สวัสดียามเช้าวันจันทร์ วันแรกของสัปดาห์การทำงาน ครับ พี่ๆ น้องๆ ชาว ขาS และ ขาL & ชาว Put,Call Option ทุกๆท่าน
เมื่อวานศุกร์ที่ผ่านมา ดัชนี SET index ยังคงพุ่งทะยานใต่ระดับขึ้นมาได้อย่างต่อเนื่อง ไม่หยุดยั้ง ภายหลังจากดัชนี FTSE ได้ปรับเพิ่ม
น้ำหนักหุ้นไทย จึงทำให้มีกระแสเม็ดเงินขอลงนักลงทุนต่างชาติ (Fund Flow) กลับเข้ามาซื้อหุ้นอย่างมหาศาลอีกครั้ง อีกทั้งความคาดหวัง
ว่าการประชุมธนาคารกลางทั้งสอง ไม่ว่าจะเป็น BOJ อาจจะออกมาตราการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม และ FED น่าจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้คงเดิมต่อไป
ในการประชุมวันที่ 21-21 กันยายนนี้ ดังนั้นจึงทำให้ดัชนี SET index ปิดตัวไปที่ระดับ 1479 จุด +15.68 จุด +1.07% วันนี้มาติดตามกันต่อ
ว่าดัชนีจะสามารถพุ่งทะยานขึ้นไปได้อย่างเร้าร้อน เฉกเช่น สัปดาห์ก่อนได้หรือไม่
Fundamental
"เอเชียเช้านี้" ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดเพิ่มขึ้น 151.03 จุด หรือ +0.65% แตะที่ 23,486.62 จุดในวันนี้ ขณะนักลงทุน
รอดูการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และการประชุมของธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 20-21 ก.ย. นี้
"ฝั่งสหรัฐ" ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อวันศุกร์ (16 ก.ย.) โดยได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มธนาคาร หลังจาก
หุ้นดอยซ์แบงก์ดิ่งลงกว่า 9% อันเนื่องมาจากข่าวที่ว่ากระทรวงยุติธรรมสหรัฐได้เรียกร้องให้ดอยซ์แบงก์จ่ายค่าปรับเป็นเงินกว่าหมื่นล้านดอลลาร์
เพื่อยุติคดีความที่เกี่ยวข้องกับการจำหน่ายหลักทรัพย์ที่มีสัญญาจำนองค้ำประกัน (MBS) นอกจากนี้ ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐที่เพิ่ม
ขึ้นมากกว่าคาด ยังได้กระตุ้นให้เกิดกระแสคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมสัปดาห์หน้า
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 18,123.80 จุด ลดลง 88.68 จุด หรือ -0.49%
ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,244.57 จุด ลดลง 5.12 จุด หรือ -0.10%
ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,139.16 จุด ลดลง 8.10 จุด หรือ -0.38%
ส่วนตลอดทั้งสัปดาห์ ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวขึ้นทั้งสิ้น 0.2% ดัชนี S&P500 เพิ่มขึ้น 0.5% และดัชนี NASDAQ เพิ่มขึ้น 2.5%
ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อวันศุกร์ หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนี CPI ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่สำคัญนั้น ดีดตัวขึ้น 0.2%
ในเดือนส.ค. เมื่อเทียบรายเดือน ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าดัชนี CPI จะขยับขึ้นเพียง 0.1% ขณะที่ดัชนี CPI พื้นฐานซึ่งไม่นับรวมราคา
ในหมวดอาหารและพลังงาน พุ่งขึ้น 0.3% ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.พ.
