ขอเล่าเหตุการณ์คร่าวๆ ค่ะว่า เราเอารถเข้าสินเชื่อของธนชาตค่ะ ก็มีบังคับให้ทำประกันรถยนต์และประกันชีวิต
แล้วเหตุมันเกิดตรงที่ หลังจากผ่านไป 1 ปีพ่อเราซึ่งเป็นเจ้าของกรมธรรม์เสียชีวิตค่ะ เราก็วิ่งเข้าวิ่งออกธนชาตหลายรอบมาก
ครั้งที่ 1 เราไปถามอย่างฉุกละหุกโดยไม่ได้เตรียมกรมธรรม์และยังไม่ได้อ่านกรมธรรม์ว่าเกิดเหตุแบบนี้ๆ นะ เราจะทำยังไง เขาก็เช็คข้อมูลให้ค่ะว่ามันเป็นประกันอุบัติเหตุ พ่อเราไม่ได้เสียเพราะอุบัติเหตุ เรียกค่าสินไหมใดๆ ไม่ได้เลย และต้องจ่ายเงินผ่อนต่อไปจนหมด แล้วก็บอกยาวนู่นนี่นั่นว่ามีประกันตัวอื่น ถ้าทำประกันตัวอื่นไม่ต้องผ่อนต่อ น่าเสียดายที่เราดันไปทำตัวนี้ เห็นใจเรา บลาๆๆ
ครั้งที่ 2 ครั้งนี้ไปพร้อมกรมธรรม์ค่ะ ญาติอ่านแล้วบอกว่ามันเรียกเงินคืนได้หรืออะไรสักอย่างเพราะเวลายังไม่ครบเลยไปถามให้ชัวร์อีกรอบค่ะ ธนชาตก็รับกรมธรรม์ไปอ่านค่ะ แล้วบอกเหมือนเดิมกับครั้งที่ 1 คราวนี้บอกอีกว่า สาขานี้ทำแต่ประกันอุบัติเหตุเท่านั้น ไม่แนะนำลูกค้าทำประกันอื่น และบอกว่าเรียกเงินไม่ได้อีกรอบนึง
นี่คือประเด็นที่ 1 ค่ะ ตอนเราทำสินเชื่อ ธนชาตไม่มีการแจงให้ฟังว่ามีประกันแบบไหนบ้าง แบบไหนดีกว่า แต่ธนชาตตัดสินใจแทนลูกค้าว่าให้ทำประกันตัวนี้เพราะผ่อนถูก กลัวลูกค้าจ่ายแพง โดยไม่ถามความเห็นจากลูกค้าเลย
ครั้งที่ 3 คราวนี้ไปด้วยเรื่องจะเปลี่ยนชื่อผู้เช่าซื้อค่ะ แต่ไปสาขาหลักที่มีเอกสารครบและมีพนักงานที่รู้เรื่องกรมธรรม์ละเอียดกว่าสาขาที่เราทำ รอบนี้ก็เอากรมธรรม์ไปให้อ่านอีกแหละค่ะ และแนะนำว่าให้ผ่อนจ่ายไปเรื่อยค่อยเปลี่ยน แต่จะเปลี่ยนเลยก็ได้ แค่นั้นค่ะ ไม่มีประเด็นอื่นใดนอกจากนี้
ครั้งที่ 4 รอบนี้ไปด้วยเรื่องขอค่าเบี้ยประกันคืนค่ะเพราะยังไม่ครบกำหนด!!! อันนี้อยากตะโกนถามเลยค่ะว่า
พนักงานไม่ได้รู้เลยเหรอคะว่ามันต้องคืนเงินในส่วนนี้ เรามาติดต่อหลายรอบแล้ว ทั้งกับคนที่รู้เรื่องกรมธรรม์ดีและไม่ค่อยจะรู้เรื่องกรมธรรม์เลย กรมธรรม์ก็ยื่นให้อ่านแต่ไม่มีใครพูดถึง เท่านั้นไม่พอ รอบนี้ที่ไปติดต่อคือพนักงานทุกคนไม่สามารถให้คำตอบได้ค่ะว่ามันต้องคืนเงิน
บอกแต่เป็นโมฆะ ไม่คืนเงิน ไม่รู้ โทรถามนู่นนี่นั่น ไม่มีใครรู้สักคน พร้อมกับพลิกอ่านกรมธรรม์ แล้วบอกเดี๋ยวค่อยติดต่อกลับค่ะ สุดท้ายก็ไม่ติดต่อกลับ เราต้องนั่งอ่านเองว่ามันได้เงินคืนนะ เลยหอบเอกสารเตรียมจะไปยื่นอีกครั้งถึงโทรกลับมาบอกลืม!!! (แต่ส่วนเรื่องคืนเบี้ยประกันเราก็ผิดด้วยที่ไม่ตรวจสอบและไม่อ่านเองค่ะ)
