ฝากถึงละครผีของไทย เหมือนยังขาดอะไรที่ทำให้กลมกล่อมกว่าในอดีต

กระทู้สนทนา

            ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่ากระทู้นี้ไม่ได้สืบเนื่องมาจากละครเรื่องพิษสวาทแต่อย่างใด พอดีว่าย้อนดูละครผีของไทยในยูทูปหลาย ๆ เรื่อง ก็เลยมาเขียนกระทู้แสดงความเห็นกันและก็เผอิญนึกถึงละครเรื่องพิษสวาทซึ่งกำลังเป็นกระแสอยู่พอดี เดี๋ยวจะโดนแฟนคลับเขากระหน่ำซ้ำซะ.... ถ้าถามละครผีของไทยในดวงใจผมล่ะก็ ด้วยผมเกิดในยุค 40 ดังนั้นละครที่ผมจำได้จะเป็นยุคสี่ศูนย์เป็นต้นมา ก่อนหน้านั้นมันเด็กมากก็จะจำได้รางเลือน เรื่องที่ผมยกให้ว่าน่ากลัวในตอนนั้นคือเรื่อง "จันทร์เอ๋ยจันทร์เจ้า" ที่แสดงโดยคุณหมู พิมพ์ผกา และคุณปวีณา ชารีฟสกุล ที่แสดงเป็นผีซึ่งน่ากลัวจริง ๆ ถ้าไม่นับเรื่องแม่นาคที่พอได้ยินชื่อก็รีบเปลี่ยนช่องแล้วขนาดว่ายังไม่ทันได้ดูเลยด้วยซ้ำ

            และด้วยยุคนั้นเรื่อยมาผมก็เริ่มหลงใหลในละครผีหลาย ๆ เรื่องกด้วยกัน แต่ทำไมพอเราดูไปเรื่อย ๆ มันกลับรู้สึกว่า เอ๊ะ!!! ทำไมมันไม่น่ากลัววะ หลาย ๆ เรื่องที่ออกตัวอย่างมาเราก็รอลุ้นดู แต่พอออกอากาศจริง ๆ กลับไม่เป็นอย่างที่หวัง บางเรื่องถึงกับไม่ดูไปเลย รู้สึกเหมือนละครตลกด้วยซ้ำไป หรือว่าเราโตขึ้นเรื่อย ๆ ก็เลยเริ่มด้านชากับหนังผีละครผีแล้ว ผมก็เลยย้อนดูละครเก่า ๆ ก็เอออาจจะจริงที่พอเราโตขึ้นไอ้สิ่งที่เป็นจินตนาการเหล่านั้นเริ่มทำงานน้อยลง เราเริ่มอยู่กับความเป็นจริงมากขึ้นมันเลยทำให้ความตื่นเต้นน่ากลัวตรงนั้นหายไป แต่ถึงกระนั้นผมไม่อาจยอมรับได้ว่าละครยุคใหม่ทำได้ดีเทียบเท่าละครยุคเก่าจริง ๆ ซะทีเดียว

