ความรักของเราจบลง เพราะเงิน เราผิดมั้ยค่ะ ที่เราบอกเลิกเค้า

เราคบกับพ่อม่าย แฟนเป็นคนดีค่ะ  โตกว่าเรา 6 ปี เป็นผู้ใหญ่ ไม่เจ้าชู้ เป็นพ่อบ้าน ทำกับข้าว ช่วยงานบ้านทุกอย่าง สังสรรค์กับเพื่อนน้อยมาก support เราทุกเรื่อง ให้กำลังใจเรา เป็นที่ปรึกษา  คือทุกอย่างโอเคมากสำหรับเรา เราคิดอยู่ตลอดว่า เราโชคดีจังที่เจอเค้า เพราะแฟนแฟมิลี่แมนมากๆ  ครอบครัวมาอันดับหนึ่ง  รักเรา เอาใจใส่ทุกอย่าง  คือเราเห็นอนาคตว่า เรากับเค้าอยู่ด้วยกันไปจนแก่เฒ่า (ไม่ได้แต่งงานกัน  แต่เคยวางแผนจะซื้อบ้านด้วยกัน ใช้ชีวิตร่วมกันแล้ว)   แต่หลังๆความสัมพันธ์เราเริ่มมีปัญหาคือเรามีหนี้ (2แสนบาท) กู้มาช่วยที่บ้าน  รายได้เราไม่พอกับรายจ่ายที่ต้องจ่ายหนี้  ฉะนั้น ค่าใช้จ่ายภายในบ้านพวก น้ำ ไฟ คอนโด ทีวี อินเตอร์เน็ต แฟนจะเป็นคนออก  (ตอนเราไม่มีหนี้ เราช่วยเค้าจ่ายค่ะ พอมีหนี้ เงินเดือนเราจ่ายหนี้หมด  คือเราอยากช่วยนะ พยายามหางานพิเศษทำ แต่ก็ไม่พอจริงๆ  เงินจากงานพิเศษพอเฉพาะค่ากินของเรา  

เงินของแฟนหลังจากหักจะเหลือประมาณ 12000 ซึ่งก็เป็นค่ากินประจำวันของเค้ากับลูก  แฟนให้ ATM เราถือไว้ แล้วให้เราจ่ายเค้ากับลูกเป็นรายวัน  คือถ้ามีอะไรพิเศษเค้าก็จะบอก ซึ่งเราไม่เคยเอาเงินแฟนตรงนี้ไปจ่ายอะไรของเราเลย เรารู้ว่าแค่แฟนกับลูกเค้ากินก็จะไม่พอแล้ว ฉะนั้นเราจะไม่ยุ่งกับเงินเค้าส่วนนี้เลย เราทำรายรับรายจ่ายทุกวัน เรารู้ว่าเค้าใช้เงินไปเท่าไหร่แล้ว

ส่วนเรา ค่ากินใช้เงินเราเอง วันปกติ จ-ศ เรากินวันละ 40 บาท  เพราะเรารู้ว่าเรามีเงินไม่พอ  เรายอมกินน้อย ประหยัดทุกทาง  ในขณะที่เค้ากินวันละ 300-500 ต่อวัน   เราจะไม่บ่นเลยค่ะ ถ้าเค้าใช้จ่ายเงินในส่วนของเค้า (ทุกเดือน เงินแฟนหมดประมาณวันที่ 22)  คือเข้าใจมั้ยค่ะ ว่าเรามีภาระ มีหนี้ที่ต้องจ่าย เราไม่ได้ให้เค้ามาจ่ายหนี้ที่บ้านให้เรา แต่แค่นี้ เราก็ประหยัดที่สุดแล้ว  แต่เราต้องเจียดเงินที่มีน้อยอยู่แล้วให้เค้ากับลูก แฟนชอบกินช็อกโกแลตถุงละ 150 เราบอกเค้าไปว่าเงินนี่สำหรับเราซื้อข้าวได้ 3-4 วัน และเราไม่มีเงินซื้อของพวกนี้   เราเลยบอกเค้าว่า งั้นแยกกระเป๋าตังค์กัน เค้าโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ บอกทำแบบนั้นมันไม่เป็นครอบครัว ต้องกินด้วยกัน ใช้ด้วยกัน ถึงจะถูก (เค้าพูดแต่ทำไม่ได้  ก็เป็นเหมือนเดิม – 7 เดือนแล้วที่เราต้องทนอยู่แบบนี้)

