นักประวัติศาสตร์กับนักสะสมปืนมักชื่นชอบเรื่องราวและอาวุธ
ที่มีการใช้ในการรบกันอย่างกว้างขวางในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1
แม้ว่าจะมีพัฒนาการด้านเทคโลยีหลายด้านแล้วก็ตามหลังจากนั้นเป็นต้นมา
เช่น การสื่อสารทางวิทยุ รถถัง เครื่องบิน เรือดำน้ำ ฯลฯ
แต่อาวุธปืนที่ยังคงไว้ใจได้ถึงรูปร่าง/กลไกประสิทธิภาพในการใช้งาน
แม้ว่าจะมีการพัฒนาดัดแปลงในภายหลัง
แต่ยังคงเอกลักษณ์เดิมไว้มากที่สุด
ยังคงมีประจำกองทัพหลายแห่งจนทุกวันนี้
เพราะความโดดเด่นในเรื่องด้านการยิงและบรรจุกระสุนได้รวดเร็วกว่า
1. M1911
นี่จัดว่าเป็นลำดับแรกในรายการที่มีอายุการใช้งานยืนยาวกว่า
รถยนต์ที่เคยผลิตกันในปี 1911 ที่แทบจะไม่เห็นวิ่งกันในท้องถนนเลยในทุกวันนี้
ปืนกระบอกนี่ไม่มีใครปฏิเสธได้เลยว่าต้องยกย่องให้เกียรติกับ John Browning
สำหรับคนรักและชื่นชอบอาวุธปืนที่แทบไม่มีการพัฒนาเปลี่ยนแปลงรูปแบบ/กลไกเลยมากว่า 100 ปีแล้ว
แต่ยังคงความอมตะและมีการใช้งานกันอยู่อย่างแพร่หลายในสหรัฐอเมริกา
ในกองทัพบก หน่วยนาวิกโยธิน หน่วยปฏิบัติการพิเศษ และอีกหลายหน่วยงาน
ทั้งยังคงใช้งานในกองทัพอากาศเกาหลีใต้ และอีกหลายประเทศ
 
An US Marine fires the M1911 during an exercise in 2013
2. Lee-Enfield
ปืนยาวไรเฟิลลูกเลื่อนพร้อมแหนบกระสุนเริ่มมีการใช้งานในปี 1895
บรรจุกระสุนได้เต็มที่พร้อมใช้งานจำนวน 10 นัด (พร้อมแหนบ)
Lee-Enfield มีการใช้งานในพื้นที่สู้รบหลายแห่งมากในศตวรรษที่ 20
ทุกวันนี้ตำรวจในปากีสถาน บังคลาเทศ ยังคงใช้เป็นอาวุธประจำกาย
นอกจากนี้หลายประเทศในเครือจักรภพอังกฤษก็ยังคงใช้เป็นอาวุธประจำหน่วย
แม้กระทั่งเมื่อเร็ว ๆ นี้ หน่วยทหารจู่โจมของแคนนาดายังใช้เป็นอาวุธเริ่มต้นฝึกหัดการรบ
 
A Canadian rifleman with a Lee-Enfield during the Battle of Ortona in 1943
3. Mosin-Nagant
Mosin-Nagant กับ Lee-Enfield น่าจะเป็นปืนยาวไรเฟิลลูกเลื่อน
ที่เก่าแก่มากที่สุดที่ใช้งานกันจนมาถึงทุกวันนี้
ปืนยาวไรเฟิลรุ่นนี้มีการผลิตครั้งแรกในปี 1891
บรรจุกระสุนได้เต็มที่พร้อมใช้งานจำนวน 5 นัด (พร้อมแหนบ)
ความทนทาน/ง่ายและเชื่อถือได้กับประสิทธิภาพของมัน
ทำให้มีการผลิตขึ้นมาใช้งานกันมากที่สุดเลยทีเดียวในประวัติศาสตร์
คาดว่ามีปืนรุ่นนี้มีการผลิตขึ้นมาใช่งานมากกว่า 37 ล้านกระบอกทั่วโลก
ปืน Mosin-Nagant กับรุ่นต่อ ๆ มามีการใช้งานกันอย่างแพร่หลาย
ทั้งมือใหม่ที่หัดยิงปืนยาวไรเฟืลกับนักสะสมปืนที่มีประวัติศาสตร์มายาวนาน
ทุกวันนี้ยังมีการใช้งานใน Bulgaria’s 101st Alpine Battalion
หน่วยงานย่อยใน รัสเซีย และในพิธีสวนสนามของกองทัพบราซิลกับโปแลนด์ 
 
