เงินเดือนสูง = มายา ทำไมเงินเดือน 200,000 ยังไม่มั่นคง?
เงินเดือนสองแสน… ฟังดูหรูหราเหมือนฝันของมนุษย์เงินเดือนทั้งประเทศ
แต่เชื่อมั้ยคะ? คนจำนวนไม่น้อยที่ได้ 200,000 ต่อเดือน ยังใช้ชีวิตตึงมือเหมือนคนที่ได้ 30,000
เหตุผลคือ “เงินเดือนสูง” ไม่ได้แปลว่าคุณจะมั่นคง
มันอาจเป็นเพียง มายา ที่ทำให้คุณรู้สึกเหมือนมั่นคง แต่จริง ๆ เปราะบางสุด ๆ
1. เงินเดือนขึ้น → ไลฟ์สไตล์ก็ขึ้น (Lifestyle Inflation)
รายได้เพิ่มเมื่อไหร่… รายจ่ายก็ตามทันเสมอ
• จากคอนโดเช่าเล็ก ๆ → กลายเป็นบ้าน 2 ชั้นในหมู่บ้านหรู
• จากรถญี่ปุ่นคันละล้าน → เปลี่ยนเป็นรถยุโรป 3 ล้าน ค่าซ่อมแพงกว่าค่าผ่อนเดิมอีก
• จากกินอาหารตามสั่ง 50 บาท → กลายเป็นมื้อ Fine Dining 5,000 บาท
ปัญหาคือ: พอคุณอัปเกรดชีวิต รายจ่ายพื้นฐานใหม่ ๆ จะกลายเป็น “มาตรฐาน” ที่ต้องรักษาไว้ตลอดเวลา ถึงแม้รายได้จะหายไปก็ตาม
2. Active Income = รายได้ที่เปราะบางที่สุด
เงินเดือนคือรายได้แบบ Active Income = ต้องทำงานแลกตลอดเวลา
• ตกงาน = รายได้ศูนย์
• ป่วยยาว = รายได้ศูนย์
• บริษัทปรับโครงสร้าง = รายได้ศูนย์
คนเงินเดือน 200,000 ที่ไม่มีสินทรัพย์หรือ Passive Income จริง ๆ แล้วเปราะบางไม่ต่างอะไรกับคนเงินเดือน 20,000 เลย แค่ตัวเลขบนสลิปดูเท่กว่า
3. หนี้ + Status Game = หลุมดำการเงิน
มนุษย์เงินเดือนสูงจำนวนมากติดกับดัก “ต้องดูสมฐานะ”
• บ้านใหญ่ = หนี้ 30 ปี
• รถหรู = หนี้ 7 ปี + ค่าซ่อม ค่าเบี้ยประกัน
• เที่ยวต่างประเทศ = หนี้บัตรเครดิต
ทั้งหมดนี้คือ หนี้ที่ไม่สร้างรายได้ (Bad Debt) แต่ถูกเลือกเพราะ “ภาพลักษณ์”
สุดท้ายจ่ายไปเพื่อโชว์ แต่ไม่เหลืออะไรสร้างความมั่นคงจริง
4. เงินเดือนสูงแต่ “ไม่วางโครงสร้างการเงิน” = เหมือนสร้างตึกบนทราย
ไม่สำคัญว่าคุณได้เงินเดือนเท่าไหร่ ถ้า…
• คุณไม่มี Emergency Fund อย่างน้อย 6 เดือน
• คุณไม่กันเงิน ลงทุน ให้โตในอนาคต
• คุณไม่รู้จัก กระจายความเสี่ยง
คุณกำลังเล่นเกมที่อันตรายมาก ๆ เพราะพึ่งพาแค่รายได้เดียว แถมเป็นรายได้ที่หายไปได้ทุกเมื่อ
5. มายาคติที่หลอกคนเก่ง ๆ มานับไม่ถ้วน
หลายคนเชื่อว่า “เดี๋ยวเงินเดือนสูงแล้วจะรวยเอง” …แต่ความจริงคือ
• คนเงินเดือน 50,000 ที่เก็บได้ 30% มั่นคงกว่าคนเงินเดือน 200,000 ที่เก็บไม่ได้เลย
• คนที่เริ่มลงทุนตั้งแต่รายได้ยังน้อย อาจมั่งคั่งกว่าผู้บริหารที่มีเงินเดือนสูงแต่ใช้หมดทุกเดือน
• ความมั่งคั่งไม่เคยมาจาก รายได้เท่าไหร่ แต่มาจาก จัดการเงินยังไง
6. “มายา” ที่ทำให้คุณคิดว่ารวย ทั้งที่จริง ๆ ยังจน
ลองตอบคำถามนี้กับตัวเอง:
• ถ้าพรุ่งนี้คุณตกงาน คุณอยู่ได้กี่เดือนโดยไม่กู้หนี้?