            รู้สึกเกริ่นนำยาวเกิ้น คือผมเคยอ่านคอลัมภ์ว่าด้วยเรื่องละครผีจากหนังสือรายสัปดาห์อะไรสักอย่าง ไม่แน่ใจว่ามติชนหรือเนชั่น พูดถึงละครผีไทยว่าทำไมความน่ากลัวมันถึงน้อยลง ทีนี้เราก็มองย้อนดูตัวเราว่าทำไมเราถึงต้องกลัวผี ก็เพราะความไม่รู้ยังไง....เราไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับผี เราไม่อาจคาดเดาได้ว่าผีหน้าตาเป็นยังไง ผีจะโผล่มาตอนไหน ผีต้องการอะไรจากเรา มันสุดจะคาดเดาดังนั้นเราจึงจินตนาการไปต่าง ๆ นานาว่าเออผีต้องน่ากลัวอย่างงั้นอย่างงี้ สุดแต่ว่าความน่ากลัวของแต่ละคนมันเป็นอย่างไร อาจไม่เท่ากัน ทีนี้เมื่อย้อนกลับมาดูที่ละคร เราจะพบว่าละครผีไทยส่วนใหญ่เป็นเรียลลิตี้ผี กล่าวคือเรารู้ทุกความเคลื่อนไหวของผีประหนึ่งเป็นอะคาเดมี่ แฟนเทเชียก็มิปาน ดังนั้นผีจะทำอะไร ผีจะโผล่มาในรูปแบบไหนเรารู้หมด บางทียังคาดเดาได้ด้วยซ้ำว่าผีจะโผล่มาตอนไหน หนังผีที่น่ากลัวสำหรับผมคือผู้สร้างสามารถสร้างฉากให้รู้สึกว่าผีพร้อมที่จะโผล่มาได้ตลอดเวลา แต่มันอาจจะโผล่หรือไม่โผล่ก็ได้ ไม่ให้ผู้ชมคาดเดาได้นั่นแแหละผีของจริงเลย อันนี้เป็นเรื่องหนึ่งที่ผมคิดว่าถ้าทำได้จะดีมาก ทีนี้ก็จะมีคนแย้งว่าบางเรื่องมันเล่าถึงชีวิตผีอ่ะ ก็ต้องถ่ายทอดความรู้สึกผีสิ อย่างเรื่องปอบผีฟ้า เวอร์ชั่นคุณหมวย สุภาภรณ์ หรือนางบาป ที่คุณเบนซ์กับคุณเอ๊ะเล่น อันนั้นก็จะถ่ายทอดชีวิตผีคุยอะไรกันคิดอะไรกัน แต่มันยังมีความน่ากลัวอยู่อ่ะ ในตรงนี้คือถ้ามันเป็นเรื่องที่ต้องการถ่ายทอดความคิดผีจริงก็สามารถถ่ายให้เห็นผีสนทนากันได้ แต่ผู้สร้างก็ควรปรับบทสนทนาให้มันมีความลึกลับ แบบผีจะพูดเป็นปริศนาให้คนคิดต่อรอลุ้นว่าเห้ยมันจะทำอะไรต่อไปวะ คือให้คนคิดเองบ้าง อย่ากลัวแต่ว่าคนจะไม่เข้าใจเสมอไป มันคงไม่เกินความสามารถคนดูที่จะเดาเรื่องราวได้ ทั้งนี้มันก็ขึ้นอยู่กับฝีมือนักแสดงด้วยนะครับผมว่า ต้องคนที่เอาอยู่จริง ๆ ที่แบบเล่นบทที่ผีมีบทสนทนามากแต่ยังสร้างความน่ากลัวอยู่ ผมค่อนข้างไม่ชอบเวลาที่ผียืนพูดอยู่คนเดียว มันดูไม่เรียวเท่าไหร่ แบบเรารู้ความคิดผีหมดเลย คุณคิดดูว่าอยู่ดี ๆ ผีหันมาบอกกล้องว่า "กูจะฆ่า ให้สมกับที่ทำกับกูไว้เมื่อร้อยกว่าปีก่อน" ในสภาพน่าเละ ๆ เห้ยย ผีกลายเป็นพิธีกรรายการทีวีไปซะแล้วหันมาเล่นกล้องด้วย แต่อย่างถ้าเป็นตอนคุณนุ่นพูดคนเดียวในชุดสวย ๆ หน้าสวย ๆ ในเรื่องพิษสวาทอย่างนั้นผมโอเคนะ เพราะฉากนั้นไม่ได้ขายความน่ากลัว แต่ถ้าเป็นฉากขายความน่ากลัวจริง ผีเขาไม่มาสาธยายหรอกว่าเขาจะทำอะไรน่ะ อันนี้ตามความคิดเห็นผมนะ