เพราะต้องทะเลาะกันทุกวันแบบนี้  เราบอกเลิกแฟนทุกครั้งที่ทะเลาะกันเรื่องเงิน  คืออยากจะไปให้พ้นๆ เค้าอยากกินอะไร อยากซื้ออะไรให้ลูกเค้า ราคากี่พัน ตามสบาย เราจะไม่ห้ามเลย  เค้าก็บอกว่า เราเห็นแก่ตัว ถ้าไม่คิดถึงความรู้สึกเค้าก็น่าจะคิดถึงความรู้สึกลูกเค้าบ้าง  ตอนนี้น้องมีประสบการณ์หลายๆอย่างกับเรา  ทำไมเราถึงใจร้ายทำร้ายจิตใจเด็ก    

แฟนบอกว่า ถ้าไม่มีหนี้ของที่บ้านเธอ เราคงไม่ต้องมาทะเลาะกันเรื่องนี้  แฟนบอกว่า ครอบครัวชั้น ลูกไม่ต้องให้เงินพ่อแม่  มีแต่พ่อแม่ต้องให้เงินลูก (ไม่ว่าจะโตแล้วก็ตาม ถ้าลูกเดือดร้อน พ่อแม่ต้องช่วย)   เราได้แต่บอกว่า ฉันเป็นคนไทย ชั้นเปลี่ยนไม่ได้ ยังงัยชั้นก็ต้องจ่ายหนี้ก้อนนี้   คือประเด็นมันไม่ใช่แค่ หนี้ 2 แสนของเรา แต่เป็นการใช้เงินของแฟนคือเดือนชนเดือน ไม่มีเก็บ มีเท่าไหร่ ใช้หมด  โดยเค้าให้เหตุผลว่า ที่ประเทศเค้า มี pension เค้ามีคอนโดที่ซื้อไว้ปล่อยเช่า 6 ที่ จะผ่อนหมดตอนเค้าอายุ 45  ซึ่งเค้าจะได้ passive income จากตรงนั้น   ฉะนั้น เค้าไม่จำเป็นต้องเก็บเงิน  เค้าอยากมีความสุขทุกวัน อยากกินอะไรก็กิน อยากไปไหนก็ไป ประเทศเค้าค่ารักษาพยาบาลก็ฟรี ไม่มีอะไรต้องกังวล)  

อีกเรื่องที่เราไม่โอเคคือเค้าสอนลูกเรื่องการใช้เงิน ลูกสาวเค้าเล่นของเล่นแบบทิ้งขว้างมาก น้องจะบอกว่าน้า(น้องเรียกเราว่าน้า) มันแค่ 20 บาทเอง ช่างมันเถอะ สำหรับเรา 1 บาทก็คือเงิน 50 สตางค์ก็คือเงิน เค้าบอกว่าเค้าไม่อยากให้ลูกเค้าขี้เหนียว (เราทำรายรับรายจ่าย เราจะรู้ว่าแต่ละวันเราใช่จ่ายอะไร เงิน 5 บาท 10 บาทหายไปไหน) แฟนเราตรงกันข้าม ใช้ไปเถอะ มีความสุขก็พอแล้ว ฉะนั้นเค้าจะไม่มีเงินเก็บ ใช้เดือนก่อนชนเดือนตลอด มีอยู่ครั้งนึง แฟนปวดฟันช่วงก่อนสิ้นเดือน ไม่มีเงินไปหาหมอ เค้าบดยาพาราแล้วเอาไปกดที่ฟัน แก้ปวดเอา  เราเห็นเค้าปวดทานอะไรไม่ได้เลย  แล้วทรมานใจไปด้วย เลยพาไปหาหมอแล้วจ่ายด้วยบัตรเครดิตไป 5000   เราถามตัวเองตลอด ชั้นจะอยู่แบบนี้ได้มั้ย ชีวิตที่ไม่มีการวางแผนการใช้เงินใดๆเลย  

