[Diary] แบกเป้เที่ยว : "สะบายดีปากเซ" ตะลุยลาวใต้ในมุมที่ไม่เคยรู้



สวัสดีค่าาาา เมื่อเดือนที่ผ่านมา จขกท. มีโอกาสแบกเป้ไปเที่ยวปากเซหรือลาวใต้นั่นเอง และด้วยบุญคุณของรีวิวจากพันทิป (ชาบูๆ กราบบบบ) ทำให้ จขกท. มีข้อมูลและพาชีวิตรอดกลับมาได้ค่ะ T^T  เลยอยากจะขอตอบแทนเพื่อนๆพี่ๆชาวพันทิปด้วยการรีวิวแนวไดอารี่ถึงสิ่งที่ไปพบ ไปเจอ ไปโง่ ไปงง ไปเหนื่อย และไปหมดตัวมาค่ะ แงงงงง // ขอออกตัวไว้ก่อนนะคะว่าทั้งหมดที่จะเล่าต่อไปนี้เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้น เป็นเพียงความเห็นส่วนตัว โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านนะคะ ถ้ามีตรงไหนผิดพลาด ทำให้เกิดความไม่สบายใจก็ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ

จขกท. เริ่มต้นการเดินทางจากจังหวัดอุบลราชธานี ผ่านด่านช่องเม็กไปโผล่ที่ด่านวังเต่า สปป.ลาวค่ะ จริงๆมีหลายทางมากที่จะเชื่อมไปยัง สปป.ลาว ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับว่าอยากจะไปโผล่ที่ไหน ฮาาาา จขกท. กำหนดจุดไว้ว่าจะไปโผล่ปากเซก็เลยเลือกทางนี้เนอะ โดยมุ่งหน้าไปยัง บขส.อุบลฯในตอนเช้า สามารถซื้อตั๋วรถ บขส. โดยตรงเข้าปากเซได้เลย ราคา 200 บาท รถออก 09.30 น. ในแต่ละวันก็จะมีกำหนดวิ่งรถเข้าลาวแค่ 2 รอบเท่านั้น รอบบ่ายรู้สึกจะประมาณ 15.30 น. ส่วนถ้าใครที่พลาดช่วงเวลาดังกล่าวก็สามารถเปลี่ยนมาขึ้นรถตู้ไปช่องเม็ก (ขึ้นที่ บขส. เช่นกัน) แล้วค่อยไปหารถต่อเข้าปากเซที่ด่านวังเต่าค่ะ ราคาก็พอๆกันเลย





บรรยากาศในรถก็จะมีป้าๆยายๆเพียบ ครึกครื้นตลอดการเดินทางค่ะ 5555555 นั่งรถประมาณเกือบ 2 ชม.ก็ถึงด่านค่ะ เราก็เดินตามๆป้าๆไปปั๊มพาสปอร์ต ตรงนี้จะบอกเลยว่า งงมากกกกค่ะ เพราะเหมือนอาคารที่เข้าไปปั๊มขาออก (departure) ค่อนข้างเก่ามากกก ระบบแถวงงขั้นสุด คิวนี่เละเทะ 555 คือต้องสู้มากฮะะะ กลัวรถไม่รอด้วย แล้วที่สำคัญนะคะใบที่ต้องเขียนอยู่ที่ จนท.ที่จ๊อบพาสปอร์ต ดังนั้นต้องฝ่าเข้าไปเอาใบเอกสารออกมากรอกค่ะ T^T





