[CR] 15 Days of Summer in Japan : Part 4

Part 1 : http://pantip.com/topic/35449575
Part 2 : http://pantip.com/topic/35451457
Part 3 : http://pantip.com/topic/35456719

หายไปนานเลย ทำงานยุ่งๆเลยไม่มีเวลาเขียน

19 กค 59 วันนี้ก่อนที่จะเริ่มต้นเดินทาง เติมพลังกันด้วยอาหารเช้าของโรงแรมกันก่อน อาหารก็มีให้เลือกไม่มากนักแต่มีสิ่งที่ชอบมากคือเต้าหู้ห่อข้าว รสชาติจะออกหวานๆหน่อย ทานคู่กับสลัดที่มีน้ำสลัดให้เลือกหลากหลาย ไข่ต้มเพิ่มโปรตีน และเพิ่มวิตามินซีสักนิดด้วยน้ำส้ม 1 แก้ว (จริงๆคือกินหลายแก้ว)


หลังจากอิ่มท้องก็ออกเดินทาง ซื้อตั๋ว one day pass ราคา 740 เยน สามารถขึ้นรถไฟใต้ดินได้อย่างไม่จำกัด (ซื้อเอาจากตู้ขายอัตโนมัติได้เลย)
นั่งรถจากสถานี Fushimi มาลงที่สถานี Shiyakusho จากนั้นก็ต้องเดินต่อ วันนี้เราจะไปเที่ยวปราสาทนาโกย่ากัน
ระหว่างทางเดินมาก็ได้ยินเสียงจั่กจั่นมากมาย หน้าร้อนเป็นหน้าแมลง จะเจอเด็กมาจับแมลงบ่อยมาก
เดินฝ่าฝันความร้อนกันมาสักพักในที่สุดก็ถึงทางเข้า
ซื้อตั๋วเข้าจากราคา 500 เยน เหลือเพียง 400 เยนเพราะ  one day pass ที่ซื้อไว้สามารถนำมาเป็นส่วนลดได้

วันนี้เป็นวันแรกที่รับรู้ถึงความร้อนในหน้าร้อนของญี่ปุ่น เนื่องจากวันที่ผ่านๆมาแทบจะไม่เจอแดดเลย จะไปเที่ยวที่ไหนฝนก็จะตกก่อนไปถึงตลอด
แต่วันนี้แดดแรงมากแล้วทางก็เป็นที่โล่งแทบไม่มีร่มให้หลบเลย

เดินผ่านทางเข้ามาที่แรกที่เราจะเจอก็คือ วังฮมมารุ โกะเต็น ที่พักและที่รับแขกของปราสาทนาโกย่า ที่มีการบูรณะขึ้นมาใหม่ โดยทั้งเรือนจะเป็นไม้ การเข้าไปถ้าไม่ได้ใส่ถุงเท้าเค้าก็จะมีรองเท้าให้ใส่โดยเฉพาะ กระเป๋าก็จะให้ฝากไว้ในล๊อกเกอร์ไม่ให้นำเข้าไปด้วย ข้างในจะมีภาพวาดมากมายส่วนมากจะใช้สีทองเป็นพื้นหลัง ดูอลังการมาก  




หลังจากชมวังฮมมารุ โกะเต็น เดินออกมาข้างๆก็จะเจอกับปราสาทนาโกย่า
ปราสาทนาโกย่าจะมีทั้งหมด 7 ชั้น แต่วันที่เราไปนั้นมีการซ่อมบำรุงบางชั้นอยู่ จึงไม่ได้เข้าชมทั้งหมด


สิ่งที่ชอบมากในปราสาทคือบันไดวน ทางขึ้นทางลงจะอยู่ซ้อนกัน ทำให้เราไม่ได้ไปเดินชนกับคนที่จะลงเวลาเราเดินขึ้น
และสำหรับผู้ที่เดินไม่ไหวแต่อยากจะมาเค้าก็มีลิฟท์คอยบริการเช่นกัน


เดินขึ้นมาถึงชั้น 7 ก็จะเป็นจุดชมวิวค่ะ จะมีบริการกล้องส่องทางไกลแบบหยอดเหรียญ


เดินชมปราสาทจนเวลาล่วงเลยมาถึงเที่ยงก็ได้เวลากินข้าว ข้าวเที่ยงวันนี้เราไปกิน หมูทอดมิโซะคัตสึ ของร้าน Yabaton
หน้าร้านจะเป็นมาสคอตหมูพุงโตๆ ที่เมืองไทยก็มีมาเปิดนานแล้วค่ะ แต่ไม่เคยไปลองกิน ถือโอกาสมาลองที่นี่เลย
สั่งเป็นชุดข้าวหมูสันนอก ราคาอยู่ที่ 1296 เยนค่ะ