มันทำให้เราคิดว่า ถ้าเรามีลูกกับเค้า เราจะสอนลูกเราให้ประหยัดและเห็นคุณค่าของเงินได้มั้ยในเมื่อพ่อเค้าก็ไม่เห็นคุณค่าของเงินเหมือนกัน    

เราเหนื่อยหาเงินใช้หนี้แล้วจะต้องมาเหนื่อยทะเลาะกับแฟนอีก  เมื่อเช้านี  ทางเจ้าของคอนโดที่เรากับแฟนเช่าอยู่แจ้งว่า สัญญาเช่าครบ 1 ปีแล้ว  จะต้องเซ็นต่อสัญญาแล้วนะ ซึ่งก่อนหน้านี้ เราเป็นคนเซ็น  พอเราบอกเค้าว่า ชั้นไม่เซ็นต์นะ (เพราะเราไม่อยากให้สัญญาเช่ามาผูกเราไว้กับเค้า ถ้าเราอยู่แล้วไม่มีความสุขเราก็จะไป) เค้าบอกว่า เราวางแผนที่จะทิ้งเค้ากับลูกใช่มั้ย   เค้าขอให้เราเซ็นร่วมกัน  โดยเค้าบอกว่า เค้าจะให้เงินเดือนเค้าทั้งหมด เค้าจะช่วยเราประหยัดทุกอย่าง  แต่เรายืนยันว่าเราไม่เซ็น  แฟนบอกงั้นเราจบกัน เค้ารู้สึกเค้าไม่มีหลักประกันอะไรเลยที่จะให้เราอยู่ เค้ากลัวเราเอาเงินเค้าไปใช้หนี้  พอเราใช้หนี้หมด เราก็จะทิ้งเค้าไป เราไม่ได้ต้องการเงินเค้าแน่นอน  เพราะเรารู้ว่ามันเป็นหนี้เรา ไม่ใช่หนี้เค้า   เค้าบอกว่า เธอให้เรื่องเงินอยู่เหนือความรักของเรา  ประเด็นคือเราจะอยู่หรือไม่ คนที่ต้องอยู่แน่ๆคือเค้ากับลูก อย่าดึงเราไว้กับสัญญาแบบนี้เลย  เหตุที่เรากลัวไม่อยากเซ็น เพราะช่วงปลายปีที่แล้ว เค้าเคยคิดที่จะจ่าย30% ของค่าเช่า เพราะเค้าต้องเอาเงินไปซื้อของขวัญวันคริสมาสให้ลูก 7-8พัน  โดยเหตุผลว่า ความรู้สึกลูกเค้าสำคัญกว่า landlord  สรุปคือเราต้องไปหยิบยืมเงินเพื่อนมาก่อนเพื่อจ่ายค่าคอนโด  เรากลัวค่ะ ว่าเค้าจะทำแบบนั้นอีก แต่ตอนนี้ เรามีแต่หนี้  เราไม่มีเงินสำหรับ back up เค้าแล้ว      

