ตอนนี้ผมเครียดมาก และรู้สึกตัวเลยว่า ผมเครียดตามแฟนที่ป่วยไปแล้ว จนถึงขนาดว่าเพื่อนทักว่าโทรมไปมาก (ปกติผมดูดี 555 อวยตัวเอง) ดูมีกังวลในหัวตลอด พอเพื่อนทัก มันเลยกระตุกให้ผมคิดได้ว่า เรากำลังจะป่วยตามแฟนเราหรือป่าวนี่
ผมรู้สึกเหนื่อย ท้อ และบางครั้งทำตัวไม่ถูก กังวล เป็นห่วง เพราะอาการของแฟนผมแต่ละวันจะไม่เหมือนกันเลย อยู่ที่สภาพการทำงานวันนั้นๆ
ตอนนี้ผมไม่รู้ว่าควรจะทำตัวยังไง ควรจะปฏิบัติตัวต่อไปยังไง
แฟนผมเค้าเป็นโรคซึมเศร้า เป็นมานานกว่า 10 ปี โดยไม่ได้รักษา แต่เขารู้ว่าเขาไม่ปกติเหมือนคนอื่น อาจเพราะไม่มีคนชี้นำในชิวิต ใช้ชีวิตสนุกไปวันๆ (แฟนผมหน้าตาดี คนจีบเยอะมากกกกก แต่ส่วนใหญ่เลย จะมาแล้วผ่านไป เพราะคงงงๆ กับอาการที่เขาเป็น) เลยมีคนผ่านเยอะ จนมาคบกับผมเมื่อต้นปี
ครั้งแรกเขาไม่บอกผมว่าเขาเป็น แต่ผมสัมผัสได้ว่าเขามีอาการแปลกๆ ทำไมบางวันก็อารมดีจนล้น บางวันก็ดูเฉือยชามาก ไม่หลับไม่นอน ไม่ต่อยกินข้าว
จนวันนึงเขาถึงมาสารภาพกับผมว่าเค้าเป็นโรคซึมเศร้า ซึ่งผมก็ตกใจมาก แต่ทำยังไงได้....ในเมื่อเรารักเค้าแล้ว เลยตกลงกันว่าจะคบและดูแลกันไป
ตั้งแต่นั้นมา ผมหาข้อมูลของอาการ หาวิธีการรักษา แล้วค่อยๆกล่อมให้เขาไปรักษา ตื่นตี 5 เพื่อจะได้พาเขาไปพบหมอเช้าๆ ไปนั่งรอเป็นเพื่อนเขา
(ใช้สิทธิประกันสังคมรักษาที่หัวเฉียว)
เขาเป็นจากหลายปัจจัยมาก
- กรรมพันธุ์ เพราะน้องชายเขาก็เป็น
- สภาพแวดล้อมรอบข้าง เขาถูกเลี้ยงมาแบบ ไม่มีพ่อแม่ที่ดูแล (แม่มีสามีใหม่ พ่อไปบวช) อยู่กับยายกับตาที่บ้านต่างจังหวัด ไม่มีเพื่อนเล่นแถวบ้าน อยู่คนเดียว เล่นคนเดียว โดนมองและว่าเกิดมาเป็นภาระ โดนตาตีแต่โอ๋น้องต่างพ่อ และอื่นๆอีกเยอะมาก แต่ยังดีที่มียายรักและดูแล (สิ่งพวกนี้ ผมรู้เพราะตอนที่เขารักษา ภาพเก่าๆพวกนี้มันหลอนเขา แล้วเขาได้ระบายออกมา)
ผลการไปหาหมอจิตเวชครั้งแรก ผลทดสอบ 9 อาการที่มีภาวะจะเป็นโรคซึมเศร้า เขาเป็นครบหมด จนหมอพูดเองว่าเป็นเยอะมาก
ช่วงเดือนแรกที่รักษา หมอให้ Fulox20 มากินวันละเม็ด
