Resolve 4 เสื้อตัวโปรด

กระทู้สนทนา
สวัสดีครับ มาลงนิยายให้ลองติชมกันครับ

เนื้อเรื่องแนว ดราม่า


บทนำ http://pantip.com/topic/30963022
บทที่ 1 http://pantip.com/topic/30965255
บทที่ 2 http://pantip.com/topic/30984924
บทที่ 3 http://pantip.com/topic/35602812

ลาก่อนชุดเดียวที่มี


            “ออกประตูไปได้ก็เป็นอิสระแล้ว”

เด็กชายหัวโจกที่วิ่งนำหน้าออกไปตะโกนเสียงดัง จนกลุ่มเด็กเกือบทั้งหมดกรูกันวิ่งออกไปที่ประตู โดยมีหญิงสาวที่คุมขบวนวิ่งตามไปอย่างกระชั้นชิด แต่…

    “จะไปไหนกันจ๊ะ หนูๆ ซี๊ดๆ”

ชายที่ยืนเฝ้าประตูซึ่งคิดว่าไม่อยู่แล้ว กลับโผล่ออกมาพร้อมกับชายร่างใหญ่อีกสองคน ทั้งสามคนช่วยกันรวบตัวเด็กๆได้ ก่อนจะโยนเด็กๆกลับเข้ามากลิ้งเป็นลูกขนุน เนอิน่าได้แต่ยืนมองนิ่งๆ ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมากตั้งแต่เริ่มจนจบเพียงครู่เดียว


“หนอย คิดหนีหรือพวกเด็กเวรเอ๊ย”


หญิงสาวกระหน่ำฝาดไม้ใส่เด็กหัวโจกสองคน ที่เป็นตัวการในเรื่องนี้อย่างหนัก จนเด็กทั้งสองร้องด้วยความเจ็บปวด ส่วนเด็กคนอื่นๆก็รีบถอยร่นมายืนรวมกลุ่มกันที่เนอิน่าอย่างหวาดกลัว


“พอได้แล้วน่า ซี๊ดๆ เดี๋ยวฉันจะดัดนิสัยให้เอง ซี๊ดๆ ก่อนส่งสินค้าวันพรุ่งนี้” ชายร่างกำยำเดินเข้ามาจับแขนของหญิงสาวเอาไว้ ก่อนที่จะฟาดเด็กชายทั้งสองไปมากกว่านี้


“เอาสิ แต่เจ้าตัวหัวโจกนี่มันเกรดเอนะ รู้ใช่ไหมว่าฟรานซิสจะหัวเสียแน่ถ้านายพาไป หือ คองเฟือง ?”


คองเฟืองทำท่าทางน่าเสียดายอย่างชัดเจนจนออกอาการหงุดหงิด อยู่ๆก็อารมณ์แปรปรวนหันไปใส่อารมณ์กับข้าวของรอบตัวแทน จนเพื่อนชายอีกสองคนที่มาด้วยถอยออกไปยืนคุมที่ประตู


“แต่อีกคนได้นะ ไม่มีปัญหา”


คองเฟืองหันควับหูผึ่งทันที จากนั้นเขาก็เดินมาอุ้มเด็กชายอีกคนที่ร่วมมือกับเด็กหัวโจกในเรื่องครั้งนี้ ก่อนจะยิ้มแสยะให้กับหญิงสาวแล้วพาเดินออกไปทางประตู ชายสองคนถูกส่งเข้ามาเพื่อช่วยในการดูแลเด็กๆทั้งหมดไปขังไว้ในห้องเพื่อรอการส่งสินค้าในวันพรุ่งนี้


หลังจากเกิดความโกลาหลเล็กน้อย หญิงสาวก็เดินบ่นไปตลอดทางอย่างหงุดหงิด พลางใช้ไม้ฟาดใส่เด็กที่เหลือเป็นระยะๆ ยกเว้นแค่เนอิน่าคนเดียวเท่านั้น ก่อนจะพาขึ้นไปชั้นสี่และขังเด็กๆที่เหลือสิบคนไว้ด้วยกัน


“ตอนนี้บ่ายแก่ๆแล้วฉันต้องมายุ่งกับพวกแกนี่เกือบทั้งวัน ไหนจะมาก่อเรื่องก่อราวอีกนะเจ้าพวกเด็กเวรเอ๊ย”


หญิงสาวตวาดพร้อมฟาดเด็กๆทั้งหลาย ก่อนจะปิดประตูใส่เสียงดังสนั่น จนเด็กๆทั้งหลายตัวสั่นเทาด้วยความหวาดกลัว รวมทั้งความเจ็บปวดจากแผลไม้เรียว จนตอนนี้ทุกคนต่างก็นั่งน้ำตาซึม บ้างก็สะอึกสะอื้นฟูมฟายกันใหญ่ เนอิน่าเองก็กลัวเหมือนกันแต่ไม่รู้จะทำยังไงดี


