'ดีแทค' ปาดเหงื่อผลประกอบการร่วง


คอลัมน์ ข่าวนอกกรอบ: 'ดีแทค' ปาดเหงื่อผลประกอบการร่วง
ฐานเศรษฐกิจ ฉบับวันที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

          เจอพายุข่าวดาหน้าใส่เป็นชุด ตั้งแต่เดินเกม "ไม่ชิง" คลื่น 4 จี จนถูกลือ "ทิ้งตลาดไทย" ต้องยิงสปอตโฆษณาแก้เกมชุดใหญ่ ไม่ทันหายเหนื่อยมาเจอลูกหลง "ธรรมกาย" เข้าอีก

          ล่าสุดออกมาแล้ว ตัวเลขผลประกอบการไตรมาส 2/2559 ของ ดีแทค หรือ บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) ปรับตัวลดลงอย่างน่าใจหาย เหลือกำไรแค่ 141.28 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้นอยู่ที่ 0.06 บาท ลดลง 90% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

          ลาร์ส นอร์ลิ่ง ซีอีโอดีแทคต้องเหนื่อยอีกแล้ว รีบแจงยิบเหตุที่มาว่า
          ไตรมาส 2 นี้ ดีแทคทุ่มอุดหนุนค่าอุปกรณ์มือถือ เพื่อรักษาตำแหน่งทางการตลาด ที่มีการแข่งขันดุเดือด แถมยังมีค่าใช้จ่าย ทั้งการขาย การตลาด และบริหารทั่วไป (ยกเว้นค่าใช้จ่ายในการปรับโครงสร้าง ซึ่งจ่ายครั้งเดียวเป็นก้อน)  แต่ก็ควบคุมอย่างดี ส่วนผลดีจากค่าส่วนแบ่งรายได้ที่น้อยลง ก็ต้องมาจ่ายลงทุนเครือข่ายที่สูงขึ้น

          ส่งผลให้อัตรากำไรก่อนหักดอกเบี้ยจ่าย ภาษีนิติบุคคล ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA margin) สำหรับครึ่งปีแรกของ ปี 2559 นี้เพิ่มขึ้นเป็น 33.6% เปรียบเทียบกับ 31.5% ในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว นอกจากนี้ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายได้เพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากการลงทุนอย่างต่อเนื่องในโครงข่าย ดังนั้น ในครึ่งปีแรกของ ปี 2559 กำไรสุทธิได้ลดลง 62% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

          พร้อมกันนี้ ดีแทคได้ปรับการประมาณการผลการดำเนินงานของปี 2559 ใหม่ เพื่อสะท้อนผลประกอบการจริงที่เกิดขึ้นในครึ่งปีแรกนี้ นักลงทุนโปรดทราบ ประกอบด้วย (1) รายได้จากการให้บริการไม่รวมค่า IC ลดลงเล็กน้อยจากปีก่อน (2) EBITDA margin อยู่ในช่วง 31-33% และ (3) CAPEX อยู่ในช่วงเดียวกันจากปีที่แล้ว

          ตัวเลขผลประกอบการที่หดวูบนี้ ตอกย้ำกระแสข่าวปรับลดพนักงานที่โหมก่อนหน้า ว่าได้เลิกจ้างพนักงานไปแล้ว 400 คน โดยจ่ายค่าชดเชยให้ทั้งหมด

          ข่าวได้เชื้อใหม่กระพือขึ้นอีกว่า จะมีล็อต 2 ปลายตุลาคมนี้ เพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมายว่า อีก 4 ปี หรือภายในปี 2020 (พ.ศ.2563) ดีแทคจะลดขนาดพนักงานจาก 5,000 คนให้เหลือครึ่งเดียว ที่เหลือใช้ "เอาต์ซอร์ซ" ฝ่ายสื่อสารองค์กรของดีแทค ออกแถลงยัน "ไม่จริง"พร้อมกับที่นางกุนน์ วาร์สเตท ประธานกรรมการ บริษัท เทเลนอร์ (เอเอสเอ) นายใหญ่จากบริษัทแม่  บินด่วนมา เข้าพบดร.อุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หรือไอซีที ส่งสัญญาณ "เทเลนอร์" ยังเดินหน้าลงทุนในประเทศไทย

          แม้กำไรสุทธิลดเหลือ 141.28 ล้านบาท แต่ "ดีแทค" ก็ยังจ่ายปันผล 0.42 บาท

          ท้าทายฝีมือผู้บริหาร ว่าจะนำองค์กรฝ่ามรสุมได้อย่างไร ท่ามกลางการแข่งขันดุเดือด โดยคู่แข่งทั้งเบอร์ 1 คือเอไอเอส และ เบอร์ 3 คือทรูมูฟ เอช ต่างมีคลื่น 4 จีในมือมาทำตลาดเพิ่ม

          ขณะที่สัมปทานคลื่น 1800 เมกะเฮิรตซ์ของดีแทค จะสิ้นสุดลงในปี 2561 ที่วงการจับตาว่าจะพลิกเกมอย่าง ขณะที่นักลงทุนบอก ต้องทำตัวเลขผลประกอบการให้ตีตื้นกลับมาก่อน เป็นประการแรกสุด!!!


แหล่งข่าว
หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับวันที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2559 (หน้า 2)
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่