และนี่คือประเด็นที่ 2 ค่ะ พนักงานธนาคารไม่ได้มีความรู้เรื่องกรมธรรม์ของธนาคารตัวเองเลยสักนิด ขนาดคนที่ทำงานในส่วนของประกันโดยเฉพาะยังไม่คิดจะบอกลูกค้าเรื่องเงินที่จะได้คืนค่ะ
ครั้งที่ 5 ธนชาตบอกให้เราเตรียมเอกสารอะไรไปบ้าง เราก็เตรียมไปค่ะ พอไปถึงธนาคารได้ฤกษ์โทรถามอีกสาขาอีกแล้วค่ะว่าต้องใช้เอกสารอะไรบ้าง ไปๆ มาๆ มีเพิ่มจากที่บอกเราอีก 3-4 อย่างได้ โอเค เราเตรียมตัวมาดีค่ะ เอาเอกสารไปทุกอย่างเลยไม่ต้องเสียเวลา ยื่นให้ทั้งหมดที่ขอมา ส่วนที่ไม่มีก็คือไม่ได้ให้แต่คือมันไม่จำเป็นต้องใช้อยู่แล้ว จบด้วยคำว่าเดี๋ยวจะส่งไปให้อีกสาขานึงค่ะ แล้วดันติดเสาร์อาทิตย์ส่งไม่ได้ คือถ้าบอกแบบนี้แต่แรกเราพุ่งตรงไปสาขาหลักเพื่อไม่ให้เสียเวลาแล้วค่ะ
เพราะจากเหตุการณ์ทั้งหมดที่เล่ามามันกินระยะเวลาของประกันไป 3 เดือนแล้วทั้งที่เราติดต่อตั้งแต่ 2 วันแรกที่พ่อเราเสียชีวิต!!!
ครั้งที่ 6 ครั้งนี้ยังไม่ได้ไปแต่ต้องไปอีกค่ะ เพราะ
ธนชาตบอกให้เอกสารไม่ครบ แล้วมันผ่านมาจากครั้งที่ 5 ได้ราวๆ 2 อาทิตย์แล้ว อยากตะโกน wtf มากค่ะ คือทำงานกันยังไงคะ มันใช่ความผิดเรามั้ยที่เอกสารไม่ครบ คุณบอกเอานี่ๆๆ เราก็ยื่นให้ทั้งหมด เราเตรียมให้ทุกอย่างที่ขอมา แต่ผ่านไปพักใหญ่ค่อยโทรมาบอกเอกสารไม่ครบ ต้องส่งใหม่ ต้องรอใหม่ แล้วเวลาประกันของเราก็ดำเนินต่อไปอีก รอเวลาส่งเข้าอีกสาขา และอีกสาขาส่งเข้ากรุงเทพ เพื่อ!!! ณ จุดๆ นี้
ต้องการความรับผิดชอบจากธนชาตมากค่ะ ทำไมทำงานกันชุ่ยอย่างนี้คะ
และอยากเตือนคนที่คิดจะทำประกันกับทางธนชาตค่ะ ถ้าคุณเจอสาขาที่ดี แนะนำคุณก็ดีไปค่ะ แต่ถ้าเจอสาขาที่ไม่แนะนำอะไรสักอย่างแบบเรา ขอให้ถามให้ละเอียดเลยค่ะว่ามีประกันอย่างอื่นอีกมั้ย ดีกว่ายังไง ไม่ดียังไง เรียกสินไหมกรณีไหนได้บ้าง ได้เบี้ยคืนมั้ย ถามมันให้หมดค่ะ เพราะเวลาขอเคลมจริงๆ เขาไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลย ขนาดคนที่รู้ยังเงียบไม่คิดจะบอกในส่วนนี้เลยค่ะ คุณต้องไปทวงเอง แล้วธนาคารยังไม่รู้อีกว่าต้องยื่นเอกสารอะไรบ้าง
ปล.ว่าแต่เรามาตั้งกระทู้แบบนี้จะโดนแบล็คลิสต์หรืออะไรมั้ยคะนี่ แก้หัวกระทู้ไม่ได้ด้วยสิ แต่ความจริงทั้งนั้น
