"สวัสดีเพื่อนๆเราต้นไม้นะ" เรียนรัฐศาสตร์ ชายหนุ่มร่างเล้กแต่อัธยาศัยดีที่บ่นกระปอดกระแปด
ออกตัวตัวเป็นหัวหน้าตังวงสนทนาเพื่อทำลายบรรยากาศของความเงียบงัน
เราเหนือ เรียนเทคโนโลยีสารสนเทศ หนุ่มร่างอวบอีกคนแนะนำตัวเอง
เราบอมเบย์ เรียนจุลชีวิทยา เพื่อนสนิทเหนือแนะนำตัว
เราธัญญ์ เรียนวิทยาการคอมพิวเตอร์ประยุกต์ พูดจบก็หันไปให้ความสนใจกับเกมส์
ในไอแพดแทนการทักทายปราศัยกับคนในศาลาไม้หลังเดียวกัน
เรานุ๊กเกอร์ เรียนนิเทศศาสตร์ หนุ่มร่างบางขยับปากแนะนำตัวเอง
อีกคนที่ตามมาด้วยกันหันมามองด้วยความสนใจในสิ่งที่คนร่างบางเปิดวงสนทนาร่วมวง
กับคนอื่นๆอีกหลายคน บรรยากาศเริ่มสนุกสนาน
"แล้วที่มากับนุ๊กเกอร์ใครอ่ะ แฟนหรอทำไมเดินตามกันมา" ต้นไม้ออกปากแซวเพื่อนใหม่ในกลุ่ม
"ป่าวหรอกอีกคนรีบตอบ แค่มาทางเดียวกันจะมาหลบฝนเท่านั้นไม่ได้สนิทสนมอะไร
" ว่าแต่นายชื่ออะไรล่ะ ไม่แนะนำตัวเองหน่อยหรอ เพื่อนคนอื่นเขา
แนะนำไปหมดล่ะ "มีคนสนใจด้วยหรอว่าเราเป็นใครมาจากไหน"
คนร่างหนาสวนกลับ บรรยากาศเงียบไปอีกครั้ง คนอะไรขวางโลกชะมัดยากอะไรหนัก
หนากับการแนะนำตัวเองมันยากนักหรอนุ๊กเกอร์คิดในใจ
"เอาน่าบอกหน่อยก็ไม่เสียหายอะไรนิใช่ไหมนุ๊กเกอร์" หนุ่มร่างบางปล่อยความคิดไปเรื่อยๆไม่ทัน
ได้ฟังที่อีกคนถาม" กำลังนินทาอะไรในใจหรือป่าวล่ะ
คนถูกถามหันมาสนใจหนุ่มร่างบางที่ตอนนี้สติจะเตลิดไปไหนต่อไหน...ป่าวซะหน่อยนุ๊กเกอร์รวบรวม
สติกลับมาเพื่อปิดบังว่าเขากำลังค่อนขอดอีกคนในใจจริงดังเขาว่า
"ว่าแต่นายชื่ออะไรล่ะ"อีกคนปรับระดับน้ำเสียงให้ชวนฟังที่สุดเพราะดูว่าอีกฝ่ายจะมีการ
ตอบสนองอย่างไร "เราชื่อบอยเอกเรียนศิลปกรรม"
ปกติก็ไม่ค่อยพูดหรอเราว่าเวลานายคุยน่าสนุกดีออกมีสเน่ห์ดีนะเหนือเสริม อีกคนยิ้มมุมปากแต่นั้นก็
ทำให้หัวใจอีกคนวูบไหวชะมัด
ยิ้มอะไรนุ๊กเกอร์อีกต้นไม้เห็นกิริยาตลอดเวลาที่หนุ่มร่างบางแสดงออกมา
รอยยิ้มเปื้อนหน้าแปรเปลี่ยนไปในทันทีหลังจาก
เพื่อนเอ่ยปาก "นีกไม่น่าจะอยู่แถวนี้นะไม่ค่อยคุ้นหน้าตาเพราะกลุ่มเราส่วนใหญ่เป็นเด้กกิจกรรมกันทั้งนั้นเลย