เราไม่อยากให้มันจบแบบนี้เลยค่ะ เพราะถ้าตัดเรื่องเงินไป เราไม่เคยทะเลาะกันเรื่องอื่นเลย  เค้าดีทุกอย่าง โดยเฉพาะเรื่องซื่อสัตย์ รักเค้านะ อยากเห็นเค้ามีความสุข  ความสุขของเค้าคือความสุขของเรา เวลาเราได้กินของอร่อยก็อยากให้น้องกับเค้าได้กินด้วย  คือคิดถึงตลอด  แต่ก็นั้นแหละเราถามตัวเองตลอดเช่นกัน เราโง่มั้ยนะ ที่ทนอยู่แบบนี้  มันอาจจะทรมานช่วงแรก เพราะเราไม่ชินที่จะไม่มีเค้า แต่พอสักพัก  เราจะได้ชีวิตเรากลับมา

เราคิดถูกแล้วใช่มั้ยค่ะที่เลือกที่จะจบตอนนี้
แก้ไขข้อความเมื่อ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 8
ผมอ่านแล้วจับใจความได้ว่า
คุณแยกกระเป๋ากัน โดยช่วยกันรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในบ้าน
(คุณใช้คำว่าช่วยเขาจ่าย แต่จริงๆ คือเป็นความรับผิดชอบของทั้งคู่ครับ)
ต่อมาคุณกู้หนี้ไปช่วยญาติฝั่งคุณ ทำให้รายจ่ายที่ต้องรับผิดชอบ ต้องให้แฟนออกฝ่ายเดียว
ทำให้รายได้แฟนไม่พอค่ากิน ต้องเดือดร้อนเงินคุณตอนปลายเดือน
จริงๆ มันก็น่าจะเจ๊ากันไปนะ

ปัญหาคือคุณมองกันคนละมุม โดยมีกำแพงสำคัญคือความแตกต่างทางวัฒนธรรม
และบังเอิญคุณทั้งคู่ไม่ใช่ประเภท love me love my dog ด้วย

แฟนคงมองว่าคุณทำไม่ถูกที่ช่วยเหลือทางบ้านจนครอบครัวได้รับผลกระทบ เพราะธรรมเนียมของเขา ไม่มีการส่งเสียเลี้ยงดูพ่อแม่ การที่คุณไปช่วยเหลือทางบ้านมันทำให้คุณไม่มีเงินช่วยค่าใช้จ่ายในบ้าน
เหตุผลของคุณคือ คุณเป็นคนไทย ต้องกตัญญูต่อพ่อแม่

คุณมองว่าแฟนฟุ่มเฟือย ไม่วางแผนการเงิน จนบางครั้งไม่มีเงินจ่ายค่าอะไรที่ต้องจ่าย หรือต้องทนปวดฟัน
เหตุผลของแฟนคือ เขาเป็นคนอังกฤษ มีบำนาญ และต่อไปจะมีรายได้จากห้องเช่า 6 ที่ เขาต้องการใช้เงินทำให้ลูกมีความสุข

การทนปวดฟันอาจเป็นสิ่งที่เขาทนได้และเป็นเรื่องปกติที่อังกฤษ แต่คุณทนดูไม่ได้
เขาทน เพื่อให้ลูกมีเงินใช้ ซึ่งอาจรวมถึงทำให้คุณไม่ลำบากด้วย

เหมือนกับที่คุณทนใช้เงินวันละ 40 บาท
คุณทน เพื่อไม่ให้กระทบเขา เพื่อช่วยเหลือทางบ้าน

แฟนให้ความสำคัญกับครอบครัวปัจจุบันโดยเฉพาะลูก
คุณให้ความสำคัญกับทางบ้าน

แฟนสปอล์ยลูกมากไป จนคุณรู้สึกบางอย่าง
คุณก็สปอล์ยทางบ้านมากไป จนแฟนรู้สึกบางอย่าง

