พอร์ท CASH Collateral
หรือพอร์ท T+3
หรือพอร์ทมีวงเงิน
มีข้อดีข้อเสียเป็นไง?
----
ต้องเกรินว่า
พอร์ทธรรมดา Cash balance
หรือที่โบรกผมเรียกว่า Prepaid
ก็คือ พอร์ทแบบโอนเงินมาก่อนเทรดนั้นเอง
สมมติโอนมา 100,000
คุณก็จะซื้อได้ใน 100,000 นี้เท่านั้น
เหมือนโทรศัพท์เติมเงินเลย
-------------
ข้อดีของ prepaid - cash balance มันคืออะไร
1. มันตรงไปตรงมา มันง่าย
2. คุณจะมองเห็นการกำไรขาดทุนได้ชัดเจนมาก
เช่น เริ่มต้น 100,000 บาท เล่นๆไปเหลือ 80,000 บาท
มันก็ชัดเจนเลยว่า คุณขาดทุน 20,000 บาท
หรือเล่นๆไป พอร์ททั้งหมดกลายเป็น 120,000 บาท
อ๋อคุณก็รู้เลยว่า คุณเก่งนะ กำไร 20,000 บาทแล้วเป็นต้น
3. บางโบรก ไม่มีค่าคอมมิชชั่น ขั่นต่ำ
เทรดหุ้น 1,000 บาทก็เสียคอมมิชชั่นตามจริง
4. ใช้ซื้อหุ้นได้ทุกตัว เช่น AJD ติด CASH BALANCE อยู่
คุณก็สามารถซื้อได้
5. มันจำกัดอำนาจซื้อของคุณ ช่วยคุณไม่ให้โลภได้
สมมติอย่างผมเนี่ย ชอบเห็นตัวนั้นตัวนี้เต็มไปหมด
แล้วพอร์ทก็มีวงเงิน (พอร์ท cash) ก็เคาะเข้าไป "ก็โดน ก็ขาดทุน"
----------
ในด้านของข้อเสียล่ะ
1. อีกด้านหนึ่งของอำนาจซื้อ
คุณไม่มีอำนาจซื้อ คุณจะเสียโอกาส
แม้จะรู้ว่า หุ้นตัวนี้ขึ้นชัวร์ๆ
เพราะคุณจะไม่มีส่วนร่วมได้ (ไม่สามารถ Net settlement ได้)
ก่อนอธิบายยาว ขอกำหนดก่อนว่า
คุณมีเงินในธนาคาร XXX 100,000 บาท
พอร์ท 0
พอร์ทมีวงเงิน 100,000 บาท
-----------
ยกตัวอย่างเช่น
คุณเริ่มต้น 100,000 บาท
และคุณซื้อ ADVANC ไว้แล้วเต็มพอร์ท 100,000 บาท
เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
พอดีวันนึง คุณว่างและกำลังนั่งดู ticker หุ้นเล่นๆ
ก็เห็น KBANK ไล่ซื้อใหญ่โดยพี่หรั่งหัวสี เป็น TOP value เบอร์ 1
186 ยก 187 ยก 188 ยก 189 ยก 190 ก็ยก....
