พระพุทธเจ้าเป็นโรคซึมเศร้ารึเปล่าคะ???

ต้องขอออกตัวก่อนว่าเราไม่ได้จะลบหลู่แต่อย่างใด

เราก็นับถือศาสนาพุทธ

แต่ที่เราสงสัยเพราะเราได้ศึกษาจิตวิทยามาบ้าง

สิ่งที่เราสงสัยคือ

-พระพุทธเจ้าเบื่อหน่ายกิจกรรมที่เคยสนใจ

-พระพุทธเจ้าปลีกตัว

-พระพุทธเจ้าทิ้งครอบครัว

-พระพุทธเจ้าเห็นชีวิตเป็นทุกข์

-พระพุทธเจ้าบำเพ็ญทุกขกิริยา(ทำร้ายตัวเอง)

-พระพุทธเจ้าคิดถึงแต่เรื่องการตาย ความตายตลอดเวลา

ซึ่งเข้าได้กับเกณฑ์วินิจฉัยเรื่องซึมเศร้า

เพื่อนๆคิดยังไงคะ?
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 5
พระพุทธเจ้า น่าจะเป็นคนมีไอคิวสูง
ชอบสังเกตุ ชอบศึกษา
ท่านเห็นว่า มันมีดำ มีขาว มียาว มีสั้น มีกลางวัน มีกลางคืน
มันมีตรงข้าม
ท่านเลยคิดว่า มันมีทุกข์ มันต้องมีสภาวะไม่มีทุกข์สิ
ท่านเลยค้นหาจนพบว่า อ๋อ จิตที่มีความยึดมั่นไม่ยอมรับความเป็นเช่นนั้นเองนี่เอง ทำให้ทุกข์
ความคิดเห็นที่ 1
พระพุทธเจ้าหรือเจ้าชายสิทธิ์ทัตถะไม่ได้เป็นโรคซึมเศร้าค่ะ เราก็เรียนจิตวิทยาตอนปริญญาโทมา และเราก็เป็นโรคซึมเศร้าด้วย (เรียนมาไม่ค่อยช่วยเลย)

ในความเห็นส่วนตัวของเรา (ไม่รู้ถูกไหม) เจ้าชายสิทธิ์ทัตถะบำเพ็ญทุกรกริยาไม่ใช่เพื่อทำร้ายตนเอง แต่เพื่อค้นหาทางพ้นทุกข์ มันเป็นแนวทางหนึ่งที่ทรงทดลอง

การเห็นความจริงของชีวิตว่าเป็นทุกข์ ไม่ใช่โรคซึมเศร้า เพราะเห็นแล้วทรงออกหาทางพ้นทุกข์ ไม่ใช่จมกับความเศร้าแบบผู้ป่วยโรคซึมเศร้าแบบหาทางออกไม่ได้ (ยกเว้นจะไปหาจิตแพทย์)

คนปกติทั่วไปก็รู้และมองเห็นว่าชีวิตเป็นทุกข์เหมือนกัน แต่ก็หนีทุกข์ชั่วคราวด้วยวิธีทางโลก ไม่ได้หาทางพ้นทุกข์แบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาดแบบเจ้าชายสิทธิ์ทัตถะ การมองว่าชีวิตเป็นทุกข์-->ไม่ใช่อาการของผู้ป่วยซึมเศร้า เพราะคนปกติก็มองเห็นว่าชีวิตเป็นทุกข์ได้เหมือนกัน แต่คนปกติจะไม่จดจ่อกับความทุกข์เกือบตลอดเวลาแบบผู้ป่วยโรคซึมเศร้า

ทั้งหมดเป็นความเห็นส่วนตัวของเรา เพราะเราก็ไม่รู้จริงเรื่องธรรมะ แต่เราเป็นผู้ป่วยโรคซึมเศร้ามานาน พระพุทธเจ้าหรือเจ้าชายสิทธิ์ทัตถะไม่ได้เป็นโรคซึมเศร้าแน่นอน ผู้ป่วยอย่างเราการันตีเองค่ะ
ความคิดเห็นที่ 9
ต่างกันเยอะ พระพุทธเจ้าท่านเบื่อหน่ายกับโลกียสุข พร้อมทั้งปรารถณาให้คนอื่นพ้นทุกข์ เห็นทุกข์เห็นโทษจากการเกิด แก่ เจ็บ ตาย
แล้วตั้งหน้าตั้งตาแสวงหาทางที่จะพาพวกเราหลุดพ้นจากทุกข์ เรียกง่ายๆคือพระองค์เห็นทุกข์ด้วยปัญญา แต่คนเป็นโรคซึมเศร้ามักจมอยู่กับทุกข์
มีเวลาคิดมาก อยู่กับความฟุ้งซ่านมาก โดยปราศจากสติและปัญญา มักจะหาทางออกแบบขาดสติ คือตายๆไปให้ทุกข์มันจบๆ
แต่การคิดถึงความตายของพระพุทธเจ้าคือระลึกว่าร่างกายมันจะต้องตายทุกขณะจิต แล้วสอนให้เราเจริญมรณานุสติ เพื่อที่จะได้ไม่ตั้งตนอยู่
ในความประมาท มัวเมาในร่างกายและทรัพย์สิน จะได้ทำวันนี้ ปัจจุบันนี้ให้ดีที่สุด เสมือนว่าพรุ่งนี้ของเราจะไม่มี วันนี้ ตอนนี้เราอาจจะตายได้เสมอ
การคิดถึงความตายของพระพุทธเจ้าคือ ไม่ใช่กลัวตาย ไม่ใช่อยากตาย แต่พร้อมที่จะตาย แต่ความคิดของคนเป็นโรคซึมเศร้าขั้นรุนแรงคือ...
กุอยากตาย!! ต่างกันราวฟ้ากับเหว
ความคิดเห็นที่ 14
ผมไม่ออกความเห็นเรื่องพระพุทธเจ้านะ เพราะทรงอยู่เหนือวิสัยที่คนอย่างผมจะเข้าใจได้และไม่ขออาจเอื้อมในทุกกรณี

แต่สำหรับคนทั่วๆไป คนที่เห็นทุกข์เห็นภัยในวัฏสงสารและค้นหาทางออกจากทุกข์ไม่มีทางเป็นโรคซึมเศร้า เพราะต้องเป็นคนที่มีกำลังสติดีมากๆถึงไปถึงจุดนั้นได้ ในทางตรงข้าม คนที่ชอบสงสัยคนอื่น คนที่ยังหลงเมาอยู่กับเรื่องโลกิยะต่างหากที่เสี่ยงกับโรคพวกนี้ โรคของคนขาดสติ
คนทุกวันนี้ไม่รู้ด้วยซ้ำไปว่าตัวเองขาดสติ เพราะไม่รุ้ว่าสติคืออะไร
ความคิดเห็นที่ 2
ทั้งหมดที่ว่ามา พระพุทธเจ้า ท่านทรงหาคำตอบ แก้ไขปัญหา และ หาทางออกได้
คงไม่ได้เป็นโรคซึมเศร้าแล้ว คนที่เป็นโรคนี้ จะจมปลักไม่มีทางออก
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่