เล่ห์กลการทำประกันและเคลมประกันของธนชาต
แล้วเหตุมันเกิดตรงที่ หลังจากผ่านไป 1 ปีพ่อเราซึ่งเป็นเจ้าของกรมธรรม์เสียชีวิตค่ะ เราก็วิ่งเข้าวิ่งออกธนชาตหลายรอบมาก
ครั้งที่ 1 เราไปถามอย่างฉุกละหุกโดยไม่ได้เตรียมกรมธรรม์และยังไม่ได้อ่านกรมธรรม์ว่าเกิดเหตุแบบนี้ๆ นะ เราจะทำยังไง เขาก็เช็คข้อมูลให้ค่ะว่ามันเป็นประกันอุบัติเหตุ พ่อเราไม่ได้เสียเพราะอุบัติเหตุ เรียกค่าสินไหมใดๆ ไม่ได้เลย และต้องจ่ายเงินผ่อนต่อไปจนหมด แล้วก็บอกยาวนู่นนี่นั่นว่ามีประกันตัวอื่น ถ้าทำประกันตัวอื่นไม่ต้องผ่อนต่อ น่าเสียดายที่เราดันไปทำตัวนี้ เห็นใจเรา บลาๆๆ
ครั้งที่ 2 ครั้งนี้ไปพร้อมกรมธรรม์ค่ะ ญาติอ่านแล้วบอกว่ามันเรียกเงินคืนได้หรืออะไรสักอย่างเพราะเวลายังไม่ครบเลยไปถามให้ชัวร์อีกรอบค่ะ ธนชาตก็รับกรมธรรม์ไปอ่านค่ะ แล้วบอกเหมือนเดิมกับครั้งที่ 1 คราวนี้บอกอีกว่า สาขานี้ทำแต่ประกันอุบัติเหตุเท่านั้น ไม่แนะนำลูกค้าทำประกันอื่น และบอกว่าเรียกเงินไม่ได้อีกรอบนึง
นี่คือประเด็นที่ 1 ค่ะ ตอนเราทำสินเชื่อ ธนชาตไม่มีการแจงให้ฟังว่ามีประกันแบบไหนบ้าง แบบไหนดีกว่า แต่ธนชาตตัดสินใจแทนลูกค้าว่าให้ทำประกันตัวนี้เพราะผ่อนถูก กลัวลูกค้าจ่ายแพง โดยไม่ถามความเห็นจากลูกค้าเลย
ครั้งที่ 3 คราวนี้ไปด้วยเรื่องจะเปลี่ยนชื่อผู้เช่าซื้อค่ะ แต่ไปสาขาหลักที่มีเอกสารครบและมีพนักงานที่รู้เรื่องกรมธรรม์ละเอียดกว่าสาขาที่เราทำ รอบนี้ก็เอากรมธรรม์ไปให้อ่านอีกแหละค่ะ และแนะนำว่าให้ผ่อนจ่ายไปเรื่อยค่อยเปลี่ยน แต่จะเปลี่ยนเลยก็ได้ แค่นั้นค่ะ ไม่มีประเด็นอื่นใดนอกจากนี้
ครั้งที่ 4 รอบนี้ไปด้วยเรื่องขอค่าเบี้ยประกันคืนค่ะเพราะยังไม่ครบกำหนด!!! อันนี้อยากตะโกนถามเลยค่ะว่า พนักงานไม่ได้รู้เลยเหรอคะว่ามันต้องคืนเงินในส่วนนี้ เรามาติดต่อหลายรอบแล้ว ทั้งกับคนที่รู้เรื่องกรมธรรม์ดีและไม่ค่อยจะรู้เรื่องกรมธรรม์เลย กรมธรรม์ก็ยื่นให้อ่านแต่ไม่มีใครพูดถึง เท่านั้นไม่พอ รอบนี้ที่ไปติดต่อคือพนักงานทุกคนไม่สามารถให้คำตอบได้ค่ะว่ามันต้องคืนเงิน บอกแต่เป็นโมฆะ ไม่คืนเงิน ไม่รู้ โทรถามนู่นนี่นั่น ไม่มีใครรู้สักคน พร้อมกับพลิกอ่านกรมธรรม์ แล้วบอกเดี๋ยวค่อยติดต่อกลับค่ะ สุดท้ายก็ไม่ติดต่อกลับ เราต้องนั่งอ่านเองว่ามันได้เงินคืนนะ เลยหอบเอกสารเตรียมจะไปยื่นอีกครั้งถึงโทรกลับมาบอกลืม!!! (แต่ส่วนเรื่องคืนเบี้ยประกันเราก็ผิดด้วยที่ไม่ตรวจสอบและไม่อ่านเองค่ะ)