ผลคือ มีอาการค้างเคียง หมดเลย แต่จะสลับไปแต่ละวัน บางวันถึงขั้นร้องไห้จนเกร็ง เห็นภาพอดีตแย่ๆหลอนในหัวตลอด อยากตาย ผมทำได้แค่กอดและปลอบเค้า ตอนนั้นเขาเหมือนเด็กที่เพิ่งเรียนรู้เลย หลังร้องไห้เสร็จ เขาจับหน้าผม จับหูผม จับตาผม แล้วถามผมว่า นี่เรียกว่าตาใช่ไหม นี่เรียกว่ าหูใช่ไหม
ผมนี่น้ำตาคลอเลย เป็นอาการหลังจากที่เขาร้องไห้ หนักๆจนผมกลัวเขาจะสติหลุด คือ เขาค่อยๆเริ่มรับรู้ความปกติมากขึ้น
ผ่านไป 2 อาทิตย์ เขาเริ่มคุมอาการได้ ไม่ค่อยหลุดร้องไห้ ไม่เห็นภาพหลอน แต่ยังมีอาการกลัวคน ไม่กล้าไปไหนคนเดียวในที่คนเยอะๆ ต้องมีผมไปด้วย
เขาขี้หึงมาก หวงผมมาก เพราะอาจจะเป็นผลจากอดีตที่เขาเลยเจอคนแย่ๆมา ทำให้เค้าระแวงตลอดเวลา
จากปกติผมเป็นคนเล่น Social , ติดปาร์ตี้ , เพลย์บอย แต่ไม่รู่ทำไม ผมยอมตัดชิวิตส่วนตัวที่ผมเป็นเพื่อเขา
ช่วงแรกๆ ผมยอมไม่ลงรูปใน Social , งดปาร์ตี้ , Block line ทุกคนที่เคยคุยแบบกิ๊ก เพราะไม่อยากทะเลาะ ซึ่งเคยทะเลาะกันแรง ขนาดเขาสติหลุด วิ่งลงจากรถที่ผมขับ เพราะแค่ผมกด Like รูปเพื่อนใน Facebook , ทะเลาะกันเรื่องผมขอไปงานวันเกิดเพื่อน แค่พูดเท่านั้น สติหลุดเลย
แต่พอเขาอารมเย็นลง และคุมสติได้ เขาก็จะมาขอโทษกับสิ่งที่เกิด และบอกสงสารผม ผมน่าจะเจอคนที่ดีกว่าเขา จะมาทนกับเขาทำไม
แต่ตอนนี้ที่ผมไม่ทำสิ่งพวกนั้น เพราะผมรู้สึกเป็นห่วงเขา มากกว่าความรู้สึกเบื่อการทะเลาะเหมือนช่วงแรกๆ
ช่วงเดือนที่ 2 ไปหาหมอตามที่นัด คราวนี้รพ.เปลี่ยนหมอใหม่
หมอปรับเพิ่มขนาดยา ให้กิน Folux20 วันละ 2 เม็ด
คราวนี้ อาการคูณ 2 เลย ในอาทิตย์แรก ผมได้แต่จับมือละจูบหน้าผาก บอกให้สู้ต่อ เพราะเราจะต้องหาย
ค่อยๆคุมอาการได้ แต่จะมีอาการสลับวนไปๆๆ บางวันคึก บางเบื่อ ท้อ แต่ที่มีอาการตลอดคือ เหนื่อยมากขึ้น เพลียตลอดเวลา นอนได้น้อยลง ตื่นแต่เช้า ผมจะได้ยินเสียงเขาทำโน้นนี่นั้นตั้งแต่ตี 5 ตลอด จนบางทีผมสงสาร กลั้นน้ำตาไม่อยู่
ช่วงเดือนที่ 3 ไปหาหมอตามนัด กับหมอคนที่เคยพบครั้งที่ 2
(ผมกับแฟนยังคุยกันก่อนไปพบเลยว่า หวังว่าคงไม่ให้ยาเพิ่มนะ แค่นี้ก็จะไม่ไหวละนะ)
ผลก็คือ หมอปรับยาเพิ่มให้ เป็นกิน Fulox20 เช้า 2 เม็ด และเย็น 1 เม็ด
ผลคือ ผลค้างเคียงอื่นๆมีครบ แต่อาการลดลงบ้าง ไม่มีภาพหลอน แต่การควบคุมภาวะอารมณ์ลดลงอย่างมาก ถ้ามีอะไรกระตุ้นนิดเดียว จะหลุดทันที