• คุณมีรายได้อื่นนอกจากเงินเดือนหรือไม่?
• ถ้าวันนี้คุณหยุดทำงาน เงินยังไหลเข้าบัญชีอยู่หรือเปล่า?
ถ้าคำตอบคือ “ไม่” …ต่อให้เงินเดือน 200,000 ก็ไม่มั่นคงค่ะ
7. ทางออก: เปลี่ยนจากมายา → เป็นความมั่นคงจริง
• เก็บ อย่างน้อย 20–30% ของรายได้ ทุกเดือน
• สร้าง Emergency Fund 6–12 เดือน
• ลงทุนในสินทรัพย์ที่โตระยะยาว (หุ้น กองทุน อสังหาฯ)
• หลีกเลี่ยงหนี้ที่ไม่สร้างรายได้
• สร้าง Passive Income ให้เงินทำงานแทน
เงินเดือน 200,000 ฟังดูหรูหรา แต่มันคือ “มายา” ถ้าคุณยังไม่มีโครงสร้างทางการเงินที่มั่นคง
อย่าหลงตัวเลขบนสลิปเงินเดือน แต่ให้ดูว่าถ้ารายได้หายไป คุณยังรอดไหม
👉 คำถามสุดท้าย
วันนี้คุณเป็นคนที่ “เงินเดือนสูงแต่เปราะบาง” หรือ “เงินเดือนธรรมดาแต่มั่นคง”?
ขอบคุณบทความค่ะ
CR :
https://www.facebook.com/share/p/19Ly51cHVN/?mibextid=wwXIfr
วันนี้คุณเป็นคนที่ “เงินเดือนสูงแต่เปราะบาง” หรือ “เงินเดือนธรรมดาแต่มั่นคง”?
เงินเดือนสองแสน… ฟังดูหรูหราเหมือนฝันของมนุษย์เงินเดือนทั้งประเทศ
แต่เชื่อมั้ยคะ? คนจำนวนไม่น้อยที่ได้ 200,000 ต่อเดือน ยังใช้ชีวิตตึงมือเหมือนคนที่ได้ 30,000
เหตุผลคือ “เงินเดือนสูง” ไม่ได้แปลว่าคุณจะมั่นคง
มันอาจเป็นเพียง มายา ที่ทำให้คุณรู้สึกเหมือนมั่นคง แต่จริง ๆ เปราะบางสุด ๆ
1. เงินเดือนขึ้น → ไลฟ์สไตล์ก็ขึ้น (Lifestyle Inflation)
รายได้เพิ่มเมื่อไหร่… รายจ่ายก็ตามทันเสมอ
• จากคอนโดเช่าเล็ก ๆ → กลายเป็นบ้าน 2 ชั้นในหมู่บ้านหรู
• จากรถญี่ปุ่นคันละล้าน → เปลี่ยนเป็นรถยุโรป 3 ล้าน ค่าซ่อมแพงกว่าค่าผ่อนเดิมอีก
• จากกินอาหารตามสั่ง 50 บาท → กลายเป็นมื้อ Fine Dining 5,000 บาท
ปัญหาคือ: พอคุณอัปเกรดชีวิต รายจ่ายพื้นฐานใหม่ ๆ จะกลายเป็น “มาตรฐาน” ที่ต้องรักษาไว้ตลอดเวลา ถึงแม้รายได้จะหายไปก็ตาม
2. Active Income = รายได้ที่เปราะบางที่สุด
เงินเดือนคือรายได้แบบ Active Income = ต้องทำงานแลกตลอดเวลา
• ตกงาน = รายได้ศูนย์
• ป่วยยาว = รายได้ศูนย์
• บริษัทปรับโครงสร้าง = รายได้ศูนย์
คนเงินเดือน 200,000 ที่ไม่มีสินทรัพย์หรือ Passive Income จริง ๆ แล้วเปราะบางไม่ต่างอะไรกับคนเงินเดือน 20,000 เลย แค่ตัวเลขบนสลิปดูเท่กว่า