 
A modern sniper rifle based on the Mosin-Nagant, as displayed by Finnish Defence Forces in 2013
4. Nagant M1895
ปืนพกลูกโม่พร้อมกระสุน 7 นัดในกระบอกออกแบบและผลิตโดย Leon Nagant ในปี 1895
หลังจากที่ผลิตปืนยาวไรเฟิลลูกเลื่อน Mosin-Nagant เพียงไม่กี่ปี
ปืนพกรุ่นนี้เป็นที่ยอมรับกันในประสิทธิภาพกับประสิทธิผลในการใช้งาน
Nagant M1895 เป็นปืนพกประจำกายของทหารและตำรวจสหภาพโซเวียตรัสเซีย
และทุกวันนี้ยังมีการใช้งานในกองทัพซีเรีย และตำรวจรถไฟของยูเครน 
5. M1903 Springfield
 
 
M1 Garand rifle. From the collections of the Swedish Army Museum, Stockholm, Sweden.
ปืนเล็กยาวบรรจุเองแบบ 88 (ปลย.88 หรือ ปลยบ.88) 
ปืนยาวไรเฟิลรุ่นมาตรฐานของกองทัพบกสหรัฐ
ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 จนถึงสงครามโลกครั้งที่ 2
บรรจุกระสุนพร้อมยิงในแหนบกระสุนได้ 5  นัด
เป็นต้นตระกูลของ M1 Garand แบบกึ่งอัตโนมัติ
ที่บรรจุได้ 8 นัดที่ผลิตภายหลังในปี 1937
แต่ยังผลิตไม่ทันใช้ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2
M1 Garand แบบนี้ยังมีการใช้งานกันมาอย่างต่อเนื่องถึงปัจจุบัน
M1903 Springfield ยังคงเอกลักษณ์กลไกและรูปแบบตั้งแต่ปี 1903
เป็นปืนยาวไรเฟิลที่นิยมกันมากในพวกพรานล่าสัตว์
เพราะประสิทธิภาพของกระสุนขนาด .30-06 Springfield
บรรจุกระสุนได้เต็มที่พร้อมใช้งานจำนวน 5 นัด (พร้อมแหนบ)
ผู้ใช้งานที่รู้จักกันมากที่สุดคือ Ernest Hemingway 
ผู้ใช้ปืน M1903 รุ่นนี้ตอนเดินทางไปล่าสัตว์ใน Africa
ทุกวันนี้ยังคงมีการใช้งานกันในกองทัพสหรัฐอเมริกาและหน่วยงานหลายแห่ง
The US Army Drill Team ให้รางวัลปืนยาวไรเฟิล Springfield 
ในเรื่องความสมดุลและสีของด้ามปืนที่สะดุดตาและโดดเด่น
 
US Marines equipped with the M1903 Springfield in Italy during WWI
ภาพเมื่อหนึ่งร้อยปีก่อน คนงานกำลังทำงานอย่างเร่งรีบ
ใน Winchester Repeating Arms Company ที่ New Haven รัฐ Connecticut
หลังจากที่ปืนยาวไรเฟิลรุ่นพิชิตตะวันตก  
Gun that Won the West Winchester Model 1873
มีภาระกิจหลักคือใช้ในการรบช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1
สภาพภายในโรงงานที่แขวนภาพสาวงามและปฏิทิน
กำลังทดสอบและตรวจสอบสภาพปืนแต่ละกระบอก
เพราะมีความต้องการอย่างมากจนผลิตแทบไม่ทันเลยทีเดียว
เฉพาะในปี 1915 กองทัพอังกฤษสั่งซื้อถึง 250,000 กระบอก
และกองทัพรัสเซียก็สั่งซื้อถึง 300,000 กระบอกเข่นกัน
หลังจากเดือนเมษายน 1917
กองทัพสหรัฐอเมริกาได้เข้าร่วมรบในภาคพื้นยุโรป
ยิ่งทำให้ปืนยาวไรเฟิลรุ่น Model 1917 Enfield  
 
M1917 Enfield rifle from the collections of Armémuseum, Stockholm, Sweden
มีการใช้งานกันอย่างแพร่หลายมาก
คาดว่าคนงานในโรงงานแห่งนี้บางคน
อาจจะได้ทดสอบปืนยาวไรเฟิลในสนามรบจริงก็เป็นไปได้
เรียบเรียง/ที่มา
http://on.natgeo.com/2af0C2C
 
แหนบกระสุนปืนเล็กยาวบรรจุเองแบบ 88
 
จากซ้ายไปขวา  9.3×62mm Mauser, .30-06 Springfield, 7.92×57mm Mauser, 6.5×55mm และ .308 Winchester
 
จากซ้ายไปขวา  .50 BMG, 300 Win Mag, .308 Winchester, 7.62×39mm, 5.56×45mm NATO, .22 Long Rifle
 
แรงปะทะ/ความเร็วของกระสุนแต่ละประเภท
 
 M 1
 
Lee-Enfield
 																																	  
							 
						
