เช้าวันจันทร์หลังสอบกลางภาค วันนี้ดาวดุไม่ค่อยสดใสเ่าไหร่ เพราะเมื่อคืนเธอเอาแต่คิดเรื่องคดีที่ได้ฟังมาทั้งคืน คงเป็นเพราะเธอคิดว่างานนี้ภูคงรับทำและที่ผ่านมา ดาวรู้ตัวเองดีว่าเธอไม่ค่อยได้ช่วยอะไรเท่าไหร่ เพราะนอกจากความสามารถในการเป็นผู้สัมผัสวิญญาณของเธอ ซึ่งนึกไปนึกมามันก็น่าโมโหเพราะมันไม่ต่างกับการที่เธอเป็นอุปกรณ์ชิ้นหนึ่งของภูเลย
แต่ถึงแบบนั้น มันก็ไม่ได้เรื่องอะไรเพราะจากที่แอ๊ดเล่ามา มันไม่มีข้อมูลอะไรเลย ซึ่งคิดว่าภูก็เช่นเดียวกัน
"แหม ไปทะเลเป็นไงบ้างจ๊ะ มาเรียนวะโทรมเชียวนะยัยดาว" มิ้น เพื่อนสนิทในกลุ่มของเธอมาทักคนแรก และสำหรับมล เหมือนเธอจะเข้ามาทักพอเป็นพิธี ดาวก็คิดว่ามลคงยังงอนเธอ เรื่องที่ไปติวหนังสือสอบอยู่
"ก็ไม่เท่าไหร่อ่ะแก แต่ตอนไปพักโรงแรมนะเล่นเอาแทบจะไม่ได้นอนเลย" ที่ดาวจะสื่อก็หมายถึง เธอต้องนั่งเล่นไพ่ทั้งคืนจนปาเข้าไปตีหนึ่งตีสอง
"โห งั้นเธอ กับเจ้านายที่หล่อคนนั้นก็..." มิ้นพูดแซวพร้อมกับทำตาเยิ้ม ดาวรีบปฏเสธทันควันว่า ที่ไม่ได้นอนหมายถึงเล่นไพ่กันทั้งวง เมื่ออธิบายจบมิ้นก็ได้แต่หัวเราะเบาๆเมื่อได้ยินเสียงถอนหายใจของมลที่แสดงความโล่งอก
"แต่ว่าเมื่อคืนฉันก็ไม่ได้นอนจริงๆนั่นแหละ" ด้วยความที่ดาวแสดงสีหน้าเป็นกังวล มิ้นจึงไม่ได้แหย่อะไรมาก
"อืม แล้วก็เรื่องยัยมลน่ะ แกไปง้อมันหน่อยก็ดีนะ ท่าทางมันจะงอนแกอยู่นา" เรื่องนี้ดาวก็ทราบถึงแม้มิ้นจะไม่บอก และเธอก็รู้ตัวว่าเธอขลุกอยู่กับพวกภูมากเกิน เพราะเพิ่งผ่านคดีใหญ่ที่เกิดในโรงเรียนของเธอมาก็ตาม
...............................................