ดัชนี CPI ที่สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์นั้น ได้กระตุ้นให้กระแสคาดการณ์เรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดกลับมากดดันตลาดอีกครั้ง โดย
CME Group FedWatch ระบุว่า นักลงทุนได้ปรับเพิ่มคาดการณ์การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในการประชุมวันที่
20-21 ก.ย. หลังการเปิดเผยตัวเลขดัชนี CPI ที่เพิ่มขึ้นมากกว่าคาด
ทั้งนี้ นักลงทุนปรับเพิ่มความเป็นไปได้ในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ย.สู่ระดับ 15% จากเดิมที่ 12%
ขณะเดียวกันการร่วงลงของหุ้นดอยซ์แบงก์ยังเป็นอีกปัจจัยที่สร้างแรงกดดันต่อตลาด โดยหุ้นดอยซ์แบงก์ซึ่งจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหุ้น
นิวยอร์กด้วยนั้น ร่วงลงมากกว่า 9% หลังจากมีรายงานว่ากระทรวงยุติธรรมสหรัฐได้เรียกร้องให้ดอยซ์แบงก์จ่ายค่าปรับเป็นเงิน 1.4 หมื่นล้านดอลลาร์
เพื่อยุติการสอบสวนในคดีที่เกี่ยวข้องกับการจำหน่ายหลักทรัพย์ที่มีสัญญาจำนองค้ำประกัน (MBS) โดยผลิตภัณฑ์การเงินประเภทนี้เป็นต้นเหตุ
ของวิกฤตการเงินโลกปี 2008
อย่างไรก็ดี ดอยซ์แบงก์ระบุว่า ธนาคารยังไม่มีแผนที่จะยุติคดีความทางแพ่งด้วยการจ่ายเงินจำนวนดังกล่าว โดยระบุว่าดอยซ์แบงก์ยังอยู่ในช่วง
เริ่มต้นการเจรจากับสหรัฐ และคาดหวังว่าผลของการเจรจาจะนำไปสู่การชำระเงินในจำนวนที่ไม่ต่างจากที่สถาบันการเงินอื่นๆได้ชำระตามที่
ถูกเรียกร้องทั้งนี้ การร่วงลงอย่างหนักของหุ้นดอยซ์แบงก์ได้ฉุดหุ้นตัวอื่นๆในกลุ่มธนาคารปรับตัวลงด้วย โดยหุ้นโกลด์แมน แซคส์ และหุ้นเจพี
มอร์แกน ต่างก็ร่วงลงกว่า 1%
หุ้นออราเคิล ซึ่งเป็นบริษัทซอฟต์แวร์รายใหญ่ของสหรัฐ ดิ่งลง 4.8% หลังจากบริษัทเปิดเผยยอดขายลดลง 1.7% มาอยู่ที่ 8.6 พันล้านดอลลาร์
ในไตรมาสที่สิ้นสุดวันที่ 31 ส.ค. เนื่องจากบริษัทประสบความล่าช้าในการย้ายไปสู่การให้บริการบนระบบคลาวด์ ขณะที่ผลประกอบการของระบบ
ฐานข้อมูลและซอฟต์แวร์สำหรับธุรกิจในแบบดั้งเดิมนั้น ชะลอตัวลงด้วย
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากราคาน้ำมันที่ร่วงลง หลังจากมีรายงานว่าแท่นขุดเจาะที่ใช้งานในสหรัฐมีจำนวนเพิ่มขึ้นในสัปดาห์ที่ผ่านมา
ซึ่งข้อมูลดังกล่าวส่งผลให้เกิดความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะน้ำมันล้นตลาด
"ฝั่งยุโรป" ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (16 ก.ย.) เนื่องจากหุ้นดอยซ์แบงก์ร่วงลงอย่างหนักและได้ฉุดหุ้นกลุ่มธนาคารปรับตัวลงด้วย
หลังจากมีข่าวว่ากระทรวงยุติธรรมสหรัฐได้เรียกร้องให้ดอยซ์แบงก์จ่ายค่าปรับเป็นเงินกว่าหมื่นล้านดอลลาร์ เพื่อยุติคดีความที่เกี่ยวข้องกับการจำ
หน่ายหลักทรัพย์ที่มีสัญญาจำนองค้ำประกัน (MBS)
ดัชนี Stoxx Europe 600 ร่วงลง 0.7% ปิดที่ 337.82 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,332.45 จุด ลดลง 40.77 จุด หรือ -0.93%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 10,276.17 จุด ลดลง 155.03 จุด หรือ -1.49%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,710.28 จุด ลดลง 20.02 จุด หรือ -0.30%
