สวัสดีคะเราเป็นหนึ่งคนในนั้นที่มีลูกตอนยังไม่พร้อม แต่ถ้าถามว่าเคยคิดจะเอาเขาออกไหม “เคยคิด” คะ เพราะตอนนั้นเราก็ยังเรียนอยู่ หน้าที่การงานก็ไม่มี ยังไม่มีอะไรที่ดีพร้อมทุกอย่างก่อนที่เขาจะเกิดเลย คือง่ายๆอยากให้เขาเกิดมาไม่ต้องลำบากอยากให้เขาสบาย มีทุกอย่างโดยไม่ต้องอายใคร ปล. แต่เราก็ไม่ได้ทำแท้งคะยังอุ้มท้องและยังเลี้ยงดูเขามาแต่เลิกกับพ่อของเด็กแล้ว ตอนนี้เด็กประมาณ 6 ขวบแล้วคะ (อาจจะเล่าผิดๆถูกๆบ้างยังไงก็ขออภัยด้วย เพราะเป็นกระทู้แรกคะ )
เริ่มเรื่องกันคะ…. เรามีเพื่อนอยู่คนนึง(นามสมมุติ) ว่า อาย ละกัน อายเป็นคนที่เรียนดีอยู่ในระดับหนึ่ง มีพ่อแม่รับราชการ และมีแฟนตอนเรียนมหาลัย ซึ่งเวลาอายมีแฟน อายจะติดแฟนมาก จะชอบถ่ายรูปลงโซเซียลอยู่บ่อยๆ อวดนู้นอวดนี้ (ประมาณว่า ชีวิตดี๊ดี) แต่ในทางกลับกันอายจะมีนิสัยที่แปลกๆคือ ชอบทำให้แฟนตัวเองหึง คืออายจะเล่นเฟสบุ๊คประมาณ 2-3 อัน แต่เป็น เฟสบุ๊คปลอม ใช้เป็นรูปผู้ชายหล่อๆ และจะมีเฟสบุ๊คที่เป็นรูป ผู้หญิงสวยๆ ที่มโนว่าเป็นเพื่อนตัวเองหรือมโนเอาไปคุยกับแฟนตัวเอง เพื่อที่จะลองใจ อายมีแฟนชื่อบอส (นามสมมุติ) อายกับบอส คบกันมาประมาณ 2 ปี มั้ง (ถ้าจำไม่ผิด) อายบอกเราว่าที่บ้านอายไม่ชอบบอส เพราะบ้านบอสมีฐานะยากจน (แต่ถ้าในความคิดเราบ้านอายก็ไม่ได้รวยอะไรขนาดนั้นแค่พอมีพอกิน) วันนึงอายบอกกับเพื่อนๆว่าอาย “ท้อง” ซึ่งตอนนั้นถ้าถามว่าเราตกใจไหม ตกใจคะ แต่เราก็พยายามปลอบใจอายว่า ไม่เป็นไร “ลูกก็คงคือหลานกูนะ ดูอย่างกูสิ ยังมีลูกตอนยังไม่พร้อมเหมือนกัน ก็ไม่ได้ลำบากอะไรขนาดนั้นเพราะพ่อแม่กูก็ช่วยค่าใช้จ่ายทุกอย่าง” ตอนนั้นเราก็คุยกับอายบ่อยๆขึ้นเพื่อไม่ให้อายคิดมากหรือเครียด แต่สุดท้ายแล้วอายก็บอกเราว่าอายไป “ทำแท้ง” ซึ่งจุดพีคที่สุดคือ ไม่ใช่การทำแท้งของอายครั้งนี้ แต่คือการที่พ่อกับแม่พาอายไปทำแท้งด้วย มีการเซ็นยินยอม เพราะอายยังอายุน้อย ยังไม่บรรลุนิติภาวะ อายบอกกับเราว่าลูกอายเป็นตัวแล้วไม่ได้เป็นวุ้น มีแขนมีขา มีน่าตา มีทุกอย่าง