ธัญญ์เลิกให้ความสนใจกับไอแพดในมือแล้ว
หันมาสนใจเพื่อนใหม่อีกคน
จริงด้วยเพราะเราเคยเห็นธัญญ์ เหนือ และบอมเบย์บ่อยๆ ต้นไม้เสริม
แม้ว่าจะมาจากต่างอำเภอแต่ว่าต้นไม้และทั้งสามสี่หนุ่ม
ที่เหลือก็มาจากอำเภอที่ใกล้เคียงกันแทบทั้งสิ้นเขาเคยร่วมงานแข่งขันทักษะทางวิชาการมาบ้าง
ก็เลยเป็นที่คุ้นหน้าคุ้นตากัน ความสนุกสนานในการคุยและ
และไมตรีจากเพื่อนใหม่ก่อตัวขึ้นอย่างช้าๆในวงสนทนา
จะว่าไปแล้วก็จริงเหมือนที่ต้นไม้บอก มีแต่ตัวนุ๊กเกอร์และบอยเอกเองทั้งนั้น ที่เป็นคนแปลกหน้าที่
สุดในกลุ่ม "เราอยู่แม่สายเพื่อนๆไม่ค่อยได้มาในตัวจังหวัดสักเท่าไหร่หรอก"
หนุ่มร่างบางตอบ ส่วนกิจกรรมที่เราทำมันก้ไม่น่าสนใจไงเพราะมันเป็นเรื่อง
ที่ค่อนข้างเป็นวิชาการเกินไปเรามาประกวดบ่อยนะเราเป็นนักพูดแหละ"
นุ๊กเกอร์บอกไปแล้วก็ยิ้มให้คนฟังน้อยๆ "เวลานายพูดน้ำเสียงชวนฟังดีนะ นายว่า
จริงไหมบอยเอก" อะไรนะเราฟังไม่ถนัดต้นไม้
หนุ่มร่างหนาแกล้งหันเหความสนใจไปเรื่องอื่น จริงอย่างที่เพื่อนว่าแหละคนร่างบางตรงหน้าเวลาขยับปาก
พูดอะไรสักเรื่อง "น้ำเสียงและท่าทางชวนมองและชวนฟังยิ่งนัก
ปากบางกระจับสีส้มระเรื่อแดงรับกับจมูกโด่งดวงหน้าหวานรูปไข่มองดูแล้วเพลินตาสวย
สวยงามชวนมองเป็นไหนไหน อีกคนปล่อยความคิดไปไกล
ไม่ได้ฟังสิ่งที่อีกคนพูดด้วยซ้ำจนเสียงเพื่อนใหม่ปลุกจากจินตนาการเขาถึงรู้ว่าคิดอะไรไปไกล
สองคนนี้เหม่อเนาะบอมเบย์สวนมาบ้าง มีอะไรหลายๆอย่างคล้ายคลึงกันไม่ค่อยพูดแต่พอพุดก็น่าฟังมาก
ไหนจะรอยยิ้มนั้นอีกเราว่าน่ามองดีนะถ้าพวกนาย
ยิ้มแย้มบ่อยๆคงจะดีกว่านี้ คนหนึ่งชอบพูดแต่ชอบทำหน้าบึ้ง
ส่วนอีกคนก็มาดขรึมไปไปมั้ย มีปัญหาอะไรหนักหนาอะ ปล่อยวางบ้างก็ได้ชีวิตจะได้มีสีสัน
สาธุ คนร่างหนากับคนร่างบางว่าขึ้นพร้อมกัน
เรียกเสียงหัวเราะและรอยยิ้มให้กับกลุ่มเพื่อน ตอนนี้ก็รู้จักกันแล้วนะ มีอะไรก็ปรึกษากันได้ล่ะเป็นเพื่อนกัน
