เอาเป็นว่า แม่เราเป็นคนที่เอาแต่ใจตัวเอง ต้องการให้ทุกอย่างเป็นไปแบบที่ตัวเองอยากให้เป็น ชอบด่า ชอบบ่น ชอบเปรียบเทียบลูกตัวเองกับลูกชาวบ้าน ชอบประกาศให้ชาวบ้านรู้ถึงรากต้นไม้ของลูก.....ชอบบังคับ ชอบตี(ตอน จขกท.เด็กๆ) ไม่มีเหตุผล......
...ตัวเจ้าของกระทู้เอง คราวๆๆ จขกท.มีพี่สาว หนึ่งคน(พส.) ด้วยความทรงจำที่มีต่อแม่มาตั้งแต่จำความได้..จขกท.ก็เลยพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อไม่อยู่บ้าน จนได้เป็นเด็กหอพัก ตั้งแต่อายุ 15 ปี พี่สาวอยู่กับแม่จนปัจจุบัน...พ่อของเราสองคนตายจากไปตอน จขกท.อายุ 12 ปี
สิ่งที่ทำให้เราสองคนเป็นทุกใจ คือความทรงจำของคำว่า "บ้าน" ทุกครั้งที่เราสองคนพูดคุยกัน..เราสองคนแทบไม่อยากเข้าบ้าน....
เอาเรื่องของ พี่สาวก่อนน่ะ ที่เคยโดนแม่ด่า
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้พี่สาวชอบอะไรที่แวกแนว เท่ๆๆ พี่สาวเลยไปตัดทรงผมบ็อบเท ที่สั้นข้าง ยาวข้าง พอพี่สาวเราตัดเสร็จ ก็กลับมาบ้าน สิ่งแรกที่พี่สาวเราเจอคือ
แม่: ไปตัดทรงผมอะไรมา ทำ
อะไร มันไม่มีความคิด มันลูกไม่รักดี มัน
ด้วยนิสัยของพี่สาวจะเป็นคนเถียงแม่...ก็เถียงไปเป็นเรื่องปกติ นี้เป็นเพียงแค่เสี้ยวนึงของความทรงจำ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้พี่สาวเถียงแม่ครั้งแรก โดนตบหน้าเข้าอย่างจัง
ยอมรับน่ะ พี่สาวมีความอดทนสูงมาก....ที่อยู่กับแม่จนโต ถ้าเป็น จขกท.คงตายจากกันไปนานแล้ว
........
ต่อด้วยเรื่องของ จขกท.เองน่ะ แทบไม่มีส่วนดีในความทรงจำ ตัว จขกท.เองเคยเกือบคิดฆ่าตัวตายมาแล้ว จนได้ธรรมะเข้าช่วย โดยนิสัยแล้ว จะเป็นคนไมาเถียง เงียบแล้วเก็บระบายใส่สมุดไดอารี่ เขียนไปร้องให้ไป เพราะเคยโพสต์ลงเฟสแล้ว โดนคนทั้งบ้าน ด่า ก็เลยมีไดอ่ารี่ส่วนตัว
เรื่องแรกของความทรงจำ
ด้วยความเป็นเด็ก ก็ดื้อก็ซนเป็นเรื่องปกติ ครอบครัวใหญ่จะโตไล่เรี่ยกัน ด้วยความดื่อ เราแกล้งพี่สาวลูกของลุง พี่คนนั้นเขาร้องให้ แม่ตีเรา จำได้ว่าถูกด่าถูกตี แล้วเราก็วิ่งเข้าป่าหลังบ้านไป ไปนั่งร้องให้คนเดียว จนป้าต้องตามหา
เรื่องประมาณช่วงกลางของชีวิตวัยเด็ก
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้จำได้ว่าเด็กแต่จำอายุตัวเองไม่ได้ เราทำแก้วแตก 1 ใบ โดนตีจนเราขาลาย น้าข้างบ้านต้องทายาให้เรา แต่พี่สาวทำแต่ 3 ใบ ก็แค่โดนด่า