ไม้ใหญ่ๆ ไม้แบบไม่ใช่เม่าซื้อแน่นอน
------
ตอนนี้คุณก็เกิดคำถามในใจตัวเองแล้วว่า
ครั้นคุณจะขาย Advanc มาเข้า kbank ก็กลัวจะเป็นหมู
---------
อีกใจหนึ่งก็คิด ถ้าซื้อ kbank แล้ว


ไม่ไปจริงๆ
(เคาะไฮ แบบรอกูคนเดียว พอเคาะแล้วลงทันทีเลย)
สุดท้าย คงต้องขาย/คัส kbank ทิ้ง แล้วมาถือ advanc ต่อ
---------
แล้วสรุปต้นทุนในพอร์ท advanc ก็เปลี่ยนไปอีก งงๆ จัง
สรุปกูต้นทุนเท่าไหร่แน่วะ
----------
ณ. สิ้นวัน kbank ก็ปิดไฮ 195 กราฟสวยงาม ฯลฯ
ก็มานั่งคิด ถ้ามีเงินเยอะๆคงดี ตลาดขึ้นแบบนี้ ซื้อห่าไรก็ขึ้นหมด
(ดูเพจหุ้นทุกเพจเทพหมดอะตอนนี้)
--------นี้คือ ข้อเสีย พอร์ท prepaid (แบบถ้าจะมองอะนะ) __________
****************************************************************
--------นั่นคือ ข้อดีของพอร์ท cash ข้อแรก-----
ที่เมื่อคุณมีวงเงินแล้ว
คุณสามารถ net settlement ได้
(net settlement = ซื้อขายภายในวัน ห่อกลับบ้านไม่ได้
หากซื้อขายได้กำไร รับส่วนต่าง ในวัน T+3
หากซื้อขายขาดทุน จ่ายส่วนต่าง ในวัน T+3
-------
เพราะฉะนั้น
หากคุณเล่น net แล้วมีกำไรส่วนต่าง อะรับเงิน T+3
ในบัญชีธนาคาร
หากคุณเล่น net แล้วขาดทุนส่วนต่าง อะหักเงิน T+3
ในบัญชีธนาคาร
(ศัพท์: T+3 = TRANSACTION + 3 วันทำการของตลาด)
เช่น พอร์ทนี้มีวงเงิน 100,000 บาท
คุณซื้อ advanc ไว้นานแล้ว จ่าย due อะไรเรียบร้อยหมด
(ศัพท์: Due คือ ยอดรับ หรือ ยอดจ่าย "สุทธิ" ในวันที่ T+3)
วงเงินคุณก็จะปรากฎที่ 100,000 บาท
คือ มีอำนาจซื้อได้ 100,000 บาทภายในวัน
--------
คราวนี้คุณเห็น kbank วิ่ง มั่นใจมาก ซัดไปเลย
500 หุ้น ที่ราคา 190 = 95,000 บาท
----------
ตอนนี้พอร์ทคุณก็จะมีหุ้นสองตัวละ
ตัวแรก advanc ที่คุณถืออยู่ 100,000 บาท
ตัวที่สอง kbank ที่คุณใช้วงเงินซื้อมา 95,000 บาท
รวมมูลค่าพอร์ทก็เกือบ 200,000
-----------
มาถึงตอนนี้ คุณก็รู้ในใจแล้วว่า
เงินในบัญชีธนาคารไม่มีแล้ว
เพราะเงินในธนาคารก็คือ advanc ในพอร์ทนั่นเอง
หากเอา kbank กลับบ้าน ในวัน T+3 ก็ต้องเป็นยอดจ่าย
ค่าซื้อ kbank 95,000 บาท
-----
สิ่งที่คุณทำได้คืออะไร
ก็คือ ซื้อ kbank ในวัน และก็ขาย kbank ในวันทิ้งไปซะ
เพราะหากเอากลับ ต้องจ่าย 95,000
ถ้าขายทิ้งแล้ว กำไร คุณก็รับส่วนต่าง
ถ้าขายทิ้งแล้ว ขาดทุน คุณก็จ่ายส่วนต่าง แค่นั้นเอง
-------------
อะตกเย็น คุณขาย kbank ที่ราคาปิด 195 x 500 หุ้นทิ้งไป
กำไร 5 บาทต่อหุ้น
ตีคราวๆก็ 2,500 ยังไม่หักคอม
-------------
ลองดูวิธีคิดแบบละเอียดหน่อย
การเทรดแบบ net ครั้งนี้คุณก็จะมีต้นทุน / ราคาขายดังนี้
ต้นทุน 95,000 รวมคอม 190 (ค่าคอม 0.20) = 95,190
ราคาขาย 97,500 หักคอม 195 (ค่าคอม 0.20) = 97,305
สรุปแล้ว ขายได้ 97,305 - 95.190 = 2,115 บาท
นั่นหมายความว่า ณ.วันที่ T+3
(สมมติเทรดกันวันที่ 28 กรกฎาคม 2559