แล้วห้ามมีความลับต่อกัน สายฝนที่ตกหนักกระจายจางหายไปพร้อมกับมิตรภาพใหม่ที่ก่อกำเนิดในหัวใจ
ใครจะรู้ว่าลึกๆในหัวใจนั้นก็มีต้นกล้าเล็กๆค่อยๆเกิดขึ้นในใจขึ้นเช่นกัน
ฝนหยุดแล้ว ไปเรียนกันเถอะต้นบอกทุกคนก็เก็บสัมภาระของตัวเอง
ซึ่งเช้าวันนี้เป็นคลาสเรียนรวมในวิชาพื้นฐาน มีศิลปกรรม นิเทศศาสตร์และ
รัฐศาสตร์ที่เรียนรวมกัน แล้วก็มีบริหารธุรกิจคณะที่เรียนรวมกัน
หน้าห้องเรียนรวมนักศึกษาใหม่เริ่มทยอยเข้าห้องเพื่อเข้าฟังบรรยายายกัน บอยเอกเดิน
ตามต้นไม้และนุ๊กเกอร์ไปเพื่อหาที่นั่งเพราะยังไม่คุ้นเคยกับคนอื่นๆมากนัก
ก็เลยเลือกที่จะเป็นกลุ่มเดียวกัน แถวเก้าอี้ฟังบรรยายด้านหน้าว่างอยู่สี่ที่แต่มีคน
นั่งอยู่ก่อนหน้าแล้ว ต้นไม้ก็จัดการเป็นนักการทูตต่อทันที
โทษนะครับมีใครนั่งไหมพออีกคนหันมาเท่านั้น สีหน้าของคนถามก็แฝงไปด้วยความฉงน
เพราะคนที่หันหานั้นมีโครงหน้าเหมือนเพื่อนรักของเขาเองตอนที่ย้ายไปตั้งแต่ตอนประถม
การฟังบรรยายวันแรกไม่มีอะไรมากนอกจากแนะนำหลักสูตรวิชา
ที่เรียนคร่าวๆ ต้นไม้เก็บความสงสัยมาสักพักจึงถามคนคุ้นหน้าอีกคนทันที "ใช่เจมส์ใช่มั้ย"
อีกคนหันมาตามเสียงคำถามพร้อมกับแววสงสัยเช่นกัน
"เราต้นไม้ไงจำได้ไหม"
"อ้าวต้นไม้ก็มาเรียนที่มหาวิทยาลัยนี้เหมือนกันหรอ" "ใช่แล้ว"
" ตอนแรกคิดว่าไม่ใช่เราเลยไม่กล้าทักแล้วนี่กลับมาอยู่ที่นี่นานยังล่ะเจมส์"
ก็เพิ่งย้ายกลับมาตามพ่อมาเมื่อสามเดือนที่แล้วแหละเลยได้กลับมาเรียนที่นี่ไง
เป็นยังไงบ้างสบายดีนะเปลี่ยนไปเยอะเลยจนจำแทบไม่ได้ อีกหนุ่มเย้าแหย่เพื่อน
บอยเอกที่ตอนนี้เงียบมานานเห็นอาการของอีกคนหนึ่งที่ให้ความสนใจ
ใคร่รู้ของคนร่างบางก็เอ่ยปากออกไปบ้าง "ไงสนใจหรอเห็นแอบฟังตั้งนาน สนใจกว่าฟังบรรยายอีก"
ไม่ได้แอบนะก็ฟังปกติแหละแค่อยากรู้เท่านั้นแหละว่า
สองคนนั้นสนิทสนมกันได้ยังไงก็เท่านั้นเอง คนร่างบางพยายามเก็บปากเก็บคำให้มากที่สุด
"นึกว่าชอบเสียอีกเห็นจ้องตาเป็นประกายเลย"จริงของบอยเอก
ว่าอีกหนึ่งหนุ่มนั้นหน้าตาและการพุดจาดูมีความน่าสนใจไม่น้อยเพราะการคุยที่ออกรสออกชาติ
