วัยวุ่นลุ้นรัก(หนุ่ม)นักศึกษา ตอนที่ 2

"สวัสดีเพื่อนๆเราต้นไม้นะ" เรียนรัฐศาสตร์ ชายหนุ่มร่างเล้กแต่อัธยาศัยดีที่บ่นกระปอดกระแปด

ออกตัวตัวเป็นหัวหน้าตังวงสนทนาเพื่อทำลายบรรยากาศของความเงียบงัน

เราเหนือ เรียนเทคโนโลยีสารสนเทศ หนุ่มร่างอวบอีกคนแนะนำตัวเอง

เราบอมเบย์ เรียนจุลชีวิทยา เพื่อนสนิทเหนือแนะนำตัว

เราธัญญ์ เรียนวิทยาการคอมพิวเตอร์ประยุกต์ พูดจบก็หันไปให้ความสนใจกับเกมส์

ในไอแพดแทนการทักทายปราศัยกับคนในศาลาไม้หลังเดียวกัน

เรานุ๊กเกอร์ เรียนนิเทศศาสตร์ หนุ่มร่างบางขยับปากแนะนำตัวเอง

อีกคนที่ตามมาด้วยกันหันมามองด้วยความสนใจในสิ่งที่คนร่างบางเปิดวงสนทนาร่วมวง

กับคนอื่นๆอีกหลายคน บรรยากาศเริ่มสนุกสนาน

"แล้วที่มากับนุ๊กเกอร์ใครอ่ะ แฟนหรอทำไมเดินตามกันมา" ต้นไม้ออกปากแซวเพื่อนใหม่ในกลุ่ม

"ป่าวหรอกอีกคนรีบตอบ แค่มาทางเดียวกันจะมาหลบฝนเท่านั้นไม่ได้สนิทสนมอะไร

" ว่าแต่นายชื่ออะไรล่ะ ไม่แนะนำตัวเองหน่อยหรอ เพื่อนคนอื่นเขา

แนะนำไปหมดล่ะ "มีคนสนใจด้วยหรอว่าเราเป็นใครมาจากไหน"

คนร่างหนาสวนกลับ บรรยากาศเงียบไปอีกครั้ง คนอะไรขวางโลกชะมัดยากอะไรหนัก

หนากับการแนะนำตัวเองมันยากนักหรอนุ๊กเกอร์คิดในใจ

"เอาน่าบอกหน่อยก็ไม่เสียหายอะไรนิใช่ไหมนุ๊กเกอร์" หนุ่มร่างบางปล่อยความคิดไปเรื่อยๆไม่ทัน

ได้ฟังที่อีกคนถาม" กำลังนินทาอะไรในใจหรือป่าวล่ะ

คนถูกถามหันมาสนใจหนุ่มร่างบางที่ตอนนี้สติจะเตลิดไปไหนต่อไหน...ป่าวซะหน่อยนุ๊กเกอร์รวบรวม

สติกลับมาเพื่อปิดบังว่าเขากำลังค่อนขอดอีกคนในใจจริงดังเขาว่า

"ว่าแต่นายชื่ออะไรล่ะ"อีกคนปรับระดับน้ำเสียงให้ชวนฟังที่สุดเพราะดูว่าอีกฝ่ายจะมีการ

ตอบสนองอย่างไร "เราชื่อบอยเอกเรียนศิลปกรรม"

ปกติก็ไม่ค่อยพูดหรอเราว่าเวลานายคุยน่าสนุกดีออกมีสเน่ห์ดีนะเหนือเสริม อีกคนยิ้มมุมปากแต่นั้นก็

ทำให้หัวใจอีกคนวูบไหวชะมัด

ยิ้มอะไรนุ๊กเกอร์อีกต้นไม้เห็นกิริยาตลอดเวลาที่หนุ่มร่างบางแสดงออกมา

รอยยิ้มเปื้อนหน้าแปรเปลี่ยนไปในทันทีหลังจาก

เพื่อนเอ่ยปาก "นีกไม่น่าจะอยู่แถวนี้นะไม่ค่อยคุ้นหน้าตาเพราะกลุ่มเราส่วนใหญ่เป็นเด้กกิจกรรมกันทั้งนั้นเลย

ธัญญ์เลิกให้ความสนใจกับไอแพดในมือแล้ว

หันมาสนใจเพื่อนใหม่อีกคน

จริงด้วยเพราะเราเคยเห็นธัญญ์ เหนือ และบอมเบย์บ่อยๆ ต้นไม้เสริม

แม้ว่าจะมาจากต่างอำเภอแต่ว่าต้นไม้และทั้งสามสี่หนุ่ม

ที่เหลือก็มาจากอำเภอที่ใกล้เคียงกันแทบทั้งสิ้นเขาเคยร่วมงานแข่งขันทักษะทางวิชาการมาบ้าง