เรื่องนี้เกือบแตกสลาย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ก่อนที่พ่อเราจะเสีย พ่อกับแม่ทะเลาะกันรุนแรงมาก พ่อไปอยู่บ้านย่า ปกติที่กลับต่างจังหวังจะนอนที่บ้านยาย แล้วเราก็ตามพ่อไป พี่สาวอยู่กับแม่ พ่อเราให้อาเลี้ยงช่วย ด้วยความเป็นเด็ก อาก็เปิดเกมให้เล่นในโน้ตบุ๊ค พ่อไม่ยุบ้าน ณ ตอนนั้น แม่ให้คนมาจอดรถที่หน้าบ้านย่า แล้วเข้ามาลากเราขึ้นรถกลับไปบ้านยาย พอถึงบ้าน จับเราลงรถ แล้วหาไม้แถวนั้นฟาดเราจนขาบวมอีกตามเคย
แล้วเหมือนความรู้สึกมันเริ่มแค้น และเกลียดมาแทนความทรงจำดีๆๆ
จนกาลเวลาผ่านไป เหลือกันอยู่ สามคนแม่ลูก
เรื่องที่น้อยใจมากและจำแม่นมาก
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้น่าจะช่วงอายุ 13 ปี อยู่บ้านนอก เด็กไง กินเผ็ดไม่ได้ เบื่อไข่เจียว เลยไปซื้อไก่ทอดมา มาถึงโดนเลยจร้า...
แม่: ทำไมเป็นคนอย่างนี้ ไปซื้อมาทำไม มันโง่ ทำอะไรไม่เคยได้ดี ไม่มีความรับผิดชอบ ไม่มีสมอง มันลูกเนรคุณ
มันเจ็บ และเป็นแผลในใจ ที่ จขกท.ได้รับมาตลอด
จน 15 ปีไปเป็นเด็กทุนและหอพักฟรี แม่หน้าบานมาก
ที่ จขกท.ไปเรียนที่นั้น ในความคิดแค่ กูไม่อยากอยู่บ้าน ดีหน่อย โดนบ่น โดนด่าน้อยลง รู้สึกโล่งนิดๆๆ แต่ก็ยังมีความทรงจำดีๆๆอยู่เสี้ยวนึง
เราชักเป็นไข้สูง แม่เหยียบรถไปหาหมด ไปหามาห้าโรงพยาบาล
จนเริ่มต้นเข้ามหาลัย...ทางความครัว ไม่ชอบศิลปะ และปิดกลั่น ด้วยความลั้น ของ จขกท. เดินตามควมรักและพรสวรรค์ที่ได้มา ดื้อมาเรียน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้สถาปัตย พอเริ่มเรียนก็อายุ 18 เข้า 19 พอเริ่มเรียนก็ 19 เต็มพอดี เรียนคณะนี้แม่ไม่ปลื้ม ไม่เคยที่จะได้กำลังใจ คำชื่นชม คำปลอมใจ.......
....แต่กลับขยั่นขย่อให้เราพยายามลาออก ด้วยคำปลอบประโลม.....แต่ด้วยความรัก คือพลังมากกว่าสิ่งอื่นใด จขกท.เดินตามเสียงของหัวใจจร้า
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ก่อนสอบโปรเจค จขกท.โทรหาแม่เพื่อขอกำลังใจ คำอวยพร จะได้มีแรงใจในการสอบ แต่สิ่งที่ได้ตอบแทนคือ กูบอกแล้วว่าไม่ให้เรียน
ยอมรับชะตากรรม
ความรู้สึกคือ อือ!! เสียงตอบกลับในลำคอ เขาทรุดนั่งลงบนโต๊ะ น้ำตาไหลในตา และปิดโทรทรัพย์หนีทันที แต่ก็ใกล้จะพรีเซนล่ะ บอกกับตัวเองว่า สู้ๆๆ เราต้องทำได้ และเดินหน้าต่อไป
ทุกครั้งและทุกเวลาจนถึงปัจจุบัน เรายอมรับว่า จขกท.เป็นคนเข้มแข็งมาก ผ่านการเกือบฆ่าตัวตาย ความคิดที่จะหนีหายสาปสูญ สารพัดวิธีคิด จนความรู้สึก ณ ตอนนี้ คือเหมือนอยู่คนเดียว ไม่มีครอบครัว เหมือนชีวิตอโลน แต่ก็เอาเฮอะ ดีกว่าขาดใจตาย หรือเป็นซอมบี้ที่มีกายแต่จิตใจตายไปแล้ว.....และเวลาที่แก่ทะเลาะกับใคร โมโหใคร แก่ก็จะมาด่าลูก ระบายที่ลูก บ่นลูก จนทุกครั้งเราก็เหนื่อยที่จะฟัง แม้ว่าจะท้อกับการเรียนและการใช้ชีวิตสักแค่ไหน
........