เพราะตอนนั้นอายท้องประมาณ 5 เดือน อายเล่าให้เราฟังละเอียดมากว่า คุณหมอฉีดยา คล้ายๆกับทำให้ครรภ์เป็นพิษ ให้เด็กในท้องตายเองละหมดลมหายใจเอง และก็ทำการคลอดลูก แบบปกติ (ซึ่งอันนี้เราไม่รู้วิธีการทำแท้งนะว่ายังไง) และอายก็บอกนอนพักฟื้นอยู่ประมาณ 2-3 วันก็สามารถใช้ชีวิตได้ปกติแล้ว เราก็แบบ “เอิ่มมม ไม่ได้อยากรู้” กูกลัว อะไรประมาณนี้ หลังจากอายไปทำแท้ง ผ่านมา 4-5 เดือน อายก็กลับมาบอกเราอีกว่า อายท้องอีก แต่ไม่ใช่กับบอส แต่เป็นผู้ชายอีกคน (ลืมบอกไป** พออายไปทำแท้งเสร็จอายกับบอสก็เลิกกัน อายบอกกับเราว่าพ่อแม่อายไม่ยอมรับบอส แล้วหลังจากนั้นบอสก็มีแฟนใหม่ แต่พอบอสมีแฟนใหม่อายก็ตามไปด่าแฟนใหม่ของบอส ซึ่งตอนนั้นด้วยความเป็นเพื่อนเราก็เข้าข้างอายคะ ไปด่าผู้หญิงคนนั้น (แฟนใหม่บอส) แต่จำไม่ได้แล้วว่าด่าหรือทะเลาะกันเรื่องอะไรกัน) ต่อคะ…. อายมาบอกกับเราว่าอายท้องและครั้งนี้จะให้ที่บ้านรู้ไม่ได้ อายเลยแอบไปทำแท้งคะ ซึ่งอายไม่ได้บอกว่าอายไปทำที่ไหน บอกแค่ว่าไปกับแฟน ซึ่งตอนนั้นเราก็เริ่มแบบ เอ๊ะ!! ทำไมไม่ป้องกันจะให้เกิดเรื่องแบบนี้อีกซักกี่รอบ แต่เราก็ไม่ได้ต่อว่าอายเพราะเราไม่อยากยุ่งอะไรมากกลัวบาปคะ เพราะรู้อยู่แล้วว่าถ้าห้ามอาย ยังไงอายก็ต้องทำแท้งอยู่ดี พอหลังจากที่อายทำแท้งรอบที่ 2 เราก็ยังคุยปกติเหมือนเดิมกับอายทุกอย่างคะ ยังไปไหนมาไหนกับอายแล้วพอหลังจากอายเลิกกับผู้ชายคนที่ 2 ไป อายก็เริ่มห่างๆกับเราคะ อาจจะไปเจอเพื่อนใหม่หรือสังคมใหม่ เพราะแฟนอายคนที่ 3 นี่ อายุมากกว่าอายคะ การงานดี ฐานะก็ดีระดับหนึ่ง อายเริ่มห่างเราไปเรื่อยๆ จนกระทั่งมีอยู่วันนึงคะ อายด่าเราให้เพื่อนฟังว่า “อีนี่มีลูกอย่างนั้น มีลูกอย่างงี้ ลูกมันไม่มีพ่อ เป็นแม่ม่าย หาผู้ชายดีๆ ไม่ได้หรอกชีวิตนี้ เรียนก็เกือบไม่จบที่บ้านไม่มีปัญญาส่งเสีย อีกหน่อยลูกมันก็แรดเหมือนแม่มัน” เราเจอคำพูดแบบนี้เราจุกเลยคะ เราแค่ งงว่าเราผิดหรอที่มีลูกตอนที่ยังไม่พร้อม ถึงเราไม่พร้อมเราก็ไม่เอาเขาออก เพราะเราทำไม่ลงหรอกคะ เพราะเขาคือเลือดเนื้อของเรา ผิดกับคนอีกคนที่ไปทำชั่วอะไรไว้บ้างไม่คิดที่จะมองย้อนดูตัวเอง กลับมาว่าเสียๆหายๆให้คนอื่นฟัง ชีวิตเธอดีแค่ไหนกันถึงมานินทาคนอื่น ทั้งที่ตัวเองก็ไม่ได้ดีไปกว่าคนอื่นเลย
