ผมเป็นคนไม่มีศาสนาที่มีความสุข :)

ขอออกตัวก่อนว่า ผมเป็นคนที่ไม่เชื่อในศาสนาไหนเลย แต่ผมเคารพสิทธิที่จะเชื่อของคนอื่นนะครับ

ความสุขที่ผมมีจากการที่ ไม่เชื่อในสวรรค์ หรือ นรก คือ ผมรักในชีวิตมาก ผมรู้สึกถึง เสนห์ของทุกเรื่องที่เข้ามาไม่ว่าจะเป็นเรื่องดี หรือ เรื่องร้าย ผมเปิดรับทุกอย่างที่ชีวิตมีให้กับผม ไม่ว่าจะเป็น อาหาร การเดินทาง SEX  การงาน ยาเสพติด (แค่ลองนะครับตอนนี้ ทุกวันนี้เหล้าผมก็แทบจะไม่ใด้กิน)  ความสุข ความทุกข์  ความเปลี่ยนแปลง การพบพา การลาจาก ทุกอย่างมันมีเสนห์จริงๆ กับผม

ผมใช้ Golden Rule คือ ผมจะปฎิบัติกับผู้อื่นแบบที่ผมอยากให้ผู้อื่นปฎิบัติกับผม ส่วนที่ผมช่วยใครไปมันก็แค่ความรู้สึกอยากช่วย ไม่ใด้ทำไปเพื่อหวังอะไรหลังความตาย ส่วนมากก็จะบริจาคให้กับการศึกษาหรือสิ่งแวดล้อม ผมจะคิดว่าจะทำยังไงให้เงินที่บริจาคเกิดผลกระทบสูงสุด

ผมมองว่าคนเราก็คือลิงที่ฉลาดแค่นั้นเอง ไม่ใด้มองว่าเราเป็นสิ่งมีชีวิตที่ยิ่งใหญ่อะไรเลย เราเทียบไม่ใด้เลยกับความยิ่งใหญ่ของธรรมชาติ ยังมีปริศนาอีกเยอะที่เรายังไม่รู้ ส่วนตัวผมไม่ชอบพวกที่แอบอ้างแล้วหลอกคนไปเสียตังค์หรือสติหรือชีวิต  แต่ก็อย่างว่าละเรามันก็แค่ลิง การที่เราชอบรวมกลุ่มแล้วคิดเหมือนกันมันมีอยู่ใน Gene เรามาตั้งนานแล้ว ถ้าอ่านกระทู้แล้วรู้สึกหงุดหงิดเพราะมันแย้งกับสิ่งที่ท่านเชื่อมันเกิดจากGene นี้ละครับ

ถ้าเพื่อนมีโอกาสลองเอาตัวเองออกจากความเชื่อ ดูบ้างนะครับ ไม่ทําก็ไม่ว่าครับ

ขอเสริมนิดนึงเห็นPost พระไตรปิฎกกันเยอะใน Comment

ผมมองว่าหนังสือศาสนา เป็นสมบัติทางวัฒนธรรมของคน แต่เราไม่น่าจะยึดติดมันทางคุณธรรมเพราะโครงสร้างทางสังคมปัจุบันมันต่างกับแต่ก่อนมาก และในหลายกรณี มันไม่ใด้ถูกเขียนขึ้น จากศาสดาโดยตรง ยกตัวอย่าง พระไตรปิฎก ถูกเขียนขึ้นหลายร้อยปีหลังพระพุทธเจ้า ว่ากันตรงๆ มันโดยเขียนขึ้นโดยชนชั้นปกครอง หลักการกรรมเก่าทําให้ สังคมที่มีความเลื่อมลํมมาก ปกครองง่ายขึ้น การอ้างคําพูดในนั้นจึงไม่ใด้มีผลทางตรรกะเท่าใหร่

ตัวผมเรียนที่อังกฤษ ในช่วง High School (GCSE) ผมเลือกเรียน Religion Studies เค้าจะสอนว่าแต่ละศาสนา เกิดขึ้นและมีผลกระทบต่อสังคมและวัฒนธรรมของคนอย่างไร การที่เพื่อน Post รายละเอียดใน พระไตรปิฎก มันไม่ใด้ช่วยอะไรเลยนะครับ

ขอเสริมนิดนิงผมไม่ใด้มองว่าการเป็นสัตว์นั้นผิดเลย สิ่งมีชีวิตทุกอย่างในดาวดวงนี้ล้วนเกิดจากการวิวัฒนการมาจากสัตว์ Cell เดืยวทั้งนั้น ปัญหาในหลายครั้งมันเกิดจากที่ คนเราลืมแล้วยกตนข่มท่านว่าเรายิ่งใหญ่ ผมขอถามว่าแบคทีเลียที่ช่วยย่อยสลายศากศพให้กลายเป็นปุ๋ยให้กับต้นไม้นั้นมันตํ่าต้อย หรือแค่มีหน้าที่แตกต่าง

หลักการปรัชญาความดีของคนนั้นมันใช้ไม่ใด้กับสิ่งมีชีวิตอย่างอื่น ยกตัวอย่างหอยทากต้องทําอย่างไรในการเป็นหอยทากที่ดี

การไม่มีศาสนาของผมคือมองที่มันเป็นอยู่จริง ไม่ใด้มองผ่านความเชื่อครับ

ส่วนคนที่ถามผมว่างานศพผมจะเป็นอย่างไร ก็คงให้ครอบครัว คนสนิท มานั่งกินข้าวกันในร้านอาหารบรรยกาศดีๆ โดยผมจะเตรียม VDO สั่งเสียไว้คงพูดประมาณ ขอให้เห็นคุณค่าของการพบเจอและลาจาก เสร็จก็เปิดเพลงใน Playlist โปรดของผมให้ฟัง แล้วก็มีกล่องบริจาคของมูลนิธิหลายๆ อัน ให้แขกเลือก จะไม่บริจาคก็ไม่ว่า ส่วนศพก็คงให้ฝังดินแบบไม่มีโรงแล้วให้ปลูกต้นไม้ไว้ด้านบน ต่าใช้จ่ายในงานผมเตรียมไว้แล้ว นี้คือการเลี้ยงข้าวครั้งสุดท้าย

เท่าที่อ่าน Comment มีการยัดเยียดหลักธรรมกันเยอะ นี้ไม่ใช้เรื่องแปลกนะครับ เพราะในหลายๆครั้งความเชื่อทางศาสนา มันถูกส่งต่อกันทางครอบครับและสังคมรอบข้าง ผมไม่โกรธนะครับ แต่ลองคิดดูถ้าคุณเอาความยัดเยียดนี้ไปให้กับคนที่นับถือ ศาสนาอื่น อันนี้มีเรื่องขัดแย้งกันใด้ง่ายเลยนะครับ

ขอตอบเรื่อง พ่อ แม่ ใน Comment ผมก็ดูแลแต่ผมไม่บูชาครับ พาไปหาหมอ กินข้าวเหมือนคนทั่วไปแหละครับ แต่ผมจะไม่ทําตามคําสั่งโดยไม่มีเหตุผล แค่นั้นเองครับ