[CR] Slow Life Slow RiDE @Japan #Trip 2 EP.Osaka-Onomichi By Toonnycafe

กราบสวัสดีพี่น้อง มิตรรักแฟนเพลงทุกท่าน กระผมกลับมาแล้วครับ แอ๊ะๆๆๆ สำหรับท่านที่ยังไม่เคยรู้จักผม ผมขอแนะนำตัวอีกทีครับ ผมชื่อ “ตูน” ครับ ผมเคยเขียนรีวิวการหอบจักรยานไปปั่นที่ญี่ปุ่นมาแล้วครั้งนึงครับ หากท่านยังไม่เคยอ่านสามารถตามไปอ่านได้ตาม Link : http://pantip.com/topic/35080114  นะครับ คราวที่แล้วผมไปตอนช่วงเดือนเมษายน ต้องบอกเลยว่าปั่นไม่ครบจบตามแผนที่วางไว้ มาครั้งนี้เป็นการวางแผนแบบกระทันหันครับ มีเวลาเตรียมตัวประมาณ 1 เดือน ปฐมเหตุก็เกิดจากมีเพื่อนรุ่นพี่ในกลุ่มที่ปั่นจักรยานด้วยกันกระสัน กระซับกระซ่าย กระตือรือร้น กระวนกระวาย อยากออกไปแตะขอบฟ้าบ้าง โดยมีเป้าหมายที่เปรียบเสมือนแลนด์มาร์คที่นักปั่นทั่วโลกต้องได้ลิ้มรสสัมผัสบรรยกาศการปั่นที่นี้สักครั้ง คงเป็นที่ไหนไปไม่ได้นอกจาก “สะพานพี่ตูน” !???!!??!?!? หลายคนอาจจะดับเบิ้ลงองู สะพานพี่ตูนคือที่ไหน?? จริงๆแล้วมันก็คือสะพาน “ชิมานามิไคโด” แห่งเมือง โอะโนะมิชิ ในจังหวัดฮิโรชิมา ซึ่งจริงๆแล้วมันคือทางด่วนที่เชื่อมต่อระหว่างเมืองโอะโนะมิชิกับเมืองฮิมาบาริ ซึ่งจะมีเส้นทางสำหรับปั่นจักรยานขนานไปด้วย เส้นทาง สำหรับปั่นจักรยาน เราจะต้องปั่นผ่านเกาะต่างๆจำนวน 6 เกาะ ระยะทางประมาณ 70 กิโล

แต่ครั้นจะนั่งเครื่องบินไป 7-8 ชั่วโมงเพื่อจะปั่นแค่ 70 กิโลมันก็เหมือนจะผิดจริตผมไปซะหน่อย ก็เลยต้องหาอะไรทำที่ดูมีคุณค่าแก่การจดจำซะหน่อย ผมก็เลยได้ไอเดียว่างั้นเรานั่งเครื่องไปลงโอซาก้าแล้วปั่นจากโอซาก้าไปเนี่ยแหละ ผมจึงรับหน้าที่วางแผนเส้นทางการปั่นในแต่ละวัน และจองที่พัก ซึ่งหลังจากมีประสบการณ์จากครั้งแรกแล้ว ผมจึงต้องละเอียดมากขึ้นกับการกำหนดเส้นทางการปั่น โดยผมใช้วิธีการลากเส้นทางไว้ใน STRAVA เหมือนเดิม แบ่งการเดินทางเป็น 4 วัน โดยที่ 3 วันแรกเป็นการเดินทางที่ต้องสะพายกระเป๋าเป้ไปด้วย
วันที่ 1 ปั่นจากโอซาก้าไปฮิเมจิ ระยะทางประมาณ 90 กิโล
วันที่ 2 ปั่นจากฮิเมจิไปโอะกะยะมะ ระยะทางประมาณ 90 กิโล
วันที่ 3 ปั่นจากโอะกะยะมะไปโอะโนะมิชิ ระยะทางประมาณ 80 กิโล
วันที่ 4 ปั่นบนเส้นทางชิมานามิไคโด ระยะทางประมาณ 120 กิโล

หลังจากวางแผนทุกอย่างเรียบร้อยแล้วก็ได้เวลาจองตั๋วเครื่องบินกัน ผมเลือกบินกัน Airasia เพราะว่าน่าตาผมใกล้เคียงกับพรีเซ็นเตอร์ของสายการบินนี้ที่สุด แล้วก็อย่าลืมนะครับหากนำจักรยานเดินทางไปด้วยจะต้องซื้อน้ำหนักสัมภาระเพิ่มเป็นแบบ “อุปกรณ์กีฬา” ด้วยนะครับ

