เมือบ้านผมมีกรรมการเพลงลูกทุ่ง...

เมือบ้านผมมีกรรมการเพลงลูกทุ่ง...
ในทุกๆเย็นบ้านผมจะเกิดปรากฏการณ์ที่เรียกว่า เวทีลูกทุ่ง เกิดขึ้นทุกเย็น ไม่ว่าจะรายโน้น รายการนี้ พ่อกับแม่ ผมนี่แฟนพันธุ์แท้เลย ใครได้ใครชิงแชมป์ ใครเสียงเป็นไง ใครกรรมการ ใครร้องแนวไหน ใครเข้ารอบ-ตกรอบ ตอบได้หมด รู้ทุกเรื่องเลย เพราะจากการดูรายการเพลงทุกเย็นๆ นี่แบบว่าพ่อแม่ มีที่ประจำของแต่ละคนเลย จ้องไปที่ทีวีเครื่องเดียวกัน คนทำรายการเค้าจะรู้มั้ยว่า มีกรรมการเพิ่มขึ้นมาอีก 2 คน ตรงนี้...

จนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้ ผมนอนเล่นอยู่ ก็ได้ยินเสียงแม่บอก พ่อวันนี้มีรายการใหม่อ่ะเปิดเลยจะได้ดู ผมได้ยินก็นึกในใจ เท่าที่ดูก็เยอะละนะ ทำไมเด่วนี้รายการร้องเพลงมันเยอะจัง พ่อลุกขึ้นไปเสียบปลั๊กพร้อมกับแม่มานั่งประจำที่ มาละพ่อเปิดเสียงดังอีกหน่อยสิ “แต่น แต๋น แต้นนน ไมค์จะทำให้หมดหนี้ ไมค์จะทำให้หมดนี้ ” หืมม ขึ้นว่าไมค์นี่รู้เลยว่าจากค่ายไหน เจ้าเดียวก่ะไมค์ทองคำแน่นอน เหมือนคำว่าไมค์นี่จะเป็นชื่อกิมมิคของเจ้านี้ไปละ รายการก็ถ่ายทอดเรื่องราวของความน่าสงสาร ของผู้แข่งขัน ว่าเป็นหนี้ยังไง ลำบากแค่ไหน บลาๆๆ ผมก็ดูละเออแฮะ รายการนี้มีแบบนี้ด้วย เพราะปกติเท่าที่ผมเห็นจากพ่อกับแม่ดู ก็คือแนะนำตัวละก็ร้องประชันกันเลย แต่นี่มีการถ่ายทอดชีวิต ก่อนที่จะร้องเพลงแข่งกัน (ที่ผมสงสัยคือ พอเปิดเรื่องเศร้าๆ ของชีวิต น้กร้องก็ต้องร้องไห้ ไม่ก็น้ำตาคลอ แล้วจะร้องยังไง เสียงมันก็สั่นๆคลอแล้วอ่ะสิ ความคิดผมนะ)  

หลังจากนั้นก็ร้องเพลง กรรมการก็ตัดสินกันไปว่าใครสมควรชนะ ตรงนี้แหละที่ กรรมการกิตติมาศักดิ์ ได้ออกความคิดเห็นถึงรสถึงชาติทีเดียว
“เอ้อมันต้องร้องแบบนี้สิ ไชยา พูดถูกมันต้องแบบนี้แหละ”
“ แต่เสียงไม่ค่อยหวานนะ จะตัดสินให้คนนี้ชนะก็ยังไม่ได้ ”
“จริงๆถ้าเสียงแบบนี้มันต้องร้องเพลงแบบนี้ เลือกมาผิดเพลงแล้วเสียงมันไม่ได้”
“แต่คนนี้แพ้ก็น่าสงสารนะ เพราะดูเค้าลำบากกว่าเยอะเลย เด่วดูจะให้ใครชนะ”
อีกหลายความคิดเห็นเลย ว่าแบบนั้นไม่ดี แบบนี้ไม่ได้ สนุกสนานกันใหญ่เลยกรรมการ บ้านผม แต่รายการนี้ผมดูละก็รู้สึกสงสารนะ สมมุติว่าลำบากกว่าแต่ร้องเพลงไม่เก่งก็จบเลย แต่ก็นะถือเอาว่าเป็นความสามารถละกันเพราะมันคือรายการแข่งร้องเพลงเนอะ