ตลาดหุ้นยุโรปได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงอย่างหนักของหุ้นดอยซ์แบงก์ หลังจากกระทรวงยุติธรรมสหรัฐได้เรียกร้องให้ดอยซ์แบงก์จ่ายค่า
ปรับเป็นเงิน 1.4 หมื่นล้านดอลลาร์ เพื่อยุติการสอบสวนในคดีที่เกี่ยวข้องกับการจำหน่ายหลักทรัพย์ที่มีสัญญาจำนองค้ำประกัน (MBS)
ซึ่งเป็นต้นเหตุของวิกฤตการเงินโลกปี 2008
อย่างไรก็ดี ดอยซ์แบงก์เปิดเผยว่า ธนาคารยังไม่มีแผนที่จะยุติคดีความทางแพ่งด้วยการจ่ายเงินจำนวนดังกล่าว พร้อมระบุว่า ดอยซ์แบงก์
ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นการเจรจากับสหรัฐ และคาดหวังว่าผลของการเจรจาจะนำไปสู่การชำระเงินในจำนวนที่ไม่ต่างจากที่สถาบันการเงินอื่นๆ
ได้ชำระตามที่ถูกเรียกร้อง
ทั้งนี้ หุ้นดอยซ์แบงก์ ร่วงลง 8.5% หุ้นรอยัล แบงก์ ออฟ สก็อตแลนด์ ดิ่งลง 4.4% และหุ้นบาร์เคลย์ส ปรับตัวลง 2.8%
นอกจากนี้ นักลงทุนยังชะลอการซื้อขายก่อนที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) จะประชุมนโยบายการเงินในสัปดาห์หน้า
ข้อมูลของ CME Group FedWatch ระบุว่า นักลงทุนได้ปรับเพิ่มคาดการณ์การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในการประชุม
วันที่ 20-21 ก.ย. หลังจากสหรัฐเปิดเผยดัชนี CPI ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่สำคัญนั้น ดีดตัวขึ้น 0.2% ในเดือนส.ค. ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์
คาดว่าดัชนี CPI จะขยับขึ้นเพียง 0.1% ส่วนดัชนี CPI พื้นฐานซึ่งไม่นับรวมราคาในหมวดอาหารและพลังงาน พุ่งขึ้น 0.3% ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้น
มากที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.พ.
Credit : สำนักข่าวอินโฟวเควสท์
Technical Analysis
SET index TF Day : เมื่อวานศุกร์ที่ผ่านมา ดัชนีได้ใต่ระดับพุ่งทะยานขึ้นมาได้อย่างเร้าร้อนรุนแรง และนับตั้งแต่เกิดแท่งเทียน
Shaven Bottom ก็ทำให้ดัชนีฟื้นตัวขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง เป็นรูปแบบการกลับตัว V shape ได้อย่างอลังการงานสร้างมาก
และในวันนี้ได้มาทดสอบแนวต้านสำคัญ เป็นทั้ง EMA75 วัน และ กรอบล่างของ Uptrend Channel ที่เคยหลุดร่วงลงมา
ก็ต้องมาดูกันว่าดัชนีจะสามารถทะลุผ่านขึ้นไปได้หรือไม่ //ถ้าผ่านได้ ก็จะกลายเป็น False Break เตรียมกลับขึ้นไปทดสอบ 1550 อีกครั้ง
แต่ถ้าหากไม่ผ่าน ก็อาจจะมีการเทขายทำกำไร ย่อตัวลงมาก็เป็นได้ ภายหลังจากตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา ดัชนีพุ่งขึ้นมาได้อย่างรุนแรง
S50U16 TF Day : เมื่อวานศุกร์ที่ผ่านมา ดัชนีได้ใต่ระดับพุ่งทะยานขึ้นมาได้อย่างเร้าร้อนรุนแรง และนับตั้งแต่เกิดแท่งเทียน
Shaven Bottom ก็ทำให้ดัชนีฟื้นตัวขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง เป็นรูปแบบการกลับตัว V shape ได้อย่างอลังการงานสร้างมาก
และในวันนี้ได้มาทดสอบแนวต้านสำคัญ เป็นทั้ง EMA25 วัน และ กรอบล่างของ Uptrend Channel ที่เคยหลุดร่วงลงมา