และรอยยิ้มคนนั้นมันชวนมองไม่น้อยทีเดียว แต่พอกลับมา
มองคนข้างๆกลับกลายเป็นว่าตัวเขาเองทั้งนั้นก็มีแต่ไม่ใช้มันทำเป็นแต่หน้าเดียว
"มองอะไร คนร่างหนาพอถูกจ้องมองด้วยตากลมโตก็เริ่มลนลาน"คนร่างบางนึกสนุกอย่างจะ
แกล้งขึ้นมาในทันทีจึงจ้องต่ออีกสักพักเหมือนจะค้นหาความหมายสักอย่างในดวงหน้าเศร้านั้นว่ามีอะไร
ส่วนคนถูกจ้องตอนนี้เริ่มลนลานและจะเบือนหน้าหนีไป
ทางอื่นมือเรียวบางกำลังจะเชยปลายคาง
"นุ๊กเกอร์ทำอะไรบอยเอกอ่ะ"มือก็ต้องรีบล่นลง เรามีใครจะแนะนำให้รู้จักนะ คนนี้เจมส์เพื่อนสมัยเรียน
ประถมของเรายินดีที่ได้รู้จักครับ ผมเจมส์ครับ นี้นุ๊กเกอร์ แล้วนี้ก็บอยเอก
"สองคนนี้แฟนกันหรอดูสนิทสนมกันจังเลยต้น 5555 "บ้าไปแล้วเจมส์เพื่อนในกลุ่มเดียวกัน
พึ่งจะรู้จักกันเองเทื่อตอนหลบฝนก่อนจะเข้าเรียนนี้เอง
ในแววตาของคนทั้งคู่ตอนนี้สบกันอย่างจังอีกครั้งความวูบไหวเกืดขึ้นหัวใจเต้นตึกๆ
เวลาที่เห็นแววตาของกันและกัน....มันเกิดอะไรขึ้นกับใจกันนะเพราะอะไรถึงรู้สึกแบบนี้....
วัยวุ่นลุ้นรัก(หนุ่ม)นักศึกษา ตอนที่ 2
ออกตัวตัวเป็นหัวหน้าตังวงสนทนาเพื่อทำลายบรรยากาศของความเงียบงัน
เราเหนือ เรียนเทคโนโลยีสารสนเทศ หนุ่มร่างอวบอีกคนแนะนำตัวเอง
เราบอมเบย์ เรียนจุลชีวิทยา เพื่อนสนิทเหนือแนะนำตัว
เราธัญญ์ เรียนวิทยาการคอมพิวเตอร์ประยุกต์ พูดจบก็หันไปให้ความสนใจกับเกมส์
ในไอแพดแทนการทักทายปราศัยกับคนในศาลาไม้หลังเดียวกัน
เรานุ๊กเกอร์ เรียนนิเทศศาสตร์ หนุ่มร่างบางขยับปากแนะนำตัวเอง
อีกคนที่ตามมาด้วยกันหันมามองด้วยความสนใจในสิ่งที่คนร่างบางเปิดวงสนทนาร่วมวง
กับคนอื่นๆอีกหลายคน บรรยากาศเริ่มสนุกสนาน
"แล้วที่มากับนุ๊กเกอร์ใครอ่ะ แฟนหรอทำไมเดินตามกันมา" ต้นไม้ออกปากแซวเพื่อนใหม่ในกลุ่ม
"ป่าวหรอกอีกคนรีบตอบ แค่มาทางเดียวกันจะมาหลบฝนเท่านั้นไม่ได้สนิทสนมอะไร
" ว่าแต่นายชื่ออะไรล่ะ ไม่แนะนำตัวเองหน่อยหรอ เพื่อนคนอื่นเขา
แนะนำไปหมดล่ะ "มีคนสนใจด้วยหรอว่าเราเป็นใครมาจากไหน"