สำหรับสิ่งของที่ต้องใข้ระหว่างการเดินทางผมได้บทเรียนมาจากทริปแรกเลยครับ ว่าอะไรที่ไม่ได้ใช้ก็ไม่ต้องบ้าหอบฟางไปครับ ยิ่งสำหรับการเดินทางแบบผมที่ต้องสะพายกระเป๋าเป้ปั่นข้ามเมืองติดต่อกันหลายวัน น้ำหนักของเป้มีผลอย่างมากเลยครับ ผมก็เลยสรุปรายการที่จำเป็นต้องใช้ไว้แค่นี้ครับ

เส้นทางพร้อม จองตั๋วแล้ว จองที่พักแล้ว จัดกระเป๋าเรียบร้อยก็ถึงเวลาเดินทางกันแล้วครับ ผมเลือกเดินทางช่วงวันหยุดยาวของเดือนกรกฏาคม ทำให้เพื่อนร่วมทริปผมไม่ต้องลาเพิ่มหลายวัน (ทริปนี้ใช้เวลา 7 วัน) ส่วนผมนะหรออออ 5555
เนื่องจากเป็นผู้มีอิสระทางด้านเวลาสูง เลยไม่ต้องลางาน  แต่ถ้าบ่อยๆก็คงต้องลาออกแล้วแหละ

เราเลือกเดินทางในคืนวันศุกร์ด้วยสายการบิน Airasia ซึ่งของผมต้องไปต่อเครื่องที่มาเลเซีย เพื่อให้ไปถึงโอซาก้าช่วงเช้าพอดี พอถึงสนามบินดอนเมืองก็จัดแจงทำการเช็คอินตามปกติ สายการบินก็ทำการช่างน้ำหนักสัมภาระตามปกติก่อนที่จะมีเจ้าหน้าที่มารับกระเป๋าจักรยานไป มีหลายคนถามผมว่าผมใช้กระเป๋าจักรยานแบบไหน? เป็น hard case หรือป่าว ป่าวครับผมใช้เป็นกระเป๋าจักรยานแบบ soft case ครับ โดยผมจะห่อกระกระแทกไว้ที่ ชิพเตอร์ ตีนผี ตะเกียบ และจานหน้า