วันจริงที่ kbank ปิดไฮเลย)
วันที่ T = 28 กรกฎาคม 2559
วันที่ T+1 = 29 กรกฎาคม 2559
วันที่ T+2 = 1 สิงหาคม 2559
(วันทำการ = ไม่นับเสาร์อาทิตย์และวันหยุดอื่นๆของตลาด
วันที่ T+3 = 2 สิงหาคม 2559
คือ วันที่คุณรับเงินโอนเข้าบัญชี 2,115 บาท
เวลาประมาณก่อนเที่ยง
---------------
นี่พูดแล้วอาจดูสวยหรูเกินไป
ขอตัวอย่างในกรณี โดน หรือขาดทุนบาง
สมมติณ.วันเดียวกัน
kbank ดัน

ไม่เป็นแบบนั้น
คุณไปเคาะมา 190 บาท x 500 หุ้น = 95,000 คอม 190
= 95,190 บาท
แล้วตกเย็น มัน

วิ่งลงมาปิดที่ 185 (สมมตินะสมมติ)
คุณก็ขายทิ้งไป 185 บาท x 500 หุ้น = 92,500 คอม 185
= 92,315 บาท
สรุปว่า ขายไป 92,315 - ต้นทุน 95,190 = -2,875 บาท
นั่นคือยอดขาดทุน -2,875 บาท
-----------
ต่อจากนี้คุณก็มีหน้าที่ไปหาเงินจากใครมาก็ได้
มาใส่ในบัญชีธนาคารที่คุณผูกไว้กับพอร์ท
โดยคุณมีเวลาหาเงิน 3 วันเป็นอย่างน้อย
ในกรณีที่ไม่ติดเสาร์-อาทิตย์
ดังนั้น ณ.วันที่ 2 สิ่งหาคม ตอนก่อนเที่ยงวัน
คุณก็ต้องมีเงินในบัญชีธนาคารมากกว่า หรือเท่ากับ 2,875 บาท
และหากคุณไม่มี ก็เท่ากับคุณเบี่ยวหนี้แล้ว
เพราะคุณเป็นหนี้อยู่ (เล่นเสีย แต่ไม่มีตังจ่าย)
----
จะเกิดไรขึ้นต่อไป?
ประมาณบ่าย 3 โมงของวันที่ 2 สิงหาคม
แผนกตัดเงินก็จะโทรมาหาผมด้วยน้ำเสียงประมาณว่า
"คุณม่อนคะ ลูกค้า account 12345-1 ตัด ATS ไม่ผ่าน"
(ศัพท์ ATS =ระบบตัด และโอนเงินเข้าในบัญชีลูกค้าอัตโนมัติ)
"รบกวนคุณม่อนตามลูกค้าด้วยนะคะ แล้วทำ email แจ้งด้วยคะ"
ผมก็จะมีหน้าที่โทรไปหาลูกค้าแล้วพูดประโยคว่า
"เออพี่ ATS ตัดไม่ผ่านนะะ ยอด DUE ของวันที่ 28 กรกฎาคม
พี่ซื้อ kbank เล่น net ไป ขาดทุนและกลายเป็นยอดจ่ายทั้งหมด 2,875
เด๋วพี่เอาเงินเข้าด้วยนะ ก่อน 5 โมง
ถ้าพี่ไม่เอาเข้า กฎตลาดจะปรับวันละ 1,000 บาท
ย้ำปรับนะ วันละ 1,000 บาท
ลูกค้าก็จะรนๆและก็ไปหาเงินมาเข้าบัญชีธนาคาร
(จริงๆกฎมันมากกว่านี้นะ มีทั้ง warning ลูกค้า
ปรับเพิ่มขึ้น หากลูกค้าค้างชำระนาน
ลดวงเงินพอร์ท ฯลฯ
แต่ตัวรายละเอียดค่อยว่ากัน แต่อย่า OVERDUE ก็พอ)
(ศัพท์ overdue มียอดจ่ายสุทธิ แล้วไม่จ่ายภายในวันที่กำหนด ทำให้เกิดค่าปรับ)
------------
ข้อดีที่ 2 ของพอร์ท cash คือเงินคุณไม่ต้องถอนเอง
(ถือเป็นข้อเสียเล็กของพอร์ท prepaid - cash balance)
มันโอนเข้าบัญชีธนาคารของลูกค้าโดยอัตโนมัติ
สมมติอย่างตัวอย่างนั่นแหละ
ซื้อขายไรไป มีส่วนต่างเท่าไหร่ ก็โอนเข้าบัญชีทันที
วันดีคืนดี คุณขาย advanc ไป สมมติว่ากำไร 20,000
คุณก็จะมียอดรับ 120,000 บาทในธนาคารของคุณ
ณ. วันที่ T +3
-------------
จริงๆมีอีกเยอะนะ แต่มันกระตุกแล้วแหละ
คงต้องหยุดพิมพ์ก่อน
------
ภาพเต็มๆ รบกวนกด
http://bit.ly/2am7Ay8
พี่ๆ น้องๆ ใช้พอร์ทแบบไหนในการเล่นหุ้นครับ cash balance หรืออันอื่น
หรือพอร์ท T+3
หรือพอร์ทมีวงเงิน
มีข้อดีข้อเสียเป็นไง?