"ถึงกับเรียกผมมานี่คงมีเรื่องด่วนสินะครับ" ภูถูกแอ๊ดกับเอกเจ้าของสตูดิโอเรียกไปพบเป็นการด่วน ซึ่งจากเดิมที่ภูถูกนัดไว้ช่วงบ่าย แต่เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนกับยามที่ดูแลสตูดิโอ แต่จะไม่ถึงตาย แต่ยามผู้เคราะห์ร้ายคนนั้นก็ยังไม่ฟื้นเพราะหัวได้รับการกระทบกระเทือนตอนล้มลง
"เกิดเรื่องขึ้นเมื่อคืน คุณเอกกำลังทำงานอยู่ที่ออฟฟิส ฉันเห็นว่าเรื่องนี้มันแปลกเกินกว่าปรากฏการณืโฟโตไกส์ที่เคยเกิดขึ้นเลยเรียกนายมาด่วน" แอ๊ดอธิบาย พร้อมกับเอาเอกสารหลักฐานจากทางตำรวจให้ดู
จากคำให้การของเอก ยามเข้ามาหาเขาที่ออฟฟิสเพราะเห็นว่าไฟยังเปิดอยู่ ตอนนั้นเอกกำลังเคลียร์งานและยังไม่กลับ ยามคนนั้นจึงขอตัวไปตรวจยังส่วนอื่นๆ แต่หลังจากนั้นไม่นาน ก็มีเสียงโครมดังขึ้น เอกจึงออกไปดู จนมาถึงห้องถ่ายทำ เมื่อเปิดไฟดูก็พบว่ายามเคราะห์ร้ายนอนสลบอยู่ไม่ห่างจากร่างนั้นเท่าไหร่ก็มีคานเหล็กที่เอาไว้ห้อยไฟตกอยู่ข้างๆ จากนั้นเอกจึงแจ้งตำรวจ
"ประเด็นมันอยู่ที่หลักฐานในที่เกิดเหตุใช่มั้ยครับ"ภุพูดพร้อมเอาชูเอกสารที่แสดงถึงหลักฐานที่หลงเหลือมาให้ดู ซึ่งเรื่องนี้แอ๊ดกับเอกก็รู้ดีอยู่แล้ว เพราะถึงแม้ตำรวจจะสรุปว่าเป็นอุบัติเหตุ แต่หลักฐานนั้นบ่งชี้ว่ามาจากการจงใจของมนุษย์ เพราะน็อตที่ยึดคานทั้งสองด้านนั้น ไม่ปรากฏหมายเกลียวสึกจนหลุดออกมา แต่เป็นไปในลักษณ์ของการถูกถอดอย่างจงใจ และที่สำคัญ คานถูกถอดออกมาพร้อมกันทั้งสองด้าน มันจึงตกลงมาแบบนั้น เพราะหาถอดทีละด้าน คานจะบิดงอลงมาเพราะรับน้ำหนักของโคมไฟไม่ไหว แต่ด้วยหลักบานทั้งปวงที่เกิด ไม่ปรากฏว่ามีใครอยู่ในบริเวณนั้น รวมทั้งกล้องวงจรปิด ที่ถ่ายบริเวณทางเดินก็ไม่พบว่ามีใครหนีออกมาหลังจากก่อเหตุ
"ด้วยเหตุนี้แหละฉันถึงเรียกนายมาด่วน ภูนายคิดว่าพอจะมีทางมั้ย" แอ๊ดถามตรงอย่างไม่อ้อมค้อม ซึ่งภูก็รู้สึกหนักใจเหมือนกัน และทางเอกก็เริ่มเป็นกังวลเพราะจากที่เขาปิดปรับปรุงเพื่อสืบหาสาเหตุ เขามีเวลาอีกอาทิตย์กว่า ที่นิตยสารวัยรุ่นเจ้าประจำจะมาใช้สถานที่เพื่อถ่ายนางแบบหน้าใหม่แห่งปี ซึ่งหากถึงตอนนั้น คดียังไม่เคลียร์ และเกิดเหตุขึ้นกับทีมงานเขาคงไม่มีที่ยืนในวงการนี้อีก
"เอาตรงๆนะพี่ตามแรวทางผม ตอนนี้เราไม่มีข้อมูลอะไรเลย ผมก็เลยอยากให้พี่เนี้ยช่วยหาข้อมูลประวัติที่ดิน ลำดับเหตุการณ์ ที่เกิดขึ้นให้ผมหน่อย ส่วนเย็นนี้ ผมจะมาเซตอุปกรณ์ก็แล้วกัน" แอ๊ดก้พอจะเข้าใจการทำงานของภูอยู่ เขาจึงหันไปปรึกษากับเอกเจ้าของสตูดิโอจากนั้น จึงบอกกับภูว่าขอเวลารวบรวมประมาณวันสองวัน
..........................................