ก็ต้องมาดูกันว่าดัชนีจะสามารถทะลุผ่านขึ้นไปได้หรือไม่ //ถ้าผ่านได้ ก็จะกลายเป็น False Break เตรียมกลับขึ้นไปทดสอบ 990 อีกครั้ง
แต่ถ้าหากไม่ผ่าน ก็อาจจะมีการเทขายทำกำไร ย่อตัวลงมาก็เป็นได้ ภายหลังจากตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา ดัชนีพุ่งขึ้นมาได้อย่างรุนแร
TF60 : ตลอดทั้งสัปดาห์ที่ผ่านมา ดัชนีได้พุ่งทะยานขึ้นไปอย่างต่อเนื่องไม่หยุดยั้ง และในตอนนี้ดัชนีได้ฟื้นตัวขึ้นมาได้ 50%
จากที่ลงไปเมื่อต้นเดือนกันยา ถือว่าเป็นการฟื้นตัวที่เร็ว และ รุนแรงมากๆ // ถ้าหากวันนี้ดัชนีสามารถทะลุ ยืนเหนือ EMA200 วัน
หรือ 950 จุดได้ ยิ่งจะทำให้ภาพสัญญาณดูสวยงาม ยิ่งขึ้น พร้อมทะยานสู่ดวงดาวอันไกลโพ้น อย่างไรก็ตาม การฟื้นตัวอย่างนี้
ยังไม่มีรูปแบบกลับตัวที่ชัดเจนให้ระวังแรงเทขายกำไรออกมา อย่างฉับพลัน
Resistance 945 950 955 / 1585 1590 1600
Support 935 930 925 / 1575 1570 1566
*EOD End of day
ผิดพลาดประการใดโปรดชี้แนะ
สำหรับพี่ๆ น้องๆ ที่ เล่น Put,Call Option ครับ ผมอาจจะไม่ ถนัดด้านนี้
แต่ ในกระทู้นี้ รับรองว่ามี จอมขมังเวทย์ Option เยอะครับ เชิญแชร์ iDea เจ๋งๆ เด็ดๆ / หรือข้อสงสัย สอบถามกันตามสบายเลยครับ
กู๊ดมอนิ่ง ชาว ขาS และ ขาL & ชาว Put,Call (19 Sep 16)
สวัสดียามเช้าวันจันทร์ วันแรกของสัปดาห์การทำงาน ครับ พี่ๆ น้องๆ ชาว ขาS และ ขาL & ชาว Put,Call Option ทุกๆท่าน
เมื่อวานศุกร์ที่ผ่านมา ดัชนี SET index ยังคงพุ่งทะยานใต่ระดับขึ้นมาได้อย่างต่อเนื่อง ไม่หยุดยั้ง ภายหลังจากดัชนี FTSE ได้ปรับเพิ่ม
น้ำหนักหุ้นไทย จึงทำให้มีกระแสเม็ดเงินขอลงนักลงทุนต่างชาติ (Fund Flow) กลับเข้ามาซื้อหุ้นอย่างมหาศาลอีกครั้ง อีกทั้งความคาดหวัง
ว่าการประชุมธนาคารกลางทั้งสอง ไม่ว่าจะเป็น BOJ อาจจะออกมาตราการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม และ FED น่าจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้คงเดิมต่อไป
ในการประชุมวันที่ 21-21 กันยายนนี้ ดังนั้นจึงทำให้ดัชนี SET index ปิดตัวไปที่ระดับ 1479 จุด +15.68 จุด +1.07% วันนี้มาติดตามกันต่อ
ว่าดัชนีจะสามารถพุ่งทะยานขึ้นไปได้อย่างเร้าร้อน เฉกเช่น สัปดาห์ก่อนได้หรือไม่
Fundamental
"เอเชียเช้านี้" ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดเพิ่มขึ้น 151.03 จุด หรือ +0.65% แตะที่ 23,486.62 จุดในวันนี้ ขณะนักลงทุน
รอดูการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และการประชุมของธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 20-21 ก.ย. นี้
"ฝั่งสหรัฐ" ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อวันศุกร์ (16 ก.ย.) โดยได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มธนาคาร หลังจาก
หุ้นดอยซ์แบงก์ดิ่งลงกว่า 9% อันเนื่องมาจากข่าวที่ว่ากระทรวงยุติธรรมสหรัฐได้เรียกร้องให้ดอยซ์แบงก์จ่ายค่าปรับเป็นเงินกว่าหมื่นล้านดอลลาร์
เพื่อยุติคดีความที่เกี่ยวข้องกับการจำหน่ายหลักทรัพย์ที่มีสัญญาจำนองค้ำประกัน (MBS) นอกจากนี้ ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐที่เพิ่ม