คนร่างหนาสวนกลับ บรรยากาศเงียบไปอีกครั้ง คนอะไรขวางโลกชะมัดยากอะไรหนัก
หนากับการแนะนำตัวเองมันยากนักหรอนุ๊กเกอร์คิดในใจ
"เอาน่าบอกหน่อยก็ไม่เสียหายอะไรนิใช่ไหมนุ๊กเกอร์" หนุ่มร่างบางปล่อยความคิดไปเรื่อยๆไม่ทัน
ได้ฟังที่อีกคนถาม" กำลังนินทาอะไรในใจหรือป่าวล่ะ
คนถูกถามหันมาสนใจหนุ่มร่างบางที่ตอนนี้สติจะเตลิดไปไหนต่อไหน...ป่าวซะหน่อยนุ๊กเกอร์รวบรวม
สติกลับมาเพื่อปิดบังว่าเขากำลังค่อนขอดอีกคนในใจจริงดังเขาว่า
"ว่าแต่นายชื่ออะไรล่ะ"อีกคนปรับระดับน้ำเสียงให้ชวนฟังที่สุดเพราะดูว่าอีกฝ่ายจะมีการ
ตอบสนองอย่างไร "เราชื่อบอยเอกเรียนศิลปกรรม"
ปกติก็ไม่ค่อยพูดหรอเราว่าเวลานายคุยน่าสนุกดีออกมีสเน่ห์ดีนะเหนือเสริม อีกคนยิ้มมุมปากแต่นั้นก็
ทำให้หัวใจอีกคนวูบไหวชะมัด
ยิ้มอะไรนุ๊กเกอร์อีกต้นไม้เห็นกิริยาตลอดเวลาที่หนุ่มร่างบางแสดงออกมา
รอยยิ้มเปื้อนหน้าแปรเปลี่ยนไปในทันทีหลังจาก
เพื่อนเอ่ยปาก "นีกไม่น่าจะอยู่แถวนี้นะไม่ค่อยคุ้นหน้าตาเพราะกลุ่มเราส่วนใหญ่เป็นเด้กกิจกรรมกันทั้งนั้นเลย
ธัญญ์เลิกให้ความสนใจกับไอแพดในมือแล้ว
หันมาสนใจเพื่อนใหม่อีกคน
จริงด้วยเพราะเราเคยเห็นธัญญ์ เหนือ และบอมเบย์บ่อยๆ ต้นไม้เสริม
แม้ว่าจะมาจากต่างอำเภอแต่ว่าต้นไม้และทั้งสามสี่หนุ่ม
ที่เหลือก็มาจากอำเภอที่ใกล้เคียงกันแทบทั้งสิ้นเขาเคยร่วมงานแข่งขันทักษะทางวิชาการมาบ้าง
ก็เลยเป็นที่คุ้นหน้าคุ้นตากัน ความสนุกสนานในการคุยและ
และไมตรีจากเพื่อนใหม่ก่อตัวขึ้นอย่างช้าๆในวงสนทนา
จะว่าไปแล้วก็จริงเหมือนที่ต้นไม้บอก มีแต่ตัวนุ๊กเกอร์และบอยเอกเองทั้งนั้น ที่เป็นคนแปลกหน้าที่
สุดในกลุ่ม "เราอยู่แม่สายเพื่อนๆไม่ค่อยได้มาในตัวจังหวัดสักเท่าไหร่หรอก"
หนุ่มร่างบางตอบ ส่วนกิจกรรมที่เราทำมันก้ไม่น่าสนใจไงเพราะมันเป็นเรื่อง
ที่ค่อนข้างเป็นวิชาการเกินไปเรามาประกวดบ่อยนะเราเป็นนักพูดแหละ"
นุ๊กเกอร์บอกไปแล้วก็ยิ้มให้คนฟังน้อยๆ "เวลานายพูดน้ำเสียงชวนฟังดีนะ นายว่า
จริงไหมบอยเอก" อะไรนะเราฟังไม่ถนัดต้นไม้