คุณรู้สึกไม่มั่นคง เพราะแฟนไม่มีการวางแผนการใช้เงิน คุณกลัวลำบากเพราะไม่รู้ต่อไปจะเป็นยังไง
(จริงๆ แฟนมีแผนรองรับ แต่บกพร่องตรงบางครั้งหมุนเงินไม่ทัน)
แฟนคุณรู้สึกไม่มั่นคง เพราะคุณใช้เงินไปกับทางบ้านจนทำให้ครอบครัวเดือดร้อน แฟนคุณกลัวลำบากเพราะไม่รู้ต่อไปจะเป็นยังไง
(จริงๆ คุณไม่ต้องการให้แฟนเดือดร้อน แต่บกพร่องตรงไม่สามารถแชร์ค่าใช้จ่ายได้เหมือนเดิม)

คุณรักและอยากดูแลทางบ้านให้ดีที่สุดตามความรู้สึกของคุณ ซึ่งเขาไม่เข้าใจ
แฟนคุณรักและอยากดูแลลูกให้ดีที่สุดตามความรู้สึกของเขา ซึ่งคุณไม่เข้าใจ

จริงๆ ถ้าคุณปรับความเข้าใจกันตรงนี้
หรือคุณรักกันมากกว่านี้ รักเผื่อแผ่ไปถึงคนสำคัญของคนที่เรารัก ก็ไม่น่าถึงกับต้องเลิกกัน
เสียดายที่ผมอ่านแล้วไม่เห็นถึงตรงนั้น ถ้าผมเป็นฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ผมก็คงรู้สึกไม่มั่นคงเหมือนกัน

สุดท้าย สารภาพว่าอ่านแล้วไม่ชอบคุณนิดหน่อย
คนสองคนอยู่ด้วยกันควรต้องแคร์กันมากกว่านี้
คุณกู้หนี้ยืมสินก้อนโตเมื่อเทียบกับฐานะ คุณคิดว่าแฟนไม่เดือดร้อน ผมมองว่ามันไม่ใช่
สุดท้ายหากคุณลำบากหรือคุณรู้สึกแย่ มันก็กระทบ อกเขาอกเราเหมือนคุณนั่งมองแฟนปวดฟันนั่นแหละ
อีกข้อหนึ่ง ไม่รู้ว่าคุณคิดจะกลับไปไหม แต่ถ้าคุณไม่รักลูกเขามากกว่านี้ ต่อไปอาจมีปัญหาครับ
คุณต้องยอมรับลูกเขาเป็นส่วนหนึ่งของความรัก ไม่ใช่แค่ของแถม ผมอ่านแล้วรู้สึกอย่างนั้น ถ้ารู้สึกไปเองขอโทษครับ
ความคิดเห็นที่ 14
แปลกมาก  ผมอ่านทั้งหมดที่คูณเล่า ผมไม่เห็นปัญหาเรื่องเงินว่ามันจะรุนแรงอะไร
แต่กลับเห็น pattern ซ้ำ ที่ชัดเจนมากของคุณ ครับ
ว่าคุณเป็นคนไม่มี commitment กับผู้ชายคนนี้ตั้งแต่ต้นแล้ว
คุณพร้อมจะออกจากชีวิตเขาตลอดเวลา
เหมือนเป็นคนมีอาการ fear of commitment
ไม่เชื่อลองอ่านที่คุณเขียนดูครับ มันบอกสัญญาณชัดเจนเลยว่า
คุณไม่เคยคิดจะผูกพันชีวิตกับเขาในระยะยาวเลย

-  เราบอกเลิกแฟนทุกครั้ง ที่ทะเลาะกันเรื่องเงิน
- เราพยายามเข้าใจเค้านะ แต่เราไม่สามารถเอาชีวิตเราไปผูกกับเด็กคนนึงได้
- เราถามตัวเองตลอด ชั้นจะอยู่แบบนี้ได้มั้ย
- เราไม่อยากให้สัญญาเช่ามาผูกเราไว้กับเค้า ถ้าเราอยู่แล้วไม่มีความสุขเราก็จะไป
- เราคิดถูกแล้วใช่มั้ยค่ะที่เลือกที่จะจบตอนนี้
- แต่เราทนต่อไปไม่ได้จริงๆ


