[เตือนภัย] ใครจะซื้อบ้าน ระวังจะเจอปัญหาที่ไม่เคยได้รับการแก้ไขแบบกรณีดิฉันนะคะ (มีรูปประกอบ)

สวัสดีค่ะ วันนี้เรามีเรื่องบ้านจะมาเล่าฟังค่ะ ต้องบอกก่อนว่าเราขอยืม account ของเพื่อนมาใช้นะคะ

ว่ากันว่าก่อนซื้อบ้าน ต้องเลือกดีๆ ไตร่ตรองให้ถี่ถ้วน  และก่อนโอนบ้านต้องตรวจแก้ไขงานบ้านให้เรียบร้อยก่อนโอนไม่งั้นจะเจอกับการเบี้ยวหรือปัญหาที่แก้ไม่จบจากทางบริษัท จากหลายๆกระทู้หรือแม้แต่รีวิวเอง  ไม่ใช่ไม่เชื่อนะ ก็ชะลอมาจนถึงที่สุดแล้ว แต่เรื่องโปรโมชั่นของรัฐบาลนี่แหละ ที่ทำให้เป็นตัวเราให้ต้องตัดสินใจ ก่อนที่จะหมดประกาศฉบับนี้

เริ่มเรื่องเลยดีกว่า เราก็มีความฝันเหมือนใครหลายๆคน ที่อยากจะมีบ้านเป็นของตนเองและยิ่งทำงานมาได้สักพักนึงแล้วก็อยากจะซื้อบ้านให้พ่อกับแม่อยู่อย่างสบาย แต่ความเป็นจริงก็ไม่เหมือนกับที่คิดไว้เนอะ มีเรื่องให้ขบคิดได้ตลอดในเรื่องของการซื้อบ้านเลย  เริ่มตั้งแต่จะซื้อบ้านที่ไหนดี งบประมาณเท่าไหร่ ผ่อนต่อเดือนเท่าไหร่ถึงจะไหว  พ่อแม่จะโอเครรึป่าว อยู่ไกลจากแหล่งที่อยู่เดิมไหม โครงการมีคุณภาพรึป่าว  

เริ่มแรกหลังจากที่คิดว่าจะซื้อบ้าน เราก็ไปดูทำเลต่างๆที่อยู่แถวละแวกไม่ไกลจากบ้านมากนัก  ลืมบอกไปว่าบ้านเราอยู่แถวฝั่งธน เราก็เลยกะจะซื้อบ้านแถวๆเดิม ก็ไปดูทั้งโซนตลิ่งชัน ดาวคะนอง พระราม 2  บางแค เพชรเกษม  เลยจนถึงแถวใหม่ที่กำลังนิยมไปซื้อกัน แถวพระราม 5  บางใหญ่ ซึ่งจริงๆก็ใกล้เซ็นทรัลเวสเกสท์นะ เดินเล่นได้เลย  แต่สุดท้ายก็มาเลือกตรงเส้นสาทร – กัลปพฤกษ์  ตรงกำนันแม้นซอย 13 อ่ะค่ะ   ตอนนั้นได้ข้อมูลจากการออกบูธโครงการบ้านๆต่างที่เดอะมอลล์บางแค  ก็เลยตามมาดูที่โครงการ  ตอนที่มาดูโครงการก็ดูบริเวณโดยรอบของโครงการซึ่งก็โอเคร  เป็นทาวน์โฮม 3 ชั้นครึ่ง ซึ่งก็โอเคร ราคาพอจะซื้อได้ในรูปแบบบ้านระดับนี้  ก่อนที่จะทำสัญญาเราก็มาดูบ้านโดยรอบอีกครั้งหนึ่ง ช่วงนั้นก็มีโปรโมชั่นของทางโครงการที่ถ้าไม่รับแอร์ทั้งหลังก็เปลี่ยนมาเป็นส่วนลดไป ซึ่งช่วงนั้น ทีม Sale อยากจะขายบ้านหลังนี้มาก โทรหาโทรติดตามลูกค้าตลอด   ตอนนั้นก็รู้สึกว่าดีที่โครงการให้ความสนใจ ติดตามลูกค้าด้วยไม่เหมือนบางโครงการที่ไม่ค่อยต้อนรับลูกค้าเท่าไหร่  แต่ก็นะพอตัดสินใจจองบ้าน ชำระเงินค่าจองทั้งหมดแล้ว  Saleคนนั้นก็หายเงียบไปเลย  เพียงแต่บอกว่าเดี๋ยวจะมีฝ่ายโอนเข้ามาติดต่อกับเรา  หลังจากนั้นเราก็ต้องเป็นฝ่ายตาม โทรถามโครงการตลอดว่าต้องทำอย่างไรต่อ เรื่องธนาคารกู้เงิน  หรือ ตรวจบ้าน ก็ต้องตามต่อเอง โครงการก็เงียบๆ  