ชั่วโมงเรียนในช่วงเช้ามันเหมือนกับเวลาจะผ่านไปอย่างเชื่องช้า ดาวง่วงเหงาหาวนอนจนถึงกับฟุบโต๊ะจนครูต้องมาเตือนหลายๆครั้ง แต่ด้วยความที่ดาวเป็นนักเรียนดีเด่น แทนที่จะถูกเอ็ด ครูจึงแนะนำให้เธอไปนอนพักที่ห้องพยาบาล
จนกระทั่งพักเที่ยง ดาวที่นอนพักที่ห้องพยาบาลก็ผ่านไปด้วยดี เพราะดาวก็แอบกังวลว่าพวก เพื่อนคนพิเศษ จะถือโอกาศเข้ามาทักทายเธอในความฝัน ทำให้เมื่อนอนพักเต็มอิ่มเธอก็สดชื่นขึ้นมาทันที พร้อมกับข้อความที่ภูส่งมาทิ้งว่า
"พี่เจี๊ยบกับพี่ต้อมไม่ว่าง เย็นนี้เธอมาช่วยฉันหน่อย"
เมื่อเห็นข้อความดาวก็เคืองจนแทบปาโทรสัพท์ทิ้ง
(นี่นาย ถ้าหาคนอื่นได้นายกะไม่เรียกฉันเลยใช่มั้ย)
.................................
เย็นช่วงเลิกเรียน ภูมารอรับดาวถึงหน้าโรงเรียนเหมือนเดิมพร้อมกับรถราคาแพงของเขา ดาวได้แต่อาย สายตาที่คนมองก็เลยรีบเดินขึ้นรถไป ระหว่างทางก็บ่นภูมาตลอด
"ถ้าพวกพี่เค้าว่างนายก็ไม่กะเรียกฉันเลยใช่มั้ย นายเห็นฉันเป็นอะไรฮะ" ดาวโวยใส่ภูอย่างแรง ภูก็ได้แต่เงียบและขับรถไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
"เพราะคดีนี้มันอันตรายยังไงล่ะ ฉันยังหาสาเหตุของเหตุการณ์ไม่ได้ หากเกิดอะไรขึ้นกับเธอมันจะแย่ ฉันเป็นห่วง" คำพูดของภูทำให้ความโกรธของดาวหายไปเหมือนไฟที่โดนน้ำดับ หัวใจของดาวเต้นแรงโดยไม่รู้ตัว
"นี่นายก็เป็นห่วงฉันเหมือนกันเหรอ" ดาวพูดอย่างแผ่วเบาด้วยอาการขวยเขิน แต่เหมือนว่าภูจะได้ยิน
"แหงล่ะ เด็กใหม่อย่างเธอ เกิดอะไรขึ้นมันจะแย่ ถ้าให้พวกกร้านโลกแบบสองคนนั้นมาทำก็ยังคงพอดูแลตัวเองได้ล่ะนะ" เมื่อได้ยิน อารมณ์หวั่นไหวของดาวก็หายไปทันที และด้วยปฏิกิริยารีแฟรค ดาวหัวฝ่ามือเข้าไปที่หน้าขาภูอย่างเต็มแรง
.................................
