กู๊ดมอนิ่ง ชาว ขาS และ ขาL & ชาว Put,Call (8 Jan 18)

กระทู้สนทนา



สวัสดียามเช้าวันจันทร์ วันทำงานวันแรก ของสัปดาห์การทำงาน ครับ พี่ๆน้องๆ ชาว ขาS ขาL และ ชาว Put, Call

เมื่อวานศุกร์ที่ผ่านมา ดัชนี SET Index ได้พุ่งทะยานขึ้นไปเหนือระดับ 1800 จุด ได้เป็นครั้งแรก นับตั้งแต่ก่อตั้งตลาดหลักทรัพย์ ด้วยปัจจัย
Sentiment จากฝั่งสหรัฐ ภายหลัง Dow Jone พุ่งทะยานขึ้นไปแตะ 25,000 จุด นอกจากนั้นแล้ว ภูมิภาคเอเชียเขียวสดใส ทุบสถิติ All Time High
กันถ้วนหน้า ส่งผลให้ความเชื่อมั่นนักลงทุน ต่อตลาดหุ้นไทย เพิ่มขึ้นอย่างมาก และได้ทำให้ดัชนีพุ่งขึ้นไปทำจุดสูงสุดเป็นประวัติกาล แม้ว่าดัชนีไม่สามารถปิดตัวยืนเหนือ 1800 จุด ได้ ด้วยแรงเทขายทำกำไรท้ายตลาด กดดัชนีให้ร่วงลงมาปิดตัวที่ระดับ 1795 จุด +4.43 จุด วันนี้มาติดตามกันต่อ
ว่าดัชนีจะสามารถฟื้นนตัวยืนเหนือ 1800 จุด ได้หรือไม่


Fundamental

เอเชียเช้านี้ ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดปรับตัวขึ้นในวันนี้ หลังจากตลาดหุ้นวอลล์สตรีทปิดทำนิวไฮติดต่อกันเป็นวันที่ 4 เมื่อวันศุกร์
เนื่องจากนักลงทุนมองว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนธ.ค.ของสหรัฐที่ขยายตัวน้อยกว่าคาดนั้น จะทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
ชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดเพิ่มขึ้น 80.45 จุด หรือ +0.26% สู่ระดับ 30,895.09 จุด


ฝั่งสหรัฐ ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อวันศุกร์ (5 ม.ค.) โดยดัชนีหลักทั้ง 3 ดัชนีเดินหน้าทำนิวไฮติดต่อกันเป็นวันที่ 4
เนื่องจากนักลงทุนมองว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนธ.ค.ของสหรัฐที่ขยายตัวน้อยกว่าคาดนั้น จะทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
ชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ นอกจากนี้ การพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่องของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ยังเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ช่วยหนุนตลาดหุ้นนิวยอร์ก
ปิดในแดนบวกเช่นกัน

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,295.87 จุด พุ่งขึ้น 220.74 จุด หรือ +0.88%
ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,743.15 จุด เพิ่มขึ้น 19.16 จุด หรือ +0.70%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,136.56 จุด เพิ่มขึ้น 58.64 จุด หรือ +0.83%

ตลอดทั้งสัปดาห์ ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวขึ้นทั้งสิ้น 2.3% ขณะที่ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 2.6% และดัชนี Nasdaq พุ่งขึ้น 3.4% โดยดัชนีดาวโจนส์
ปรับตัวขึ้นรายสัปดาห์ที่แข็งแกร่งที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค. 2560 ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กยังคงเป็นไปอย่างคึกคักเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา
โดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนธ.ค.ของสหรัฐที่ขยายตัวน้อยกว่าคาดนั้น จะทำให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอก
เบี้ยเพียง 2 ครั้งในปีนี้

CME Group ระบุว่า จากการใช้เครื่องมือ FedWatch วิเคราะห์ภาวะการซื้อขายสัญญาล่วงหน้าอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ พบว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่า
มีโอกาส 76% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเดือนมี.ค. ลดลงจากระดับ 78% ก่อนเปิดเผยตัวเลขการจ้างงาน และนักลงทุน
ยังคาดการณ์ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 1 ครั้งหลังจากเดือนมี.ค.