และนี่คือประเด็นที่ 2 ค่ะ พนักงานธนาคารไม่ได้มีความรู้เรื่องกรมธรรม์ของธนาคารตัวเองเลยสักนิด ขนาดคนที่ทำงานในส่วนของประกันโดยเฉพาะยังไม่คิดจะบอกลูกค้าเรื่องเงินที่จะได้คืนค่ะ
ครั้งที่ 5 ธนชาตบอกให้เราเตรียมเอกสารอะไรไปบ้าง เราก็เตรียมไปค่ะ พอไปถึงธนาคารได้ฤกษ์โทรถามอีกสาขาอีกแล้วค่ะว่าต้องใช้เอกสารอะไรบ้าง ไปๆ มาๆ มีเพิ่มจากที่บอกเราอีก 3-4 อย่างได้ โอเค เราเตรียมตัวมาดีค่ะ เอาเอกสารไปทุกอย่างเลยไม่ต้องเสียเวลา ยื่นให้ทั้งหมดที่ขอมา ส่วนที่ไม่มีก็คือไม่ได้ให้แต่คือมันไม่จำเป็นต้องใช้อยู่แล้ว จบด้วยคำว่าเดี๋ยวจะส่งไปให้อีกสาขานึงค่ะ แล้วดันติดเสาร์อาทิตย์ส่งไม่ได้ คือถ้าบอกแบบนี้แต่แรกเราพุ่งตรงไปสาขาหลักเพื่อไม่ให้เสียเวลาแล้วค่ะ เพราะจากเหตุการณ์ทั้งหมดที่เล่ามามันกินระยะเวลาของประกันไป 3 เดือนแล้วทั้งที่เราติดต่อตั้งแต่ 2 วันแรกที่พ่อเราเสียชีวิต!!!
ครั้งที่ 6 ครั้งนี้ยังไม่ได้ไปแต่ต้องไปอีกค่ะ เพราะธนชาตบอกให้เอกสารไม่ครบ แล้วมันผ่านมาจากครั้งที่ 5 ได้ราวๆ 2 อาทิตย์แล้ว อยากตะโกน wtf มากค่ะ คือทำงานกันยังไงคะ มันใช่ความผิดเรามั้ยที่เอกสารไม่ครบ คุณบอกเอานี่ๆๆ เราก็ยื่นให้ทั้งหมด เราเตรียมให้ทุกอย่างที่ขอมา แต่ผ่านไปพักใหญ่ค่อยโทรมาบอกเอกสารไม่ครบ ต้องส่งใหม่ ต้องรอใหม่ แล้วเวลาประกันของเราก็ดำเนินต่อไปอีก รอเวลาส่งเข้าอีกสาขา และอีกสาขาส่งเข้ากรุงเทพ เพื่อ!!! ณ จุดๆ นี้ต้องการความรับผิดชอบจากธนชาตมากค่ะ ทำไมทำงานกันชุ่ยอย่างนี้คะ
และอยากเตือนคนที่คิดจะทำประกันกับทางธนชาตค่ะ ถ้าคุณเจอสาขาที่ดี แนะนำคุณก็ดีไปค่ะ แต่ถ้าเจอสาขาที่ไม่แนะนำอะไรสักอย่างแบบเรา ขอให้ถามให้ละเอียดเลยค่ะว่ามีประกันอย่างอื่นอีกมั้ย ดีกว่ายังไง ไม่ดียังไง เรียกสินไหมกรณีไหนได้บ้าง ได้เบี้ยคืนมั้ย ถามมันให้หมดค่ะ เพราะเวลาขอเคลมจริงๆ เขาไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลย ขนาดคนที่รู้ยังเงียบไม่คิดจะบอกในส่วนนี้เลยค่ะ คุณต้องไปทวงเอง แล้วธนาคารยังไม่รู้อีกว่าต้องยื่นเอกสารอะไรบ้าง
ปล.ว่าแต่เรามาตั้งกระทู้แบบนี้จะโดนแบล็คลิสต์หรืออะไรมั้ยคะนี่ แก้หัวกระทู้ไม่ได้ด้วยสิ แต่ความจริงทั้งนั้น