ก็เลยเป็นที่คุ้นหน้าคุ้นตากัน ความสนุกสนานในการคุยและ

และไมตรีจากเพื่อนใหม่ก่อตัวขึ้นอย่างช้าๆในวงสนทนา

จะว่าไปแล้วก็จริงเหมือนที่ต้นไม้บอก มีแต่ตัวนุ๊กเกอร์และบอยเอกเองทั้งนั้น ที่เป็นคนแปลกหน้าที่

สุดในกลุ่ม "เราอยู่แม่สายเพื่อนๆไม่ค่อยได้มาในตัวจังหวัดสักเท่าไหร่หรอก"

หนุ่มร่างบางตอบ ส่วนกิจกรรมที่เราทำมันก้ไม่น่าสนใจไงเพราะมันเป็นเรื่อง

ที่ค่อนข้างเป็นวิชาการเกินไปเรามาประกวดบ่อยนะเราเป็นนักพูดแหละ"

นุ๊กเกอร์บอกไปแล้วก็ยิ้มให้คนฟังน้อยๆ "เวลานายพูดน้ำเสียงชวนฟังดีนะ นายว่า

จริงไหมบอยเอก"  อะไรนะเราฟังไม่ถนัดต้นไม้

หนุ่มร่างหนาแกล้งหันเหความสนใจไปเรื่องอื่น จริงอย่างที่เพื่อนว่าแหละคนร่างบางตรงหน้าเวลาขยับปาก

พูดอะไรสักเรื่อง "น้ำเสียงและท่าทางชวนมองและชวนฟังยิ่งนัก

ปากบางกระจับสีส้มระเรื่อแดงรับกับจมูกโด่งดวงหน้าหวานรูปไข่มองดูแล้วเพลินตาสวย

สวยงามชวนมองเป็นไหนไหน อีกคนปล่อยความคิดไปไกล

ไม่ได้ฟังสิ่งที่อีกคนพูดด้วยซ้ำจนเสียงเพื่อนใหม่ปลุกจากจินตนาการเขาถึงรู้ว่าคิดอะไรไปไกล

สองคนนี้เหม่อเนาะบอมเบย์สวนมาบ้าง มีอะไรหลายๆอย่างคล้ายคลึงกันไม่ค่อยพูดแต่พอพุดก็น่าฟังมาก

ไหนจะรอยยิ้มนั้นอีกเราว่าน่ามองดีนะถ้าพวกนาย

ยิ้มแย้มบ่อยๆคงจะดีกว่านี้ คนหนึ่งชอบพูดแต่ชอบทำหน้าบึ้ง

ส่วนอีกคนก็มาดขรึมไปไปมั้ย มีปัญหาอะไรหนักหนาอะ ปล่อยวางบ้างก็ได้ชีวิตจะได้มีสีสัน

สาธุ คนร่างหนากับคนร่างบางว่าขึ้นพร้อมกัน

เรียกเสียงหัวเราะและรอยยิ้มให้กับกลุ่มเพื่อน ตอนนี้ก็รู้จักกันแล้วนะ มีอะไรก็ปรึกษากันได้ล่ะเป็นเพื่อนกัน

แล้วห้ามมีความลับต่อกัน สายฝนที่ตกหนักกระจายจางหายไปพร้อมกับมิตรภาพใหม่ที่ก่อกำเนิดในหัวใจ

ใครจะรู้ว่าลึกๆในหัวใจนั้นก็มีต้นกล้าเล็กๆค่อยๆเกิดขึ้นในใจขึ้นเช่นกัน

ฝนหยุดแล้ว ไปเรียนกันเถอะต้นบอกทุกคนก็เก็บสัมภาระของตัวเอง

ซึ่งเช้าวันนี้เป็นคลาสเรียนรวมในวิชาพื้นฐาน มีศิลปกรรม นิเทศศาสตร์และ

รัฐศาสตร์ที่เรียนรวมกัน แล้วก็มีบริหารธุรกิจคณะที่เรียนรวมกัน  

หน้าห้องเรียนรวมนักศึกษาใหม่เริ่มทยอยเข้าห้องเพื่อเข้าฟังบรรยายายกัน บอยเอกเดิน

ตามต้นไม้และนุ๊กเกอร์ไปเพื่อหาที่นั่งเพราะยังไม่คุ้นเคยกับคนอื่นๆมากนัก

ก็เลยเลือกที่จะเป็นกลุ่มเดียวกัน แถวเก้าอี้ฟังบรรยายด้านหน้าว่างอยู่สี่ที่แต่มีคน