พอถึงเวลาเจ้าหน้าที่สายการบินก็เรียกขึ้นเครื่องตามปกติ ผู้โดยสารทุกคนก็นั่งประจำที่พร้อมเดินทาง 3….2….1
เครื่องบินกำลังเคลื่อนตัวช้าๆไปที่รันเวย์ ผมเองก็กำลังจะหลับตานอน ทันได้นั้น เครื่องบินก็เบรกกระทันหัน ฮ่ะ!!!!!! what happen!!!!!!  ผู้โดยสารทุกคนอยู่ในอาการตกใจว่าเกิดอะไรขึ้น แอร์สายชาวมาเลเซียเข้าไปคุยกับกัปตัน คุยกันหน้าตาซีเรียสมาก ผมก็ฟังไม่ออกหรอกครับว่าเค้าคุยอะไรกัน แต่เดาว่าเป็นเรื่องใหญ่พอสมควร เวลาผ่านไปหลายนาที ผู้โดยสารในเครื่องเริ่มออกอาการลนลานกันแล้วครับ แล้วแอร์สาวก็ประกาศว่าประตูเครื่องบินมีปัญหาครับ มันไม่ล๊อคทำให้กัปตันสั่งเบรกไม่ขึ้นบิน และต้องใช้เวลาแก้ปัญหาอยู่เป็นชั่วโมงจึงจะสามารถกลับมาบินได้ปกติ
ยังครับ!! ยังไม่จบพอถึงสนามบินที่กัวลาลัมเปอร์ ผู้โดยสารที่จะต้องทรานซิสเครื่องไปโอซาก้าจากปกติจะมีเวลาต่อเครื่อง 90 นาที แต่พอมีเหตุการณ์เอ๊กซิเดนทำให้ทุกคนต้องวิ่ง 4X100 กับเลยทีเดียว แล้วระยะทางที่เดินไปเกตใหม่ไม่ใช่ใกล้ๆนะฮะ แถมยังต้องสแกนตัว สแกนกระเป๋าใหม่อีก พอผู้โดยสารขึ้นเครื่องหมดเรียบร้อยระหว่างรอเครื่องออก ก็มีชายในเครื่องแบบเดาว่าเป็นเจ้าหน้ารักษาความปลอดภัยของสนามบินขึ้นมาคุยกับแอร์แล้วมองมาทางผมกับเพื่อน สักพักก็เดินตรงมาเลยฮะ เดินมาเชิญผมกับเพื่อนให้ตามเข้าไปครับ วินาทีนั้นบอกตรงๆสตั้นครับ เรียกผมทำมายยยย!!! ผู้โดยสารทั้งเครื่องหันมามองผมกับเพื่อนด้วยสายตาประมาณว่า ผมนิเป็นผู้ก่อการร้ายเลยฮะ ผมกับเพื่อนก็เดินตามไปที่ประตูเครื่อง เจ้าหน้าที่ก็ถามเรามาเราเป็นเจ้าของกระเป๋าจักรยานทั้ง 2 ใบนั้นใช่ไหม ในนั้นมี Co2 อยู่หรือป่าว? บร๊ะ!!!!! ถึงบางอ้อแหละ คือผมพก
หลอด Co2 สำหรับเติมลมไปด้วยโดยใส่ไว้ในกระเป๋าจักรยานไว้ เจ้าหน้าที่บอกว่าเค้าต้องยึดเอาไว้เนื่องจากอาจจะเป็นอันตรายขณะเดินทางได้แต่ตอนผมสแกนกระเป๋าที่เมืองไทย เจ้าหน้าที่ก็รู้ว่าผมพก Co2 ไปแต่เค้าก็ไม่ได้ว่าอะไรนิหว่า!!
    ภาพตัดมารุ่งเช้าที่สนามบินคันไซเลยแหละกัน ผมกับเพื่อนก็ต่อแถวผ่านด้าน ตม. ตามปกติ มารับกระเป๋าจักรยาน
บริเวณสายพานรับกระเป๋า เจ้าหน้าที่ก็นำกระเป๋าจักรยานของเรามาวางไว้เรียบร้อยแล้วครับ เปิดเช็คสภาพก็ปกติ จากนั้นเราก็จับรถไฟเข้าเมืองกัน โดยเราใช้บริการของ Nankai เพื่อจะไปลงที่สถานี Numba Sta. และต่อสาย Midosuji Line ไปลงสถานี Hommachi Sta.




วันนี้เราวางแผนที่จะพักที่โอซาก้าก่อน 1 คืนเพื่อเซ็ทอัพรถและไปเดินเล็งของที่มีคนฝากซื้อก่อนที่จะมาเก็บวันกลับอีกที คืนนี้เราพักที่โรงแรม  Arietta Hotel Osaka อยู่ไม่ใกล้จากย่านนัมบะเท่าไหร่นัก เรามาถึงโรงแรมประมาณ 10 โมงซึ่งยังไม่สามารถเช็คอินได้ โรงแรมในญี่ปุ่นส่วนใหญ่จะให้เช็คอินเวลาบ่าย 3 พอถึงโรงแรมเราก็ฝากกระเป๋าก่อน แล้วก็เอาจักรยานมาเซ็ทอัพเสร็จแล้วก็เข็นจักรยานไปร้านจักรยานชื่อ “ Sports cycle shop Bekkuon” ที่อยู่ไม่ห่างจากโรงแรมที่เราพักเท่าไหร่เพื่อทำการเติมลมยาง

ร้านจักรยานในโอซาก้าที่ผมรู้จักจะมีอยู่ประมาณ 4 ร้าน อยู่ในย่านเดียวกัน 3 ร้านคือ Sports cycle shop Bekkuon และ Y’s Road  ทั้ง 2 สาขา สำหรับร้าน Y’s Road ร้านนึงจะเน้นขายจักรยาน ส่วนอีกร้านจะเน้นเครื่องแต่งกายครับ ใครต้องการพิกัดก็อินบ๊อกมาขอพิกัดได้นะครับ ส่วนอีกร้านจะอยู่ฝั่งตรงข้ามร้านเยื้องๆร้าน Rapha Osaka ครับ พูดถึงร้าน Rapha มือก็สั่นขึ้นมาทันทีครับ เราก็ไม่รอช้า ปั่นไปซิครัช รอไร!!!