จากนั้นก็ลอดใต้ดินไปโผล่ที่ฝั่งวังเต่าค่ะ จะเป็นอาคารยกพื้นขึ้นมาเด่นเลย แต่เดินประมาณนึง ถ้าคนที่ไม่เคยไป เช่น จขกท. เป็นต้น ก็จะงง แบบว่าเราเดินมาถูกรึเปล่า แล้วป้าๆบนรถไปไหนหมดแล้ว 55555 กลัวตกรถก็กลัวค่ะ งงก็งง แล้วรถก็ไปจอดที่ไหนไม่ทราบ แต่สุดท้ายก็เดินดุ่มๆไปเรื่อยๆ ในที่สุด!!! เราก็เจอรถค่ะ คือดีใจมากกก ทีนี้ก็ขึ้นไปปั๊มขาเข้า (arrival) ที่ฝั่งลาว นี่ก็เดินวนไปอีก เพราะว่างงว่ามันต้องจ๊อบตรงไหน คือช่องเยอะจนงง (ถ่อวววว นี่มันทริปงงหรือยังไง) แต่ที่งงสุดก็คือต้องจ่ายค่าธรรมเนียมหรือมันเรียกว่าค่าอะไรดี 555 ใครรู้บอกทีค่ะว่าจ่ายค่าอะไร คือพอ จนท.จ๊อบพาสปอร์ตให้เสร็จเค้าจะเรียกเก็บเงินเพิ่มอีก 100 บาทค่ะ #น้ำตาไหลลลลล



เมื่อเรารอดพ้นจากความงงทั้งปวงในการเข้า-ออกประเทศแล้วก็ไปงงต่อที่ปากเซค่ะ ที่ที่ตั้งใจจะลงเนี่ยคือตลาดดาวเรือง เพราะหาข้อมูลไว้ว่าเป็นแหล่งแลกเปลี่ยนเงิน ใกล้กับทางเข้าที่พักและเผื่อหาอะไรกินด้วย >< แต่แล้วเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อ จขกท. นั่งรถจนสุดสายไปโผล่ บขส.  และด้วยความที่คิดว่าตลาดดาวเรืองเนี่ยคือปลายทางของรถ ก็เลยนั่งสวยๆ T^T ที่ไหนได้...ผิดค่ะ!!! พอลงจากรถก็เข้าใจแล้วว่าชีวิตนั่งรถเลยจากจุดหมายมาไกลเกือบ 10 กิโล ฝนก็ตก บ่ายแล้วด้วย หิวอีกต่างหาก โฮฮฮฮฮฮ คราวนี้งานถูกต้มก็มาค่ะ ... คือเจ็บใจมากกกกพูดเลย ลุงสกายแล็ปมาล่อเราไป เค้าก็บอกว่าจากจุดนี้ไกลมาก เดินไม่ไหว (คือตอนนั้นนั่งรถมาก็เหนื่อยแทบขาดใจแล้วจริงๆ สภาพอากาศไม่ดีอีก และหลายๆอย่าง ผลคือโดนล่อขึ้นรถไป) ตกลงราคาเรียบร้อย ด้วยความที่เราคิดว่าลุงน่าจะใจดี(?) ก็เลยโอเคในราคาที่ไม่โอเคเลยยยย พอขึ้นรถปรากฏว่ามีตัวละครฝรั่งอีก 4 คนขึ้นมาด้วยค่ะ จากที่เห็นคือลุงก็ไปล่อมาเหมือนกัน แล้วล่ออยู่นานจนเรารอบนรถก็เริ่มเซ็ง คือจ่ายแพงก็คิดว่าจะออกเลย แต่เปล่าค่ะ! พอทุกคนขึ้นมายัดเยียดเบียดเสียดกันบนรถ (ฝรั่งก็ติดกับกันมาจ้าาาา) เราก็เลยทำตัวสปายซักหน่อย แหม่ นั่งรถมันว่างนี่เนอะ ชวนฝรั่งคุยไปค่ะ เลยแอบถามเรื่องค่ารถ ปรากฏว่าเค้าได้ถูกกว่ามากกกก ทั้งๆที่จุดหมายคือไกลกว่า ด้วยความที่เจ็บใจ พอถึงตลาดก็เลยคุยกับลุงว่ามันคืออะไรคะลุ๊งงงง *เสียงสูง*  // ลุงก็บอกว่ามาว่าเราจีบง่าย ฝรั่งคุยยากกว่า #อ่าวววววว สุดท้ายเราก็ด้านจ้าา ต่อราคาเพิ่มไป พยายามทำตัวน่าสงสาร(?) ทั้งโมโหทั้งแค้นแต่ก็โง่เองแหละ ฮืออออ สุดท้ายก็เลยยอมจ่ายๆไป แล้วก็ถือเป็นบทเรียนเนอะ สำหรับทุกๆคนด้วยนะคะ ต้องต่อค่ะ!! ต้องสู้!! ห้ามใจอ่อนกับคนแก่เด็ดขาด!! แงงงงงงงง

