สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 5
ฝรั่งยอมรับว่าทุกคนเท่ากัน จึงเคารพความคิดและความรู้ของผู้อื่น
ใครคิดอะไรได้ก็จะประกาศให้คนอื่นรู้ด้วย องค์ความรู้จึงแพร่หลาย
ได้เร็วทำให้มีการต่อยอดพัฒนาในทุกศาสตร์ ทำให้ก้าวหน้ากว่าทุกชาติ
ในโลก และความมีนำ้ใจนักกีฬาที่ส่งเสริมผู้ชนะทำให้รักการแข่งขัน
แม้ตัวเองแข่งไม่ได้ แต่ขอเป็นผู้สนับสนุนก็ยังดี เพราะจะได้รับเกียรติ์
นั้นตามไปด้วยกับผู้ชนะ ไม่งมงายนับถือผีนับถือเทพ แถวนี้ใครเก่งเกิน
หน้านี่อยู่กันไม่เป็นสุขถึงอยู่ไม่ได้ก็แล้วกัน
ใครคิดอะไรได้ก็จะประกาศให้คนอื่นรู้ด้วย องค์ความรู้จึงแพร่หลาย
ได้เร็วทำให้มีการต่อยอดพัฒนาในทุกศาสตร์ ทำให้ก้าวหน้ากว่าทุกชาติ
ในโลก และความมีนำ้ใจนักกีฬาที่ส่งเสริมผู้ชนะทำให้รักการแข่งขัน
แม้ตัวเองแข่งไม่ได้ แต่ขอเป็นผู้สนับสนุนก็ยังดี เพราะจะได้รับเกียรติ์
นั้นตามไปด้วยกับผู้ชนะ ไม่งมงายนับถือผีนับถือเทพ แถวนี้ใครเก่งเกิน
หน้านี่อยู่กันไม่เป็นสุขถึงอยู่ไม่ได้ก็แล้วกัน
ความคิดเห็นที่ 24
ฝรั่งหลักๆในการสอนเยาวชนเขาสอนให้เป็น winner
เชื่อว่าฉันทำได้ และทำได่ดีกว่า
และมุ่งมั่นที่จะหาคำตอบว่าจะชนะอย่างไร
เชื่อในการเรียนรู้แบบลองผิดลองถูก กล้าที่จะผิพลาด ไม่ถือว่าความผิดพลาดเป็นเรื่องน่าอาย และร้ายแรง
เขาสอนในเรื่องทีม ให้เชื่อว่าหลายหัวดีกว่าหัวเดียว เชื่อว่าทีมที่ดีสำคัญกว่าความสามารถดี
เขาสอนให้ยอมรับและยกย่องเชิดชูคนเก่งเพื่อเป็นตัวอย่างให้เยาวชนอยากได้รับการยกย่องแบบนั้นบ้าง
ในสังคมเอเซียบางประเทศ สอนให้เยาวชนคิดแบบ loser
สอนว่าอย่าเห่อเหิมเกินตน อย่า ทำอะไรอย่าเกินตัว มุ่งมั่นที่จะหาปัญหาและจุดอ่อน แก้ไขให้หมดจนแน่ใจแล้วจึงดำเนินการ เห็นความผิดพลาดเป็นเรื่องน่าอับอาย ไม่ให้อภัยต่อความผิดพลาด ถือความผิดพลาดเป็นเรื่องร้ายแรง
ไม่เชื่อในเรื่องทีม เพราะจะมีการแย่งกันรับอ้างความดีความชอบ เชื่อในคำว่า รู้อะไรรู้กระจ่างแต่อย่างเดียว แต่ให้เชี่ยวชาญเถิดจะเกิดผล ไม่ยอมให้ใครมารู้เคล็ดลับ เพราะถือเป็นไม้ตาย ไม่ยอมทำงานเป็นทีมเพราะสังคมให้ความสำคัญกับเกียรติยศเฉพาะบุคคล จึงไม่มีใครอยากแบ่งปันเกียรติยศให้คนอื่นที่เราคิดว่าทำงานน้อยกว่าเราในทีม
เมื่อเกียรติยศตกอยู่เฉพาะบุคคล ทุกคนจึงอยากได้รับเองโดยยอมทำทุกอย่าง แม้แต่สวมรอยอ้างตัวเข้ารับเกียรติยศนั้น
ความสำเร็จได้มาเพราะผู้ใหญ่ค้ำชู จึงสอนไว้ว่า
จงทำดีแต่อย่าเด่นจะเป็นภัย ไม่มีใครเขาอยากเห็นเราเด่นเกิน และ เป็นผู้น้อยค่อยก้มประนมกร หนักไปก่อนแล้วสบายเมื่อปลายมือ
การยกความสามารถของตัวเองให้ผู้ใหญ่ไปก่อนกลายเป็นวัฒนธรรมหลักที่ต้องกระทำเพื่อให้ผู่ใหญ่เอ็นดูรักใคร่จะได้ให้โอกาสและสนับสนุน
รังเกียจการอวดตัวว่าเก่ง และไม่สนับสนุนเพราะจะกระด้างกระเดื่อง
เหล่านี้ปรากฏหลักฐานให้เห็นในสังคมทั่วไป