ทั้งนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาดในเดือนธ.ค. โดยปรับตัวขึ้นเพียง 148,000 ตำแหน่ง
ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 190,000 ตำแหน่ง ส่วนอัตราการว่างงานทรงตัวที่ระดับ 4.1% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 17 ปี
ส่วนตัวเลขรายได้ หรือค่าแรงต่อชั่วโมงโดยเฉลี่ยของแรงงาน  ซึ่งเป็นข้อมูลที่เฟดให้ความสำคัญเพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ภาวะเงินเฟ้อนั้น ปรับตัวขึ้น
2.5% ในเดือนธ.ค. เมื่อเทียบรายปี เช่นเดียวกับในเดือนพ.ย.

ทางด้านนายแพทริค ฮาร์เกอร์ ประธานเฟด สาขาฟิลาเดลเฟีย กล่าวเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาว่า เฟดควรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพียง 2 ครั้งในปีนี้
เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับต่ำ โดยความเห็นของนายฮาร์เกอร์ที่แนะนำให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพียง 2 ครั้งในปีนี้ แตกต่างจาก
เจ้าหน้าที่เฟดส่วนใหญ่ที่คาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้งในปีนี้

ฝั่งยุโรป ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (5 ม.ค.) โดยได้รับปัจจัยหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มรถยนต์ นอกจากนี้ การทำนิวไฮ
อย่างต่อเนื่องของตลาดหุ้นวอลล์สตรีทยังเป็นอีกปัจจัยที่ช่วยให้บรรยากาศการซื้อขายในตลาดหุ้นยุโรปเป็นไปอย่างคึกคัก

ดัชนี Stoxx Europe 600 เพิ่มขึ้น 0.9% ปิดที่ 397.35 จุด ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค. 2558 และตลอดทั้งสัปดาห์
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวขึ้นทั้งสิ้น 2.1%

ตลาดหุ้นยุโรปปิดในแดนบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 3 เมื่อคืนนี้ ขานรับตลาดหุ้นวอลล์สตรีทที่ทำสถิติสูงสุดติดต่อกันหลายวันทำการ โดยดัชนีดาวโจนส์
พุ่งขึ้นทะลุแนว 25,000 จุด ซึ่งช่วยหนุนตลาดหุ้นทั่วโลกทะยานขึ้นถ้วนหน้า นอกจากนี้ ตลาดหุ้นยุโรปยังได้ปัจจัยหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น
น้อยกว่าคาดในเดือนธ.ค. โดยปรับตัวขึ้นเพียง 148,000 ตำแหน่ง ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 190,000 ตำแหน่ง ส่วนอัตราการว่างงานทรงตัวที่ระดับ 4.1% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 17 ปี

CME Group ระบุว่า จากการใช้เครื่องมือ FedWatch วิเคราะห์ภาวะการซื้อขายสัญญาล่วงหน้าอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ พบว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่า
มีโอกาส 76% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเดือนมี.ค. ลดลงจากระดับ 78% ก่อนเปิดเผยตัวเลขการจ้างงาน และนักลงทุน
ยังคาดการณ์ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 1 ครั้งหลังจากเดือนมี.ค.