แค่ทำงานผิด แล้วโดนพี่ทำงานถาม เขาหลุด ทำอะไรต่อไม่ได้ จะลืม ทำได้แต่กระดิกนิ้วคลิกเม้า การสั่งการช้า ซึ่งเขาจะไลน์มาระบายกับผมตลอด
ผมก็จะพะวง เป็นห่วงตาม แต่ต้องพยายามคุมสมาธิตัวเอง เพราะว่าผมยังต้องทำงาน
เลิกงานเสร็จ ผมจะรีบขับรถไปรับเขากลับบ้าน เพื่อให้เขาจะได้ระบายออกมา (บางครั้งผมฟังก็รู้สึกว่า ทำไมเรื่องแค่นี้ เขาต้องคิดว่ามันยิ่งใหญ่เป็นปัญหาเหมือนโลกจะแตก แค่พิมพ์เอกสารส่งให้ลูกค้าผิด ก็แก้ละส่งให้ใหม่สิ) บางทีที่ผมเครียดงาน เครียดรถติด แล้วมาเจอการระบายจากเขา ผมก็หลุดโมโหใส่ และคิดว่าทำไม "กรู๊ต้องมารับผิดชอบอะไรแบบนี้ด้วยว่ะ หน้าที่การงานกรู๊ก็ดี สังคมก็ดี ทำไมต้องมาจมปรักกับอะไรแบบนี้" แต่พอหันไม่มองหน้าเขาตอนหลับหลังจากระบายเสร็จ ผมก็ได้แต่คิดว่า ถ้าไม่มีเรา เขาจะอยู่ยังไง คืดแบบนี่ก็ทำให้ผมลดความโมโหลง ละพยายามสู้ต่อ
จนมา 2 อาทิตย์นี้ เหมือนอาการเขาจะเป็นมากขึ้น เนื่องจากงานที่ทำงานเขากดดันมากขึ้น จากผลที่เขาทำงานผิด จากงานที่เยอะมากจนทำไมทัน ยิ่งทำให้เขาวิตกและสติหลุด แต่เขาต้องฝืนทำงานต่อไป (เพราะผมเองแระ ที่อยากให้เขามีอะไรที่มั่นคงกับชีวิต เลยพยายามให้เขาซื้อบ้าน จนเชามีบ้านของคตัวเอง เพราะผมคิดว่า ถ้าเค้ามีความภูมิใจในตัวเอง เขาคงจะมีความสุข และอาการดีขึ้น แต่ผลมี 2 ด้าน ตอนนี้กลายมาเป็นเค้าเครียดเพิ่ม ว่ากลัวจะส่งบ้านไม่ไหวแทน) เขาคิดถึงขั้นอยากลาออกจากงาน ไม่มีแรง เหนื่อยเพลีย แต่นอนไม่หลับ สะดุ้งตื่นทุกคืน ละเม่อฝันเรื่องงาน อยากตายๆไปให้พ้น ซึ่งผมได้แต่รับฟังและปลอบให้เขาเบาลง แต่พอไปทำงานที่เจอการทำงานแบบเดิมๆก็จะเป็นอีก ซึ่งอีก 2 วันก็จะครบกำหนดนัดหมอแล้ว ผมไม่รู้ว่าไปพบหมอครั้งนี้จะเป็นยังไงต่อ หมออาจเปลี่ยนยา หรือปรับยาให้มากขึ้น แล้วอาการเขาจะเป็นยังไงต่อไป ผมสับสนกังวลมาก
ตอนนี้ผมควรจะทำยังไงดีครับ จะรักตัวเอง โดยทิ้งเขาไป เพราะถ้าปล่อยให้ผมเจอสภาวะแบบนี้ นานไปกว่านี้ ผมจะแย่ตามไปด้วย
หรือ ผมจะสู้ต่อไปเพื่อว่าวันนึงที่เขาจะหาย (แต่ไม่รู้เมื่อไร หมอบอกอาจเป็นปี) แล้วผมควรจะทำตัวหรือปลอบเขายังไง เพราะตอนนี้คำปลอบโยน การรับฟัง มันไม่ได้ช่วยให้เขาดีขึ้นเท่าไรเลย