เมื่อผ่านมาได้สักพักกลุ่มเด็กๆต่างก็หยุดร้องไห้กันแล้ว หลายๆคนต่างก็พูดคุยกันถึงความหวาดกลัวต่างๆนาๆ มีสามคนที่ถูกลักพามาจากหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ตอนที่กำลังวิ่งเล่นในสวนสารธารณะ ที่เหลือก็มีทั้งเด็กจรจัด บ้างก็ถูกขายแลกกับเงิน เนอิน่านั่งตัวสั่นเทาอยู่มุมห้อง เงี่ยหูฟังเสียงคร่ำครวญอื้ออึงในห้องปิดตาย มีเพียงบานกระจกที่เล็กพอให้แมวรอดผ่านได้ ถ่ายแสงสว่างและอากาศเข้ามา


“นี่เธอ ทำไมเมื่อกี้ถึงไม่วิ่งล่ะ ?”


เด็กหญิงที่ดูแล้วคงจะอายุมากกว่าเนอิน่าตรงมานั่งข้างๆ ดวงตาที่ยังคงเปื้อนรอยน้ำตา แสดงให้เห็นถึงความสับสนและหวาดกลัว


“เอ่อ นะ...หนูแค่ก้าวขาไม่ออกค่ะ”


เนอิน่าใช้นิ้วมือปาดน้ำตาตัวเองที่ซึมออกมา หัวใจยังเต้นตูมตามไม่หายและท้องก็ยังหิวอีกด้วย


“ฉันชื่ออมิตา เธอชื่ออะไร”
“หนูเนอิน่าค่ะ”


อมิตาผิวเหลืองตาสีดำดวงโตดูสวยงามมากเลย หนูมองดูเธอที่อายุมากกว่า แต่ก็ดูจะสับสนและหวาดกลัวไม่ต่างไปจากตัวหนูเอง รวมทั้งคนอื่นๆด้วย


“เธออายุเท่าไหร่ ? ฉันสิบสอง”
“หนูเจ็บขวบ”
“แล้วเธอมีพ่อแม่ไหม เขาจะตามหาเธอหรือเปล่า ?”


หนูไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมคำถามนี้ ถึงทำให้หัวใจหนูรู้สึกเจ็บแปลบขึ้นมา หนูทำเพียงแค่ก้มหน้าลงและส่ายหัวตอบคำถามอมิตาไป ซึ่งคงเป็นคำตอบที่ไม่น่าพอใจสำหรับเธอเท่าไหร่ อมิตาลุกขึ้นและเดินกลับไปพูดคุยกับคนอื่นๆต่อ จากนั้นไม่นานทั้งห้องก็ตกอยู่ในความเงียบ จะมีเพียงแค่เสียงสะอื้นเบาๆของใครสักคนเท่านั้น



แกร๊ก ! เอี๊ยด…!


ท่ามกลางเสียงกลอนประตูที่ดังขึ้น เด็กทุกคนที่นั่งจมอยู่กับความสับสนและเศร้าต่างสะดุ้งสุดตัว ประตูเปิดออกเผยให้เห็นผู้คุมหญิงคนเดิมที่เพิ่งจะจากไป กลับมาพร้อมกับขนมปังก้อนใหญ่ในมือขวา ขวดของเหลวสีขาวในมือซ้าย


“นังหนู แกที่นั่งมุมห้องน่ะ มานี่ซิ”


ทุกสายตาตามมุมต่างๆในห้อง หันมามองที่ตัวหนูเป็นทางเดียวกัน มีทั้งความสงสัยและหวาดกลัว ซึ่งหนูเองก็เช่นกัน หนูค่อยๆลุกขึ้นและเดินเข้าไปหาเธอช้าๆ จนเมื่อไปถึงหญิงสาวคนนั้นก็ทำให้มือข้างหนึ่งให้ว่างลง ก่อนจะชูมือขึ้นสูงพร้อมที่จะตบลงมา พริมตานั้นหนูก้มลงเอามือกุมหัวด้วยความกลัว


“ดีมากนังหนู จงกลัวฉันไว้ซะ เงยหน้าขึ้นมา”


หญิงสาวสั่งเสียงเข้มจนเนอิน่าต้องรีบทำตาม ใบหน้าที่เหยเกของเด็กน้อยเงยขึ้น พร้อมกับหญิงสาวที่โน้มตัวลงมา


“นี่คือรางวัลของแกนังหนู ตอนที่ตรงทางเข้ามีแค่แกที่ทำตามคำสั่งสินะ เอาไปขนมปังกับนม ส่วนพวกแกน่ะอดอาหารไปจนถึงเช้าซะ”


เธอหันไปตวาดใส่เด็กคนอื่นๆ พูดจบก็ยื่นขนมปังกับนมให้เนอิน่า ก่อนจะปิดประตูจากไป แน่นอนว่าตั้งแต่เกิดเรื่องจนมาถึงตอนนี้ เนอิน่ายังไม่มีอะไรตกถึงท้อง ว่าแล้วก็ลงมือกัดขนมปังที่ทั้งแข็งและเย็นลงท้อง ซึ่งก็ดีกว่าไม่มีอะไรเลย แต่เมื่อเนอิน่าเงยหน้ามองไปรอบๆ ทุกคนในห้องต่างก็มองเธอด้วยความหิวโหย