หนุ่มร่างหนาแกล้งหันเหความสนใจไปเรื่องอื่น จริงอย่างที่เพื่อนว่าแหละคนร่างบางตรงหน้าเวลาขยับปาก
พูดอะไรสักเรื่อง "น้ำเสียงและท่าทางชวนมองและชวนฟังยิ่งนัก
ปากบางกระจับสีส้มระเรื่อแดงรับกับจมูกโด่งดวงหน้าหวานรูปไข่มองดูแล้วเพลินตาสวย
สวยงามชวนมองเป็นไหนไหน อีกคนปล่อยความคิดไปไกล
ไม่ได้ฟังสิ่งที่อีกคนพูดด้วยซ้ำจนเสียงเพื่อนใหม่ปลุกจากจินตนาการเขาถึงรู้ว่าคิดอะไรไปไกล
สองคนนี้เหม่อเนาะบอมเบย์สวนมาบ้าง มีอะไรหลายๆอย่างคล้ายคลึงกันไม่ค่อยพูดแต่พอพุดก็น่าฟังมาก
ไหนจะรอยยิ้มนั้นอีกเราว่าน่ามองดีนะถ้าพวกนาย
ยิ้มแย้มบ่อยๆคงจะดีกว่านี้ คนหนึ่งชอบพูดแต่ชอบทำหน้าบึ้ง
ส่วนอีกคนก็มาดขรึมไปไปมั้ย มีปัญหาอะไรหนักหนาอะ ปล่อยวางบ้างก็ได้ชีวิตจะได้มีสีสัน
สาธุ คนร่างหนากับคนร่างบางว่าขึ้นพร้อมกัน
เรียกเสียงหัวเราะและรอยยิ้มให้กับกลุ่มเพื่อน ตอนนี้ก็รู้จักกันแล้วนะ มีอะไรก็ปรึกษากันได้ล่ะเป็นเพื่อนกัน
แล้วห้ามมีความลับต่อกัน สายฝนที่ตกหนักกระจายจางหายไปพร้อมกับมิตรภาพใหม่ที่ก่อกำเนิดในหัวใจ
ใครจะรู้ว่าลึกๆในหัวใจนั้นก็มีต้นกล้าเล็กๆค่อยๆเกิดขึ้นในใจขึ้นเช่นกัน
ฝนหยุดแล้ว ไปเรียนกันเถอะต้นบอกทุกคนก็เก็บสัมภาระของตัวเอง
ซึ่งเช้าวันนี้เป็นคลาสเรียนรวมในวิชาพื้นฐาน มีศิลปกรรม นิเทศศาสตร์และ
รัฐศาสตร์ที่เรียนรวมกัน แล้วก็มีบริหารธุรกิจคณะที่เรียนรวมกัน
หน้าห้องเรียนรวมนักศึกษาใหม่เริ่มทยอยเข้าห้องเพื่อเข้าฟังบรรยายายกัน บอยเอกเดิน
ตามต้นไม้และนุ๊กเกอร์ไปเพื่อหาที่นั่งเพราะยังไม่คุ้นเคยกับคนอื่นๆมากนัก
ก็เลยเลือกที่จะเป็นกลุ่มเดียวกัน แถวเก้าอี้ฟังบรรยายด้านหน้าว่างอยู่สี่ที่แต่มีคน
นั่งอยู่ก่อนหน้าแล้ว ต้นไม้ก็จัดการเป็นนักการทูตต่อทันที
โทษนะครับมีใครนั่งไหมพออีกคนหันมาเท่านั้น สีหน้าของคนถามก็แฝงไปด้วยความฉงน
เพราะคนที่หันหานั้นมีโครงหน้าเหมือนเพื่อนรักของเขาเองตอนที่ย้ายไปตั้งแต่ตอนประถม
การฟังบรรยายวันแรกไม่มีอะไรมากนอกจากแนะนำหลักสูตรวิชา
ที่เรียนคร่าวๆ ต้นไม้เก็บความสงสัยมาสักพักจึงถามคนคุ้นหน้าอีกคนทันที "ใช่เจมส์ใช่มั้ย"