ปล.ขอโทษที่ครับ เหมือนเป็นกระทู้ระบายเลย พิมพ์สะยาวเกิ๊นนนนนนนนนนนน
ผมควรทำยังไงครับ (แฟนเป็นโรคซึมเศร้า) ตอนนี้ผมเครียดและจะเป็นตามเขาไปแล้ว
ผมรู้สึกเหนื่อย ท้อ และบางครั้งทำตัวไม่ถูก กังวล เป็นห่วง เพราะอาการของแฟนผมแต่ละวันจะไม่เหมือนกันเลย อยู่ที่สภาพการทำงานวันนั้นๆ
ตอนนี้ผมไม่รู้ว่าควรจะทำตัวยังไง ควรจะปฏิบัติตัวต่อไปยังไง
แฟนผมเค้าเป็นโรคซึมเศร้า เป็นมานานกว่า 10 ปี โดยไม่ได้รักษา แต่เขารู้ว่าเขาไม่ปกติเหมือนคนอื่น อาจเพราะไม่มีคนชี้นำในชิวิต ใช้ชีวิตสนุกไปวันๆ (แฟนผมหน้าตาดี คนจีบเยอะมากกกกก แต่ส่วนใหญ่เลย จะมาแล้วผ่านไป เพราะคงงงๆ กับอาการที่เขาเป็น) เลยมีคนผ่านเยอะ จนมาคบกับผมเมื่อต้นปี
ครั้งแรกเขาไม่บอกผมว่าเขาเป็น แต่ผมสัมผัสได้ว่าเขามีอาการแปลกๆ ทำไมบางวันก็อารมดีจนล้น บางวันก็ดูเฉือยชามาก ไม่หลับไม่นอน ไม่ต่อยกินข้าว
จนวันนึงเขาถึงมาสารภาพกับผมว่าเค้าเป็นโรคซึมเศร้า ซึ่งผมก็ตกใจมาก แต่ทำยังไงได้....ในเมื่อเรารักเค้าแล้ว เลยตกลงกันว่าจะคบและดูแลกันไป
ตั้งแต่นั้นมา ผมหาข้อมูลของอาการ หาวิธีการรักษา แล้วค่อยๆกล่อมให้เขาไปรักษา ตื่นตี 5 เพื่อจะได้พาเขาไปพบหมอเช้าๆ ไปนั่งรอเป็นเพื่อนเขา
(ใช้สิทธิประกันสังคมรักษาที่หัวเฉียว)
เขาเป็นจากหลายปัจจัยมาก
- กรรมพันธุ์ เพราะน้องชายเขาก็เป็น
- สภาพแวดล้อมรอบข้าง เขาถูกเลี้ยงมาแบบ ไม่มีพ่อแม่ที่ดูแล (แม่มีสามีใหม่ พ่อไปบวช) อยู่กับยายกับตาที่บ้านต่างจังหวัด ไม่มีเพื่อนเล่นแถวบ้าน อยู่คนเดียว เล่นคนเดียว โดนมองและว่าเกิดมาเป็นภาระ โดนตาตีแต่โอ๋น้องต่างพ่อ และอื่นๆอีกเยอะมาก แต่ยังดีที่มียายรักและดูแล (สิ่งพวกนี้ ผมรู้เพราะตอนที่เขารักษา ภาพเก่าๆพวกนี้มันหลอนเขา แล้วเขาได้ระบายออกมา)
ผลการไปหาหมอจิตเวชครั้งแรก ผลทดสอบ 9 อาการที่มีภาวะจะเป็นโรคซึมเศร้า เขาเป็นครบหมด จนหมอพูดเองว่าเป็นเยอะมาก
ช่วงเดือนแรกที่รักษา หมอให้ Fulox20 มากินวันละเม็ด
ผลคือ มีอาการค้างเคียง หมดเลย แต่จะสลับไปแต่ละวัน บางวันถึงขั้นร้องไห้จนเกร็ง เห็นภาพอดีตแย่ๆหลอนในหัวตลอด อยากตาย ผมทำได้แค่กอดและปลอบเค้า ตอนนั้นเขาเหมือนเด็กที่เพิ่งเรียนรู้เลย หลังร้องไห้เสร็จ เขาจับหน้าผม จับหูผม จับตาผม แล้วถามผมว่า นี่เรียกว่าตาใช่ไหม นี่เรียกว่ าหูใช่ไหม