........
........
........
........
ที่ตั้งกระทู้เพราะ พรุ่งนี้คือวันคล้ายวันเกิด จขกท...ครบ 20 ปี บริบูรณ์....ที่กำลังรอคอยอิสระภาพอย่างเต็มที่
และด้วยเดือนนี้เป็นเดือนแม่
จขกท....จึงอยากฝากทุกๆๆคนว่า ไม่ว่าคนที่มีแม่อยู่หรือไม่อยู่ แม่เขาคือคนที่เลี้ยงเรา ให้ชีวิตเรา ไม่ว่าเขาจะเป็นอย่างไร เป็นแม่แบบไหน เราไม่สามารถเลือกเกิดได้ ความเป็นลูกทำได้เพียงทำใจ และตอบแทนพระคุณท่าน ถือสะว่ามันเป็นเวรกรรม ที่เราต้องใช้
..........
..........
แต่เหล่าคุณแม่ที่อ่านก็ยังเพิ่งหน้าบาน
แม่ให้ชีวิตลูก แต่แม่ไม่ใช่จำของชีวิตลูก แม่เลี้ยงลูกให้สบายแทบทุกคน แต่ในขณะเลี้ยงลูกนั้น จงอย่าเลี้ยงเพียงกายให้เขาสบาย...แต่จงนึกถึงจิตใจที่ละเอียดอ่อนข้างในของลูกด้วย....อย่าให้ลูกมีความทรงจำที่เลวร้าย.....แต่จงทำให้เขามีความทรงจำที่ดี เพื่อสักวันที่เขาท้อ เขาจะได้รู้ว่า บ้านยังรอเขาเสมอ แม่ไม่ว่าคุณจะนิสัยยังไง อย่าเอาด้านลบมาลงที่ลูก.......ดูแลลูกให้คิดถึงแม่ตลอดเวลา......ถ้าในความทรงจำของเขาไม่มี แม่นางฟ้า.......ทำวิธีไหน เขาก็ไม่กลับมาหาคุณ
เช่นความคิดของ จขกท.ที่ค้างคาใจว่า What is HOME???
และสู้ เดินด้วยหัวใจที่เป็นแผล ตอนนี้มีเพียงเวลาที่กำลังสมานแผลใจ
.............ขอขอบคุณที่ สนใจเสียเวลาอ่านสักนิด.....
........ไม่ว่าคุณที่กำลังอ่าน จะอยู่ในฐานะลูก หรือ แม่ สิ่งที่ดีที่สุดของชีวิต คือความทรงจำ และกลายเป็นการกระทำในที่สุด......บ้ายบาย Thank you
แม่(ทุกคน)ค่ะ ฟังหนูหน่อยได้ไหมค่ะ
...ตัวเจ้าของกระทู้เอง คราวๆๆ จขกท.มีพี่สาว หนึ่งคน(พส.) ด้วยความทรงจำที่มีต่อแม่มาตั้งแต่จำความได้..จขกท.ก็เลยพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อไม่อยู่บ้าน จนได้เป็นเด็กหอพัก ตั้งแต่อายุ 15 ปี พี่สาวอยู่กับแม่จนปัจจุบัน...พ่อของเราสองคนตายจากไปตอน จขกท.อายุ 12 ปี
สิ่งที่ทำให้เราสองคนเป็นทุกใจ คือความทรงจำของคำว่า "บ้าน" ทุกครั้งที่เราสองคนพูดคุยกัน..เราสองคนแทบไม่อยากเข้าบ้าน....