ตอนมาเสิร์ฟเค้าจะยังไม่ราดซอสให้ ต้องรอให้เสิร์ฟครบทั้งโต๊ะก่อน ถึงจะมีคนมาราดให้
ถามว่าอร่อยมั๊ย…. ถ้าเรื่องรสชาติก็ถือว่าอร่อย ซอสของเค้าเข้มข้นเข้ากับหมูทอด แต่เป็นคนชอบกินหมูกรอบๆ
การที่เค้าราดซอสมาทำให้ความกรอบของหมูมันหายไป เลยไม่ค่อยฟินสักเท่าไร

หลังจากกินข้าวเที่ยงเสร็จ สถานที่ต่อไปที่เราจะไปก็คือ Osu Kanon เค้าว่ากันว่าเป็นศาลเจ้าที่บูชาเจ้าแม่กวนอิม
นั่งรถใต้ดินมาลงที่สถานี Osu Kannon แล้วก็ใช้ google map พาเดินต่อไปจนถึงศาลเจ้า


ไหว้พระไหว้เจ้าทำบุญกันเราก็มาเดินช๊อปปิ้งกันที่ย่านช๊อปปิ้งที่อยู่ข้างๆศาลเจ้า
จะมีถนนให้เดินหลายสายมาก เดินกันจนขาลาก
สิ่งแนะนำที่ต้องลองเมื่อมาเดินที่ย่านนี้ ขอแนะนำ Affogato ราคาเพียง 200 เยน
ร้านจะอยู่ตรงต้นๆซอยถ้าเดินมาจากศาลเจ้า จะเป็นร้านที่ขายนมโดยเฉพาะ
เนื้อ soft cream จะเหนียวนิดๆ ได้รสชาตินมเข้มข้น มีความมันและความหวานกำลังพอดีเมื่อได้กินกับกาแฟที่รสชาติไม่ขมจนเกินไป
แต่หากใครไม่ทานกาแฟ ที่ร้านนี้เค้าก็มี soft cream ธรรมดาขายเช่นกัน


หลังจากเดินย่านนี้จนทั่วก็ได้เวลาเที่ยวต่อ แต่…… ความผิดพลาดก็เกิดขึ้น เนื่องจากเมื่อวานวันจันทร์เป็นวันหยุดอะไรก็ไม่รู้ของญี่ปุ่น
ทำให้ที่ท่องเที่ยวต่างๆที่ปกติจะหยุดวันจันทร์ เปลี่ยนมาหยุดเป็นวันอังคาร ซึ่งก็คือวันนี้ OMG!!!!! ไม่มีที่ให้ไป

พวกเราจึงตัดสินใจ ไปยังย่าน Sakae เพื่อรอดูไฟในตอนกลางคืน ที่ย่านนี้ส่วนมากก็จะเป็นห้างสรรพสินค้า
เราไปนั่งรอดูไฟกันที่ตึก Oasis 21 รูปร่างตึกจะคล้ายๆจานดาวเทียม บนดาดฟ้าจะมีเหมือนสระน้ำ (มีไว้ทำไมไม่ทราบเหมือนกัน)
นั่งรอกันจนในที่สุดฟ้าก็เริ่มมืด เราก็จะได้เห็น Nagoya TV tower เปิดไฟกันแล้ว



นั่งดูไฟจนเวลาล่วงเลย ได้เวลากลับไปพักผ่อนที่โรงแรม


20 กค 59 เก็บเสื้อผ้ายัดใส่กระเป๋า กินข้าวเช้าที่โรงแรมแล้วออกเดินทาง นั่งชินคันเซน จาก Nagoya ไปยัง Shizuoka ใช้เวลาประมาณ 1 ชม


ลากกระเป๋าไปไว้ที่โรงแรม My Hotel Shizuoka ตอนแรกที่เดินมาถึงก็เถียงกับเพื่อนว่าใช่รึเปล่า เพราะทางเข้ามันดูน่ากลัวมาก
สรุปว่า เดินมาทางข้างหลังโรงแรมเฉย google map มันพามาทางลัด ฮ่าๆๆ แต่ก็เข้าได้เหมือนกัน ฝากกระเป๋าเสร็จ ก็ตัวโล่งเที่ยวต่อได้
ขึ้นรถไฟจากสถานี Shizuoka ไปยังสถานี Shimizu ตั๋วราคา 240 เยน (ซื้อทีเดียวได้เลยไปกลับก็ 480 เยน)