จากนั้นก็ได้เวลาแลกเงิน อัตราแลกเปลี่ยนอยู่ที่ประมาณ 1 บาท = 231 กีบ และด้วยความอยากลองซิมลาวก็เลยจัด ประมาณ 200 บาท เราให้ที่ร้านช่วยตั้งค่าให้เลย เพราะจากการรีวิวมา ร่ำลือกันมากว่าเชื่อมครั้งแรกนี่ยากสุด เราซื้อเป็นซิมเน็ตเนอะก็โอเคเลย ใช้ได้ดี พอมีเน็ตแล้วงานกูเกิ้ลแม็พก็มาจ้าาาา แม้จะหิวก็ตามแต่ด้วยความเหนื่อยก็เหนื่อย เจ็บใจก็เจ็บใจก็เลยกัดฟันย่ำต๊อกตามแม็พไปยังที่พักค่ะ ซึ่งก็ไม่ไกลเล้ยยยยย แค่ 2 กิโลจากตลาด T^T 55555555 แต่เราสู้!!! ถือว่าเดินฝ่าความร้อนชมบ้านชมเมืองอ่ะเนอะ -0-  ก่อนเข้าที่พักก็แวะทานก๋วยเตี๋ยวค่ะ หิววว! ดูโอเคเลยอ่ะ อารมณ์ร้านก๋วยเตี๋ยวของอาม่า แลดูจีนๆ รสชาติใช้ได้เลยแต่ไม่ยักมีราคาแปะ แต่ไม่เป็นไรแค่ก๋วยเตี๋ยวราคาคงไม่ช็อค ... ปรากฏว่าช็อคจ้าาาาา O.O ชามละเกือบ 100 บาท ที่มีแค่เส้นก๋วยจั๊บ หนังหมู และหมูแดงเบาๆ 2-3 แผ่น #ร้องงงงงงง





ยังไงก็ตามเรายังมีโชคอยู่บ้างแหละ! เนื่องจาก จขกท. ปลื้มมากกับการรีวิวที่พักของตัวเอง 5555 คือมันดียยยยย เป็นสิ่งเดียวที่รู้สึกว่าคุ้มค่าในการมาลาวใต้ T^T แท่น แทน แท๊นนนนน จขกท. ภูมิใจนำเสนอ "Alisa guesthouse" ตอนแรกรีวิวในเน็ตมาก็ไม่ค่อยจะเชื่อเท่าไหร่ เพราะส่วนใหญ่ในรูปตามเว็บมักจะดูดีทั้งนั้น แต่พอมาจริงๆ หืมมม โอมากกกกก พนักงานก็ใจดี คุยง่าย ห้องพักสะอาด กว้างขวางสบาย ทำเลก็ดีมาก คือรอบๆมีของกิน มีร้านค้าอารมณ์ supermarket แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น...ราคาค่ะ ราคาาาา! T^T มีร้านให้เช่ามอเตอร์ไซค์ ถือว่าสะดวกค่ะ ที่สำคัญที่สุดคือราคา ฮาาาาา จขกท.ได้มาในราคา 2 คืน 500 บาทเท่านั้นนนน!!! นี่คือน้ำตาไหลด้วยความปลื้มใจ 5555