3. หนี้ + Status Game = หลุมดำการเงิน
มนุษย์เงินเดือนสูงจำนวนมากติดกับดัก “ต้องดูสมฐานะ”
• บ้านใหญ่ = หนี้ 30 ปี
• รถหรู = หนี้ 7 ปี + ค่าซ่อม ค่าเบี้ยประกัน
• เที่ยวต่างประเทศ = หนี้บัตรเครดิต
ทั้งหมดนี้คือ หนี้ที่ไม่สร้างรายได้ (Bad Debt) แต่ถูกเลือกเพราะ “ภาพลักษณ์”
สุดท้ายจ่ายไปเพื่อโชว์ แต่ไม่เหลืออะไรสร้างความมั่นคงจริง
4. เงินเดือนสูงแต่ “ไม่วางโครงสร้างการเงิน” = เหมือนสร้างตึกบนทราย
ไม่สำคัญว่าคุณได้เงินเดือนเท่าไหร่ ถ้า…
• คุณไม่มี Emergency Fund อย่างน้อย 6 เดือน
• คุณไม่กันเงิน ลงทุน ให้โตในอนาคต
• คุณไม่รู้จัก กระจายความเสี่ยง
คุณกำลังเล่นเกมที่อันตรายมาก ๆ เพราะพึ่งพาแค่รายได้เดียว แถมเป็นรายได้ที่หายไปได้ทุกเมื่อ
5. มายาคติที่หลอกคนเก่ง ๆ มานับไม่ถ้วน
หลายคนเชื่อว่า “เดี๋ยวเงินเดือนสูงแล้วจะรวยเอง” …แต่ความจริงคือ
• คนเงินเดือน 50,000 ที่เก็บได้ 30% มั่นคงกว่าคนเงินเดือน 200,000 ที่เก็บไม่ได้เลย
• คนที่เริ่มลงทุนตั้งแต่รายได้ยังน้อย อาจมั่งคั่งกว่าผู้บริหารที่มีเงินเดือนสูงแต่ใช้หมดทุกเดือน
• ความมั่งคั่งไม่เคยมาจาก รายได้เท่าไหร่ แต่มาจาก จัดการเงินยังไง
6. “มายา” ที่ทำให้คุณคิดว่ารวย ทั้งที่จริง ๆ ยังจน
ลองตอบคำถามนี้กับตัวเอง:
• ถ้าพรุ่งนี้คุณตกงาน คุณอยู่ได้กี่เดือนโดยไม่กู้หนี้?
• คุณมีรายได้อื่นนอกจากเงินเดือนหรือไม่?
• ถ้าวันนี้คุณหยุดทำงาน เงินยังไหลเข้าบัญชีอยู่หรือเปล่า?
ถ้าคำตอบคือ “ไม่” …ต่อให้เงินเดือน 200,000 ก็ไม่มั่นคงค่ะ
7. ทางออก: เปลี่ยนจากมายา → เป็นความมั่นคงจริง
• เก็บ อย่างน้อย 20–30% ของรายได้ ทุกเดือน
• สร้าง Emergency Fund 6–12 เดือน
• ลงทุนในสินทรัพย์ที่โตระยะยาว (หุ้น กองทุน อสังหาฯ)
• หลีกเลี่ยงหนี้ที่ไม่สร้างรายได้
• สร้าง Passive Income ให้เงินทำงานแทน
เงินเดือน 200,000 ฟังดูหรูหรา แต่มันคือ “มายา” ถ้าคุณยังไม่มีโครงสร้างทางการเงินที่มั่นคง
อย่าหลงตัวเลขบนสลิปเงินเดือน แต่ให้ดูว่าถ้ารายได้หายไป คุณยังรอดไหม
👉 คำถามสุดท้าย
วันนี้คุณเป็นคนที่ “เงินเดือนสูงแต่เปราะบาง” หรือ “เงินเดือนธรรมดาแต่มั่นคง”?
ขอบคุณบทความค่ะ
CR : https://www.facebook.com/share/p/19Ly51cHVN/?mibextid=wwXIfr