คุณรู้ดีอยู่แล้ว  คุณแค่ต้องการคนพันทิปมาคอนเฟิร์มคำตอบของคุณเท่านั้น
ความคิดเห็นที่ 35
ไม่รู้ว่ายังไง แต่คิดว่าก็แปลกอยู่ดี
1. คุณเงินเดือนเยอะกว่าแฟน
หากแฟนคุณเงินเหลือ หลังหักค่าใช้จ่ายแล้ว 12000 บาท + การที่คนต่างชาติ (ขอเดาว่าอังกฤษ) จะทำงานที่ไทยได้ ต้องมีเงินเดือนขั้นต่ำ 40000 บาท งั้นเราก็คิดว่า เค้าน่าจะมีเงินเดือนอย่างน้อย 60000 บาท ซึ่งถ้าหากคุณเงินเดือนมากกว่าเค้า ซึ่งก็คือ 600000 บาท แล้วทำไมคุณถึงไม่สามารถจ่ายเงิน 200000 บาทได้ และบอกว่ามันลำบากมาก และไม่สามารถจ่ายร่วมกับแฟนได้ อาจจะต้องใช้เวลาหลายปีในการจ่ายหนี้ด้วย?????

2. แฟนมีห้องเช่าในอังกฤษ 6 แห่ง
แสดงว่า 6 แห่งนี้ คนเช่า ซึ่งก็คือรัฐบาลอังกฤษ ได้จ่ายค่าใช้จ่ายทุกอย่างคลอบคลุมค่าเช่าทั้งหมด รวมถึงภาษี และจิปาถะด้วย???? ซึ่งแฟนคุณก็ไม่มีภาระที่จะต้องหาเงินมาหมุนในส่วนนี้????
และที่แฟนคุณคาดการณ์ไว้ นั่นคือ ถ้าหากว่าได้ทำสัญญาเช่า กับรัฐบาล นั่นหมายถึงว่า ภายในระยะเวลาหนี้ที่ต้องผ่อนนั้น ก็มั่นใจว่าจะมีเงินจ่ายค่าเช่าในส่วนนี้ เค้าคงมองว่า รัฐบาลคงจะยากที่จะเปลี่ยน หรือยกเลิกสัญญาเช่าภายในระยะเวลาหนี้ เนื่องจากปกติภาครัฐเช่าที่ มักจะไม่ค่อยเปลี่ยน หรือมักจะเช่าระยะยาว

3. การใช้เงิน
แฟน:อาจจะคิดว่า เค้าไม่มีภาระอะไรที่จะต้องมาบริหารการเงิน และใช้เงินตึงแบบคุณ เค้าก็เลยใช้จ่ายอย่างอิสระแบบที่ใจต้องการ เพราะอนาคตเค้าคาดหวังไว้ว่า การลงทุนกับห้องเช่านั้นมันน่าจะเพียงพอต่อการใช้เงินของเค้าในวันนี้จากข้อ 2.
จขกท : มีหนี้ มีครอบครัว และในอนาคตอาจจะต้องแบกภาระใช้หนี้ของครอบครัวอีก จึงต้องพยายามรัดกุม และใช้เงินตึงมาก 40 บาทต่อวัน 1200  บาทต่อเดือน แสดงว่า คุณต้องจ่ายหนี้ส่วนตัวมากกว่าเดือนละ 20000 บาทแน่ๆ แล้วคุณไม่คิดว่าตัวเองมีปัญหาในการบริหารการเงิน?????