ปืน 5 แบบที่ใช้กันมาตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 1
นักประวัติศาสตร์กับนักสะสมปืนมักชื่นชอบเรื่องราวและอาวุธ
ที่มีการใช้ในการรบกันอย่างกว้างขวางในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1
แม้ว่าจะมีพัฒนาการด้านเทคโลยีหลายด้านแล้วก็ตามหลังจากนั้นเป็นต้นมา
เช่น การสื่อสารทางวิทยุ รถถัง เครื่องบิน เรือดำน้ำ ฯลฯ
แต่อาวุธปืนที่ยังคงไว้ใจได้ถึงรูปร่าง/กลไกประสิทธิภาพในการใช้งาน
แม้ว่าจะมีการพัฒนาดัดแปลงในภายหลัง
แต่ยังคงเอกลักษณ์เดิมไว้มากที่สุด
ยังคงมีประจำกองทัพหลายแห่งจนทุกวันนี้
เพราะความโดดเด่นในเรื่องด้านการยิงและบรรจุกระสุนได้รวดเร็วกว่า
1. M1911
นี่จัดว่าเป็นลำดับแรกในรายการที่มีอายุการใช้งานยืนยาวกว่า
รถยนต์ที่เคยผลิตกันในปี 1911 ที่แทบจะไม่เห็นวิ่งกันในท้องถนนเลยในทุกวันนี้
ปืนกระบอกนี่ไม่มีใครปฏิเสธได้เลยว่าต้องยกย่องให้เกียรติกับ John Browning
สำหรับคนรักและชื่นชอบอาวุธปืนที่แทบไม่มีการพัฒนาเปลี่ยนแปลงรูปแบบ/กลไกเลยมากว่า 100 ปีแล้ว
แต่ยังคงความอมตะและมีการใช้งานกันอยู่อย่างแพร่หลายในสหรัฐอเมริกา
ในกองทัพบก หน่วยนาวิกโยธิน หน่วยปฏิบัติการพิเศษ และอีกหลายหน่วยงาน
ทั้งยังคงใช้งานในกองทัพอากาศเกาหลีใต้ และอีกหลายประเทศ
An US Marine fires the M1911 during an exercise in 2013
2. Lee-Enfield
ปืนยาวไรเฟิลลูกเลื่อนพร้อมแหนบกระสุนเริ่มมีการใช้งานในปี 1895
บรรจุกระสุนได้เต็มที่พร้อมใช้งานจำนวน 10 นัด (พร้อมแหนบ)
Lee-Enfield มีการใช้งานในพื้นที่สู้รบหลายแห่งมากในศตวรรษที่ 20
ทุกวันนี้ตำรวจในปากีสถาน บังคลาเทศ ยังคงใช้เป็นอาวุธประจำกาย
นอกจากนี้หลายประเทศในเครือจักรภพอังกฤษก็ยังคงใช้เป็นอาวุธประจำหน่วย
แม้กระทั่งเมื่อเร็ว ๆ นี้ หน่วยทหารจู่โจมของแคนนาดายังใช้เป็นอาวุธเริ่มต้นฝึกหัดการรบ
A Canadian rifleman with a Lee-Enfield during the Battle of Ortona in 1943
3. Mosin-Nagant
Mosin-Nagant กับ Lee-Enfield น่าจะเป็นปืนยาวไรเฟิลลูกเลื่อน
ที่เก่าแก่มากที่สุดที่ใช้งานกันจนมาถึงทุกวันนี้
ปืนยาวไรเฟิลรุ่นนี้มีการผลิตครั้งแรกในปี 1891
บรรจุกระสุนได้เต็มที่พร้อมใช้งานจำนวน 5 นัด (พร้อมแหนบ)
ความทนทาน/ง่ายและเชื่อถือได้กับประสิทธิภาพของมัน
ทำให้มีการผลิตขึ้นมาใช้งานกันมากที่สุดเลยทีเดียวในประวัติศาสตร์
คาดว่ามีปืนรุ่นนี้มีการผลิตขึ้นมาใช่งานมากกว่า 37 ล้านกระบอกทั่วโลก
ปืน Mosin-Nagant กับรุ่นต่อ ๆ มามีการใช้งานกันอย่างแพร่หลาย
ทั้งมือใหม่ที่หัดยิงปืนยาวไรเฟืลกับนักสะสมปืนที่มีประวัติศาสตร์มายาวนาน
ทุกวันนี้ยังมีการใช้งานใน Bulgaria’s 101st Alpine Battalion
หน่วยงานย่อยใน รัสเซีย และในพิธีสวนสนามของกองทัพบราซิลกับโปแลนด์
A modern sniper rifle based on the Mosin-Nagant, as displayed by Finnish Defence Forces in 2013
4. Nagant M1895
ปืนพกลูกโม่พร้อมกระสุน 7 นัดในกระบอกออกแบบและผลิตโดย Leon Nagant ในปี 1895
หลังจากที่ผลิตปืนยาวไรเฟิลลูกเลื่อน Mosin-Nagant เพียงไม่กี่ปี