ผมนี่น้ำตาคลอเลย เป็นอาการหลังจากที่เขาร้องไห้ หนักๆจนผมกลัวเขาจะสติหลุด คือ เขาค่อยๆเริ่มรับรู้ความปกติมากขึ้น
ผ่านไป 2 อาทิตย์ เขาเริ่มคุมอาการได้ ไม่ค่อยหลุดร้องไห้ ไม่เห็นภาพหลอน แต่ยังมีอาการกลัวคน ไม่กล้าไปไหนคนเดียวในที่คนเยอะๆ ต้องมีผมไปด้วย
เขาขี้หึงมาก หวงผมมาก เพราะอาจจะเป็นผลจากอดีตที่เขาเลยเจอคนแย่ๆมา ทำให้เค้าระแวงตลอดเวลา
จากปกติผมเป็นคนเล่น Social , ติดปาร์ตี้ , เพลย์บอย แต่ไม่รู่ทำไม ผมยอมตัดชิวิตส่วนตัวที่ผมเป็นเพื่อเขา
ช่วงแรกๆ ผมยอมไม่ลงรูปใน Social , งดปาร์ตี้ , Block line ทุกคนที่เคยคุยแบบกิ๊ก เพราะไม่อยากทะเลาะ ซึ่งเคยทะเลาะกันแรง ขนาดเขาสติหลุด วิ่งลงจากรถที่ผมขับ เพราะแค่ผมกด Like รูปเพื่อนใน Facebook , ทะเลาะกันเรื่องผมขอไปงานวันเกิดเพื่อน แค่พูดเท่านั้น สติหลุดเลย
แต่พอเขาอารมเย็นลง และคุมสติได้ เขาก็จะมาขอโทษกับสิ่งที่เกิด และบอกสงสารผม ผมน่าจะเจอคนที่ดีกว่าเขา จะมาทนกับเขาทำไม
แต่ตอนนี้ที่ผมไม่ทำสิ่งพวกนั้น เพราะผมรู้สึกเป็นห่วงเขา มากกว่าความรู้สึกเบื่อการทะเลาะเหมือนช่วงแรกๆ
ช่วงเดือนที่ 2 ไปหาหมอตามที่นัด คราวนี้รพ.เปลี่ยนหมอใหม่
หมอปรับเพิ่มขนาดยา ให้กิน Folux20 วันละ 2 เม็ด
คราวนี้ อาการคูณ 2 เลย ในอาทิตย์แรก ผมได้แต่จับมือละจูบหน้าผาก บอกให้สู้ต่อ เพราะเราจะต้องหาย
ค่อยๆคุมอาการได้ แต่จะมีอาการสลับวนไปๆๆ บางวันคึก บางเบื่อ ท้อ แต่ที่มีอาการตลอดคือ เหนื่อยมากขึ้น เพลียตลอดเวลา นอนได้น้อยลง ตื่นแต่เช้า ผมจะได้ยินเสียงเขาทำโน้นนี่นั้นตั้งแต่ตี 5 ตลอด จนบางทีผมสงสาร กลั้นน้ำตาไม่อยู่
ช่วงเดือนที่ 3 ไปหาหมอตามนัด กับหมอคนที่เคยพบครั้งที่ 2
(ผมกับแฟนยังคุยกันก่อนไปพบเลยว่า หวังว่าคงไม่ให้ยาเพิ่มนะ แค่นี้ก็จะไม่ไหวละนะ)
ผลก็คือ หมอปรับยาเพิ่มให้ เป็นกิน Fulox20 เช้า 2 เม็ด และเย็น 1 เม็ด
ผลคือ ผลค้างเคียงอื่นๆมีครบ แต่อาการลดลงบ้าง ไม่มีภาพหลอน แต่การควบคุมภาวะอารมณ์ลดลงอย่างมาก ถ้ามีอะไรกระตุ้นนิดเดียว จะหลุดทันที