"เอาล่ะ ดาวเธอช่วยเซตอุปกรณ์ ในออฟฟิสนี้ละกัน พี่แอ๊ดช่วยดูแลดาวเค้าด้วยนะ เธอยังเป็นเด็กใหม่ทำพลาดไป อุปกรณืเสียหายราคามันแพง" คำสั่งของภูทำให้ดาวยัวะมาก
(คำก็เด็กใหม่สองคำก็เด็กใหม่ คอยดูละกันเถอะนายภู)
จากที่ภูวางแผนเอาไว้ เขาจะไปติดตั้งกล้อง ไมค์ และอุปกรณ์ตรวจจับตามที่ต่างๆในสตูดิโอด้วยตัวเอง เพราะถึงอย่างไรผีก็ทำอะไรภูไม่ได้แน่ๆ ส่วนดาวที่ภูให้เซตอุปกรณ์ในออฟฟิสเพื่อใช้เป็นฐานหลักนั้น มีแอ๊ดกับเอกอยู่ด้วย หากเกิดอะไรขึ้นก็คงพอจะมีคนช่วยทัน
ดาวเซตอุปกรณ์ทั้งคอมพิวเตอร์ และตัวแสดงผลต่างๆโดยมีแอ๊ดคอยช่วย เหมือนดาวเริ่มที่จะทำงานได้คล่องแคล่วขึ้น แม้เธอเคยแต่เซตอุปกรณืภาคสนาม แต่การเซตเครื่องที่ฐานเธอก็ทำได้ดี เหลือเพียงแค่โปรแกรมต่างๆเท่านั้นที่ต้องให้แอ๊ดช่วย
ส่วนเอกผู้ที่ไม่มีความรู้อะไรเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้เลยก็เลยนั่งให้กำลังใจทั้งสองคนไป แต่ด้วยสายตาเหยี่ยว เขามองดาว ที่มีหน้าตาน่ารักสมวัย รูปร่างดี หุ่นนักกีฬา ก็เลยเอ่ยปากชวนเข้าวงการมันซะเลย
"น้องดาวนี่ดูท่าทางจะมีแววนะ ถ้าอยากเข้าวงการก็มาหาผมได้นะ ผมกับแอ๊ดรู้จักโมเดลลิ่ง ค่ายหนังค่ายละครหลายที่ อย่างน้องดาวนี่น่าจะไม่อยากเลย"
ดาวซึ่งคิดว่าเอกพูดเล่นก็เลยหัวเราะและปฏิเสธไป พร้อมกับบอกเหตุผลว่าเธอเป็นนักวิ่งของโรงเรียน ต้นขาคงใหญ่(ในความคิดของเธอ)ไม่เหมาะกับงานอะไรแบบนี้หรอก
บรรยากาศในออฟฟิสเป็นไปได้ด้วยดี แต่จู่ๆไฟในห้องก็ติดๆดับๆ พร้อมกับเสียงเสียงทุบผนังออฟฟิสมาจากรอบทิศทาง
ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
เสียงนั้นดังอย่างไม่ขาดสายราวกับว่าจะทุบผนังทั้งปูนทั้งกระจกให้พังให้ได้
ดาวที่อยู่ในเหตุการกรีดร้องในทันที
...........................................
file 4-1
http://pantip.com/topic/35493541
ชวงนี้ผมคงลงอาทิตย์ละ2ตอนนะครับ วันจันทร์กับศุกร์ คือผมกำลังเตรียมสอบเรียนต่อและหาเวลาลองแต่งนิยายสงสำนักพิมพ์ด้วยครับ
ตอนต่อไป
http://pantip.com/topic/35545033
GHost Detective File 4-2 ผู้สัมผัสวิญญาณ
แต่ถึงแบบนั้น มันก็ไม่ได้เรื่องอะไรเพราะจากที่แอ๊ดเล่ามา มันไม่มีข้อมูลอะไรเลย ซึ่งคิดว่าภูก็เช่นเดียวกัน
"แหม ไปทะเลเป็นไงบ้างจ๊ะ มาเรียนวะโทรมเชียวนะยัยดาว" มิ้น เพื่อนสนิทในกลุ่มของเธอมาทักคนแรก และสำหรับมล เหมือนเธอจะเข้ามาทักพอเป็นพิธี ดาวก็คิดว่ามลคงยังงอนเธอ เรื่องที่ไปติวหนังสือสอบอยู่
"ก็ไม่เท่าไหร่อ่ะแก แต่ตอนไปพักโรงแรมนะเล่นเอาแทบจะไม่ได้นอนเลย" ที่ดาวจะสื่อก็หมายถึง เธอต้องนั่งเล่นไพ่ทั้งคืนจนปาเข้าไปตีหนึ่งตีสอง
"โห งั้นเธอ กับเจ้านายที่หล่อคนนั้นก็..." มิ้นพูดแซวพร้อมกับทำตาเยิ้ม ดาวรีบปฏเสธทันควันว่า ที่ไม่ได้นอนหมายถึงเล่นไพ่กันทั้งวง เมื่ออธิบายจบมิ้นก็ได้แต่หัวเราะเบาๆเมื่อได้ยินเสียงถอนหายใจของมลที่แสดงความโล่งอก
"แต่ว่าเมื่อคืนฉันก็ไม่ได้นอนจริงๆนั่นแหละ" ด้วยความที่ดาวแสดงสีหน้าเป็นกังวล มิ้นจึงไม่ได้แหย่อะไรมาก
"อืม แล้วก็เรื่องยัยมลน่ะ แกไปง้อมันหน่อยก็ดีนะ ท่าทางมันจะงอนแกอยู่นา" เรื่องนี้ดาวก็ทราบถึงแม้มิ้นจะไม่บอก และเธอก็รู้ตัวว่าเธอขลุกอยู่กับพวกภูมากเกิน เพราะเพิ่งผ่านคดีใหญ่ที่เกิดในโรงเรียนของเธอมาก็ตาม
...............................................