นั่งอยู่ก่อนหน้าแล้ว ต้นไม้ก็จัดการเป็นนักการทูตต่อทันที

โทษนะครับมีใครนั่งไหมพออีกคนหันมาเท่านั้น สีหน้าของคนถามก็แฝงไปด้วยความฉงน

เพราะคนที่หันหานั้นมีโครงหน้าเหมือนเพื่อนรักของเขาเองตอนที่ย้ายไปตั้งแต่ตอนประถม

การฟังบรรยายวันแรกไม่มีอะไรมากนอกจากแนะนำหลักสูตรวิชา

ที่เรียนคร่าวๆ ต้นไม้เก็บความสงสัยมาสักพักจึงถามคนคุ้นหน้าอีกคนทันที "ใช่เจมส์ใช่มั้ย"

อีกคนหันมาตามเสียงคำถามพร้อมกับแววสงสัยเช่นกัน

"เราต้นไม้ไงจำได้ไหม"

"อ้าวต้นไม้ก็มาเรียนที่มหาวิทยาลัยนี้เหมือนกันหรอ" "ใช่แล้ว"

" ตอนแรกคิดว่าไม่ใช่เราเลยไม่กล้าทักแล้วนี่กลับมาอยู่ที่นี่นานยังล่ะเจมส์"

ก็เพิ่งย้ายกลับมาตามพ่อมาเมื่อสามเดือนที่แล้วแหละเลยได้กลับมาเรียนที่นี่ไง

เป็นยังไงบ้างสบายดีนะเปลี่ยนไปเยอะเลยจนจำแทบไม่ได้ อีกหนุ่มเย้าแหย่เพื่อน

บอยเอกที่ตอนนี้เงียบมานานเห็นอาการของอีกคนหนึ่งที่ให้ความสนใจ

ใคร่รู้ของคนร่างบางก็เอ่ยปากออกไปบ้าง "ไงสนใจหรอเห็นแอบฟังตั้งนาน สนใจกว่าฟังบรรยายอีก"

ไม่ได้แอบนะก็ฟังปกติแหละแค่อยากรู้เท่านั้นแหละว่า

สองคนนั้นสนิทสนมกันได้ยังไงก็เท่านั้นเอง คนร่างบางพยายามเก็บปากเก็บคำให้มากที่สุด

"นึกว่าชอบเสียอีกเห็นจ้องตาเป็นประกายเลย"จริงของบอยเอก

ว่าอีกหนึ่งหนุ่มนั้นหน้าตาและการพุดจาดูมีความน่าสนใจไม่น้อยเพราะการคุยที่ออกรสออกชาติ

และรอยยิ้มคนนั้นมันชวนมองไม่น้อยทีเดียว แต่พอกลับมา

มองคนข้างๆกลับกลายเป็นว่าตัวเขาเองทั้งนั้นก็มีแต่ไม่ใช้มันทำเป็นแต่หน้าเดียว

"มองอะไร คนร่างหนาพอถูกจ้องมองด้วยตากลมโตก็เริ่มลนลาน"คนร่างบางนึกสนุกอย่างจะ

แกล้งขึ้นมาในทันทีจึงจ้องต่ออีกสักพักเหมือนจะค้นหาความหมายสักอย่างในดวงหน้าเศร้านั้นว่ามีอะไร

ส่วนคนถูกจ้องตอนนี้เริ่มลนลานและจะเบือนหน้าหนีไป

ทางอื่นมือเรียวบางกำลังจะเชยปลายคาง

"นุ๊กเกอร์ทำอะไรบอยเอกอ่ะ"มือก็ต้องรีบล่นลง เรามีใครจะแนะนำให้รู้จักนะ คนนี้เจมส์เพื่อนสมัยเรียน

ประถมของเรายินดีที่ได้รู้จักครับ ผมเจมส์ครับ นี้นุ๊กเกอร์ แล้วนี้ก็บอยเอก

"สองคนนี้แฟนกันหรอดูสนิทสนมกันจังเลยต้น 5555 "บ้าไปแล้วเจมส์เพื่อนในกลุ่มเดียวกัน

พึ่งจะรู้จักกันเองเทื่อตอนหลบฝนก่อนจะเข้าเรียนนี้เอง

ในแววตาของคนทั้งคู่ตอนนี้สบกันอย่างจังอีกครั้งความวูบไหวเกืดขึ้นหัวใจเต้นตึกๆ

เวลาที่เห็นแววตาของกันและกัน....มันเกิดอะไรขึ้นกับใจกันนะเพราะอะไรถึงรู้สึกแบบนี้....
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่