บาปกรรมมีจริงฉะนั้นทุกที่ได้อ่านกระทู้นี้โปรดอย่าได้คิดทำบาปกรรม

ฉันมีเรื่องเล่ามาเล่าให้ฟังว่าสิ่งที่เกิดขึ้นมันเป็นกรรมที่มาเตียนเราเพื่อที่ไม่อยากให้เราทำกรรมอยากให้เราทำดีมากกว่า
เหตุการณ์แรกตอนเด็กเราเรียนโรงเรียนประจำทุกอย่างเราต้องอยู่ในกฏเกณฑ์แต่มีวันหนึ่งเพื่อนพากันไปเล่นน้ำเป็นสระน้ำของโรงเรียนที่มีขนาดใหญ่มากในขนาดเดียวกันที่เราเห็นเพื่อนกระโดดลงไปเล่นน้ำในสระเราก็อยากลงไปเล่นบ้างโดยที่เราว่ายน้ำไม่เป็นเลยก็กระโดดลงไปเหตุการณ์ ณ ตอนนั้นคืนเราจมน้ำแต่เพื่อนช่วยขึ้นมาได้เรายังไม่รุ้จักบาปกรรมว่าเป็นเพราะเจ้ากรรมนายเวรเค้ามาเตียนเราหรืปป่าว

เหตุการที่สองตอนอายุ15ปี เกิดเหตุการณ์ช่วงสงกรานต์เกิดขึ้นติดๆกันเลยวันที่13เมษายนเราได้เข้าไปศึกงานที่เทศบาลแห่งหนึ่งแล้วเราเป็นคนที่มีเพื่อนเยอะเป็นธรรมดาที่ขับรถผ่านตรงไหนเพื่อนก็จะสาดน้ำใส่แต่ในเวลานั้นเราต้องทำหน้าที่ก่อนเพราะที่เทศบาลเค้าจัดงานสงกรานต์ขับรถผ่านจุดแรกเพื่อนจะสาดน้ำเราบอกเพื่อว่าอย่าสาดเราต้องไปทำงานเพื่อนก็ไม่สาดขับมาจุดที่สองเราบอกอีกว่าอย่าสาดเราต้องไปทำงานเพื่อนก็ไม่สาดแต่เราขับรถไปเลื่อนเองห่างจากเพื่อนจุดที่สองไม่ไกลเท่าไร เพื่อนก็พากันวิ่งมาดูก็ไม่เป็นไรมากมีแผลตามร่างกายนิดหน่อยแต่ไม่ไปโรงบาล ผ่านมา1วัน วันที่15เมษายนมีเพื่อนมาหาที่บ้านบอกให้ไปบ้านย่าเพื่อนเราก็ไปบ้านย่าจะอยู่กันคนละอำเภอเราก็บอกเพื่อนว่าเราเอารถไปลงมาเพื่อนก็ถามว่าเป็นไรมากไหมแต่โดยความที่เราเป็นคนที่รักเพื่อนมากเราก็ไปส่งเพื่อนตอนที่เพื่อนขัยรถออกจากบ้านเราก็คิดละว่าเดี่ยวเราต้องเกิดอุบัติเหตุอีกแน่นอนเลย ขากลับมาจากบ้านย่าเพื่อนเราต้องผ่านถนนที่มันรุกรงเราก็คุยกันตลอดทางเราจะบอกเพื่อนว่าขับรถดีๆนะแต่เราไม่ได้บอกเพื่อนว่าเราคิดอะไรพอถึงถนนเส้นนี้รถตกหลุดเพื่อนลงข้างทางแต่เราตกลงบนถนนที่มีแต่หินและทรายตามร่างกายเรามีแต่หินและทรายเราก็ถามเพื่อนว่าเทอเป็นไรบ้างเพื่อนบอกไม่เป็นไรมากเราก็ปลุกรถขึ้นมาแล้วเป็นคนขับรถกลับบ้านเองในความที่รถเพื่อนแต่งซิ่งแต่รถคันนั้นเป็นของพี่ชายเค้า พอกลับมาถึงบ้านเราก็โทรหาพี่ชายเค้ามารับที่บ้านเราพอเพื่อนกลับไปเราก็ยังไม่ไปโรงพยาบาลพี่สาวและเพื่อนพี่สาวบอกว่าให้เราไปโรงพยาบาลแต่เราไม่ไปจนอยู่กับความเจ็บปวดเหล่านั้นจนหาย