หลังจากที่เลือกผู้ชนะได้แล้ว ผมก็คิดว่าจบละรายการก็คงมอบเงินรางวัล คิดในใจเออง่ายดีเนาะ แต่ผมคิดผิดเลย ผู้ชนะยังต้องมีการเลือกไมค์อีก ว่าไมค์ไหนจะเป็นไมค์หมดหนี้ มีเพียง 1 ตัวเท่านั้นในหลายๆไมค์นี้ ต้องเลือกให้ถูกถึงหมดหนี้ให้ ก็ว่าอยู่ว่ามันไม่น่าจะง่ายแบบนั้น (ไมค์ 1 ตัวมีค่าเท่ากับ 1 หมื่นบาท ถ้าเป็นหนี้ 8 หมื่นก็จะต้องมีตัวเลือกเป็นไมค์ 8 ตัว) ตอนที่ผมดูกับพ่อแม่นั้น น้องคนชนะเค้าเลือกไม่ได้ครับ เลยได้แค่หมื่นเดียว ก็ถือว่ายังดีที่ยังได้ไปส่วนหนึ่งถึงแม้จะหมดหนี้ไม่ได้ (แต่เห็นตอนจบรายการมีแบบตอนหน้าหมดหนี้ แต่ผมไม่ได้ดูเลยไม่รู้เป็นไง เล่าแค่ตอนที่ผมได้ดูวันแรกแค่นั้นเอง) รายการนี้ผมถือว่าโอเครใน 2 ส่วน ส่วนแรกก็ถือว่าเป็นโอกาสดีของคนที่เป็นหนี้ และมีความสามารถในการร้องเพลง ก็ถือว่าเป็นโอกาสดี ละยิ่งถ้ามีดวงที่ดีอีก ผมว่าคงจะได้หมดหนี้หมดสินกันไป จะได้ไม่ลำบาก

ส่วนสำคัญอย่างที่ 2 ผมถือว่าสำคัญเลยสำหรับผม เพราะมันเหมือนเป็นช่วงเวลาเดียวที่พ่อกับแม่ผม ได้มีกิจกรรมร่วมกัน ชอบในสิ่งเดียวกัน ดูในสิ่งเดียวกัน หลายปีก่อนหน้านี้พ่อกับแม่ผมเหมือนต่างคนต่างใช้ชีวิต แค่มีบางส่วนที่มาบรรจบกันเพียงชั่วครั้งชั่วคราว แต่พอมีรายการร้องเพลงแบบนี้ทำให้พ่อกับแม่ผม และครอบครัวผมเหมือนได้มีเวลาร่วมกันมากขึ้น มีการสนทนาพูดคุยกันมากขึ้น นั่นแหละที่ผมว่ามันโอเครมากเลยสำหรับผม ที่ได้ดูพวกเค้านั่งยิ้มนั่งหัวเราะด้วยกันมีความคิดเห็นที่ตรงกันบ้างไม่ตรงกันบ้าง แต่มันก็คือเวลาที่อยู่ร่วมกัน มีต่อไปละกันนะครับกับรายการร้องเพลง เพราะผมอยากมี กรรมการ แบบนี้อยู่กับบ้านผมไปอีกนานๆ...

แล้วบ้านใครเป็นแบบบ้านผมมั้ยครับ ที่ถึงเวลามีรายการ หรือทำอะไร แล้วต้องมาอยู่รวมกันเพื่อทำและดูสิ่งเดียวกันแบบนี้ ผมว่ามันดีมากๆเลยนะ ถ้ามีก็มาบอกกันฟัง มั่งนะครับ

นี่ครับเวลาเดิมมุมประจำ เครื่องนี้กรรมการผมจอง...
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่