แปลกจัง?? คนสมัยนี้ดูถูกคนมีลูก แต่เชิดชูคนทำแท้ง
เริ่มเรื่องกันคะ…. เรามีเพื่อนอยู่คนนึง(นามสมมุติ) ว่า อาย ละกัน อายเป็นคนที่เรียนดีอยู่ในระดับหนึ่ง มีพ่อแม่รับราชการ และมีแฟนตอนเรียนมหาลัย ซึ่งเวลาอายมีแฟน อายจะติดแฟนมาก จะชอบถ่ายรูปลงโซเซียลอยู่บ่อยๆ อวดนู้นอวดนี้ (ประมาณว่า ชีวิตดี๊ดี) แต่ในทางกลับกันอายจะมีนิสัยที่แปลกๆคือ ชอบทำให้แฟนตัวเองหึง คืออายจะเล่นเฟสบุ๊คประมาณ 2-3 อัน แต่เป็น เฟสบุ๊คปลอม ใช้เป็นรูปผู้ชายหล่อๆ และจะมีเฟสบุ๊คที่เป็นรูป ผู้หญิงสวยๆ ที่มโนว่าเป็นเพื่อนตัวเองหรือมโนเอาไปคุยกับแฟนตัวเอง เพื่อที่จะลองใจ อายมีแฟนชื่อบอส (นามสมมุติ) อายกับบอส คบกันมาประมาณ 2 ปี มั้ง (ถ้าจำไม่ผิด) อายบอกเราว่าที่บ้านอายไม่ชอบบอส เพราะบ้านบอสมีฐานะยากจน (แต่ถ้าในความคิดเราบ้านอายก็ไม่ได้รวยอะไรขนาดนั้นแค่พอมีพอกิน) วันนึงอายบอกกับเพื่อนๆว่าอาย “ท้อง” ซึ่งตอนนั้นถ้าถามว่าเราตกใจไหม ตกใจคะ แต่เราก็พยายามปลอบใจอายว่า ไม่เป็นไร “ลูกก็คงคือหลานกูนะ ดูอย่างกูสิ ยังมีลูกตอนยังไม่พร้อมเหมือนกัน ก็ไม่ได้ลำบากอะไรขนาดนั้นเพราะพ่อแม่กูก็ช่วยค่าใช้จ่ายทุกอย่าง” ตอนนั้นเราก็คุยกับอายบ่อยๆขึ้นเพื่อไม่ให้อายคิดมากหรือเครียด แต่สุดท้ายแล้วอายก็บอกเราว่าอายไป “ทำแท้ง” ซึ่งจุดพีคที่สุดคือ ไม่ใช่การทำแท้งของอายครั้งนี้ แต่คือการที่พ่อกับแม่พาอายไปทำแท้งด้วย มีการเซ็นยินยอม เพราะอายยังอายุน้อย ยังไม่บรรลุนิติภาวะ อายบอกกับเราว่าลูกอายเป็นตัวแล้วไม่ได้เป็นวุ้น มีแขนมีขา มีน่าตา มีทุกอย่าง เพราะตอนนั้นอายท้องประมาณ 5 เดือน อายเล่าให้เราฟังละเอียดมากว่า คุณหมอฉีดยา คล้ายๆกับทำให้ครรภ์เป็นพิษ ให้เด็กในท้องตายเองละหมดลมหายใจเอง และก็ทำการคลอดลูก แบบปกติ (ซึ่งอันนี้เราไม่รู้วิธีการทำแท้งนะว่ายังไง) และอายก็บอกนอนพักฟื้นอยู่ประมาณ 2-3 วันก็สามารถใช้ชีวิตได้ปกติแล้ว เราก็แบบ “เอิ่มมม ไม่ได้อยากรู้” กูกลัว อะไรประมาณนี้ หลังจากอายไปทำแท้ง ผ่านมา 4-5 เดือน อายก็กลับมาบอกเราอีกว่า อายท้องอีก แต่ไม่ใช่กับบอส แต่เป็นผู้ชายอีกคน (ลืมบอกไป** พออายไปทำแท้งเสร็จอายกับบอสก็เลิกกัน อายบอกกับเราว่าพ่อแม่อายไม่ยอมรับบอส แล้วหลังจากนั้นบอสก็มีแฟนใหม่ แต่พอบอสมีแฟนใหม่อายก็ตามไปด่าแฟนใหม่ของบอส ซึ่งตอนนั้นด้วยความเป็นเพื่อนเราก็เข้าข้างอายคะ ไปด่าผู้หญิงคนนั้น (แฟนใหม่บอส) แต่จำไม่ได้แล้วว่าด่าหรือทะเลาะกันเรื่องอะไรกัน) ต่อคะ…. อายมาบอกกับเราว่าอายท้องและครั้งนี้จะให้ที่บ้านรู้ไม่ได้ อายเลยแอบไปทำแท้งคะ ซึ่งอายไม่ได้บอกว่าอายไปทำที่ไหน บอกแค่ว่าไปกับแฟน ซึ่งตอนนั้นเราก็เริ่มแบบ เอ๊ะ!! ทำไมไม่ป้องกันจะให้เกิดเรื่องแบบนี้อีกซักกี่รอบ แต่เราก็ไม่ได้ต่อว่าอายเพราะเราไม่อยากยุ่งอะไรมากกลัวบาปคะ เพราะรู้อยู่แล้วว่าถ้าห้ามอาย ยังไงอายก็ต้องทำแท้งอยู่ดี พอหลังจากที่อายทำแท้งรอบที่ 2 เราก็ยังคุยปกติเหมือนเดิมกับอายทุกอย่างคะ ยังไปไหนมาไหนกับอายแล้วพอหลังจากอายเลิกกับผู้ชายคนที่ 2 ไป อายก็เริ่มห่างๆกับเราคะ อาจจะไปเจอเพื่อนใหม่หรือสังคมใหม่ เพราะแฟนอายคนที่ 3 นี่ อายุมากกว่าอายคะ การงานดี ฐานะก็ดีระดับหนึ่ง อายเริ่มห่างเราไปเรื่อยๆ จนกระทั่งมีอยู่วันนึงคะ อายด่าเราให้เพื่อนฟังว่า “อีนี่มีลูกอย่างนั้น มีลูกอย่างงี้ ลูกมันไม่มีพ่อ เป็นแม่ม่าย หาผู้ชายดีๆ ไม่ได้หรอกชีวิตนี้ เรียนก็เกือบไม่จบที่บ้านไม่มีปัญญาส่งเสีย อีกหน่อยลูกมันก็แรดเหมือนแม่มัน” เราเจอคำพูดแบบนี้เราจุกเลยคะ เราแค่ งงว่าเราผิดหรอที่มีลูกตอนที่ยังไม่พร้อม ถึงเราไม่พร้อมเราก็ไม่เอาเขาออก เพราะเราทำไม่ลงหรอกคะ เพราะเขาคือเลือดเนื้อของเรา ผิดกับคนอีกคนที่ไปทำชั่วอะไรไว้บ้างไม่คิดที่จะมองย้อนดูตัวเอง กลับมาว่าเสียๆหายๆให้คนอื่นฟัง ชีวิตเธอดีแค่ไหนกันถึงมานินทาคนอื่น ทั้งที่ตัวเองก็ไม่ได้ดีไปกว่าคนอื่นเลย