอบก็ประมาณว่า เดี๋ยวถามคนนั้นให้ คนนี้ให้ ไม่รู้เหมือนกัน ตามเรื่องอยู่ประมาณ 3วันก็มีผู้จัดการถือใบมูลค่าเวณคืนกรมธรรม์มาให้ และทางเขาก็บอกว่ายกเลิกไม่ได้ เวณคืนได้อย่างเดียว ซึ่งถ้าเวณคืนตอนนี้ เงินก็จะหายไปประมาณ 1แสน9พันบาท ในตอนนี้ ทั้งเซลล์ พนักงานธนาคาร ผู้จัดการ ห่างเหินเหมือนเป็นคนไม่รู้จักกันแล้วครับ ทั้งที่ก่อนหน้านีสัปดาห์เดียว สนิทสนม
กับเรามาก ก็เลยสรุปกันว่า เกิดจากทางพนักงานธนาคารเองนี่แหละไม่ใช่ความเข้าใจผิด หรือผิดพลาดอะไรหรอก ก็ไม่รู้เหมือนกันว่า ค่าคอมมิชชั่นมันมากขนาดไหนถึงทำให้คนเราจ้องจะฉกฉวยผลประโยชน์จากคนอื่นโดยไม่ละอายใจได้ขนาดนี้ และคิดว่าคงพึ่งพาทางธนาคารไม่ได้อีกแล้ว หาหนทางอื่น
ดีกว่า โดยคิดว่าสิทธิ์ยกเลิกภายใน15วันน่าจะยังใช้ได้เพราะเพิ่งจะผ่านมาไม่กี่วันเอง
วันต่อมาก็โทรเข้าคอลเซนเตอร์ของบริษัทประกันภัยว่าขอยกเลิกกรมธรรม์ตามสิทธิ์15วัน ได้คำตอบคือ MRTA ยกเลิกไม่ได้ เซนแล้วเซนเลย
ถ้าจะได้ก็คือเวณคืนอย่างเดียว ถึงตอนนี้อยู่ยากแล้วครับในใจยังคิดว่าคอลเซนเตอร์น่าจะหลอกเราหรือเปล่า หาข้อมูลก็ไม่แน่ชัดว่าอะไรได้ อะไรไม่ได้
วันรุ่งขึ้นก็เลยเข้าสำนักงาน คปภ.เลยครับเพื่อหาความกระจ่างและได้คำตอบจากเจ้าหน้าที่คือ
"ประกันคุ้มครองสินเชื่อMRTAไม่มีสิทธิ์คืนกรมธรรม์ภายใน15วัน"
ทางผมก็เลยถามถึงกรณีมีท่านสมาชิกพันทิปท่านหนึ่งเคยขอคืนได้และมีตัวอย่างจดหมายด้วย เจ้าหน้าที่บอกว่าตามกฏแล้วไม่ได้ เขามีอะไร
มากกว่านั้นหรือเปล่าก็ไม่รู้ และได้รับคำแนะนำ ทางที่ดีตอนนี้ไปขอคืนตัวประกันออมทรัพย์ 1แสน5หมื่นบาทก่อน จะได้บรรเทาความเดือดร้อนได้ ส่วน
ตัวMRTA ให้เล่มกรมธรรม์ส่งถึงมือก่อนแล้วค่อยหาทางเอาตอนนี้ข้อมูลยังน้อยอยู่ ก็ขอบคุณเจ้าหน้าที่ออกมาจาก คปภ.ก็เลยเข้าไปสำนักงานใหญ่
บริษัทประกันภัยซึ่งอยู่ถนนเส้นเดียวกัน(รัชดา) ก็ไปติดต่อเจ้าหน้าที่เพื่อขอยกเลิกประกันออมทรัพย์ ก็มีการขอเลขบัญชีเพื่อโอนเงินกลับเรียบร้อย กำลัง
จะกลับอยู่แล้ว ผมก็เลยถามเรื่องMRTAอีกรอบคำตอบที่ได้ก็เดิมๆคือไม่ได้ ก็เลยขอร้องหน้าเคาท์เตอร์ว่าไหนๆผมก็มาแล้ว ขอผมเขียนคำร้องขอยกเลิก
ได้ไหม จะได้มีเอกสารถึงบริษัทไว้ก่อน พนักงานก็กดนั่นกดนี่พักหนึ่งก็บอกเดี๋ยวจะมีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องมาคุยด้วย ได้คุยกับเจ้าหน้าที่เขาก็ให้เขียนคำร้อง
ลงทันสำเนาบัตรประชาชนว่าเราเดือดร้อนยังไง พนักงานสินเชื่อเป็นยังไง เราต้องการอะไร จะได้รู้ว่าเข้าเงื่อนไขหรือเปล่า ก็เลยถามว่าเงื่อนไขเช่นอะไรบ้าง เขาบอกว่า จรรยาบรรณ คุณธรรมของพนักงาน อะไรจำพวกนี้ แต่เขาก็บอกว่าไม่แน่ว่าจะได้นะ ก็ขอบคุณกันไปยกใหญ่ถือว่าชี้ทางสว่างมากเลยทีเดียว กับการได้คุยกับเจ้าหน้าที่ท่านนี้
คำว่า จรรยาบรรณ กับ คุณธรรม ของพนักงาน ติดอยู่ในหัวผมแล้วครับตอนนี้ วันต่อมาก็เลยโทรร้องเรียนสำนักงานใหญ่ของธนาคารต่อ ก็เล่าเรื่อง
ให้ฟังตามจริง และก็พูดเรื่อง จรรยาบรรณกับคูณธรรมของพนักงาน ทางนั้นก็ขอชื่อพนักงานก็ให้ไป หลังจากนั้นอีกหลายวันทางสำนักงานใหญ่ก็มีโทรมา
แจ้งความคืบหน้าเรื่องสอบสวนพนักงานให้นะครับอันนี้ชื่นใจมาก
รอเรื่องจากทางบริษัทประกันหลายวันรู้สึกเงียบๆ ก็เลยส่งเรื่องร้องเรียน ธปท.ไปอีกทางหนึ่ง ก็เรื่องจรรยาบรรณกับคุณธรรมของพนักงานนี่แหละ
โดยส่งจดหมายลงทะเบียนไป ก็มีโทรกลับมาสอบถาม และหลังจากนั้นก็มีหนังสือแจ้งว่ากำลังสอบสวนเริ่องนี้อยู่ครับ
ในระหว่างนี้ก็รอการติดต่อกลับมาจากบริษัทประกัน จนกระทั่ง 17กย.ได้รับจดหมาย2ฉบับ ลุ้นระทึกมากครับแกะอ่าน ฉบับแรกเป็นการบอกยกเลิก
กรมธรรม์ ฉบบับที่สอง เป็นเช็คเงินสด จ่ายคืนเต็มจำนวน คือ 442,470.00บาทไม่หักเลยซักบาท และก็สั่งจ่ายในนามผู้กู้ด้วย ไม่ได้สั่งจ่ายธนาคารแต่อย่างได ดีใจมาก สรุปว่าได้เงินคืนก่อนตัวประกันออมทรัพย์ ที่ใช้สิทธิ์ยกเลิกภายใน15วันซะอีก อันนั้นยังไม่เห็นมียอดคืนเข้าบัญชีเลย
ก็หวังว่าประสบการณ์ของผมจะมีประโยชน์แก่บางท่านทีประสบเหตูการณ์เดียวกัน ขอบคุณที่อ่านครับ