            อีกเรื่องหนึ่งคือเรื่องการจัดไฟ ไม่รู้ว่าจะสว่างไปไหนยิ่งละครผียุคหลัง ๆ นี่ห้องสว่างจนนึกว่ามีงานวัดจัดอยู่ข้างบ้านประมาณนั้นเลย ผมก็คิดในใจว่าเออ...หรือว่ามันจะเกี่ยวกับระบบความคมชัดของภาพที่เดี๋ยวนี้เขาเปลี่ยนเป็น HD มันก็เลยต้องจัดไฟเพื่อให้ภาพออกมาชัดที่สุด แต่แหมมันสว่างจริง ๆ เราย้อนมาดูว่าทำไมคนสมัยก่อนถึงกลัวและเชื่อเรื่องผีมากกว่าปัจจุบัน ก็เพราะสมัยก่อนมันมืดไง มันวังเวง ความมืดมันทำให้มนุษย์คาดเดาได้ยากว่าสิ่งที่อยู่รอบข้างคืออะไร เมื่อคาดเดาไม่ได้ก็เกิดความกลัว แต่ถ้าเล่นไฟสว่างสาดจ้าซะขนาดนี้มันจะไปน่ากลัวตรงไหน ตรงนี้ถ้าแก้ไขได้ผมอยากให้แก้ไขจริง ๆ แต่อย่างเรื่องทายาทอสูรของค่ายกันตนาช่อง 3 นะครับ ถึงโทนภาพจะออกมืดจริง แต่มันเป็นมืดที่ไม่เย็นอ่ะ เป็นมืดที่ดูไม่ธรรมชาติ แต่เรื่องนี้คือผมเข้าใจว่าผู้สร้างต้องการแสดงเหตุผลของความเป็นไปของคุณยายมากกว่าจะโชว์แต่อิทธิฤทธิ์คุณยาย ผมว่าภาพมืด ๆ โทนเย็น ๆ เหมือนละครยุค 40 อ่ะน่ากลัวสุดแล้ว ถ้าแก้ได้ก็จะดีมากเลย แต่ก่อนจำได้ว่าเรื่องเปรตวัดสุทัศน์นี่ผมติดนะแต่ผีมาผมก็ยังฝืนดู เอาหมอนปิดนิดหน่อยแต่ไม่ยอมเปลี่ยนช่องเพราะอยากดูจริง ๆ  อ่อ...มืดแบบเดอะ คอนเจอริ่งอ่ะครับ หลอนดีเหมือนกัน ถ้าทำได้นี่เริ่ดเลย