เหตุการณ์ที่สามเกิดขึ้นตอนเราเรียนปริญญาตรีเรามีเพื่อนพักอยู่ที่เดียวกันแต่อยู่คนละหน้องวันที่เกิดเหตุเรากำลังจะทำอาหารอยู่หลังห้องแต่เราไม่รู้ว่ากระทะไฟฟ้าเราที่เพื่อนยืมสายไฟไปนั้นมันขาดบวกกับขนาดนั้นเราได้มีการซักผ้าและล้างหลังห้องจนน้ำเปลือกเติมพื้นไปหมด แต่เราไม่ได้อยู่ห้องคนเดียววันนี้เพื่อมันมาอาบน้ำที่ห้องเราปกติมันไม่มาอาบแต่วันนี้มันมาอาบห้องเราและหน้าห้องเราแฟนก็พึ่งกลับจากแตะฟุตบอลมาและนั่งคุยกับเพื่อนอยู่หน้าน้องจนกระทั้งเราทำอาหารไฟก็ดูดเราพยายามเรียกเพื่อนที่อาบน้ำในห้องเราเรียกหลายรอบมากเรียกจนสุดแรงแต่เพื่อนไม่ได้ยินแต่ดีที่ยังมีแฟนและเพื่อนที่ได้ยินเสียงเราเรียกจึงดึงปลั๊กไฟออกแต่เราก็สลบไปอยู่นานจนกระทั้งเราตื่นขึ้นมาเพื่อนมากันเติมห้อไปหมดเลยในตอนนั้นเรายังไม่ได้ไปโรงพยาบาลจนเราปวดจี่อยากไปเข้าห้องน้ำแต่เราไม่ไม่แรงเดินเราบอกแฟนว่าพาเราไปหาหมอเราแอดมิด3คืน4วันพอออกจากโรงพยาบาลเราได้กลับมาที่บ้านทันที่รักษาตัวจนหายแล้วก็กลับไปเรียนใหม่


เหตุการณ์ที่สี่นี่เป็นเหตุการณ์ที่เราเสียใจที่สุดเกิดขึ้นตอนเราทำงานเราตกลงจากตึก3ชั้นก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์นี้ไม่รู้ว่าเป็นความฝันหรือกึ่งหลับหึ่งตื่นเราเห็นคนร่างชายหญิงยืนอยู่หน้าประตูรั่วและเห็นเจ้าที่มายื่นตรงหน้าแล้วบอกว่าอย่ามาที่นี้อีกพอตื่นเช้ามาเราก็ไปทำบุญใ้ห้เจ้ากรรมนายเวรที่เราเห็นแต่เราก็กลับไปที่นั้นอีกครั้งแต่ครั้งนี้เหตุการณ์ก็เกิดขึ้นจนทำให้เราต้องเข้าโรงพยาบาลและรับการผ่าตัดดาบเหล็กไว้ที่หลักและทำให้ขาทั้งสองข้างไม่มีความรู้สึกตั้งแต่ท่อนล่างเรียกง่ายๆคืออัมพาตท่อนล่างจนออกจากโรงพยาบาลเราก็ไปรักษาทุกที่ที่จะหายจนเสียค่ารักษาไปมากมายจากมีเงินกลายเป็นหนี้สินเพื่อนที่จะมารักษาตัวจนเวลาผ่านมา2ปีกว่าอาการก้ดีขึ้นมานิดหนึ่ง


เหตูการณ์ที่เล่านทั้งหมดเป็นเรื่องจริงของเราเองตอนนี้เราเชื่อว่าบปกรรมมีจริงแต่เราไม่รู้ว่าเราไปทำอะไรกับใครบ้างถึงต้องเจอเหตุการณ์แบบนี้สิ่งไหนที่เราค่อยทำอะไรไม่ดีกับใครไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ดีเราขอ อโหสิกรรม มาณที่นี้ด้วยนะคะ เราขอให้เรื่องนี้เป็นวิทยาทานเพื่อที่จะไม่ให้ทุกคนก็ทำชั่วจงมั่นความดีนะคะ


มีใครที่มีที่รักษาหรืออะไรดีที่ดีๆทำแล้วหายก็บอกได้นะคะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่