----
ต้องเกรินว่า
พอร์ทธรรมดา Cash balance
หรือที่โบรกผมเรียกว่า Prepaid
ก็คือ พอร์ทแบบโอนเงินมาก่อนเทรดนั้นเอง
สมมติโอนมา 100,000
คุณก็จะซื้อได้ใน 100,000 นี้เท่านั้น
เหมือนโทรศัพท์เติมเงินเลย
-------------
ข้อดีของ prepaid - cash balance มันคืออะไร
1. มันตรงไปตรงมา มันง่าย
2. คุณจะมองเห็นการกำไรขาดทุนได้ชัดเจนมาก
เช่น เริ่มต้น 100,000 บาท เล่นๆไปเหลือ 80,000 บาท
มันก็ชัดเจนเลยว่า คุณขาดทุน 20,000 บาท
หรือเล่นๆไป พอร์ททั้งหมดกลายเป็น 120,000 บาท
อ๋อคุณก็รู้เลยว่า คุณเก่งนะ กำไร 20,000 บาทแล้วเป็นต้น
3. บางโบรก ไม่มีค่าคอมมิชชั่น ขั่นต่ำ
เทรดหุ้น 1,000 บาทก็เสียคอมมิชชั่นตามจริง
4. ใช้ซื้อหุ้นได้ทุกตัว เช่น AJD ติด CASH BALANCE อยู่
คุณก็สามารถซื้อได้
5. มันจำกัดอำนาจซื้อของคุณ ช่วยคุณไม่ให้โลภได้
สมมติอย่างผมเนี่ย ชอบเห็นตัวนั้นตัวนี้เต็มไปหมด
แล้วพอร์ทก็มีวงเงิน (พอร์ท cash) ก็เคาะเข้าไป "ก็โดน ก็ขาดทุน"
----------
ในด้านของข้อเสียล่ะ
1. อีกด้านหนึ่งของอำนาจซื้อ
คุณไม่มีอำนาจซื้อ คุณจะเสียโอกาส
แม้จะรู้ว่า หุ้นตัวนี้ขึ้นชัวร์ๆ
เพราะคุณจะไม่มีส่วนร่วมได้ (ไม่สามารถ Net settlement ได้)
ก่อนอธิบายยาว ขอกำหนดก่อนว่า
คุณมีเงินในธนาคาร XXX 100,000 บาท
พอร์ท 0
พอร์ทมีวงเงิน 100,000 บาท
-----------
ยกตัวอย่างเช่น
คุณเริ่มต้น 100,000 บาท
และคุณซื้อ ADVANC ไว้แล้วเต็มพอร์ท 100,000 บาท
เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
พอดีวันนึง คุณว่างและกำลังนั่งดู ticker หุ้นเล่นๆ
ก็เห็น KBANK ไล่ซื้อใหญ่โดยพี่หรั่งหัวสี เป็น TOP value เบอร์ 1
186 ยก 187 ยก 188 ยก 189 ยก 190 ก็ยก....