            และสุดท้ายคือเรื่องของเอฟเฟกต์แต่งหน้า เอาจริงผีน่ากลัวไม่จำเป็นต้องปากฉีกตาแหกอะไรมากมาย แต่ควรรักษาความเป็นธรรมชาติไว้ ให้คนดูรู้สึกว่านี่คือผีจริง ๆ อย่างที่กล่าวไปข้างต้น อย่างเรื่องจันทร์เอ๋ยจันทร์เจ้าไม่ต้องอะไรมาก หน้าขาว ๆ ตาขาวทั้งลูก ฟันดำแล้วยิ้มกว้าง ๆ แค่นี้ผมก็กลัวแล้ว คุณนายลั่นทม เวอร์ชั่นคุณสิเรียมงี้ ละครเรื่องคนตาทิพย์ ที่คุณติ๊ก กลิ่นสี เล่นอันนั้นผมก็ว่าน่ากลัว คือไม่ต้องอะไรมากมายแต่ทำให้รู้สึกว่าสมจริง และมีความเป็นเอกลักษณ์ของตัวเองก็ปังแล้ว อย่างอีแพง เจ้าสีเกด อีเม้ย ผีเหล่านี้ที่ดังได้เพราะมันมีเอกลักษณ์ชัดเจน ไม่ได้น่ากลัวไรมากหรอก (ในละครอ่ะนะ) แต่ต้องขอบอกในใจก่อนว่าผมชอบผีอีแพงมากที่สุดนะ555 แฟนคลับเจ้าสีเกดกะอีเม้ยอย่าว่ากัน แต่อย่างเจ้าแม่ทอหูกในเรื่องภูติแม่น้ำโขง ผมขอติงนิดนึงคืออันนั้นมันก็ธรรมดาไป (คุณนายลั่นทมเวอร์ชั่นคุณยุ้ยก็ดูเรียบ ๆ ไปหน่อย เห็นแต่เอ๊ฟเฟกต์คอม) อีกทั้งยังไม่ค่อยมีความสมจริง เป็นเพียงแผ่นหนังแป๊ะหน้าและขีดเส้นเลือด นอกนั้นก็เป็นผิวแก้มเนียน ๆ ของคุณเอมมี่ มรกต คือนักแสดงเขาสวยอยู่แล้วอ่ะ แล้วให้เขามาเล่นเป็นผี อันนี้แต่งหน้าแบบความสวยยังไม่ทันหายเลยจะเอาอะไรมาน่ากลัวล่ะครับ อย่างนั้นผมว่าแต่งค่อนข้างพลาดนะ ยังสู้อีหยดอีหยาดไม่ได้เลย นั่งเคี้ยวหมากบนต้นไม้ก็น่ากลัวแล้ว และอีกอย่างหนึ่งคือชีวิตจริงผีไม่ได้มีอิทธิฤทธิ์ถึงขนาดปล่อยไฟใส่แสงเลเซอร์อะไรมากมาย อย่าใส่เอ๊ฟเฟกให้ผีแสดงพลังอะไรมากมายเลยครับ มันจะเป็นอมนุษย์ไปซะ มันดูตลกนะผมว่า55555 ถ้าจะเน้นนะไปเน้นที่ซาวด์เอ๊ฟเฟกต์เถอะ อันนั้นน่ะสำคัญจริง บิ๊วอารมณ์คนดูได้มากเลยแหละ

         สิ่งที่กล่าวมานี้อย่าหาว่าผมอวดรู้เลย ผมเพียงแต่มองว่าจุดเหล่านี้เป็นจุดที่ผิดพลาดเพียงนิดเดียวแต่มันทำให้ละครขาดความอร่อย ขาดความน่ากลัว ละครผีมันควรน่ากลัวเป็นหลักนะ เหมือนอาหารมันจะมีรสชาติหลักของมันอยู่ แล้วค่อยมีรสอื่นเสริม เพียงแต่ละครผียุคปัจจุบันเน้นแสดงเหตุผลของเรื่องราวมากขึ้นอันนี้ผมชื่นชมมากว่าเป็นพัฒนาการ แต่ความน่ากลัวก็ควรพัฒนาตามไปด้วย ไม่ใช่ว่าทำยังไงก็ทำอย่างเดิมหรือร้ายกว่านั้นคือน่ากลัวน้อยกว่าเดิมซะอีก แน่นอนครับว่าผมยังไม่สามารถสร้างหนังหรือละครผีที่น่ากลัวขนาดนั้นได้ ผมจึงพิมพ์กระทู้นี้เพื่อหวังว่าจะมีผู้จัดมาเห็นและเอาไปพิจารณา ผมเชื่อว่าหลาย ๆ ท่านก็รู้ข้อผิดพลาดเหล่านี้ แต่ผมไม่รู้ว่าท่านมีเหตุผลอะไรที่ไม่สามารถแก้ไขได้ ยังไงก็ตาม ผมขอฝากละครผีของไทยไว้ด้วยนะครับ หวังว่าละครผีของไทยจะกลับมาบูมได้ซะใจถึงพริกถึงเครื่องเหมือนในอดีตอย่างแท้จริง อย่าเป็นแต่กระแสแค่ตัวผีแต่เรื่องราวไม่น่าติดตามเลย ผมเอาใจช่วยครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่