อีกคนหันมาตามเสียงคำถามพร้อมกับแววสงสัยเช่นกัน
"เราต้นไม้ไงจำได้ไหม"
"อ้าวต้นไม้ก็มาเรียนที่มหาวิทยาลัยนี้เหมือนกันหรอ" "ใช่แล้ว"
" ตอนแรกคิดว่าไม่ใช่เราเลยไม่กล้าทักแล้วนี่กลับมาอยู่ที่นี่นานยังล่ะเจมส์"
ก็เพิ่งย้ายกลับมาตามพ่อมาเมื่อสามเดือนที่แล้วแหละเลยได้กลับมาเรียนที่นี่ไง
เป็นยังไงบ้างสบายดีนะเปลี่ยนไปเยอะเลยจนจำแทบไม่ได้ อีกหนุ่มเย้าแหย่เพื่อน
บอยเอกที่ตอนนี้เงียบมานานเห็นอาการของอีกคนหนึ่งที่ให้ความสนใจ
ใคร่รู้ของคนร่างบางก็เอ่ยปากออกไปบ้าง "ไงสนใจหรอเห็นแอบฟังตั้งนาน สนใจกว่าฟังบรรยายอีก"
ไม่ได้แอบนะก็ฟังปกติแหละแค่อยากรู้เท่านั้นแหละว่า
สองคนนั้นสนิทสนมกันได้ยังไงก็เท่านั้นเอง คนร่างบางพยายามเก็บปากเก็บคำให้มากที่สุด
"นึกว่าชอบเสียอีกเห็นจ้องตาเป็นประกายเลย"จริงของบอยเอก
ว่าอีกหนึ่งหนุ่มนั้นหน้าตาและการพุดจาดูมีความน่าสนใจไม่น้อยเพราะการคุยที่ออกรสออกชาติ
และรอยยิ้มคนนั้นมันชวนมองไม่น้อยทีเดียว แต่พอกลับมา
มองคนข้างๆกลับกลายเป็นว่าตัวเขาเองทั้งนั้นก็มีแต่ไม่ใช้มันทำเป็นแต่หน้าเดียว
"มองอะไร คนร่างหนาพอถูกจ้องมองด้วยตากลมโตก็เริ่มลนลาน"คนร่างบางนึกสนุกอย่างจะ
แกล้งขึ้นมาในทันทีจึงจ้องต่ออีกสักพักเหมือนจะค้นหาความหมายสักอย่างในดวงหน้าเศร้านั้นว่ามีอะไร
ส่วนคนถูกจ้องตอนนี้เริ่มลนลานและจะเบือนหน้าหนีไป
ทางอื่นมือเรียวบางกำลังจะเชยปลายคาง
"นุ๊กเกอร์ทำอะไรบอยเอกอ่ะ"มือก็ต้องรีบล่นลง เรามีใครจะแนะนำให้รู้จักนะ คนนี้เจมส์เพื่อนสมัยเรียน
ประถมของเรายินดีที่ได้รู้จักครับ ผมเจมส์ครับ นี้นุ๊กเกอร์ แล้วนี้ก็บอยเอก
"สองคนนี้แฟนกันหรอดูสนิทสนมกันจังเลยต้น 5555 "บ้าไปแล้วเจมส์เพื่อนในกลุ่มเดียวกัน
พึ่งจะรู้จักกันเองเทื่อตอนหลบฝนก่อนจะเข้าเรียนนี้เอง
ในแววตาของคนทั้งคู่ตอนนี้สบกันอย่างจังอีกครั้งความวูบไหวเกืดขึ้นหัวใจเต้นตึกๆ
เวลาที่เห็นแววตาของกันและกัน....มันเกิดอะไรขึ้นกับใจกันนะเพราะอะไรถึงรู้สึกแบบนี้....