ขึ้นมากกว่าคาด ยังได้กระตุ้นให้เกิดกระแสคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมสัปดาห์หน้า
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 18,123.80 จุด ลดลง 88.68 จุด หรือ -0.49%
ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,244.57 จุด ลดลง 5.12 จุด หรือ -0.10%
ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,139.16 จุด ลดลง 8.10 จุด หรือ -0.38%
ส่วนตลอดทั้งสัปดาห์ ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวขึ้นทั้งสิ้น 0.2% ดัชนี S&P500 เพิ่มขึ้น 0.5% และดัชนี NASDAQ เพิ่มขึ้น 2.5%
ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อวันศุกร์ หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนี CPI ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่สำคัญนั้น ดีดตัวขึ้น 0.2%
ในเดือนส.ค. เมื่อเทียบรายเดือน ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าดัชนี CPI จะขยับขึ้นเพียง 0.1% ขณะที่ดัชนี CPI พื้นฐานซึ่งไม่นับรวมราคา
ในหมวดอาหารและพลังงาน พุ่งขึ้น 0.3% ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.พ.
ดัชนี CPI ที่สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์นั้น ได้กระตุ้นให้กระแสคาดการณ์เรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดกลับมากดดันตลาดอีกครั้ง โดย
CME Group FedWatch ระบุว่า นักลงทุนได้ปรับเพิ่มคาดการณ์การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในการประชุมวันที่
20-21 ก.ย. หลังการเปิดเผยตัวเลขดัชนี CPI ที่เพิ่มขึ้นมากกว่าคาด
ทั้งนี้ นักลงทุนปรับเพิ่มความเป็นไปได้ในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ย.สู่ระดับ 15% จากเดิมที่ 12%
ขณะเดียวกันการร่วงลงของหุ้นดอยซ์แบงก์ยังเป็นอีกปัจจัยที่สร้างแรงกดดันต่อตลาด โดยหุ้นดอยซ์แบงก์ซึ่งจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหุ้น
นิวยอร์กด้วยนั้น ร่วงลงมากกว่า 9% หลังจากมีรายงานว่ากระทรวงยุติธรรมสหรัฐได้เรียกร้องให้ดอยซ์แบงก์จ่ายค่าปรับเป็นเงิน 1.4 หมื่นล้านดอลลาร์
เพื่อยุติการสอบสวนในคดีที่เกี่ยวข้องกับการจำหน่ายหลักทรัพย์ที่มีสัญญาจำนองค้ำประกัน (MBS) โดยผลิตภัณฑ์การเงินประเภทนี้เป็นต้นเหตุ
ของวิกฤตการเงินโลกปี 2008
อย่างไรก็ดี ดอยซ์แบงก์ระบุว่า ธนาคารยังไม่มีแผนที่จะยุติคดีความทางแพ่งด้วยการจ่ายเงินจำนวนดังกล่าว โดยระบุว่าดอยซ์แบงก์ยังอยู่ในช่วง
เริ่มต้นการเจรจากับสหรัฐ และคาดหวังว่าผลของการเจรจาจะนำไปสู่การชำระเงินในจำนวนที่ไม่ต่างจากที่สถาบันการเงินอื่นๆได้ชำระตามที่
ถูกเรียกร้องทั้งนี้ การร่วงลงอย่างหนักของหุ้นดอยซ์แบงก์ได้ฉุดหุ้นตัวอื่นๆในกลุ่มธนาคารปรับตัวลงด้วย โดยหุ้นโกลด์แมน แซคส์ และหุ้นเจพี
มอร์แกน ต่างก็ร่วงลงกว่า 1%
หุ้นออราเคิล ซึ่งเป็นบริษัทซอฟต์แวร์รายใหญ่ของสหรัฐ ดิ่งลง 4.8% หลังจากบริษัทเปิดเผยยอดขายลดลง 1.7% มาอยู่ที่ 8.6 พันล้านดอลลาร์