ไม้ใหญ่ๆ ไม้แบบไม่ใช่เม่าซื้อแน่นอน
------
ตอนนี้คุณก็เกิดคำถามในใจตัวเองแล้วว่า
ครั้นคุณจะขาย Advanc มาเข้า kbank ก็กลัวจะเป็นหมู
---------
อีกใจหนึ่งก็คิด ถ้าซื้อ kbank แล้ว
(เคาะไฮ แบบรอกูคนเดียว พอเคาะแล้วลงทันทีเลย)
สุดท้าย คงต้องขาย/คัส kbank ทิ้ง แล้วมาถือ advanc ต่อ
---------
แล้วสรุปต้นทุนในพอร์ท advanc ก็เปลี่ยนไปอีก งงๆ จัง
สรุปกูต้นทุนเท่าไหร่แน่วะ
----------
ณ. สิ้นวัน kbank ก็ปิดไฮ 195 กราฟสวยงาม ฯลฯ
ก็มานั่งคิด ถ้ามีเงินเยอะๆคงดี ตลาดขึ้นแบบนี้ ซื้อห่าไรก็ขึ้นหมด
(ดูเพจหุ้นทุกเพจเทพหมดอะตอนนี้)
--------นี้คือ ข้อเสีย พอร์ท prepaid (แบบถ้าจะมองอะนะ) __________
****************************************************************
--------นั่นคือ ข้อดีของพอร์ท cash ข้อแรก-----
ที่เมื่อคุณมีวงเงินแล้ว
คุณสามารถ net settlement ได้
(net settlement = ซื้อขายภายในวัน ห่อกลับบ้านไม่ได้
หากซื้อขายได้กำไร รับส่วนต่าง ในวัน T+3
หากซื้อขายขาดทุน จ่ายส่วนต่าง ในวัน T+3
-------
เพราะฉะนั้น
หากคุณเล่น net แล้วมีกำไรส่วนต่าง อะรับเงิน T+3
ในบัญชีธนาคาร
หากคุณเล่น net แล้วขาดทุนส่วนต่าง อะหักเงิน T+3
ในบัญชีธนาคาร
(ศัพท์: T+3 = TRANSACTION + 3 วันทำการของตลาด)
เช่น พอร์ทนี้มีวงเงิน 100,000 บาท
คุณซื้อ advanc ไว้นานแล้ว จ่าย due อะไรเรียบร้อยหมด
(ศัพท์: Due คือ ยอดรับ หรือ ยอดจ่าย "สุทธิ" ในวันที่ T+3)
วงเงินคุณก็จะปรากฎที่ 100,000 บาท
คือ มีอำนาจซื้อได้ 100,000 บาทภายในวัน
--------
คราวนี้คุณเห็น kbank วิ่ง มั่นใจมาก ซัดไปเลย
500 หุ้น ที่ราคา 190 = 95,000 บาท
----------
ตอนนี้พอร์ทคุณก็จะมีหุ้นสองตัวละ
ตัวแรก advanc ที่คุณถืออยู่ 100,000 บาท
ตัวที่สอง kbank ที่คุณใช้วงเงินซื้อมา 95,000 บาท
รวมมูลค่าพอร์ทก็เกือบ 200,000
-----------
มาถึงตอนนี้ คุณก็รู้ในใจแล้วว่า
เงินในบัญชีธนาคารไม่มีแล้ว
เพราะเงินในธนาคารก็คือ advanc ในพอร์ทนั่นเอง
หากเอา kbank กลับบ้าน ในวัน T+3 ก็ต้องเป็นยอดจ่าย
ค่าซื้อ kbank 95,000 บาท
-----
สิ่งที่คุณทำได้คืออะไร
ก็คือ ซื้อ kbank ในวัน และก็ขาย kbank ในวันทิ้งไปซะ
เพราะหากเอากลับ ต้องจ่าย 95,000
ถ้าขายทิ้งแล้ว กำไร คุณก็รับส่วนต่าง
ถ้าขายทิ้งแล้ว ขาดทุน คุณก็จ่ายส่วนต่าง แค่นั้นเอง
-------------
อะตกเย็น คุณขาย kbank ที่ราคาปิด 195 x 500 หุ้นทิ้งไป
กำไร 5 บาทต่อหุ้น
ตีคราวๆก็ 2,500 ยังไม่หักคอม
-------------
ลองดูวิธีคิดแบบละเอียดหน่อย
การเทรดแบบ net ครั้งนี้คุณก็จะมีต้นทุน / ราคาขายดังนี้
ต้นทุน 95,000 รวมคอม 190 (ค่าคอม 0.20) = 95,190
ราคาขาย 97,500 หักคอม 195 (ค่าคอม 0.20) = 97,305
สรุปแล้ว ขายได้ 97,305 - 95.190 = 2,115 บาท