มาถึงร้าน Rapha Osaka พนักงานจำหน้าผมได้ด้วยฮะ ถามผมด้วยว่าทริปที่แล้วเป็นยังไงบ้างสนุกไหม เจอฝนบ้างหรือป่าว และในโทษฐานที่จำผมได้ งานนี้เลยละลายทรัพย์ไปหลายหมื่นเยนเหมือนกัน (ถึงบรรทัดนี้ถ้าคุณ ผบ.ทบ. อ่านเจอผมขอสารภาพผิดฮะ คือ...รูดปื๊ด รูดปื๊ด ไปหลายตังค์เลย หวังว่าบรรดาแม่บ้านนักปั่นคงเข้าใจเนอะ)
    เสร็นสิ้นภารกิจละลายทรัพย์ที่ร้าน Rapha แล้วมองดูนาฬิกาก็ถึงเวลาบ่าย 3 พอดีได้เวลาถอนทัพกลับที่พักกันแหละ ปั่นมาถึงที่พักก็ทำการเอากระเป๋าไปเก็บห้องพัก อาบน้ำอาบท่าจัดแจงสัมภาระต่างๆเพื่อเตรียมเดินทางในวันพรุ่งนี้ นั่งคุยกับพี่ตั้วสหายร่วมทริปในครั้งนี้ เรามีปัญหาหนึ่งก็คือ กระเป๋าจักรยานเราจะเอาไปเก็บไว้ที่ไหนดี? โรงแรมจะรับฝากไหม? เพราะเราไม่ได้กลับมาพักที่นี้แล้ว หากไม่รับฝากเราจะเอาไปเก็บไว้ที่ไหนดี นั่งขบคิดหาโซลูชั่นส์กันอยู่พักใหญ่ ทีแรกจะเอาไปยัดล๊อกเกอร์ที่สถานีรถไป Shi-Osaka แต่ก็ติดปัญหาว่าล๊อกเกอร์ตามสถานีรถไฟสามารถฝากได้สูงสุด 3 วัน  แล้วก็ปรึกษาคนรู้จัก กูรูต่างๆด้านการท่องเที่ยว ณ จุดนี้ต้องขอบคุณน้องผักบุ้งที่โทรถามเพื่อนที่มีร้านอาหารอยู่ที่โอซาก้าให้สามารถเอาไปฝากได้ กับพี่ชายคนดีคนเดิม พี่โหน่ง HIP Magazine ที่ประสานงานกับพี่แท๊งค์เจ้าของ “ร้านหลิวเต้อหัว เจริญการค้า” ซึ่งเป็นร้านอาหารไทยอยู่ย่านนัมบะให้เพื่อเอากระเป๋าไปฝากได้ ขอบคุณมากครับ ^^
    แต่ในที่สุดเราก็เลือกโซลูชั่นส์ที่เสียตังค์ 55555 คือเราเอากระเป๋าจักรยานไปฝากไว้ที่ร้านรับฝากกระเป๋าที่สถานีรถไฟ Shi-Osaka ที่นี้รับฝากกระเป๋าคิดเป็นรายวันนับเป็นรายชิ้นครับ หากใครมีปัญหาว่าไม่มีที่ฝากกระเป๋าก็แนะนำที่นี้นะครับ วิธีเดินไปร้านรับฝากกระเป๋าก็คือให้เราเดินไปทาง Central gate ของสถานีรถไฟ Shi-Osaka จะเจอร้านสตาร์บัคให้เดินตรงไปลงบันไดเลื่อนไปชั้น 1 มองด้านซ้ายมือจะเจอ 7/11 ให้เดินเข้าซอกหลืบข้าง 7/11 นั้นแหละครับจะเห็นป้ายตามรูป

หลังจากฝากกระเป๋าเสร็จแล้วก็ถึงเวลาช๊อปปิ้งก็แหละ ก็คงหนีไม่พ้นย่านนัมบะ ย่านที่เดินไปไหนก็ได้ยินแต่เสียงคนไทยคุยกันเป็นระยะ มาถึงก็เริ่มจากหาอะไรกินก่อนล่ะกัน เราตกลงกันว่าจะไปกิน “ราเมนข้อสอบ” รอคิวอยู่ประมาณ 30 นาทีก็ได้จัดสมใจอยาก อร่อยสมคำร่ำลือกันเลยทีเดียว



เสร็จสิ้นภาระกิจเล็งขอฝากก็กลับที่พักไปนอนพักผ่อนเก็บแรงไว้ตะลุยพรุ่งนี้กัน ZzzzzZZ ZzzzzzZz ZzzzZz
ชื่อสินค้า:   จักรยานเสือหมอบ
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่