ในไตรมาสที่สิ้นสุดวันที่ 31 ส.ค. เนื่องจากบริษัทประสบความล่าช้าในการย้ายไปสู่การให้บริการบนระบบคลาวด์ ขณะที่ผลประกอบการของระบบ
ฐานข้อมูลและซอฟต์แวร์สำหรับธุรกิจในแบบดั้งเดิมนั้น ชะลอตัวลงด้วย
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากราคาน้ำมันที่ร่วงลง หลังจากมีรายงานว่าแท่นขุดเจาะที่ใช้งานในสหรัฐมีจำนวนเพิ่มขึ้นในสัปดาห์ที่ผ่านมา
ซึ่งข้อมูลดังกล่าวส่งผลให้เกิดความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะน้ำมันล้นตลาด
"ฝั่งยุโรป" ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (16 ก.ย.) เนื่องจากหุ้นดอยซ์แบงก์ร่วงลงอย่างหนักและได้ฉุดหุ้นกลุ่มธนาคารปรับตัวลงด้วย
หลังจากมีข่าวว่ากระทรวงยุติธรรมสหรัฐได้เรียกร้องให้ดอยซ์แบงก์จ่ายค่าปรับเป็นเงินกว่าหมื่นล้านดอลลาร์ เพื่อยุติคดีความที่เกี่ยวข้องกับการจำ
หน่ายหลักทรัพย์ที่มีสัญญาจำนองค้ำประกัน (MBS)
ดัชนี Stoxx Europe 600 ร่วงลง 0.7% ปิดที่ 337.82 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,332.45 จุด ลดลง 40.77 จุด หรือ -0.93%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 10,276.17 จุด ลดลง 155.03 จุด หรือ -1.49%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,710.28 จุด ลดลง 20.02 จุด หรือ -0.30%
ตลาดหุ้นยุโรปได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงอย่างหนักของหุ้นดอยซ์แบงก์ หลังจากกระทรวงยุติธรรมสหรัฐได้เรียกร้องให้ดอยซ์แบงก์จ่ายค่า
ปรับเป็นเงิน 1.4 หมื่นล้านดอลลาร์ เพื่อยุติการสอบสวนในคดีที่เกี่ยวข้องกับการจำหน่ายหลักทรัพย์ที่มีสัญญาจำนองค้ำประกัน (MBS)
ซึ่งเป็นต้นเหตุของวิกฤตการเงินโลกปี 2008
อย่างไรก็ดี ดอยซ์แบงก์เปิดเผยว่า ธนาคารยังไม่มีแผนที่จะยุติคดีความทางแพ่งด้วยการจ่ายเงินจำนวนดังกล่าว พร้อมระบุว่า ดอยซ์แบงก์
ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นการเจรจากับสหรัฐ และคาดหวังว่าผลของการเจรจาจะนำไปสู่การชำระเงินในจำนวนที่ไม่ต่างจากที่สถาบันการเงินอื่นๆ
ได้ชำระตามที่ถูกเรียกร้อง
ทั้งนี้ หุ้นดอยซ์แบงก์ ร่วงลง 8.5% หุ้นรอยัล แบงก์ ออฟ สก็อตแลนด์ ดิ่งลง 4.4% และหุ้นบาร์เคลย์ส ปรับตัวลง 2.8%
นอกจากนี้ นักลงทุนยังชะลอการซื้อขายก่อนที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) จะประชุมนโยบายการเงินในสัปดาห์หน้า
ข้อมูลของ CME Group FedWatch ระบุว่า นักลงทุนได้ปรับเพิ่มคาดการณ์การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในการประชุม
วันที่ 20-21 ก.ย. หลังจากสหรัฐเปิดเผยดัชนี CPI ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่สำคัญนั้น ดีดตัวขึ้น 0.2% ในเดือนส.ค. ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์
คาดว่าดัชนี CPI จะขยับขึ้นเพียง 0.1% ส่วนดัชนี CPI พื้นฐานซึ่งไม่นับรวมราคาในหมวดอาหารและพลังงาน พุ่งขึ้น 0.3% ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้น
มากที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.พ.