เครดิตภาพจากกูเกิ้ลนะคะ

สภาพภายในห้องพักค่ะ






วันแรกนี้ก็จบลงด้วยความงงจากการเดินทางเข้า สปป.ลาว ครั้งแรก ความอึ้งในราคาที่ไม่คาดฝัน 555 คือไม่ว่าคุยกับใคร ทุกคนมักเข้าใจว่าของในลาวถู๊กกกกก *เสียงสูง* ซึ่ง จขกท. ก็เคยเข้าใจว่าแบบนั้นค่ะ แต่คนเราก็มักจะโดนหลอกใช่มั้ยคะ ฮึกๆๆๆ หลังจากที่พักเข้าที่ ก็เลยสำรวจหาทางไปเที่ยวต่อ จริงๆมีแนะนำว่าให้ซื้อทริปจากร้าน one-day tour ที่มีบริการรอบๆที่พักนะคะ เพราะว่าราคาโอเค แต่มันยังแพงมากกกกสำหรับ จขกท. อยู่ดี ต้องเข้าใจอ่ะเนอะว่าชีวิตนี้งบน้อย T^T 555 ก็เลยตระเวนสืบราคาหาร้าน แล้วก็มาจบด้วยชีวิตเสี่ยงๆอย่างการเช่ามอเตอร์ไซค์ค่ะ อันที่จริงเหล่า backpackers หรือฝรั่งที่มาก็ใช้วิธีนี้กันเยอะมากๆ ต้องบอกว่านิยมเลยทีเดียว เพราะเราไปไหนก็ได้ ใช้เวลาได้เท่าที่จัดเอง แต่ก็เสี่ยงน่ะเนอะ เอาจริงๆกลัวมากกกก 55 เพราะปกติแค่ขี่ไปขี่มาในเมืองเอง ไม่เคยขี่รถไกลๆ แถมต่างเมืองและต่างเลนมาก่อน แต่คนเราก็ต้องมีครั้งแรกเสมอค่ะ ฮือออ ด้วยความถูกไซโคและต้องตัดสินใจก็เลยสู้ค่ะ!!! ระยะทางก็ไม่ใช่เล่นๆเลย เพราะจุดเที่ยวที่จะไปคือน้ำตกตาดเยือง น้ำตกผาส้วม และวัดพู ซึ่งวัดพูเนี่ยอยู่ฉีกไปอีกทางเลย อยู่ในจำปาสักค่ะ (จริงๆปากเซก็อยู่ในแขวงจำปาสักนะคะ) แต่จากการรีวิวมา (อีกแล้วว) ก็เลยโอเคค่ะ อยากไปดูซักครั้งว่าจะสวยแค่ไหน // จริงๆตั้งใจจะไปเที่ยว Bolaven ด้วย เป็นไร่ชา ไร่กาแฟอะไรเทือกๆนั้น ซึ่ง จขกท. แฮปปี้กับภูเขามากกกก 5555 แต่เนื่องด้วยอุปสรรคเกิดขึ้นเสมอ แงงงง ก็เลยอดค่ะ

ขอให้ข้อมูลเพิ่มเติมเรื่องทริปนะคะ
- ถ้าไปกลุ่มน้ำตกแบบที่ร้านจัดทริปไว้ (ส่วนใหญ่ทางเดียวกันหมดเลย) + Bolaven อยู่ที่ราวๆ เกือบ 800 บาท/คน/วัน
- ส่วนถ้าไปวัดพู (แค่ที่เดียว ซึ่งอยู่ฉีกออกไปอีกทาง) ราคาราวๆ 900 กว่าบาท/คน/วัน
- แต่ถ้าเช่ารถไปเอง เราจะขี่ไปไหนก็ได้ค่ะ 24 ชม.เลย ราวๆ 300 บาท/วัน (นั่งได้ 2 คน) แต่ค่าน้ำมันก็จ่ายแยกเนอะ

แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่