ด้วยความประมาททำให้เดินขึ้นชานชาลามา มัวแต่คุยกันเห็นรถไฟมาก็ขึ้น สรุปว่าขึ้นรถไฟผิดขบวน นั่งไปผิดฝั่ง ดีนะรู้ตัวทันเลยต้องนั่งกลับมาใหม่
ใช้เวลาไม่นานประมาณ 10 นาทีก็มาถึงสถานี shimizu (นับเวลาจากสถานี Shizuoka นะ) เดินออกทางฝั่ง east exit เพื่อมารอรถบัส
ไปยัง S-pulse dream plaza รถจะเป็นสีแดงหน้าตาแบบนี้ ไม่เสียค่าบริการค่ะ



นั่งรถประมาณ 10-15 นาทีก็มาถึงค่ะ เวลากินข้าวอีกแล้ว  วันนี้มาอยู่เมืองติดทะเลก็ต้องเมนูปลาดิบ สั่งมาไม่คิดว่าจะเยอะขนาดนี้ ปลาชนิดนึงให้มาประมาณ 5-10 ชิ้น เยอะมากกินกัน 3 คนยังไม่หมด การกินปลาดิบในวันนี้ทำให้เอียนปลาดิบไปอีกหลายวัน ฮือๆๆ


หลังจากกินข้าวเที่ยงเสร็จก็ได้เวลาไปพิพิธภัณฑ์มารุโกะ เพื่อนอยากมามาก ทริปนี้จัดขึ้นเพื่อให้ผ่านเส้นทางนี้เป็นหลัก ราคาเข้าชมคนละ 600 เยน
ภายในก็จะมีมาสคอตตัวการ์ตูนบ้าง เป็นฉากในการ์ตูนบ้าง มีมิชชั่นให้ตามหาตัวปั๊มให้ครบด้วย หากไม่ได้เป็นคนที่ชอบมารุโกะอาจจะรู้สึกว่าไม่มีอะไรมากนัก แต่พวกเราชอบ เดินไปสักพักก็จะมีมาสคอตมารุโกะเดินมาให้ถ่ายรูปด้วย นอกจากนี้เรายังสามารถเช่าชุดตัวการ์ตูนมาใส่ได้ด้วย ราคา 300 เยน สามารถใส่เข้ามาถ่ายรูปได้ 10 นาที มีทั้งชุด ทั้งพร๊อพต่างๆให้พร้อมเลย เพื่อนเราเช่ามาใส่ เจอทัวร์คนจีนก็มาขอเพื่อนเราถ่ายรูปซะงั้น



หลังจากเที่ยวพิพิทธภัณฑ์เสร็จพวกเราก็ยังทำตัวเด็กไม่เลิก มานั่งชิงช้าสวรรค์กันต่อ ราคาคนละ 500 เยน ชิงช้าสวรรค์อันนี้ใช้เวลาประมาณ 13 นาที  
ไม่ได้ขึ้นนานเกิดอาการสั่นเล็กน้อย ขึ้นมาเราจะได้เห็นวิวท่าเรือของที่นี่ (ห้างอยู่ติดกับทะเล)



เที่ยวกันจนเย็นก็ได้เวลากลับ นั่งรถบัส รถไฟย้อนกลับไปทางเดิม จนถึง Shizuoka วันนี้เดินหาร้านอาหารแถวโรงแรม หลังจากเอียนปลาดิบเมื่อตอนกลางวันไปจึงหาร้านที่ไม่มีปลาดิบ เดินมาเจอร้านนี้แบบมั่วๆ สั่งยากิโซบะ โคร๊อกเกะ และสุกี้ไก่มา รสชาติทุกอย่างอร่อยมากจริงๆ แถมราคายังไม่แพงด้วย
ทั้งหมดนี้ราคาอยู่ที่ 2127 เยน  




ทานอาหารเสร็จก็กลับโรงแรมเพื่อพักผ่อน ห้องพักที่โรงแรมกว้างมากกก ใครมาเที่ยว Shizuoka แนะนำโรงแรมนี้เลย
ราคาอยู่ที่ 15000 เยน นอนได้ 3 คน เป็นเตียงเดี่ยวหมดเลยค่ะ ไม่ต้องนอนเบียดกัน
ชื่อสินค้า:   เที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่