"ถึงกับเรียกผมมานี่คงมีเรื่องด่วนสินะครับ" ภูถูกแอ๊ดกับเอกเจ้าของสตูดิโอเรียกไปพบเป็นการด่วน ซึ่งจากเดิมที่ภูถูกนัดไว้ช่วงบ่าย แต่เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนกับยามที่ดูแลสตูดิโอ แต่จะไม่ถึงตาย แต่ยามผู้เคราะห์ร้ายคนนั้นก็ยังไม่ฟื้นเพราะหัวได้รับการกระทบกระเทือนตอนล้มลง
"เกิดเรื่องขึ้นเมื่อคืน คุณเอกกำลังทำงานอยู่ที่ออฟฟิส ฉันเห็นว่าเรื่องนี้มันแปลกเกินกว่าปรากฏการณืโฟโตไกส์ที่เคยเกิดขึ้นเลยเรียกนายมาด่วน" แอ๊ดอธิบาย พร้อมกับเอาเอกสารหลักฐานจากทางตำรวจให้ดู
จากคำให้การของเอก ยามเข้ามาหาเขาที่ออฟฟิสเพราะเห็นว่าไฟยังเปิดอยู่ ตอนนั้นเอกกำลังเคลียร์งานและยังไม่กลับ ยามคนนั้นจึงขอตัวไปตรวจยังส่วนอื่นๆ แต่หลังจากนั้นไม่นาน ก็มีเสียงโครมดังขึ้น เอกจึงออกไปดู จนมาถึงห้องถ่ายทำ เมื่อเปิดไฟดูก็พบว่ายามเคราะห์ร้ายนอนสลบอยู่ไม่ห่างจากร่างนั้นเท่าไหร่ก็มีคานเหล็กที่เอาไว้ห้อยไฟตกอยู่ข้างๆ จากนั้นเอกจึงแจ้งตำรวจ
"ประเด็นมันอยู่ที่หลักฐานในที่เกิดเหตุใช่มั้ยครับ"ภุพูดพร้อมเอาชูเอกสารที่แสดงถึงหลักฐานที่หลงเหลือมาให้ดู ซึ่งเรื่องนี้แอ๊ดกับเอกก็รู้ดีอยู่แล้ว เพราะถึงแม้ตำรวจจะสรุปว่าเป็นอุบัติเหตุ แต่หลักฐานนั้นบ่งชี้ว่ามาจากการจงใจของมนุษย์ เพราะน็อตที่ยึดคานทั้งสองด้านนั้น ไม่ปรากฏหมายเกลียวสึกจนหลุดออกมา แต่เป็นไปในลักษณ์ของการถูกถอดอย่างจงใจ และที่สำคัญ คานถูกถอดออกมาพร้อมกันทั้งสองด้าน มันจึงตกลงมาแบบนั้น เพราะหาถอดทีละด้าน คานจะบิดงอลงมาเพราะรับน้ำหนักของโคมไฟไม่ไหว แต่ด้วยหลักบานทั้งปวงที่เกิด ไม่ปรากฏว่ามีใครอยู่ในบริเวณนั้น รวมทั้งกล้องวงจรปิด ที่ถ่ายบริเวณทางเดินก็ไม่พบว่ามีใครหนีออกมาหลังจากก่อเหตุ
"ด้วยเหตุนี้แหละฉันถึงเรียกนายมาด่วน ภูนายคิดว่าพอจะมีทางมั้ย" แอ๊ดถามตรงอย่างไม่อ้อมค้อม ซึ่งภูก็รู้สึกหนักใจเหมือนกัน และทางเอกก็เริ่มเป็นกังวลเพราะจากที่เขาปิดปรับปรุงเพื่อสืบหาสาเหตุ เขามีเวลาอีกอาทิตย์กว่า ที่นิตยสารวัยรุ่นเจ้าประจำจะมาใช้สถานที่เพื่อถ่ายนางแบบหน้าใหม่แห่งปี ซึ่งหากถึงตอนนั้น คดียังไม่เคลียร์ และเกิดเหตุขึ้นกับทีมงานเขาคงไม่มีที่ยืนในวงการนี้อีก