แค่ทำงานผิด แล้วโดนพี่ทำงานถาม เขาหลุด ทำอะไรต่อไม่ได้ จะลืม ทำได้แต่กระดิกนิ้วคลิกเม้า การสั่งการช้า ซึ่งเขาจะไลน์มาระบายกับผมตลอด
ผมก็จะพะวง เป็นห่วงตาม แต่ต้องพยายามคุมสมาธิตัวเอง เพราะว่าผมยังต้องทำงาน
เลิกงานเสร็จ ผมจะรีบขับรถไปรับเขากลับบ้าน เพื่อให้เขาจะได้ระบายออกมา (บางครั้งผมฟังก็รู้สึกว่า ทำไมเรื่องแค่นี้ เขาต้องคิดว่ามันยิ่งใหญ่เป็นปัญหาเหมือนโลกจะแตก แค่พิมพ์เอกสารส่งให้ลูกค้าผิด ก็แก้ละส่งให้ใหม่สิ) บางทีที่ผมเครียดงาน เครียดรถติด แล้วมาเจอการระบายจากเขา ผมก็หลุดโมโหใส่ และคิดว่าทำไม "กรู๊ต้องมารับผิดชอบอะไรแบบนี้ด้วยว่ะ หน้าที่การงานกรู๊ก็ดี สังคมก็ดี ทำไมต้องมาจมปรักกับอะไรแบบนี้" แต่พอหันไม่มองหน้าเขาตอนหลับหลังจากระบายเสร็จ ผมก็ได้แต่คิดว่า ถ้าไม่มีเรา เขาจะอยู่ยังไง คืดแบบนี่ก็ทำให้ผมลดความโมโหลง ละพยายามสู้ต่อ
จนมา 2 อาทิตย์นี้ เหมือนอาการเขาจะเป็นมากขึ้น เนื่องจากงานที่ทำงานเขากดดันมากขึ้น จากผลที่เขาทำงานผิด จากงานที่เยอะมากจนทำไมทัน ยิ่งทำให้เขาวิตกและสติหลุด แต่เขาต้องฝืนทำงานต่อไป (เพราะผมเองแระ ที่อยากให้เขามีอะไรที่มั่นคงกับชีวิต เลยพยายามให้เขาซื้อบ้าน จนเชามีบ้านของคตัวเอง เพราะผมคิดว่า ถ้าเค้ามีความภูมิใจในตัวเอง เขาคงจะมีความสุข และอาการดีขึ้น แต่ผลมี 2 ด้าน ตอนนี้กลายมาเป็นเค้าเครียดเพิ่ม ว่ากลัวจะส่งบ้านไม่ไหวแทน) เขาคิดถึงขั้นอยากลาออกจากงาน ไม่มีแรง เหนื่อยเพลีย แต่นอนไม่หลับ สะดุ้งตื่นทุกคืน ละเม่อฝันเรื่องงาน อยากตายๆไปให้พ้น ซึ่งผมได้แต่รับฟังและปลอบให้เขาเบาลง แต่พอไปทำงานที่เจอการทำงานแบบเดิมๆก็จะเป็นอีก ซึ่งอีก 2 วันก็จะครบกำหนดนัดหมอแล้ว ผมไม่รู้ว่าไปพบหมอครั้งนี้จะเป็นยังไงต่อ หมออาจเปลี่ยนยา หรือปรับยาให้มากขึ้น แล้วอาการเขาจะเป็นยังไงต่อไป ผมสับสนกังวลมาก
ตอนนี้ผมควรจะทำยังไงดีครับ จะรักตัวเอง โดยทิ้งเขาไป เพราะถ้าปล่อยให้ผมเจอสภาวะแบบนี้ นานไปกว่านี้ ผมจะแย่ตามไปด้วย
หรือ ผมจะสู้ต่อไปเพื่อว่าวันนึงที่เขาจะหาย (แต่ไม่รู้เมื่อไร หมอบอกอาจเป็นปี) แล้วผมควรจะทำตัวหรือปลอบเขายังไง เพราะตอนนี้คำปลอบโยน การรับฟัง มันไม่ได้ช่วยให้เขาดีขึ้นเท่าไรเลย
ปล.ขอโทษที่ครับ เหมือนเป็นกระทู้ระบายเลย พิมพ์สะยาวเกิ๊นนนนนนนนนนนน