เอาเรื่องของ พี่สาวก่อนน่ะ ที่เคยโดนแม่ด่า
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ นี้เป็นเพียงแค่เสี้ยวนึงของความทรงจำ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ยอมรับน่ะ พี่สาวมีความอดทนสูงมาก....ที่อยู่กับแม่จนโต ถ้าเป็น จขกท.คงตายจากกันไปนานแล้ว
........
ต่อด้วยเรื่องของ จขกท.เองน่ะ แทบไม่มีส่วนดีในความทรงจำ ตัว จขกท.เองเคยเกือบคิดฆ่าตัวตายมาแล้ว จนได้ธรรมะเข้าช่วย โดยนิสัยแล้ว จะเป็นคนไมาเถียง เงียบแล้วเก็บระบายใส่สมุดไดอารี่ เขียนไปร้องให้ไป เพราะเคยโพสต์ลงเฟสแล้ว โดนคนทั้งบ้าน ด่า ก็เลยมีไดอ่ารี่ส่วนตัว
เรื่องแรกของความทรงจำ
ด้วยความเป็นเด็ก ก็ดื้อก็ซนเป็นเรื่องปกติ ครอบครัวใหญ่จะโตไล่เรี่ยกัน ด้วยความดื่อ เราแกล้งพี่สาวลูกของลุง พี่คนนั้นเขาร้องให้ แม่ตีเรา จำได้ว่าถูกด่าถูกตี แล้วเราก็วิ่งเข้าป่าหลังบ้านไป ไปนั่งร้องให้คนเดียว จนป้าต้องตามหา
เรื่องประมาณช่วงกลางของชีวิตวัยเด็ก
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เรื่องนี้เกือบแตกสลาย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แล้วเหมือนความรู้สึกมันเริ่มแค้น และเกลียดมาแทนความทรงจำดีๆๆ
จนกาลเวลาผ่านไป เหลือกันอยู่ สามคนแม่ลูก
เรื่องที่น้อยใจมากและจำแม่นมาก
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
มันเจ็บ และเป็นแผลในใจ ที่ จขกท.ได้รับมาตลอด
จน 15 ปีไปเป็นเด็กทุนและหอพักฟรี แม่หน้าบานมาก
ที่ จขกท.ไปเรียนที่นั้น ในความคิดแค่ กูไม่อยากอยู่บ้าน ดีหน่อย โดนบ่น โดนด่าน้อยลง รู้สึกโล่งนิดๆๆ แต่ก็ยังมีความทรงจำดีๆๆอยู่เสี้ยวนึง
เราชักเป็นไข้สูง แม่เหยียบรถไปหาหมด ไปหามาห้าโรงพยาบาล
จนเริ่มต้นเข้ามหาลัย...ทางความครัว ไม่ชอบศิลปะ และปิดกลั่น ด้วยความลั้น ของ จขกท. เดินตามควมรักและพรสวรรค์ที่ได้มา ดื้อมาเรียน[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ พอเริ่มเรียนก็อายุ 18 เข้า 19 พอเริ่มเรียนก็ 19 เต็มพอดี เรียนคณะนี้แม่ไม่ปลื้ม ไม่เคยที่จะได้กำลังใจ คำชื่นชม คำปลอมใจ.......