"เอาตรงๆนะพี่ตามแรวทางผม ตอนนี้เราไม่มีข้อมูลอะไรเลย ผมก็เลยอยากให้พี่เนี้ยช่วยหาข้อมูลประวัติที่ดิน ลำดับเหตุการณ์ ที่เกิดขึ้นให้ผมหน่อย ส่วนเย็นนี้ ผมจะมาเซตอุปกรณ์ก็แล้วกัน" แอ๊ดก้พอจะเข้าใจการทำงานของภูอยู่ เขาจึงหันไปปรึกษากับเอกเจ้าของสตูดิโอจากนั้น จึงบอกกับภูว่าขอเวลารวบรวมประมาณวันสองวัน
..........................................
ชั่วโมงเรียนในช่วงเช้ามันเหมือนกับเวลาจะผ่านไปอย่างเชื่องช้า ดาวง่วงเหงาหาวนอนจนถึงกับฟุบโต๊ะจนครูต้องมาเตือนหลายๆครั้ง แต่ด้วยความที่ดาวเป็นนักเรียนดีเด่น แทนที่จะถูกเอ็ด ครูจึงแนะนำให้เธอไปนอนพักที่ห้องพยาบาล
จนกระทั่งพักเที่ยง ดาวที่นอนพักที่ห้องพยาบาลก็ผ่านไปด้วยดี เพราะดาวก็แอบกังวลว่าพวก เพื่อนคนพิเศษ จะถือโอกาศเข้ามาทักทายเธอในความฝัน ทำให้เมื่อนอนพักเต็มอิ่มเธอก็สดชื่นขึ้นมาทันที พร้อมกับข้อความที่ภูส่งมาทิ้งว่า
"พี่เจี๊ยบกับพี่ต้อมไม่ว่าง เย็นนี้เธอมาช่วยฉันหน่อย"
เมื่อเห็นข้อความดาวก็เคืองจนแทบปาโทรสัพท์ทิ้ง
(นี่นาย ถ้าหาคนอื่นได้นายกะไม่เรียกฉันเลยใช่มั้ย)
.................................
เย็นช่วงเลิกเรียน ภูมารอรับดาวถึงหน้าโรงเรียนเหมือนเดิมพร้อมกับรถราคาแพงของเขา ดาวได้แต่อาย สายตาที่คนมองก็เลยรีบเดินขึ้นรถไป ระหว่างทางก็บ่นภูมาตลอด
"ถ้าพวกพี่เค้าว่างนายก็ไม่กะเรียกฉันเลยใช่มั้ย นายเห็นฉันเป็นอะไรฮะ" ดาวโวยใส่ภูอย่างแรง ภูก็ได้แต่เงียบและขับรถไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
"เพราะคดีนี้มันอันตรายยังไงล่ะ ฉันยังหาสาเหตุของเหตุการณ์ไม่ได้ หากเกิดอะไรขึ้นกับเธอมันจะแย่ ฉันเป็นห่วง" คำพูดของภูทำให้ความโกรธของดาวหายไปเหมือนไฟที่โดนน้ำดับ หัวใจของดาวเต้นแรงโดยไม่รู้ตัว
"นี่นายก็เป็นห่วงฉันเหมือนกันเหรอ" ดาวพูดอย่างแผ่วเบาด้วยอาการขวยเขิน แต่เหมือนว่าภูจะได้ยิน
"แหงล่ะ เด็กใหม่อย่างเธอ เกิดอะไรขึ้นมันจะแย่ ถ้าให้พวกกร้านโลกแบบสองคนนั้นมาทำก็ยังคงพอดูแลตัวเองได้ล่ะนะ" เมื่อได้ยิน อารมณ์หวั่นไหวของดาวก็หายไปทันที และด้วยปฏิกิริยารีแฟรค ดาวหัวฝ่ามือเข้าไปที่หน้าขาภูอย่างเต็มแรง
.................................