หุ้นกลุ่มรถยนต์ดีดตัวขึ้น โดยได้แรงหนุนจากรายงานยอดขายรถยนต์ที่ดีเกินคาดในสหรัฐ และจากการที่นักวิเคราะห์ได้ปรับเพิ่มอันดับความน่าลงทุน
ของหุ้นในกลุ่มรถยนต์ โดยหุ้นโฟล์คสวาเกน พุ่งขึ้น 2.7% หลังจากนักวิเคราะห์ของดอยซ์แบงก์ได้แนะนำให้นักลงทุน "ซื้อ" หุ้นโฟล์คสวาเกน
ขณะที่หุ้นเฟียต ไครส์เลอร์ ออโตโมบายส์  (FCA) ทะยานขึ้นกว่า 6% หลังจากนักวิเคราะห์ของเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค ได้ปรับเพิ่มอันดับ
ความน่าลงทุนของหุ้น FCA ขึ้นสู่ระดับ "overweight" จากระดับ "neutral"

Credit : สำนักข่าวอินโฟวเควสท์


Technical Analysis

SET Index Daily: เมื่อวานศุกร์ที่ผ่านมา ดัชนียังคงพุ่งทะยานขึ้นไปอย่างต่อเนื่อง และยังสามารถทำจุดสูงสุดใหม่ (All Time High)
ได้เป็นประวัติกาล โดยทะลุ 1800 จุด ได้สำเร็จ แต่อย่างไรก็ตาม ช่วงท้ายตลาดได้เผชิญกับแรงเทขายทำกำไรออกมา จึงทำให้ปิดแท่งเทียน
ไปแบบ “Evening star” พร้อมกับจำนวน Gap ที่ดัชนีเปิดไว้ ช่วงที่ทะยานขึ้นมานั้น ตอนนี้ถึงขั้น Island Reversal Top และแนวโน้มวันนี้คาดว่า
ดัชนีน่าจะเริ่มย่อตัวลงมา และ ค่อยๆปิด Gap ที่เคยเปิดไว้เมื่อก่อนหน้านี้

S50H18 Daily: เมื่อวานศุกร์ที่ผ่านมา ดัชนียังคงพุ่งทะยานขึ้นไปได้อย่างต่อเนื่อง และ ไม่หยุดยั้ง สามารถสร้างจุดสูงสุดใหม่ (All Time High)
ได้เป็นประวัติกาล โดยขึ้นมายืนเหนือระดับ 1170 จุด ซึ่งเป็นการทดสอบกรอบแนวต้านบน ของ Uptrend Channel หลังจากนั้นไม่นาน
ก็ได้เผชิญกับแรงเทขายทำกำไรออกมา ทำให้ปิดแท่งเทียนไปแบบ “Bearish Harami” พร้อมกับ Indicator บางตัวที่เข้าสู่สภาวะ Over Bought
ซึ่งคาดว่า วันนี้มีโอกาสที่ดัชนีจะย่อตัวลงมาได้

S50H18 TF60 Min: ตลอดทั้งวันศุกร์ที่ผ่านมา ดัชนียังคงพุ่งทะยานขึ้นไปทำจุดสูงสุดได้อย่างต่อเนื่องอย่างไม่หยุดยั้ง (All Time High) และในที่สุด
ก็ได้ขึ้นมาทดสอบกรอบแนวต้านบน ของ Uptrend Channel และยังไม่สามารถทะลุผ่านไปได้ เนื่องจากมีสัญญาณ Bearish Divergence กดดันไว้อยู่
ซึ่งแนวโน้มวันนี้คาดว่า ดัชนีน่าจะย่อตัวลงมา ทดสอบ EMA25 75 200 วัน ตามลำดับ แล้วลุ้นกันว่าจะสามารถรับอยู่ไหม หากรับอยู่
ก็มีโอกาสที่จะฟื้นตัวขึ้นไปทำ All Time High อีกครั้ง

Resistance  1166 1170 1173 1177 : 1800 1803 1808
Support 1160 1155 1150 : 1790 1785 1780

*EOD End of day

ผิดพลาดประการใดโปรดชี้แนะ

สำหรับพี่ๆ น้องๆ ที่ เล่น Put,Call Option ครับ  ผมอาจจะไม่ ถนัดด้านนี้
แต่ ในกระทู้นี้ รับรองว่ามี จอมขมังเวทย์ Option เยอะครับ  เชิญแชร์ iDea เจ๋งๆ เด็ดๆ / หรือข้อสงสัย สอบถามกันตามสบายเลยครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่