Credit : สำนักข่าวอินโฟวเควสท์
Technical Analysis
SET index TF Day : เมื่อวานศุกร์ที่ผ่านมา ดัชนีได้ใต่ระดับพุ่งทะยานขึ้นมาได้อย่างเร้าร้อนรุนแรง และนับตั้งแต่เกิดแท่งเทียน
Shaven Bottom ก็ทำให้ดัชนีฟื้นตัวขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง เป็นรูปแบบการกลับตัว V shape ได้อย่างอลังการงานสร้างมาก
และในวันนี้ได้มาทดสอบแนวต้านสำคัญ เป็นทั้ง EMA75 วัน และ กรอบล่างของ Uptrend Channel ที่เคยหลุดร่วงลงมา
ก็ต้องมาดูกันว่าดัชนีจะสามารถทะลุผ่านขึ้นไปได้หรือไม่ //ถ้าผ่านได้ ก็จะกลายเป็น False Break เตรียมกลับขึ้นไปทดสอบ 1550 อีกครั้ง
แต่ถ้าหากไม่ผ่าน ก็อาจจะมีการเทขายทำกำไร ย่อตัวลงมาก็เป็นได้ ภายหลังจากตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา ดัชนีพุ่งขึ้นมาได้อย่างรุนแรง
S50U16 TF Day : เมื่อวานศุกร์ที่ผ่านมา ดัชนีได้ใต่ระดับพุ่งทะยานขึ้นมาได้อย่างเร้าร้อนรุนแรง และนับตั้งแต่เกิดแท่งเทียน
Shaven Bottom ก็ทำให้ดัชนีฟื้นตัวขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง เป็นรูปแบบการกลับตัว V shape ได้อย่างอลังการงานสร้างมาก
และในวันนี้ได้มาทดสอบแนวต้านสำคัญ เป็นทั้ง EMA25 วัน และ กรอบล่างของ Uptrend Channel ที่เคยหลุดร่วงลงมา
ก็ต้องมาดูกันว่าดัชนีจะสามารถทะลุผ่านขึ้นไปได้หรือไม่ //ถ้าผ่านได้ ก็จะกลายเป็น False Break เตรียมกลับขึ้นไปทดสอบ 990 อีกครั้ง
แต่ถ้าหากไม่ผ่าน ก็อาจจะมีการเทขายทำกำไร ย่อตัวลงมาก็เป็นได้ ภายหลังจากตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา ดัชนีพุ่งขึ้นมาได้อย่างรุนแร
TF60 : ตลอดทั้งสัปดาห์ที่ผ่านมา ดัชนีได้พุ่งทะยานขึ้นไปอย่างต่อเนื่องไม่หยุดยั้ง และในตอนนี้ดัชนีได้ฟื้นตัวขึ้นมาได้ 50%
จากที่ลงไปเมื่อต้นเดือนกันยา ถือว่าเป็นการฟื้นตัวที่เร็ว และ รุนแรงมากๆ // ถ้าหากวันนี้ดัชนีสามารถทะลุ ยืนเหนือ EMA200 วัน
หรือ 950 จุดได้ ยิ่งจะทำให้ภาพสัญญาณดูสวยงาม ยิ่งขึ้น พร้อมทะยานสู่ดวงดาวอันไกลโพ้น อย่างไรก็ตาม การฟื้นตัวอย่างนี้
ยังไม่มีรูปแบบกลับตัวที่ชัดเจนให้ระวังแรงเทขายกำไรออกมา อย่างฉับพลัน
Resistance 945 950 955 / 1585 1590 1600
Support 935 930 925 / 1575 1570 1566
*EOD End of day
ผิดพลาดประการใดโปรดชี้แนะ
สำหรับพี่ๆ น้องๆ ที่ เล่น Put,Call Option ครับ ผมอาจจะไม่ ถนัดด้านนี้
แต่ ในกระทู้นี้ รับรองว่ามี จอมขมังเวทย์ Option เยอะครับ เชิญแชร์ iDea เจ๋งๆ เด็ดๆ / หรือข้อสงสัย สอบถามกันตามสบายเลยครับ