จนกระทั่งเรื่องเงินกู้อนุมัติผ่าน ตอนนั้นแหละที่ทางโครงการค่อยติดต่อมาให้เข้ามาดู มาตรวจบ้านหน่อย ซึ่งพอเข้าไปตรวจก็มีจุดที่ต้องแก้หลายจุดมากๆ หลักๆคือเรื่องของการรั่วซึม พอดีช่วงนั้นฝนตกหนักมาก  เลยเห็นรอบคราบน้ำรั่ว ทั้งผนังด้านข้างบนทุกชั้น  (4 ชั้น)  ด้านบน เพดาน  ผนังอาคารด้านหลัง  คือตอนนั้นคิดเลยว่างานใหญ่ละซิคราวนี้ ยังไม่นับรวมเรื่องผนังร้าวเนื่องจากการพิงผนัง เพราะหลังบ้านของอีกบ้านมาชนผนังด้านข้างบ้านเรา แถมระหว่างช่องของผนังก็ไม่มีการป้องกันการรั่วซึมหรือ  ไม่มีรางน้ำ ทีนี้พอฝนตกหนักมากๆ น้ำก็ซึมเข้ามาอีก  หรือจะปัญหาการปูพื้นลามิเนต   ปูพื้นไม่ดี ทำให้ปิดประตูไม่ได้ ก็ต้องแก้ใหญ่ และปัญหาห้องน้ำอีก  ฯลฯ  ตอนนี้ทุกคนอาจจะงงว่า ถ้ารู้ว่าปัญหาเยะขนาดนี้แล้วจะจองหรือซื้อไปทำไม  ก็ต้องบอกว่าก่อนหน้านี้เหมือนทาสีกลบรายละเอียด ความฉาบฉวยในการทำเพื่อขายอ่ะ พอมันผ่านมาสักระยะ และยิ่งฝนตก จะยิ่งเห็นว่าสิ่งที่เคยแก้ไข มันกลับมาเป็นอีก ทีนี้ไม่ใช่แค่ครั้งเดียวที่เป็น   พอไปตรวจงาน ก็ยังไม่แก้บ้าง หรือ เจ้าหน้าที่นัดมา เป็นฝ่ายนัดมาเอง ก็ไม่มา หรือ ไม่ทำงานในวันนั้นวันนี้ ตอบว่ามาไม่ได้ค่ะ
และเคยเจอไหมคะ คือ นัดมาตรวจงานที่แก้ทุกครั้ง เปลี่ยนทีมงานหรือคนมาตรวจบ้านด้วยเกือบทุกครั้งเลย  คนเก่ายังไม่ได้แก้งานให้เสร็จเลย คนใหม่มารับหน้าต่อแล้วก็ตบปากรับคำว่าจะแก้ต่อให้เสร็จ สุดท้ายส่งต่อให้อีกคนมาแก้แล้วแจ้งใหม่ว่าเปลี่ยนคนรับผิดชอบ เพราะมีงานด่วนของบริษัทที่ต้องไปขึ้นโครงการใหม่   เราก็ต้องเข้าไปขอคุยที่บริษัทว่าจะแก้ปัญหานี้ให้อย่างไร  ผู้อำนวยการฝ่ายดูแลหลังการขายมาพบ ก็มารับเรื่องแล้วก็เรียกให้อีกคนมาดูแลรับช่วงเรื่องร้องเรียนต่อ  และก็มีพี่ sale อีกคนที่เป็นคนใหม่มาดูแลโครงการนี้ต่อแทนsale คนเก่าที่ออกไป ก็พยายามช่วยประสานงานให้ แต่เค้าก็บอกแหละว่ามันเป็นคนละส่วนงานกัน ก็เข้าใจอ่ะนะ   ล่าสุดคนที่มารับเรื่องที่จะแก้งานเป็นถึง ผู้จัดการแผนก ก็เข้ามาตรวจงานด้วยแล้ว ก็พูดจาแบบไม่ค่อยรับผิดชอบ  ที่รู้สึกแย่ที่สุดคือ บอกว่าช่วงนี้ไม่ค่อยว่าง บริษัทกำลังยุ่งเรื่องตลาดหุ้นอยู่ ประชุมบ่อย ไม่รู้ว่าจะเสร็จไหม เดี๋ยวผมว่างผมดูแลให้   แต่คือเงินที่ซื้อบ้านไป 4 ล้านกว่านะคะ  ถึงบางคนจะมองว่าไม่เห็นเยอะเลย แต่สำหรับเราคือมันเยอะนะ บ้านก็ไม่ได้ซื้อกันบ่อยๆ  บางทีซื้อครั้งเดียวในชีวิตก็อยู่ยาวแล้ว แต่พูดกลับมาแบบนี้ คือเสียความรู้สึกมาก  รู้สึกแย่ตั้งแต่แก้งานไม่จบ ไม่ได้คุณภาพ จุดเดิมที่แก้มันก็กลับมาใหม่อีก ยังต้องมาเจอคนในองค์กรนี้พูดแบบนี้อีกก็แย่นะคะ  

นี่ก็ผ่านมา 5  เดือน หลังจากทำเรื่องโอนแล้ว ยังแก้งานไม่เสร็จเลย ล่าสุดจะที่นัดให้ไปตรวจเพื่อแก้งานใหม่จากของการเปลี่ยนคนรับเรื่อง คนดูแลนี่ก็ 2 เดือนแล้ว     ก็คงต้องรอลุ้นกันว่าจะได้เข้าอยู่บ้านรึป่าว  พูดเลยว่าเครียดสุดๆ เข้าใจเพื่อนๆก่อนหน้านี้ที่มาบ่น หรือพูดให้ฟังเลย ว่าเรื่องบ้านนี่ปวดหัวมาก T-T
ซื้อบ้านมาแล้วตั้ง… เดือน ก็ยังเข้าไปอยู่ไม่ได้
ทุกวันนี้ก็ต้องเริ่มผ่อนแล้ว
หวังว่าจะเข้าใจหัวอกของคนที่อยากมีบ้านเป็นของตัวเองนะคะ
ถ้าเป็นบ้านของเพื่อนๆ เองเจอปัญหาแบบนี้จะทำอย่างไรกันคะ

ภาพบ้านและจุดที่แก้งานค่ะ


[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

บ้านหลังอื่นๆในโครงการ แต่พบปัญหาต่างๆ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่