....แต่กลับขยั่นขย่อให้เราพยายามลาออก ด้วยคำปลอบประโลม.....แต่ด้วยความรัก คือพลังมากกว่าสิ่งอื่นใด จขกท.เดินตามเสียงของหัวใจจร้า
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ยอมรับชะตากรรม
ความรู้สึกคือ อือ!! เสียงตอบกลับในลำคอ เขาทรุดนั่งลงบนโต๊ะ น้ำตาไหลในตา และปิดโทรทรัพย์หนีทันที แต่ก็ใกล้จะพรีเซนล่ะ บอกกับตัวเองว่า สู้ๆๆ เราต้องทำได้ และเดินหน้าต่อไป
ทุกครั้งและทุกเวลาจนถึงปัจจุบัน เรายอมรับว่า จขกท.เป็นคนเข้มแข็งมาก ผ่านการเกือบฆ่าตัวตาย ความคิดที่จะหนีหายสาปสูญ สารพัดวิธีคิด จนความรู้สึก ณ ตอนนี้ คือเหมือนอยู่คนเดียว ไม่มีครอบครัว เหมือนชีวิตอโลน แต่ก็เอาเฮอะ ดีกว่าขาดใจตาย หรือเป็นซอมบี้ที่มีกายแต่จิตใจตายไปแล้ว.....และเวลาที่แก่ทะเลาะกับใคร โมโหใคร แก่ก็จะมาด่าลูก ระบายที่ลูก บ่นลูก จนทุกครั้งเราก็เหนื่อยที่จะฟัง แม้ว่าจะท้อกับการเรียนและการใช้ชีวิตสักแค่ไหน
........
........
........
........
........
ที่ตั้งกระทู้เพราะ พรุ่งนี้คือวันคล้ายวันเกิด จขกท...ครบ 20 ปี บริบูรณ์....ที่กำลังรอคอยอิสระภาพอย่างเต็มที่
และด้วยเดือนนี้เป็นเดือนแม่
จขกท....จึงอยากฝากทุกๆๆคนว่า ไม่ว่าคนที่มีแม่อยู่หรือไม่อยู่ แม่เขาคือคนที่เลี้ยงเรา ให้ชีวิตเรา ไม่ว่าเขาจะเป็นอย่างไร เป็นแม่แบบไหน เราไม่สามารถเลือกเกิดได้ ความเป็นลูกทำได้เพียงทำใจ และตอบแทนพระคุณท่าน ถือสะว่ามันเป็นเวรกรรม ที่เราต้องใช้
..........
..........
แต่เหล่าคุณแม่ที่อ่านก็ยังเพิ่งหน้าบาน
แม่ให้ชีวิตลูก แต่แม่ไม่ใช่จำของชีวิตลูก แม่เลี้ยงลูกให้สบายแทบทุกคน แต่ในขณะเลี้ยงลูกนั้น จงอย่าเลี้ยงเพียงกายให้เขาสบาย...แต่จงนึกถึงจิตใจที่ละเอียดอ่อนข้างในของลูกด้วย....อย่าให้ลูกมีความทรงจำที่เลวร้าย.....แต่จงทำให้เขามีความทรงจำที่ดี เพื่อสักวันที่เขาท้อ เขาจะได้รู้ว่า บ้านยังรอเขาเสมอ แม่ไม่ว่าคุณจะนิสัยยังไง อย่าเอาด้านลบมาลงที่ลูก.......ดูแลลูกให้คิดถึงแม่ตลอดเวลา......ถ้าในความทรงจำของเขาไม่มี แม่นางฟ้า.......ทำวิธีไหน เขาก็ไม่กลับมาหาคุณ
เช่นความคิดของ จขกท.ที่ค้างคาใจว่า What is HOME???
และสู้ เดินด้วยหัวใจที่เป็นแผล ตอนนี้มีเพียงเวลาที่กำลังสมานแผลใจ
.............ขอขอบคุณที่ สนใจเสียเวลาอ่านสักนิด.....
........ไม่ว่าคุณที่กำลังอ่าน จะอยู่ในฐานะลูก หรือ แม่ สิ่งที่ดีที่สุดของชีวิต คือความทรงจำ และกลายเป็นการกระทำในที่สุด......บ้ายบาย Thank you