เช่นแนวคิดประชาธิปไตย อ่านะ
หลายๆคนเชื่อว่าควรจะจัดระบบให้มันดีสมบูรณ์ก่อน
เมื่อพร้อมแล้วจึงค่อยใช้
แต่ฝรั่งคิดว่าประชาธิปไตยต้องผ่านการลองผิดลองถูกไปเรื่อยๆ ยอมรับความเสียหายที่เกิดขึ้น และไม่ยอมกลับไปเริ่มต้นใหม่เมื่อมีข้อผิดพลาด หากแต่ให้"เสียงของประชาชน" เป็นตัวชี้นำ จะเข้ารกเข้าพงบ้างก็ช่างมัน แล้วประชาชนก็จะได้เรียนรู้และพัฒนาจากข้อผิดพลาดเหล่านั้น และแก้ไขด้วยตัวเอง
ได้แต่หวัง R na
เชื่อว่าฉันทำได้ และทำได่ดีกว่า
และมุ่งมั่นที่จะหาคำตอบว่าจะชนะอย่างไร
เชื่อในการเรียนรู้แบบลองผิดลองถูก กล้าที่จะผิพลาด ไม่ถือว่าความผิดพลาดเป็นเรื่องน่าอาย และร้ายแรง
เขาสอนในเรื่องทีม ให้เชื่อว่าหลายหัวดีกว่าหัวเดียว เชื่อว่าทีมที่ดีสำคัญกว่าความสามารถดี
เขาสอนให้ยอมรับและยกย่องเชิดชูคนเก่งเพื่อเป็นตัวอย่างให้เยาวชนอยากได้รับการยกย่องแบบนั้นบ้าง
ในสังคมเอเซียบางประเทศ สอนให้เยาวชนคิดแบบ loser
สอนว่าอย่าเห่อเหิมเกินตน อย่า ทำอะไรอย่าเกินตัว มุ่งมั่นที่จะหาปัญหาและจุดอ่อน แก้ไขให้หมดจนแน่ใจแล้วจึงดำเนินการ เห็นความผิดพลาดเป็นเรื่องน่าอับอาย ไม่ให้อภัยต่อความผิดพลาด ถือความผิดพลาดเป็นเรื่องร้ายแรง
ไม่เชื่อในเรื่องทีม เพราะจะมีการแย่งกันรับอ้างความดีความชอบ เชื่อในคำว่า รู้อะไรรู้กระจ่างแต่อย่างเดียว แต่ให้เชี่ยวชาญเถิดจะเกิดผล ไม่ยอมให้ใครมารู้เคล็ดลับ เพราะถือเป็นไม้ตาย ไม่ยอมทำงานเป็นทีมเพราะสังคมให้ความสำคัญกับเกียรติยศเฉพาะบุคคล จึงไม่มีใครอยากแบ่งปันเกียรติยศให้คนอื่นที่เราคิดว่าทำงานน้อยกว่าเราในทีม
เมื่อเกียรติยศตกอยู่เฉพาะบุคคล ทุกคนจึงอยากได้รับเองโดยยอมทำทุกอย่าง แม้แต่สวมรอยอ้างตัวเข้ารับเกียรติยศนั้น
ความสำเร็จได้มาเพราะผู้ใหญ่ค้ำชู จึงสอนไว้ว่า
จงทำดีแต่อย่าเด่นจะเป็นภัย ไม่มีใครเขาอยากเห็นเราเด่นเกิน และ เป็นผู้น้อยค่อยก้มประนมกร หนักไปก่อนแล้วสบายเมื่อปลายมือ
การยกความสามารถของตัวเองให้ผู้ใหญ่ไปก่อนกลายเป็นวัฒนธรรมหลักที่ต้องกระทำเพื่อให้ผู่ใหญ่เอ็นดูรักใคร่จะได้ให้โอกาสและสนับสนุน
รังเกียจการอวดตัวว่าเก่ง และไม่สนับสนุนเพราะจะกระด้างกระเดื่อง
เหล่านี้ปรากฏหลักฐานให้เห็นในสังคมทั่วไป
เช่นแนวคิดประชาธิปไตย อ่านะ
หลายๆคนเชื่อว่าควรจะจัดระบบให้มันดีสมบูรณ์ก่อน
เมื่อพร้อมแล้วจึงค่อยใช้
แต่ฝรั่งคิดว่าประชาธิปไตยต้องผ่านการลองผิดลองถูกไปเรื่อยๆ ยอมรับความเสียหายที่เกิดขึ้น และไม่ยอมกลับไปเริ่มต้นใหม่เมื่อมีข้อผิดพลาด หากแต่ให้"เสียงของประชาชน" เป็นตัวชี้นำ จะเข้ารกเข้าพงบ้างก็ช่างมัน แล้วประชาชนก็จะได้เรียนรู้และพัฒนาจากข้อผิดพลาดเหล่านั้น และแก้ไขด้วยตัวเอง
ได้แต่หวัง R na
แสดงความคิดเห็น
อะไรทำให้ฝรั่งทำทุกอย่างได้ในสเกลที่ใหญ่ ทั้ง เคนื่องจักร สงคราม เศรษฐกิจ
ไม่เหมือนแถวๆนี้ เรียกว่า กระทบกระทั่งกันซะมากกว่า