‘จริงสินะ ทุกคนก็คงยังไม่ได้ทานอะไรเหมือนหนูแน่ๆเลย’


ว่าแล้วเนอิน่าก็ยกนมดื่มไปอึกหนึ่ง ก่อนจะนำขนมปังและนมที่เหลือไปแบ่งให้ทุกคนเท่าๆกัน สายตาเหลือบไปเห็นเด็กชายหัวโจก ที่ก่อเรื่องขึ้นก่อนหน้า ไปนั่งหลบมุมอยู่อีกด้านหนึ่งคนเดียว เนอิน่าจึงแบ่งอาหารส่วนหนึ่งไปให้


“ธะ เธอจ๊ะ ทานหน่อยไหม ?”


เด็กชายหันมามองด้วยดวงตาแดงก่ำ ที่ดูเหมือนจะขยี้มันจนแดง พลางสูดน้ำมูกที่ย้อยลงมาให้กลับเข้าที่ เขามองขนมปังก้อนเล็กที่แค่เข้าปากคำเดียวก็หมดแล้ว ก่อนจะเอื้อมมือมาหยิบไป


“ขอบใจนะ เธอ...”
“ฉันเนอิน่า”
“ฉันอเล็กซ์”


เนอิน่ามองดูขนมปังในมืออเล็กซ์ เขาถือมันไว้อย่างนั้นพลางจ้องมองบานประตูอย่างจดจ่อ


“ไม่ทานหรือ ?”
“ไม่ล่ะ ฉันจะเก็บมันไว้ให้เคย์”
“เค...”
“คนที่เจ้าอ้วนยักษ์หน้าประตูพาไป”


สีหน้าที่หนูก็ไม่รู้จะตอบว่ายังไงดีของอเล็กซ์ ปนไปด้วยทั้งความเศร้า หวาดกลัว เคียดแค้น ไม่ว่าจะเป็นสิ่งไหน หนูเองก็คงจะทำอะไรไม่ได้มากกว่านี้แล้ว


ตะวันคล้อยต่ำลงจนความมืดปกคลุมไปทั้งตึก ไม่นานหลังจากนั้นผู้คุมหญิงคนเดิมกลับมาพร้อมกับหัวหน้าของเธออินกริด มีการคัดตัวเด็กสี่คนออกมาจับไปอาบน้ำ หรือจะเรียกว่าใช้ถังน้ำสาดใส่ซะมากกว่า อากาศยามหัวค่ำไม่หนาวมากนัก โดนราดน้ำใส่สามสี่ครั้งก็จบการอาบน้ำ อินกริดพาตัวเด็กที่อายุมากสุดในสี่คนอเล็กซ์และอมิตาไป ส่วนหนูกับเด็กหญิงอีกคนถูกพาไปอีกทาง


ชุดเดรสตัวโปรดที่เก่าซอมซ่อเต็มที ถูกโยนทิ้งลงถังขยะไป แทนที่ด้วยชั้นในสีขาวและเดรสตัวใหม่ลายลูกไม้สวยงาม จนหนูถึงกับรู้สึกดีใจเล็กๆ ที่จะได้สวมชุดสวยๆแบบนี้ แต่อีดใจหนึ่งก็รู้สึกเศร้าที่ต้องทิ้งชุดเดรสตัวโปรดที่เคยได้เป็นของขวัญมา มันเป็นของขวัญอันมีค่าที่เคยได้รับครั้งเดียวในชีวิต จากนิมส์คนขายขนมปังผู้ใจดี และมันก็เป็นชุดตัวเดียวที่หนูมีและใส่มาตลอด


ระหว่างการอาบน้ำแต่งตัวหนูไม่ได้ยินเสียงจากเด็กอีกคนเลยสักแอะเดียว ถึงหนูจะกระแอมใส่ หรือถามอะไรไปเธอก็เอาแต่เงียบ แต่หนูกลับจำแววตาของเธอได้เป็นอย่างดี ดวงตาสีฟ้าช่างสวยงามคล้ายกับสร้อยคอเส้นโปรดของป้าเลย เม็ดสีฟ้าที่เล็กๆที่ป้าจะใช้เฉพาะวันออกงานเท่านั้น จนแล้วจนรอดการอาบน้ำแต่งตัวก็เสร็จสิ้นและเด็กทุกคนก็จบลงที่ห้องขังเดี่ยว ซึ่งสะอาดกว่าห้องขังรวมเป็นกอง


เมื่อความวุ่นวายผ่านพ้น ความเป็นจริงก็กลับมาแทนที่ เหนื่อยจังเลย กลัวจัง อยู่คนเดียวอีกแล้ว ทำไมหนูถึงโชคร้ายอย่างนี้นะ ป่านนี้ลุงและป้าจะทำอะไรอยู่นะ คงจะกำลังวุ่นวายกับการขายของแน่ๆเลย…


อยากมีครอบครัวจัง...
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่