นั่นหมายความว่า ณ.วันที่ T+3
(สมมติเทรดกันวันที่ 28 กรกฎาคม 2559
วันจริงที่ kbank ปิดไฮเลย)
วันที่ T = 28 กรกฎาคม 2559
วันที่ T+1 = 29 กรกฎาคม 2559
วันที่ T+2 = 1 สิงหาคม 2559
(วันทำการ = ไม่นับเสาร์อาทิตย์และวันหยุดอื่นๆของตลาด
วันที่ T+3 = 2 สิงหาคม 2559
คือ วันที่คุณรับเงินโอนเข้าบัญชี 2,115 บาท
เวลาประมาณก่อนเที่ยง
---------------
นี่พูดแล้วอาจดูสวยหรูเกินไป
ขอตัวอย่างในกรณี โดน หรือขาดทุนบาง
สมมติณ.วันเดียวกัน
kbank ดัน
คุณไปเคาะมา 190 บาท x 500 หุ้น = 95,000 คอม 190
= 95,190 บาท
แล้วตกเย็น มัน
คุณก็ขายทิ้งไป 185 บาท x 500 หุ้น = 92,500 คอม 185
= 92,315 บาท
สรุปว่า ขายไป 92,315 - ต้นทุน 95,190 = -2,875 บาท
นั่นคือยอดขาดทุน -2,875 บาท
-----------
ต่อจากนี้คุณก็มีหน้าที่ไปหาเงินจากใครมาก็ได้
มาใส่ในบัญชีธนาคารที่คุณผูกไว้กับพอร์ท
โดยคุณมีเวลาหาเงิน 3 วันเป็นอย่างน้อย
ในกรณีที่ไม่ติดเสาร์-อาทิตย์
ดังนั้น ณ.วันที่ 2 สิ่งหาคม ตอนก่อนเที่ยงวัน
คุณก็ต้องมีเงินในบัญชีธนาคารมากกว่า หรือเท่ากับ 2,875 บาท
และหากคุณไม่มี ก็เท่ากับคุณเบี่ยวหนี้แล้ว
เพราะคุณเป็นหนี้อยู่ (เล่นเสีย แต่ไม่มีตังจ่าย)
----
จะเกิดไรขึ้นต่อไป?
ประมาณบ่าย 3 โมงของวันที่ 2 สิงหาคม
แผนกตัดเงินก็จะโทรมาหาผมด้วยน้ำเสียงประมาณว่า
"คุณม่อนคะ ลูกค้า account 12345-1 ตัด ATS ไม่ผ่าน"
(ศัพท์ ATS =ระบบตัด และโอนเงินเข้าในบัญชีลูกค้าอัตโนมัติ)
"รบกวนคุณม่อนตามลูกค้าด้วยนะคะ แล้วทำ email แจ้งด้วยคะ"
ผมก็จะมีหน้าที่โทรไปหาลูกค้าแล้วพูดประโยคว่า
"เออพี่ ATS ตัดไม่ผ่านนะะ ยอด DUE ของวันที่ 28 กรกฎาคม
พี่ซื้อ kbank เล่น net ไป ขาดทุนและกลายเป็นยอดจ่ายทั้งหมด 2,875
เด๋วพี่เอาเงินเข้าด้วยนะ ก่อน 5 โมง
ถ้าพี่ไม่เอาเข้า กฎตลาดจะปรับวันละ 1,000 บาท
ย้ำปรับนะ วันละ 1,000 บาท
ลูกค้าก็จะรนๆและก็ไปหาเงินมาเข้าบัญชีธนาคาร
(จริงๆกฎมันมากกว่านี้นะ มีทั้ง warning ลูกค้า
ปรับเพิ่มขึ้น หากลูกค้าค้างชำระนาน
ลดวงเงินพอร์ท ฯลฯ
แต่ตัวรายละเอียดค่อยว่ากัน แต่อย่า OVERDUE ก็พอ)
(ศัพท์ overdue มียอดจ่ายสุทธิ แล้วไม่จ่ายภายในวันที่กำหนด ทำให้เกิดค่าปรับ)
------------
ข้อดีที่ 2 ของพอร์ท cash คือเงินคุณไม่ต้องถอนเอง
(ถือเป็นข้อเสียเล็กของพอร์ท prepaid - cash balance)
มันโอนเข้าบัญชีธนาคารของลูกค้าโดยอัตโนมัติ
สมมติอย่างตัวอย่างนั่นแหละ
ซื้อขายไรไป มีส่วนต่างเท่าไหร่ ก็โอนเข้าบัญชีทันที
วันดีคืนดี คุณขาย advanc ไป สมมติว่ากำไร 20,000
คุณก็จะมียอดรับ 120,000 บาทในธนาคารของคุณ
ณ. วันที่ T +3
-------------
จริงๆมีอีกเยอะนะ แต่มันกระตุกแล้วแหละ
คงต้องหยุดพิมพ์ก่อน
------
ภาพเต็มๆ รบกวนกด http://bit.ly/2am7Ay8