ปืนพกรุ่นนี้เป็นที่ยอมรับกันในประสิทธิภาพกับประสิทธิผลในการใช้งาน
Nagant M1895 เป็นปืนพกประจำกายของทหารและตำรวจสหภาพโซเวียตรัสเซีย
และทุกวันนี้ยังมีการใช้งานในกองทัพซีเรีย และตำรวจรถไฟของยูเครน
5. M1903 Springfield
M1 Garand rifle. From the collections of the Swedish Army Museum, Stockholm, Sweden.
ปืนเล็กยาวบรรจุเองแบบ 88 (ปลย.88 หรือ ปลยบ.88)
ปืนยาวไรเฟิลรุ่นมาตรฐานของกองทัพบกสหรัฐ
ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 จนถึงสงครามโลกครั้งที่ 2
บรรจุกระสุนพร้อมยิงในแหนบกระสุนได้ 5 นัด
เป็นต้นตระกูลของ M1 Garand แบบกึ่งอัตโนมัติ
ที่บรรจุได้ 8 นัดที่ผลิตภายหลังในปี 1937
แต่ยังผลิตไม่ทันใช้ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2
M1 Garand แบบนี้ยังมีการใช้งานกันมาอย่างต่อเนื่องถึงปัจจุบัน
M1903 Springfield ยังคงเอกลักษณ์กลไกและรูปแบบตั้งแต่ปี 1903
เป็นปืนยาวไรเฟิลที่นิยมกันมากในพวกพรานล่าสัตว์
เพราะประสิทธิภาพของกระสุนขนาด .30-06 Springfield
บรรจุกระสุนได้เต็มที่พร้อมใช้งานจำนวน 5 นัด (พร้อมแหนบ)
ผู้ใช้งานที่รู้จักกันมากที่สุดคือ Ernest Hemingway
ผู้ใช้ปืน M1903 รุ่นนี้ตอนเดินทางไปล่าสัตว์ใน Africa
ทุกวันนี้ยังคงมีการใช้งานกันในกองทัพสหรัฐอเมริกาและหน่วยงานหลายแห่ง
The US Army Drill Team ให้รางวัลปืนยาวไรเฟิล Springfield
ในเรื่องความสมดุลและสีของด้ามปืนที่สะดุดตาและโดดเด่น
US Marines equipped with the M1903 Springfield in Italy during WWI
เรียบเรียง/ที่มา
http://bit.ly/1iMQyO7
ภาพเมื่อหนึ่งร้อยปีก่อน คนงานกำลังทำงานอย่างเร่งรีบ
ใน Winchester Repeating Arms Company ที่ New Haven รัฐ Connecticut
หลังจากที่ปืนยาวไรเฟิลรุ่นพิชิตตะวันตก
Gun that Won the West Winchester Model 1873
มีภาระกิจหลักคือใช้ในการรบช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1
สภาพภายในโรงงานที่แขวนภาพสาวงามและปฏิทิน
กำลังทดสอบและตรวจสอบสภาพปืนแต่ละกระบอก
เพราะมีความต้องการอย่างมากจนผลิตแทบไม่ทันเลยทีเดียว
เฉพาะในปี 1915 กองทัพอังกฤษสั่งซื้อถึง 250,000 กระบอก
และกองทัพรัสเซียก็สั่งซื้อถึง 300,000 กระบอกเข่นกัน
หลังจากเดือนเมษายน 1917
กองทัพสหรัฐอเมริกาได้เข้าร่วมรบในภาคพื้นยุโรป
ยิ่งทำให้ปืนยาวไรเฟิลรุ่น Model 1917 Enfield
M1917 Enfield rifle from the collections of Armémuseum, Stockholm, Sweden
มีการใช้งานกันอย่างแพร่หลายมาก
คาดว่าคนงานในโรงงานแห่งนี้บางคน
อาจจะได้ทดสอบปืนยาวไรเฟิลในสนามรบจริงก็เป็นไปได้
http://bit.ly/2atyryx
เรียบเรียง/ที่มา
http://on.natgeo.com/2af0C2C
แหนบกระสุนปืนเล็กยาวบรรจุเองแบบ 88
จากซ้ายไปขวา 9.3×62mm Mauser, .30-06 Springfield, 7.92×57mm Mauser, 6.5×55mm และ .308 Winchester
จากซ้ายไปขวา .50 BMG, 300 Win Mag, .308 Winchester, 7.62×39mm, 5.56×45mm NATO, .22 Long Rifle
แรงปะทะ/ความเร็วของกระสุนแต่ละประเภท
M 1
Lee-Enfield