4. การเลี้ยงเด็ก
ตุณมองว่าแฟนคุณสปอยล์ลูก เพราะการตามใจซื้อของและการให้ของขวัญราคาแพง เด็กไม่เห็นคุณค่าของ เรากลับมองว่า ที่แฟนคุณซื้อของในราคา 7-8 พัน และการตามใจซื้อของ เค้าอาจจะคิดว่า รายได้ และเงินที่เค้ามีสามารถจ่ายได้ราคานั้นโดยที่เค้าไม่ได้เดือดร้อนตัวเอง หรือเค้ายอมเดือดร้อนเพื่อที่จะให้ลูกมากกว่า
แต่ในขณะเดียวกัน คุณต้องใช้เงิน 40 บาทต่อวัน คุณมองว่ามันสิ้นเปลือง เพราะ 300-500 บาทที่เค้าใช้หรือ 7-8 พันที่เค้าซื้อของเล่น มันสามารถทำให้คุณอยู่รอดไปได้หลายวัน หรือราคาของเล่นเท่ากับรายได้ที่คุณเหลือตั้งหลายเดือน
ส่วนในเรื่องการที่เด็กไม่เห็นคุณค่า อันนี้ขึ้นกับการปลูกฝังของคุณและพ่อเด็กนะคะ ถ้าอยากให้เค้าเห็นคุณค่าก็ควรสอนเค้าดีๆมีเหตุผลมาสนับสนุนเค้า
การบังคับให้เด็กอ่านหนังสือ อันนี้ก็อยู่ที่เทคนิคของคุณว่าจะชี้แนะเค้าอย่างไรให้มีความกระตือรือร้นในการเรียน
เรื่องภาษา เรามองว่า ปีหน้าลูกเค้าย้ายไปอังกฤษ และเค้ามองว่า ถึงอย่างไร ลูกเค้าอาจจะต้องใช้ชีวิตที่นั่นอีกยาว และภาษาไทยไม่ใช่ภาษาเศรษฐกิจโลก เค้าเลยมองไม่เห็นความจำเป็นที่จะต้องเรียน แค่อ่านออกเขียนได้ ก็เพียงพอแล้ว

สุดท้ายแล้ว จากที่คุณเปรียบเทียบ lifestyle ระหว่างคุณกับแฟน ในใจคุณเหมือนเอาเค้ามาเปรียบเทียบกับตัวเองตลอดเวลา และคาดหวังว่าแฟนจะยื่นมือเข้ามาช่วยเรื่องภาวะหนี้ส่วนตัวของคุณที่มีมากกว่ารายได้ของคุณ ซึ่งแฟนคุณไม่ได้ทำ แต่สิ่งที่เค้าทำคือ เค้า support ลูกสาวเค้ามากกว่า เราว่ามันก็แฟร์นะ คุณก็ช่วยครอบครัวคุณโดยการยกหนี้มาเป็นของคุณเอง ส่วนแฟนคุณ ก็ใช้จ่ายการเงินตัวเองไปกับการ support ลุกสาวเค้า ซึ่งคุณเรียกว่าการสปอยล์นั่นเอง
ความคิดเห็นที่ 39
ตรรกะหญิงไทยนี้มันเห็นแก่ตัวจริงๆ

ชายไม่มีตังค์ ผู้หญิงทิ้งได้ไม่ผิด

หญิงไม่มีตังค์ ผู้ชายห้ามทิ้ง ต้องให้ผู้หญิงเกาะ-ตลอดไป ถ้าทิ้งจะถูกตราหน้า

ความคิดตรรกะหญิงไทย กับพวกม่อตอบเทห์โชว์สาว นี้ไม่ไหวเลย ไม่มองความเป็นจริงเลย

อยู่ด้วยกันก็ต้องช่วยเหลือกัน ถ้าไม่ช่วยกันจะมาอยู่ด้วยกันเป็นปลิงอย่างเดียวเลยเหรอ อนาจใจ
ความคิดเห็นที่ 11
ไม่ต้องคิดมากนะ คุณไม่เหมาะกับมีคู่หรอกค่ะอยู่คนเดียวแล้วก็ไปชดใช้หนี้ของตัวเองไปให้หมดก่อนน่าจะดีกว่านะ ไม่ต้องไปรบกวนใครและไม่ต้องให้ใครรบกวนคุณด้วยแฟร์ดี
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่