"เอาล่ะ ดาวเธอช่วยเซตอุปกรณ์ ในออฟฟิสนี้ละกัน พี่แอ๊ดช่วยดูแลดาวเค้าด้วยนะ เธอยังเป็นเด็กใหม่ทำพลาดไป อุปกรณืเสียหายราคามันแพง" คำสั่งของภูทำให้ดาวยัวะมาก
(คำก็เด็กใหม่สองคำก็เด็กใหม่ คอยดูละกันเถอะนายภู)
จากที่ภูวางแผนเอาไว้ เขาจะไปติดตั้งกล้อง ไมค์ และอุปกรณ์ตรวจจับตามที่ต่างๆในสตูดิโอด้วยตัวเอง เพราะถึงอย่างไรผีก็ทำอะไรภูไม่ได้แน่ๆ ส่วนดาวที่ภูให้เซตอุปกรณ์ในออฟฟิสเพื่อใช้เป็นฐานหลักนั้น มีแอ๊ดกับเอกอยู่ด้วย หากเกิดอะไรขึ้นก็คงพอจะมีคนช่วยทัน
ดาวเซตอุปกรณ์ทั้งคอมพิวเตอร์ และตัวแสดงผลต่างๆโดยมีแอ๊ดคอยช่วย เหมือนดาวเริ่มที่จะทำงานได้คล่องแคล่วขึ้น แม้เธอเคยแต่เซตอุปกรณืภาคสนาม แต่การเซตเครื่องที่ฐานเธอก็ทำได้ดี เหลือเพียงแค่โปรแกรมต่างๆเท่านั้นที่ต้องให้แอ๊ดช่วย
ส่วนเอกผู้ที่ไม่มีความรู้อะไรเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้เลยก็เลยนั่งให้กำลังใจทั้งสองคนไป แต่ด้วยสายตาเหยี่ยว เขามองดาว ที่มีหน้าตาน่ารักสมวัย รูปร่างดี หุ่นนักกีฬา ก็เลยเอ่ยปากชวนเข้าวงการมันซะเลย
"น้องดาวนี่ดูท่าทางจะมีแววนะ ถ้าอยากเข้าวงการก็มาหาผมได้นะ ผมกับแอ๊ดรู้จักโมเดลลิ่ง ค่ายหนังค่ายละครหลายที่ อย่างน้องดาวนี่น่าจะไม่อยากเลย"
ดาวซึ่งคิดว่าเอกพูดเล่นก็เลยหัวเราะและปฏิเสธไป พร้อมกับบอกเหตุผลว่าเธอเป็นนักวิ่งของโรงเรียน ต้นขาคงใหญ่(ในความคิดของเธอ)ไม่เหมาะกับงานอะไรแบบนี้หรอก
บรรยากาศในออฟฟิสเป็นไปได้ด้วยดี แต่จู่ๆไฟในห้องก็ติดๆดับๆ พร้อมกับเสียงเสียงทุบผนังออฟฟิสมาจากรอบทิศทาง
ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
เสียงนั้นดังอย่างไม่ขาดสายราวกับว่าจะทุบผนังทั้งปูนทั้งกระจกให้พังให้ได้
ดาวที่อยู่ในเหตุการกรีดร้องในทันที
...........................................
file 4-1 http://pantip.com/topic/35493541
ชวงนี้ผมคงลงอาทิตย์ละ2ตอนนะครับ วันจันทร์กับศุกร์ คือผมกำลังเตรียมสอบเรียนต่อและหาเวลาลองแต่งนิยายสงสำนักพิมพ์ด้วยครับ
ตอนต่อไป http://pantip.com/topic/35545033